เรื่องอื่นก็เหมือนกัน คนเราที่ผิดพลาดเสียหายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่ประพฤติธรรม สมมติว่า คนมีฐานะดีแล้วก็กลับหมดเนื้อหมดตัว เราต้องศึกษาว่า คนนั้นหมดเนื้อหมดตัวเพราะอะไร คงจะมีความบกพร่องในชีวิตประจำวัน เช่นว่า ชอบเล่นการพนัน เมื่อเล่นการพนันหนักเข้าก็หมดตัว เพราะไปเล่นการพนัน หรือว่า เป็นคนชอบสนุกนานที่เรียกว่า สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร อันเป็นอบายมุขทั้งนั้น มีสตางค์ก็ชักสนุก เมื่อก่อนนี้ไม่มีสตางค์ ไม่เที่ยวไม่เตร่ ทำงานทำการ สร้างเนื้อสร้างตัว พอมีสตางค์ขึ้นมาก็เมาทีเดียว เมาในทรัพย์ เมาในอำนาจที่ตนมีพอสมควร เมาในความเป็นใหญ่ เมื่อเกิดเมามายขึ้นมาในรูปอย่างนี้ ก็เป็นเหตุให้เกิดการเสียหายในชีวิตของตัว เพราะไปทำความผิด ประพฤติในสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรด้วยประการต่างๆ จึงเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน มันมีความผิดพลาดทั้งนั้น
เราเองแต่ละองค์ นี่ ลองนึกถอยหลังไปดูบ้าง ว่าในชีวิตชีวิตประจำวัน มันมีความผิดพลาดทำให้ชีวิตตกต่ำ เช่นว่า บางคนอาจจะเป็นนักดื่ม เมามาย ดื่มบ่อยๆ ดื่มเช้า ดื่มเย็น ดื่มจนเป็นนิสัย แล้วร่างกายก็ไม่ดี สติก็ไม่ดี ปัญญาก็ไม่ดี ประสาทก็ไม่ดี ร่างกายทุกส่วนเสียหาย นี่เพราะอะไร ? เพราะไม่ประพฤติธรรม คือ ไม่งดเว้นความชั่ว ทำความดี ระวังจิตใจของตนไว้ ไม่ให้ตกไปสู่ความชั่วร้าย มีชีวิตตกต่ำ บางคนก็เรื่องสุรา บางคนก็เรื่องการพนัน บางคนก็เรื่องสุรุ่ยสุร่าย จ่ายเติบกินเติบ บางคนก็ขี้เกียจ ไม่เอางานเอาการ เป็นข้อเสียอันเกิดจากไม่ประพฤติธรรมทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น ในชีวิตชีวิตประจำวัน ถ้ามีอะไรผิดขึ้น ต้องคิด ผู้ที่ปฏิบัติธรรมะก็ดี ศึกษาธรรมะก็ดี เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ต้องศึกษาทันทีว่าเหตุใดมันจึงเกิดขึ้น ทำไมมันจึงเป็นอย่างนั้น อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย เพราะว่า
สิ่งทั้งหลายต้องมีเหตุ เหตุนั้นก็อยู่ในตัวเรานั่นแหละ ไม่ได้อยู่ที่ไหน เราก็ต้องศึกษาว่า อะไรเป็นเหตุให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น ศึกษาเพื่อให้รู้แล้วจะได้จำไว้ เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับชีวิตต่อไป ถ้าใครทำอะไรผิดพลาดแล้ว ก็ศึกษาค้นคว้าหาเหตุของเรื่องนั้นๆ จนรู้จักแล้วคิดเลิก คิดละ มันไปไม่ไกล ชั่วไม่นาน ไม่เสียคนแน่ๆ เพราะว่าเราคอยศึกษาค้นคว้า
ทีนี้
คนไม่ศึกษา ไม่ค้นคว้า สิ่งใดผิดพลาดก็ไม่ศึกษา แล้วไม่โทษตัวเองเสียด้วย ไปโทษดวงไม่ดีบ้าง อะไรต่ออะไรบ้าง ผมมันคนเกิดมาอาภัพ ดวงมันอย่างนี้แหละครับ ชั่วก็อย่างนี้จนตาย ไม่ได้ เราไม่คิดจะแก้ก็แก้ไม่ได้ ถ้าเราใช้ธรรมะเป็นเครื่องแก้มันก็ได้ ธรรมะเป็นสิ่งใช้ได้
เพระฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมจาริง (ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม) ผู้ใดประพฤติธรรมดีแล้ว ย่อมไม่ตกไปในที่ชั่วที่ต่ำ
ที่ชั่วน่ะ มันมี ๒ อย่าง ตามความเข้าใจของคนทั่วไป; ที่ชั่วในโลกนี้ ก็คือความยากจน ติดคุกติดตะราง เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง ต่างๆ นานา เพราะการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร อันนี้ เรียกว่าเป็นที่ชั่ว
ทุคติในโลกนี้
สำหรับผู้มีความเชื่อว่าตายแล้วเกิด อนาคตมันมี มี
ทุคติข้างหน้า ตกนรกอะไรต่ออะไรไปตามเรื่อง เพราะผลกรรมที่ตัวได้กระทำไว้ อันนี้ เป็นเรื่องที่จะปรากฏแก่ผู้กระทำ เราควรจะนึกว่าอะไรที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของใคร ต้องแก้ที่ตัวเรา ว่าเราบกพร่องอะไร เราเสียหายอะไร แล้วเราก็แก้ไขปัญหา อย่างนี้ก็ดี
ท้ายๆ คิดโยงให้ถึงความหมายอริยสัจข้อ ๒ คือสมุทัย ด้วย