This post is NOT about a racist issue. It is a humanitarian affair.

After I watched CNN news yesterday about the on going war in Palestine, I could feel the increase of my rage and blood running through my veins. My anger then exploded. I have no problem with the belief of Judaism or the support for Judaism but I cannot accept the fact that these people do support the unjust war (that could lead to MASSACRE) in Palestine so blindly. It is so heartbreaking to hear that Palestinian children at the age under 12 have no will to live. The support of Israeli occupation has got to end.

Though, I cannot do much things about the issue but I will do whatever it takes to stand my ground. The first thing I could do and I will do is to boycott Israel the country and those Zionists (not all the Jewish) as well as the Israel supporters especially these big guys who support this massacre so aggressively like Estée Lauder.

FYI -- Zionist is the Jewish who believes that God has given them the Holy Land (Palestine) and they have absolute ownership over that land. It doesn't matter how long other people have lived there. That land is mine. You, get out! That is a fucking lame excuse!

Anyway, I will not go too far on the Zionist issue. I did some research on this issues and the result makes my hair stood up like I’d seen a ghost.

These people had peed marking their territories around the globe. I am sure I do not want to be a part of this shameful conspiracy of greed but I am not sure if I could successfully escape from it. I'll try my best.

Here is the list.

Estée Lauder (served as the dog's head), AOL Time Warner, Apax Partners & Co Ltd, Coca-Cola, Danone, Delta Galil, Disney, Ibm, Johnson & Johnson, Kimberly-Clark, Lewis Trust Group Ltd, L'oreal, Mcdonald's, Marks & Spencer, Nestle, News Corporation, Nokia, Revlon, Sara Lee, Selfridges, The Limited Inc, Home Depot, Intel, Starbucks, and Timberland. I don't know how many more out there.

If this list doesn't scare myself enough, here are more of their products.



These are the products owned by Estée Lauder alone.

I start to wonder. How could I live without giving away my money to support Israel? Sigh! I'll try my best. These days, if I have choice, I carefully spend and prefer not to spend my money on the products with kosher because money spent on the koshered products will probably or partly go to the support of this Israeli occupation over Palestine. There is another issue of the kosher that I do not like but I will not be discussing about it here.



Not buying these products does not mean that I declare myself a racist against the Jewish. I just don't want my money to go to the Israeli army. Nobody can help them from being hated if they keep behaving like this. It is sad but true that the racist card still works for them every time. It is only themselves that keep saying this is racist. Isn't it?

This problem will not be solved as long as people still do not realize or keep denying the true cause of this problem and who should pay the price.

The Israeli government has gone too far. This crime must end!

แวะมาประประวัติศาสตร์ย่อๆ (จะพยายามให้สั้นที่สุด) ระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลค่ะ ... เขียนไปเขียนมา ... ยาวเฟื้อเลย ... ใครใคร่อ่านๆ ไม่ใคร่อ่านก็ไม่ว่ากัน

ดูแผนที่กันก่อน ... พื้นที่ปัญหา Israel กับ Gaza



นานแสนนานมาแล้ว ... ดินแดนที่เป็นประเทศอิสราเอลและปาเลสไตน์เมื่อก่อนโน้น (ในแผนที่ก็คือ Gaza, Israel, West Bank เข้าด้วกัน และพื้นที่แถบๆ นั้นอีก) ... มีกลุ่มคนอยู่อาศัยที่นี่เป็นพวกยิวทั้งหมด (คือนับถือศาสนายิว) ... จากนั้นดินแดนแถบนี้ ถูกพวกบาบิโลเนียน (เป็นอาหรับ แต่ไม่ใช่อิสลาม เพราะตอนนั้นศาสนาอิสลามยังไม่เกิด) ... ดินแดนของยิวได้ถูก Babylonian ตีแตก เข้ามาครอบครอง ... พวกยิวส่วนมากจะถูกจับเป็นทาส ... อยู่ปะปนกันไปกับพวกบาบิโลเนียน

ต่อมา อียิปต์รุ่งเรืองขี้น จึงไปตีดินแดนแถบนั้นได้ (คือได้ทั้งยิวและบาบิโลเนียนด้วย) ... ก็ไปโกยเอาคนพวกยิวส่วนใหญ่ และ บาบิโลเนียนบางส่วน มาเป็นทาสที่อิยิปต์

ต่อมา พวกยิวรู้สึกว่าโดนกดขี่จากพวกอิยิปต์ ... จึงรวมตัวกัน แล้วก็หนีกลับไปถิ่นเดิม (แถบปาเลสไตน์ และ อิสราเอล ... ก็บ้านเก่านั่นแหล่ะ) ... และได้ตั้งเมืองขึ้นมาใหม่ ... ก็อยู่กันไป

กำเนิดศาสนาคริสต์

ต่อมาโรมมันแข็งแกร่งขึ้น เลยตีเค้าไปทั่ว ได้อิยิปต์ ปาเลสไตน์ (รวมพวกยิวด้วย) ... แล้วก็เข้ามาปกครอง ... ดินแดนแถบนี้ เลยมีหลายเชื้อชาติปะปนกันไป ... คือ พวก ยิว กับ แขกอาหรับ (นับถือยิว แต่เชื้อชาติไม่ใช่ยิว) ... จึงกำเนิดศาสนาคริสต์ขึ้นมาที่นี่ (ที่เยรูซาเรม) ... ปกติโรมันไม่ว่าเกี่ยวกับการนับถือศาสนา (จะนับถืออะไรก็เชิญ) ... แต่ศาสนาคริสต์สร้างปัญหาขึ้น คือ ต้องมีพระเจ้าเพียงองค์เดียว คือ ของตน ... แล้วก็ไปดูถูกพระเจ้าของคนอื่นๆ ... ทำให้สร้างปัญหาปวดหัวให้กับโรมันยิ่งนัก ... ก็ได้มีการปราบปราม ตีอยู่เรื่อยๆ ... แล้วก็ยิ่งทำให้คนนับถือคริสต์มากขึ้น (คือ โรมันมันมาตีกู ก็ก็เกลียดมัน ต่อต้านมัน ก็หันไปเข้าคริสต์กันหมด) ... ส่วนพวกยิว ... ก็ชอบความร่ำรวยอยู่แล้ว ... ก็ค้าขายไปทั่วหัวระแหง ตามดินแดนที่โรมมันครอบครอง (เพราะโรมันเจริญมาก ... แล้วเมื่ออยู่ใต้การปกครองของโรมมัน ... ทำให้การเดินทางไปค้าขาย ทำได้โดยสะดวก) ... จึงทำให้มีพวกยิวกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

กำเนิดศาสนาอิสลาม

ต่อมาโรมันแตกเป็นสองส่วน คือ โรมัน (ตะวันตก) กับ Byzantium (ตะวันออก)

ต่อมา ศาสนาคริสต์บางส่วน (บริเวณทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน ... ที่ติดกับอาหรับ) ก็ได้กลายพันธ์ุ ... ได้กำเนิดศาสนาใหม่ ที่เรียกว่า อิสลาม ... คนที่กล่าวหาว่า คนอิสลามเกลียด คริสต์ ผิดมหันต์ ... เพราะพระเยซุเป็นบุคคลที่สำคัญที่อิสลามนับถือมาก (ต่างกับยิว ที่เกลียดพระเยซู ... เพราะพระเยซูเป็นคนที่ทำให้ยิวแตกแยก) ... ศาสนาอิสลามก็ได้แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ... บริเวณ บาบิโลน (อิรัก) และเปอร์เซีย (อิหร่าน)

ต่อแถบๆ เปอร์เซีย (รวมบาบิโลนด้วย) แข็งแกร่งขึ้นมา ... ก็ไปตีกับ Byzantium แย่งที่ทางตะวันออก (ซึ่งรวมดินแดนแถบปาเลสไตน์ด้วย) มาได้ ... Byzantium เกือบจะแตก ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากทางยุโรป (ซึ่งเป็นคริสต์ด้วยกัน ... ได้แก่พวก อิตาลี่ ฝรั่งเศส ออสเตรีย เยอรมันนี เบลเยี่ยม อะไรพวกนั้น ... ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นประเทศนะ) ... ตีกันตายกระจายเลย ... กลายเป็นสงคราม crusade ครั้งที่ 1 (คือพวกทางยุโรปบุกมา ... ฆ่าทุกชีวิตที่ขวางหน้าเลย ไม่เลือกหน้าอิฐหน้าปูน ... เค้าว่ากันว่า คนที่เข้าไปหลบ มอส เนี่ย ถูกฆ่าตายเลือดท่วมเท่าหัวเข่าเลย) ... พวกคริสต์ อิสลาม ยิว ถูกฆ่าไม่เลือก ... ตายเกลี้ยงไม่เหลือเลย ... พอกวาดล้างพื้นที่เหล่านี่เกลี้ยงแล้ว ... ได้จัดตั้งประเทศที่เรียกว่า Kingdom of Jerusalem เป็นคริสต์ 100% (พื้นที่นี่ไม่มียิว ไม่มีอิสลามเหลือซากเลย)

อีกร้อยกว่าปี อิสลาม (จากเปอร์เซีย) มาทวงพื้นที่แถบเยรูซาเลมคืน ... แล้วก็เอากลับคืนไปได้ ... (ช่วงนี้ก็เหมือนกับหนังเรื่อง Kingdom of Heaven อ่ะ) ... แต่พวกเปอร์เซีย (อิสลาม) ไม่ได้ฆ่าพวกคริสต์ ... จึงให้ดินแดนแถบนี้ มีทั้งอิสลาสและคริสต์อยู่ปนกัน ... ไม่นานพวกอิสลามก็ไปตีbyzantiumสำเร็จ ได้ปกครองแถบนั้นทั้งหมด (แถบนั้นก็เลยมีอิสลามปน กัน กับคริสต์ และ ยิว ทั้งหมด) และได้กลายเป็นอณาจักร ออตโตมัน นั่นเอง ... อาณาจักรออตโตมัน แข็งแกร่ง และยิ่งใหญ่มาก ... อยู่ต่อมาหลายร้อยปีเลย (ศาสนาก็ปะปนกัน กระจายอยู่ทั่วไป ... แต่ส่วนใหญ่เป็นอิสลามอยู่)

สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2

ต่อมา เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ... ออตโตมันแพ้ ... พื้นที่ด้านล้าง (ที่รวมแถบปาเลสไตน์ และ อิสราเอลในตอนนี้ และรวมไปถึงอิยิปต์ อิรัก อิหร่าน อินเดีย ... พี่อังกฤษเหมาหมด) ถูกอังกฤษเอาไปครอบครอง ... ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ต่อมาฮิตเล่อร์ขึ้น ... ได้มีการฆ่าพวกยิวอยู่เรื่อยๆ (หลายเผ่า เช่น ยิว โรมาเนียน ยิปซี โปลิช) ... แต่พวกยิวจะถูกฮิตเล่อร์เกลียดมากเป็นพิเศษ ... เพราะพวกยิว คือ พวกที่เป็นตัวการทำให้เยอรมันนีแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ... จนหมดเนื้อหมดตัว ... ก็เลยเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น ... ระหว่างสงคราม พวกยิว ก็ได้เริ่มหนีกระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ของยุโรป และ รวมไปถึงอเมริกาด้วย ... แต่ก็มีคนบางส่วนที่เรียกตัวเองว่า Zionist เชื่อตำราไบเบิ้ล ที่บอกว่า ดินแดนแถบอิสราเอล และปาเลสไตน์ เป็นของยิวเท่านั้น (พระเจ้าให้ตนมา ตนจึงเป็นเจ้าของโดยสิ้นเชิง) จึงได้เดินทาง (หนีฮิตเล่อร์) กลับไปยังดินแดน แถบอิสราเอล และ ปาเลสไตน์ (ที่ตอนนี้กลายเป็นเยรูซาเลม และเป็นของอักฤษ) ... ก็ไปอาศัยอยู่ไป ... เพราะพวกนี้เงินเยอะ ... ก็ไปซื้อที่ซื้อทาง จับจอง ตั้งรกราก ... อยู่กันไปด้วยดี พักนึง

พอสงครามโลกครั้งที่สองจบจง ... หลายประเทศต่างบอบช้ำกันหมด ... อังกฤษก็ย่ำแย่ ... บริเวณแถบปาเลสไตน์ ตอนนั้นมีพวกยิวกับอิสลามปนกันอยู่ (อัตราส่วน อิสลาม:ยิว คือ 2:1) ... คนปาเลสไตน์ จึงได้ฉวยโอกาสประกาศตนเป็นอิสระจากอังกฤษ ... ถึงแม้ว่าคนยิวจะน้อยกว่าคนอิสลามถึงครึ่งนึง ... แต่เพราะคนยิวเงินหนา และมีพวกพ้องเดียวกันกระจัดกระจายอยู่ทั่วยุโรป ... จึงประกาศจัดตั้งประเทศเรียกว่าอิสราเอล (เหมาทั้งปาเลสไตน์) ... ไม่ใช่แค่นั้น ... พวกยิว ประกาศว่าประเทศอิสราเอล เป็นประเทศยิว ... ทีนี้คนอิสลามก็ทนไม่ได้ซิ ... คนอิสลามมีมากกว่ายิวถึงเท่าตัว ... ก็เลยตีกันเกิดเป็นสงครามขึ้นมาเรือยๆ ... หนักเข้า UN เข้ามาไกล่เกลี่ย ... มีผู้แทนจากประเทศต่างๆ 11 ประเทศ มาร่วมถกปัญหา มีแต่พวกยุโรป คริสต์ ยิว แต่ไม่มีประเทศอิสลามมาร่วม ตกลง แก้ไขปัญหาเลย (ช่างเป็นธรรมจริงๆ)

ผลออกมาคือ ... ดินแดนถูกแบ่งเป็นส่วนๆ กระจัดกระจายไป ... คนยิว น้อยกว่าเท่าตัว แต่ได้ดินแดน เท่ากับคนอิสลาม ซึ่งมีมากกว่าเท่าตัว ... ซึ่งแน่หล่ะ อิสลามย่อมไม่พอใจ (ก็กรูเป็นเจ้าของพื้นที่เหมือนกัน) ... ก็ตีกันอีกเรื่อยๆ ... แต่ อย่าลืมว่า พวกยิว มีเครือข่ายกระจายทั่วยุโรปและอเมริกา (อย่างเช่น Estee Lauder, Loreal นั่นก็นายทุนใหญ่ของ อิสราเอล) ... เงินทองก็ไหลเข้าอิสราเอล เป็นห่าๆ ได้อาวุธยุทโธปกรณ์ครบครัน ... แล้วพวกอิสลามจะสุ้ได้ยังไง ... ยิว ชนะ อิสลาม ภายในเวลาแค่ 6 วัน ... หลังจากนั้น ... พวกยิว (หรืออิสราเอล) ก็กวาดพื้นที่ไปอีกซะเยอะเลย ... แล้วดันกร่างไปหน่อย ... ไปเหยียบตีนอังกฤษเข้า (คือ ไปเหมาเอาคลองซุเอดด้วย) ... อังกฤษก็เลยกลับมาเอาพื้นที่คืนกลับไป ... ตอนนี้ พื้นที่ของอิสราเอลก็เล็กลงไป ... แต่ก็ใกล้เคียงกับพื้นที่ในปัจจุบัน

ที่เล่าประวัติศาสตร์มาซะยืดยาว ... คือ อยากบอกว่า ... พื้นที่ตรงนี้ที่เรียกว่า Holy Land เนี่ย ... มันไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของอย่างที่พวกยิวในอิสราเอลมันอ้างหรอก ... มันก็ตีกันไป ตีกับมา เป็นพันๆ ปีมาแล้ว ... คนก็อยู่ปะปนกันไปมาแต่ไหนแต่ไร

สภาพในปัจจุบัน

ดูแผนที่อีกที



ปัจจุบันนี้ พื้นที่ประเทศปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นพวกอิสลาม ก็ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ที่เรียกว่า West Bank กับ Gaza ... ที่น่าสงสารก็คือ Gaza ... สามด้านติดศัตรู หลังติดทะเลเมดิเตอเรเนียน ... ถึงแม้ว่าจะใกล้อิยิปต์ (ที่เป็นอิสลามเหมือนกัน) ... แต่อิยิปต์ได้รับเงินสนับสนุนจากอเมริกาใช่น้อย (ซึ่งอเมริกา พวกรวยๆ ใหญ่ๆ โตๆ พวกนักการเมือง ก็เป็นพวกยิวทั้งนั้น) ... ทำให้ปาเลสไตน์กลายเป็นหมาจนตรอก

อิสราเอลก็ต้องการกวาดล้างดินแดนตรงกาซ่า มาเป็นของตนเอง (อย่าลืมว่า บริเวณกาซ่ามันเป็นบริเวณที่มีคนอยู่หนาแน่นมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร) ... ลองนึกถึงว่ากาซ่าเป็นกรุงเทพ ... พวกอิสราเอลก็จะให้คนที่อยู่อาศัยแถบนั้น ตั้งล้านกว่าคนออกไป ... แล้วจะให้เค้าไปไหน ... สองประเทศนี้ก็เลยตีกัน บ้า กันทั้งคู่ ... เล่นสกปรกกันทั้งคู่ ... กูเกลียดมึง มึงเกลียดกู ... ตีกันไม่เลือกวิธี ... อิสราเอล ล่อเครื่องบินทิ้งระเบิด อาวุธทันสมัย ... แต่ปาเลสไตน์ก็ใช้ระเปิดขวด ปา ไรเงี้ย ... ของก็โลเทค (แค่ก็สู้กันขาดใจ ไม่เลือกวิธี)

ระหว่างที่ชีวิตดำเนินไป ... อิสราเอล (คนรวย) ... มันจะสร้างอะไรแต่ละที มันก็ไปไล่ที่คนปาเลสไตน์ ... อยู่ดีๆ ก็ไปทุบบ้านเค้า ... ไปสร้างกำแพงปาดหน้าถนนบ้านเค้า เป็นต้น ... คือมันไม่สนใจว่าจะเดือดร้อนปาเลสไตน์แค่ไหน ... วันดีคืนดีก็ปิดถนน บอกว่า ถนนนี้เป็นของยิว อิสลามห้ามใช้ ... ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไฟ เหมือง พวกยิวควบคุมไว้หมด (มันรวย) ... พวกอิสลามทนไม่ไหวก็ระเบิดปลิดชีพไปเลย ... เรื่องก็ระหองระแหงแบบนี้เรื่อยๆ ... ตีกันไปตีกันมา ก็เกิดเรื่องใหญ่อีกจนได้

สงครามที่กำลังดำเนินอยู่

ทีนี้ก็มาถึงสงครามที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ... ปัญหาคือว่า ... พื้นที่แถบกาซ่าเป็นชุมชนหนาแน่น (มีคน 1.4 ล้านคน แต่พื้นที่แคบนิดเดียว) ... ตีกันไปกันมา ... อิสราเอล มันก็เอาข้ออ้างที่ว่าปาเลสไตน์ก่อกวน เลยไปปิดล้อม Gaza ไว้ ... ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดทุกอย่าง ... คนล้านกว่าคน ไม่มีน้ำ (มีแต่น้ำทะเล) ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำมัน ไม่มีพลังงาน ไม่มียา ไม่มีอะไรผ่านด่านได้ ... ถูกปิดตายอยู่ในนั้น

July 2008 ทั้งสองได้เซนต์สนธิสัญญาหยุดตี (หยุดยิง) ... ปาเลสไตน์ขอเงื่อนไขที่ว่า อย่าปิดกัั้นทางเข้าออก ให้คนสัญจรติดต่อค้าขายได้ (จะล้อมก็ล้อมไป) และห้ามบุกรุกพื้น ไปทุบบ้านพวกปาเลสไตน์ทิ้งตามอำเภอใจต่อไปอีก ... และอิสราเอลก็ขอว่าอย่ายิง missile เข้าไปในอิสราเอลอีก ... แต่ 5-6 เดือน ที่เจรจากันอยู่ ... อิสราเอลก็ไม่ได้มีการผ่อนผันเลย ... เด็กไม่สบาย คนท้อง จะผ่านเข้าออกไปอิสราเอล ไปหาหมอ หาญาติ (อย่าลืมว่า คนอิสลามอาศัยอยู่ในอิสราเอลก็ยังมี) ... พวกอิสราเอลไม่ยอม ปล่อยให้ตายไปเลย แบบนั้น ... ทีนี้ สัญญาที่เซนต์กันไปก็เหมือนไม่มีความหมาย

ทีนี้ วันนึง ก็มีมิสไซล์ 2 ลูก ถูกยิ่งจาก Gaza เข้าไปที่ อิสราเอล ... แต่ไม่มีคนตาย ... อิสราเอล ก็ยังปิดทางเข้าทางออก ... จนถึงขึ้น คนล้านกว่าคน ขาดน้ำ ขาดยา ขาดไฟ ขาดอาหาร ไม่มีน้ำดื่ม (ดินแดนแถบกาซ่า ไม่มีพื้นที่เพาะปลูก เพราะเป็นทะเลทราย ... ไม่มีน้ำจืดดื่ม เพราะติดทะเล) ... คนก็เริ่มตายกัน ... ขนาด UN พวกอิสราเอลยังไม่ให้เข้าไปแจกอาหาร แจกยา เลย ... คนที่โน่นก็เจ็บตายกัน กินหญ้ากินดินกันไป

November 4, 2008 ... อิสราเอลส่งเครื่องบินรบ เข้าไปยิงระเปิด ... คนตายไป 6 คน ... โดยอ้างว่า คน 6 คนนี้ ขุดอุโมงค์ทำทางอะไรบางอย่าง

มันก็ตีกันไปจนถึงตอนนี้ ... อิสราเอล ตายไป 7 คน (4 คนเนี่ย ... มันเสือกยิงผิด ... ฆ่ากันตายเอง ... สรุปคือ 3 คน ตายเพราะ ปาเลสไตน์) ... ปาเลสติเนียนถูกอิสราเอลฆ่าตายไป 660 คน ... อิสราเอลมันก็ทิ้งระเบิดลงไปบริเวณ Gaza ... ชุมชุนแออัด ... ทั้งโรงเรียน ผู้หญิง ลูกเล็กเด็กแดง ตาย บาดเจ็บ กันระนาว ... น้ำก็ไม่มี ยาก็ไม่มี ไฟก็ไม่มี อาหารก็ไม่มี

ด่าๆๆ

ไอ้อเมริกามันเสือกตอแหลมาพูดว่า อิสราเอลทำถูกแล้ว เพราะปาเลสไตน์เสีือกไม่ทำตามสัญญา (ยิง missile ไปสองลูก) ... แล้วมันก็มาตอแหลว่า ได้ส่งของช่วยเหลือไปให้ที่กาซ่า ... ตอแหลแบบไม่เคยพบเคยเห็น ไอ้บุชเนี่ย (มันพูดออกมาได้หน้าตาเฉย)

ขออภัยที่ต้องใช้คำว่าตอแหล ... ต้องฟังกันเอาเอง ... ไอ้บุชมันตีสีหน้าตอแหลหน้าตาเฉย (ดูแล้วก็อึ้งพูดไม่ออก) ... โกหก ปลิ้นปล้อนสุดๆ ... ส่วนไอ้ CNN นั่นก็ยิว ที่สนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่ลืมหูลืมตา ... นั่นก็สุดๆ ลำเอีอง ตอเแหล ทำตัวเป็น Fox news เลย

มันใครผิดใครถูก มันก็พูดยาก ... เพราะเรื่องมันอิรุงตุงนังมานาน ... แต่ว่า อิสราเอลตายไป 3 ... แต่มันฆ่าปาเลสติเนียนไปตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว ... มันพอได้แล้ว ... มันจะเอาคืนมากไปแล้ว ... นี่มันจะฉวยโอกาสฆ่าล้างบางแล้ว

สื่อไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็ให้ดูแต่ภาพคนอิสราเอลร้องไห้โห หลังคาบ้านพัง ... สาด ... มันไม่ให้ดูเลยว่า ... อีกฝ่ายยับเยิน เด็กเล็กแดง บาดเจ็บล้มตายกัน ... ไอ้พวกสนับสนุนยิว มันก็ยังไม่สนใจ ยังสนับสนุนให้อิราเอลเดินหน้าฆ่าปาเลสติเนียนให้ตายต่อไปเรื่อยๆ

โชคดีที่นี่มีข่าวให้ดูทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่ารัฐบาลแคนาดายังหางจุกตูดอยู่ ... แต่คนแคนาดาประท้วงต่อต่านประเทศอิราเอลกันอย่างมาก ... หลายๆ เมืองที่แคนาดา คนออกมาเดินประท้วงกัน ด่าอิสราเอลกันยกใหญ่ ... เด็กมหาลัยออกมาพูดกันอย่างดุเดือด ... U of Toronto (ใหญ่ที่สุด) ... ชมรมนักเรียนได้ประกาศว่าต่อมหาวิทยาลัยว่า ไม่ให้อาจารย์ที่เป็นคนอิสราเอลสอนจนกว่าอาจารย์คนนั้นๆ จะพูดออกมาว่า สิ่งที่อิสราเอลทำ เป็นสิ่งที่ผิด ... คือ พูดมาคำเดียวว่าผิด คุณก็สอนต่อไปได้ ... แต่ถ้าคุณไม่พูด คุณไม่สมควรเป็นอาจารย์ต่อไป (แยกถูกผิดไม่ได้ ไม่สมควรเป็นอาจารย์) ... แต่พวกอาจารย์คนอิสราเอล ก็ยังไม่ยอมรับว่าอิสราเอลทำ มันผิด และเกินไปแล้ว

ปิดท้าย

เราก็พูดไม่ออก ... เห็นภาพแต่ละวัน ที่ปาเลสติเนียนต้องตาย ... เมื่อวานมันก็ถล่มโรงเรียนไปยับอีก (อิสราเอลมันตอแหลว่า มันมี GPS ที่แม่ยำ ... ไม่พลาดเป้าแน่) แต่พอมันไปตกที่โรงเรียน ... มันเสือกตอแหลว่า อากาศแปรปรวน ลมพัดมั๊ง ... สาด ... ไหงมรึงบอกว่าไฮเทคนักไง ... มันคงจะฆ่าล้างบางมากกว่า (คือใช้เหตุผลไอ้มิสไซล์สองอันนั้นแหล่ะ) ... แต่ก็อะนะ ... พวกมันก็รู้ นึกถึงทิ้งระเบิดลงชุมชนแออัดดู ... ถึงแม้ว่ากองทัพมันตั้งอยู่ในชุมชนแออัด (ก็มันมีล้านกว่าคน แต่มีพื้นที่อยู่แค่นั้น) ... มันก็เสือกจะทิ้งลงมาอีก

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ... เราคนนึงออกมาต่อต้านคนที่ส่งเงินไปอิสราเอล และก็ไอ้พวกบริษัทที่มันเข้าข้างอิสราเอลด้วย และด่าเช็ดหมดเลย ... ของที่ทำให้อิสราเอล ... ของที่ทำโดย estee lauder (เราเรียกมันว่า ฆาตรกร ... มันเป็นยิวที่อยู่ในอเมริกา ... ส่งเงิน) และของโคตรเหง้าเหล่ากอมัน ... ไม่ซื้อ ... UN ก็เป็นง่อย เป็นไบ้ เปลี้ย เสียขาไปแล้ว

อิสราเอลมันบอกว่า ... ที่มันทำๆ อยู่เนี่ย มันปกป้องประเทศมัน ... ฟังไม่ขึ้น

พยายามจะปลงๆ ... แต่ก็เห็นภาพนี้ทุกวัน ... อิสราเอลทำอะไรไม่เคยผิด กร่างไปทั่ว ... ฆ่าคนตายเป็นเบือ ... คนก็เข้าข้างมันเข้าไป ... เห็นภาพแบบนี้ ก็อดสลดใจ และโกรธไม่ได้ ... ชีวิตใคร ใครก็รัก ... ชาติที่แล้ว พวกปาเลสติเนียนคงไปทำบาปทำกรรมกับพวกยิวมานะ มันถึงได้ถูกกระทำแบบนี้โดยพวกยิวกลับคืน

จริงๆ เราไม่ได้ด่ายิวทุกคนนะคะ อย่าเข้าใจผิด ... เพราะเราเห็นพวกยิวบางกลุ่ม (ที่ไม่ได้อยู่ในอิสราเอล) ที่ออกมาต่อต้านและด่าทออิสราเอลด้วย ... ก็ดีใจที่เห็นแบบนั้น

ปัญหาตอนนี้ ใครทำใครก่อน มันไม่ใช่เรื่องแล้ว ... เพราะมันก็กูตบมึง มึงตบกูมาแต่ไหนแต่ไร ... แต่จำนวนคนที่ตาย มันต่างกันมาก ... มันไม่ใช่เรื่องจะมาถกว่า ใครก่อเรืองก่อนแล้ว ... พอกันได้แล้ว พอซักที

เฮ้อ เหนื่อย ... จบดีกว่า

UPDATE: UN ประกาศจำนวนปาเลสติเนียนตายไป 770 คน และ 35% เป็นเด็ก ... น่าเศร้าจริงๆ ... พอซักที