พฤษภาคม 2562

 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
รีวิวหนังสือ "มนุษย์ร้านสะดวกซื้อ" โดย Murata Sayaka
หนังสือที่รีวิวงวดนี้เป็นของญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ ที่จริงมีอ่าน Non-Fiction อยู่ เรื่อง "ศพ ความจริงสั้นๆ หลังความตาย" แต่ค่อยๆ เปิดอ่านไปทีละตอนๆ เลยยังไม่จบ แต่เรื่อง "มนุษย์ร้านสะดวกซื้อ" บางมากเลยเข้าเส้นชัยไปก่อนค่ะ
 

ชื่อเรื่อง มนุษย์ร้านสะดวกซื้อ
ผู้เขียน: Sayaka Murata
ผู้แปล: พรรณวิมล จิตราวิริยะกุล
สำนักพิมพ์ Animag
ราคา 180 บาท

เรื่องนี้จั่วหัวไว้เลยว่าเป็นหนังสือรางวัลค่ะ พอมีรางวัลติดตัวทีไร มักจะเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาให้ขบคิดแบบแหงมๆ พอดีช่วงนี้อ่านหนังสือแปลจีนลั้ลลาเยอะ มีเจ้านี่มาตัดแก้เลี่ยน เปลี่ยนบรรยกาศบ้างก็ดีเหมือนกัน

อะ คำโปรย

ฟุรุคุระ เคโกะ หญิงสาววัยสามสิบหกซึ่งยังไม่แต่งงาน หลังสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยก็ทำงานพิเศษที่ร้านสะดวกซื้อเป็นเวลาสิบแปดปีโดยไม่ได้หางานทำ และจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีแฟน

อาหารที่เธอรับประทานในแต่ละวันเป็นอาหารจากร้านสะดวกซื้อ แม้แต่ในความฝันก็ยังกดเครื่องคิดเงินของร้านสะดวกซื้อ ความสะอาดเรียบร้อยของร้านกับเสียงตะโกนทักทายว่า 
“ยินดีต้อนรับ!” ช่วยให้เธอนอนหลับอย่างเป็นสุขทุกวัน

อยู่มาวันหนึ่ง ชิราฮะ พนักงานหนุ่มหน้าใหม่ซึ่งมีเป้าหมายหาคู่แต่งงานก็ปรากฏตัว เขาพูดจาทิ่มแทงใจเธอว่าการใช้ชีวิตอยู่กับร้านสะดวกซื้อเช่นนั้นเป็นสิ่งที่น่าอับอาย...



สมกับที่ได้รับรางวัลค่ะ ในเล่มบางจ๋อยบรรจุดเรื่องน่าคิดไว้ได้เยอะแยะมากมาย แต่เอาเป็นว่าพูดถึงเกี่ยวกับเนื้อเรื่องก่อนแล้วกันนะคะ

เรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของเคโกะเองค่ะ เธอมีประสบการณ์บางอย่างที่คนในครอบครัวลงความเห็นว่า "ไม่ปกติ" เช่น เพื่อนผู้ชายในห้องทะเลาะกัน แล้วมีคนบอกว่าต้องหยุด สิ่งที่เคโกะโน้ตไว้ในใจก็คือ จะต้องหยุดพวกเขาสินะ เธอจึงไปเอาพลั่วมาแล้วฟาดไปที่เด็กผู้ชายกลางวง แต่เพื่อนๆ ทุกคนกลับกรีดร้องทำให้เธอรู้ว่าเธอคงทำอะไรที่มัน "ไม่ใช่" อีกแล้ว หลังจากนั้น เธอจึงเลือกไม่ทำตามความต้องการของตนเอง อยู่แบบเงียบๆ เลยไม่มีเรื่องอะไรอีก

คล้ายกับเคโกะเฝ้าตามหาคู่มือการเป็นมนุษย์ "ปกติ" อยู่ แล้วสุดท้ายเธอก็ได้เจอ นั่นคือ ร้านสะดวกซื้อ ที่มีการเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม การพูด การต้อนรับลูกค้า ใดๆ ก็ตามที่พออยู่ในโลกแห่งร้านสะดวกซื้อแล้ว เธอกลายเป็นมนุษย์ "ปกติ" ขึ้นมา เธอจึงอยู่มานานจวบจนอายุ 36 ปี

หนิงคิดว่าบุคลิกของเคโกะน่าจะมาจากคนจริงนะ ดูแล้วเป็นลักษณะของออธิสติกอย่างหนึ่ง ซึ่งคนที่เป็นจะไม่สามารถแยกแยะ "ความนัย" ที่ซ่อนอยู่ในบริบท หรือ "การอ้อมค้อม" รวมทั้งไม่อาจจะอ่านอารมณ์หรือจับสีหน้าของคนได้ว่าเขาคิดหรือรู้สึกอย่างไร การจับสารของเธอจึงซื่อตรงต่อคำพูดอย่างยิ่งซึ่งมันค้านกับบริบทสังคมของชาวญี่ปุ่นที่จะไม่กล่าวสิ่งใดตรงๆ เคโกะจึงกลายเป็นคน "ไม่ปกติ" ในสังคมที่เต็มไปด้วยนัยยะ นับว่าเป็นการเสียดที่แสบสีข้างเบาๆ

แต่ส่วนตัว หนิงชอบเคโกะตรงที่ แม้ว่าเธออ่านไม่ออก แต่เธอไม่ใช่คนโง่ กลับกัน เธอเป็นคนมีตรรกะในการคิดเป็นอย่างดี มองโลกตามความเป็นจริงด้วยเหตุผลโดยไม่ใช้อารมณ์เป็นเกณฑ์ ช่างสังเกตและปรับตัว เช่น เธออาจจะไม่รู้ว่าคนนี้อารมณ์แบบไหน แต่เธอเรียนรู้สีหน้าจากการขยับกล้ามเนื้อเพื่อเดาว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ไหน สังเกตเพื่อนร่วมงานที่อายุพอๆ กับเธอว่าแต่งตัวยังไง เธอก็เลือกยี่ห้อเดียวกับที่เพื่อนคนนั้นใช้ แต่ไม่หาแบบเป๊ะๆ เพราะเดี๋ยวถูกจับได้ว่าเลียนแบบ รวมทั้งศึกษาวิธีการพูดของคนรอบข้างและพยายามทำตาม เธอจะขอให้น้องสาวช่วยหาคำตอบกับคำถามบางอย่างเอาไว้และใช้ข้ออ้างเหล่านั้นเพื่อเบี่ยงความสนใจในบทสนทนา นั่นทำให้ไม่มีใครจับเคโกะได้ว่าเธอแตกต่างจากพวกเขา

จนกระทั่งโลกของเธอเปลี่ยนไปเมื่อเธออายุ 36 ปี เพื่อนๆ มีครอบครัว มีลูก และเริ่มพุ่งเป้ามาที่เธอแล้ว นี่ทำให้เคโกะรู้ตัวว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวเองรวมกลุ่มกับคนอื่นได้ แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต ซึ่งหมอนี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ากับสังคมไม่ได้

เคโกะเลย "รับเลี้ยง" ผู้ชายคนนี้โดยมีเงื่อนไขว่าให้ซ่อนเขาจากทุกคนในสังคม แต่การมีอยู่ของสองคนนี้ที่คนมองว่า "ไม่ปกติ" กลับยิ่งเห็นเด่นชัดมากขึ้นในเรื่องความแตกต่าง

เนื้อเรื่องดำเนินมาเรื่อย แต่ไม่ค่อยอยากจะสปอยล์สักเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่า แน่นอน คนเขียนย่อมให้ทางออกกับตัวละคร ซึ่งทางออกที่ว่า เขาเขียนเพียงแต่ไม่กี่หน้าสุดท้ายเท่านั้นเอง แต่คุณค่าของมันยิ่งใหญ่มากจนอยากแนะนำให้อ่านนะคะ

ส่วนตัวหนิงบอกอยู่ตลอดเวลาว่าหนิงไม่ชอบความอึนๆ เก็บปากเก็บคำของหนังสือญ๊่ปุ่น แต่เล่มนี้เนื้อหาค่อนข้างดี ความเก็บงำที่ว่าหนิงว่ามันเข้ากับมุมมองของเคโกะที่มีความคิดซื่อตรง เป็นเหตุเป็นผล แต่ไม่ค่อยมีอารมณ์นัก เลยรู้สึกว่ามันเข้าใจได้ เวลาอ่านเลยไม่ค่อยต่อต้านนักค่ะ

(บางทีที่หนิงไม่ชอบความญี่ปุ่นในหนังสืออาจเพราะเสพงานเขียนที่มีอารมณ์เด่นชัดมาตลอดก็เป็นได้ พอเจออะไรที่เก็บงำความรู้สึกเลยรู้สึกอึดอัดไปหมด)



Create Date : 07 พฤษภาคม 2562
Last Update : 7 พฤษภาคม 2562 21:50:42 น.
Counter : 1485 Pageviews.

2 comments
  
แนะนำมั้ยเอ่ย อ่านแล้วรำคาญมั้ย โอกาสทิ้งกลางคันเป็นยังไง แบบว่าพี่อาศัยความเห็นจากหนิง เพราะไม่อ่านหนังสือยุ่นไม่ค่อยรอด
โดย: Froggie วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:13:57 น.
  
ขอโทษที่มาตอบช้าค่า

ส่วนตัวหนิงโอเคนะคะ อ่านมันในฐานะเรื่องสั้น เก็บสารและองค์ประกอบกับแนวความคิดที่เขาต้องการสื่อ มากกว่าอ่านเพื่อซึมซับอารมณ์

พอตั้งธงไว้แบบนี้เลยอ่านรอดค่ะ แต่ถ้าตั้งธงอ่านเอาสนุกหรือบันเทิง ก็ไม่ค่อยแนะนำค่ะ

โดย: peiNing วันที่: 12 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:16:52 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peiNing
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]



เป็นเด็กกรุงเทพแท้ๆ แต่อยู่บ้านนอกของกรุงเทพน่ะนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษนอกจากแกล้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน นั่นคือนกฮู้ผู้มีอายุ 10 ปีได้ (นกแก่มีหนวด) (แต่ตอนนี้ในที่สุดนกฮู้ก็จากไปอย่างสงบ ไม่รู้อายุรวมเท่าไรแต่มาอยู่ที่บ้านได้ 11 ปี ขอไว้อาลัยปู่ฮู้ ขอให้ไปสู่สุขคตินะ T^T)

ขอชี้แจงอีกอย่าง ชื่อ peiNing นี้ เป็นชื่อที่พี่กะน้องใช้ร่วมกันสองคน ดังนั้นอย่างงว่าเดี๋ยวก็แทนตัวว่ารุ้งบ้างหนิงบ้าง ก็มันคนละคนนิ (รุ้งน่ะคนพี่ หนิงน่ะคนน้อง)

FB สำหรับคนชอบงานเขียน peiNing ค่ะ

FB สำหรับคนชอบบทความสอนห้องเรียนนิยายค่ะ

  •  Bloggang.com