สุราเมรยะ..บางทีก็ดีนะ...
พักหลังมานี่รู้สึกจะไปเสพเมรัยบ่อยๆ หน้าตาก็แห้งเหี่ยวจะเสียสวยอยู่แล้วเนี่ย.... (ไม่เห็นจะต้องกลัว ของไม่เคยได้มี ยังไงก็ไม่มีวันเสีย) ตั้งกะเดือน พ.ย. มา นี่ ไปแทบจะทุกสุดสัปดาห์ ก๊งเหล้าจนเมามาย มีอยู่วันกินไปเยอะมาก จนนั่งลงสวมรองเท้าแล้วลุกไม่ขึ้น......เดือดร้อนตาไมค์ หิ้วปีกมาส่งบ้าน ก็สมควรแล้ว เพราะจริงๆ แล้วก็มันแหละชวนกินแล้ว ไอ้เหล้า 70% alcohol เนี่ยกินกันไปคนละเป็ก.... แบบผลัดกันบีบบังคับ แล้วยังกินไวน์แดงไปอีกขวด.....กลับถึงบ้านก็ใช้วิชาชั้นเทพ สกัดอาการ hang over คือ กินน้ำเข้าไป เกือบลิตร และตามด้วย ชงชาบ๊วยเค็มกิน ก่อนนอน (อาการ hang over เกิดจากการขาดน้ำค่ะ ถ้าได้เกลือเข้าไปซะหน่อย หรือน้ำเกลือแร่ นี่จะช่วย บรรเทาอาการค่ะ)....นู่นเลย วันต่อมา ตื่นมากินกาแฟดำ แล้วปร๋อไปทำแลปต่อ ขณะที่ตาไมค์ นอนพะอืดพะอม hang over อยู่ที่บ้าน...สมน้ำหน้ามันอิอิสงสัยจากหญิงเหล็ก ข้าน้อยต้องเปลี่ยนเป็นหญิง "ตับเหล็ก" ซะแล้ว...ยังมีรายการ มึนเมาอีกประปราย ในระหว่างนั้น ประมาณ ไวน์ หนึ่งขวด กินสองคนหมด อะไรทำนองนี้.....ไม่ค่อยได้พักได้ผ่อน...ช่วงนี้ก็บ้าๆ บอ ๆ ทำงานสมบุกสมบันไปตามเรื่อง..... หลังจากที่ ติสต์แตกสุดๆ ตอนวันพ่อ ก็อาการดีขึ้น.....ทำงานเหนื่อย และ คิดเรื่องอื่นมากไป สับสนวุ่นวาย ไหนจะแลป ไหนจะ เขียน thesis ไหนจะเรื่องคน... ตาไมค์เขาจะย้ายแล้ว ช่วงมันนี้ก็วุ่นวาย หลายเรื่อง ขายสมบัติเอย จัดการเอกสารเอย ปิดงานเอย ขนของเอย....ไม่ค่อยจะมีเวลาได้เห็นหน้าพี่แก...เท่าไหร่ จริงๆ แล้วก็โอเคนะ ...... เห็นแล้วเดี๋ยวมันเศร้าอ่ะ กลัวทำตัวน้ำเน่า ร้องไห้โฮ โฮ .. เลยต้องทำงานเยอะ เยอะ เยอะ เยอะ แทน ....... ไม่ได้เจอหน้าอี........ อย่างนี้ก็ดี เพราะขืนไปอยากทำอะไรพิเศษ ร่ำลา ดิ้นรน อยากอยู่ด้วยกันมากๆ พอ ไม่ได้อยู่ แล้วจะ up set เอาแบบนี้แหละ ทื่อๆ มะลื่อๆ เดี๋ยวความรู้สึกมันก็ตายด้านไปเอง....ก็มีโทรคุยกันนิดๆ หน่อยๆ เพราะอิฉันนอกจากจะทำงานแล้วยังมีภารกิจต้องสังสรรค์กับบรรดาเพื่อนร่วมงาน... ความรับผิดชอบนี้ใหญ่หลวงนัก.... อิอิอิ ก่อนไปก็โทร รายงานพี่ไมค์เล็กน้อย เพราะฉันหายหัวไปมุดอยู่ในแลปสองวัน ไม่มีเวลาไปทำตัวน้ำเน่ากะแก แกก็โทรมาถามๆ ว่า เป็นไง หายไปเลย อะไร ทำนองนี้.... เลยต้องรายงานว่าวันนี้ จะไป เมากะเพื่อนๆ ไม่ได้ไปหาหรอก...เธอก็บอก...ถ้างั้นก็ไปสนุกกะเพื่อๆ เต๊อะ ..(แกต้องอยู่บ้าน รอคนมาขนเฟอร์นิเจอร์ ที่แกจะขาย) เด๋ว พรุ่งนี้เจอกัน...ปรากฎว่า....เมื่อคืนกลับตีสองกว่าๆ เพราะนัดกันไปกินเหล้าบ้าน พี่ยัน...หนุ่มแลป ข้างๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกันบ่อยๆ นี่แหละค่ะ พี่ยันเป็นหนุ่ม เชค (ตลกหน้าตายมากค่ะ พี่คนนี้) เรื่องเกิดขึ้นเพราะ นังเมรีสองคน คือ ฉันกับเจ๊ติ๊ ไปคะยั้นคะยอ ให้แกเอา Absinth มาจาก เช็ค แล้วเอามาเผากินกัน....ปาร์ตี้เลื่อนมา เลื่อนไปอยู่นาน (วางแผนกันมานาน จนฉันได้ไปเผาไอ้เหล้านี่กิน กะตาไมค์ก่อน ที่จะกินกับพี่ยันและเจ๊ติ๊) มาลงตัวกันที่เมื่อวาน .... กล้าหาญมากค่ะ กินเหล้าคืนวันพุธ ราวกับว่าวันพฤหัสฯ จะเป็นวันหยุด.... ....ฉันสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะวันก่อน สกัดโปรตีน แล้วสารเคมีมันกลิ่น นรกแตกมาก หลอนและเหนื่อย...แต่ก็แทดแถโชว์ spirit ไปกะเพื่อนๆ ...เรียกว่า แทบจะยกกลุ่มงานวิจัยไปเมากันเลยทีเดียว....7-8 คนได้มั้ง inrernational มากกุสุมา ตัวแทนประเทศไทย เจ๊ติ๊ ตัวแทนบราซิล ฟาบิโอ ตัวแทนอิตาลีโรหิต ตัวแทนอินเดียพี่ยัน กะ อเล็กซ์ ตัวแทนเช็คน้องโท กะน้อง คาริน...ตัวแทนเยอรมัน...ก่อนจะไปเผาเหล้าเนี่ย...... ฉันไปดื่มกะชั้นเรียนภาษาสเปนก่อน.... ด้วยความเจียมตัว ว่ามีศึกใหญ่รออยู่ ตอนอยู่กับชั้นเรียนสเปน เลยทำตัวโนเนะ เป็น อีสาว alcohol free (คนอื่นๆ หารู้ไม่ ว่าหลังจากนั้น นังนี่จะไปก๊งขนานใหญ่) ไอ้ absinth ที่จะเผากินกันเนี่ยมันแรงอยู่ไม่หยอก 70% alcohol (ก็คืออันเดียวกันกะ ไอ้ที่ฉันเผากินกะตาไมค์ไปเมื่อเดือนก่อน) แล้วยังผสมสารสกัดสมุนไพรเยอะ แยะ ...น้ำเขียวอื๋อ กลิ่นยังกะยาแก้ไอ....ที่ร้ายคือ มี สาร thujone ที่ออกฤทธิ หลอนประสาทปนอยู่ ถ้าใครดูหนัง เรื่อง มูแรงค์ รูจ จะเห็นว่า พวกศิลปินจะ ดื่มกันแล้ว แบบว่า get high มากๆ (หาแรงบันดาลใจ ว่างั้นเหอะ) แต่ไอ้ของจริงแบบแรงๆ อย่างนั้นมันไม่มีแล้วค่ะ....เพราะว่ามันผิดกฎหมาย แต่กระนั้นไอ้ที่พี่ยัน แกขนมาสองขวดนี่ ก็แรงใช่ย่อย...ที่บอกว่าไปเผาเหล้าเนี่ย...ก็คือ เวลาจะกิน absinth ต้องเผาก่อน คือ ตักน้ำตาลใส่ช้อน แล้วก็จุ่มลงในน้ำเหล้า จุดไฟเผาน้ำตาลกะเหล้าจนมันเดือดปุดๆ รอจนหมดเปลวไฟ ค่อยเอาไปจุ่มแก้วเหล้า คน คน คน แล้วค่อย ยกซด.... ถ้าเพียวๆ ไม่ไหว ก็เติมน้ำลงไปได้นิดหน่อย....อ๋อย...ไม่เติมน้ำ นี่ฉันสู้ไม่ไหวอ่ะ บาดคอ บาดจมูก เหลือเกิน... ฉันใส่น้ำไปประมาณ 5 เท่า ก็ยังไม่สามารถกินจนหมด เพราะฝืนสังขารไม่ไหว...เหลือบไปมองพี่ยัน กะพี่อเล็กซ์ หนุ่มเช็ค เลือดบริสุทธิ์....... โอ้พระเจ้า พี่แกก๊งไปแบบชนิด แก้ว ต่อแก้ว แบบไม่ผสมน้ำ...ตกไป 5-6 แก้วได้มั้ง....หน้าตาแกยังเฉยมาก ปกติแบบสุดๆ พูดจารู้เรี่อง เยี่ยงคนมีวัฒนธรรม ทั่วไป สองหนุ่มนี่ เขาไม่ใช่ท่าทางเอะ อะ มะเทิ่ง หรือ ช่างพูดช่างคุย โดยเฉพาะ อเล็กซ์เนี่ย แกเป็นคนพูดจาท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่เห็นตอนแกซดเหล้า แล้วต้องตาค้าง....จนต้องถามว่า"พี่ๆ คนเช็คเขามีตับคนละกี่อันอ่ะพี่...ทำไมมันกำจัดพิษไวนักง่ะ"เจ๊ติ๊ตอบแทนว่า"ฉันว่า เขาไม่มีตับมากกว่านะ เพราะไม่จำเป็น" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...ที่เจ๊ติ๊ต้องพูดแบบนี้ เพราะพี่ยันแกบอกว่า....แกก๊งเป็นอาจิณ แถมกลั่นเหล้าจากลูกพลัมในสวนหลังบ้านเก็บไว้กินเอง อีกต่างหาก มีการเอาผลผลิตไปวิเคราะห์ ที่ สถาบันด้วยนะ....ฉันรู้สึกว่า สังคมนักวิทยาศาสตร์ นี่ออกจะบ๊องๆ....บางทีอาจจะเหมาะกะฉันก็ได้ เพราะฉันก็บ๊องๆ (เหมาะเฉพาะ เวลาบ๊อง ค่ะ ทุกท่าน)จัดการ absinth กันจนหนำใจ แล้วปิดท้ายด้วย คาปิริญญ่า เจ๊ติ๊นำเสนอ ตำแจกทุกคน....ฉันก็โชว์ spirit กินกะเขาด้วย..(เกือบตาย... ) ก่อนจะ แยกย้ายกันไปนอนบ้านใครบ้านมัน.... วันต่อมา ก็คือ วันนี้ ทุกคนมาทำงานปกติค่ะ (แม้แต่ฉัน ก็กลายเป็น อี่นางตับถึก กะเขาไปด้วย) เฮ้อ..... ไปกะเพื่อนๆ ก็ดี จะได้ไม่หมกมุ่นเรื่องความเศร้าของตัวเองมากนัก... ก๊งเหล้าไป ก็บอกตัวเองไป ว่า โลกนี้อะไรๆ มันก็ไม่เที่ยง ความรู้สึกของคนก็ครือ กัน....เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป....เป็นของธรรมดา....อย่าไปเอาอะไรกะมันมาก....ไมค์มันไม่ไปวันนี้ มันก็ต้องไปในวันข้างหน้าอยู่ดี...วันนี้รักมัน...เดี๋ยวอีกไม่นานก็ เลิกรัก (ก็ได้วะ)ไมค์ไปอยู่ไกลๆ ก็ดี ฉันจะได้มีสมาธิทำงาน ไม่ต้องรู้ ไม่ต้องเห็น...ไม่ต้องรับสัญญาณ.....ขืนมันยังอยู่ใกล้ๆ กัน....ฉันก็หักห้ามใจลำบาก.....วนๆ เวียนๆ เกิดๆ ดับๆ อยู่นี่แหละ.....ฉันยิ่งเป็นคนนิสัยไม่ดีอยู่ด้วย ชอบเอาชนะคะคาน หึงหวง บ้าๆ บอๆ เมื่อฝ่ายฉันก็คุ้มคลั่งไว อีกฝ่ายก็ขยันมาโปรยๆ หว่านๆ บริหารสเน่ห์ไปเรื่อยอย่างนี้ ตรูก็มีอาการอยู่สองอย่าง คือ เพ้อคลั่งรายวัน..... กับหึงหน้ามึด....... ไม่ต้องสร้างสรรค์อะไรกันแล้ว ชาตินี้ มัวเมาอยู่นี่แหละ.........ตาไมค์ มันก็จะไปวันเสาร์นี่แหละ (วันปลดแอกแล้วค่ะ) ......วันนี้ก็เพิ่งจะไปกินกลางวันกะท่านพี่ หน้าตาท่านมู่ทู่ มู่ตู เพราะไปส่งของไปรษณีย์ ไปตบกะธนาคาร ไปด่ากะเจ้าของบ้านเช่า จ่ายเงินไปบานตะเกียง .......โผล่มากินข้าวกลางวันกะฉันตอนบ่ายโมง ส่วนเย็นนี้เป็นวันแจกข้าวของฟรี ฉันจะไปหาแกตอนเย็นๆ อยู่ด้วยได้ถึงแค่ 2 ทุ่ม เพราะพี่ท่านจะไปปีนเขาอำลา กะเพื่อนๆ แล้ว วันคืนวันศุกร์ต้องไปนั่งปั้นหน้ายิ้มในปาร์ตี้ farewell (ทั้งที่ใจเศร้า) คงไม่พ้นได้ก๊งเหล้าอีก ตรู....เฮ้อ... แล้ววันเสาร์ก็ไปส่งพี่แกที่สถานีรถไฟ จะอดได้ไหมวะเนี่ยตรู.......กลัวจะร้องไห้ น้ำตาท่วมเมือง.....อายชาวบ้าน.....จะต้องทำไงดีเนี่ย...... จิตใจมันถึงจะตายด้าน.... ใครรู้ ช่วยบอกทีสิ นะ นะ นะ please......
รี่อ่านแล้วรู้สึกอยากสุราเมรัย อยากดูดมะเร็ง อยากทำอะไรก็ได้ที่ไม่ได้ทำมานานแล้วบ้างจัง
มาอิจฉาพี่ปอ อิอิ
คิดถึงนะคะ
ปีใหม่มีโปรแกรม (เมา) รึยังเอ่ย?