Bloggang.com : O_Sole_mio : ติดคุกในด๋อยแลนด์.........

ติดคุกในด๋อยแลนด์.........

หัวเรื่องนี้ฟังดูยวนใจหรือเปล่าคะ ยวนไม่ยวน ก็หยวนๆ อ่านไปละกัน เข้าปลายเดือนพฤศจิกายนแล้วสินะคะ ใกล้ปีใหม่เข้ามาทุกทีแล้ว ถ้าอยู่ที่อื่นอาจจะยังไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าใครอยู่ในเยอรมนีล่ะก็ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า ด๋อยแลนด์ นะคะ) จะรู้สึกได้เลยว่า เวลาผ่านไปจะครบปีแล้วจริงๆ

เรื่องเตรียมตัวแต่ไก่โห่นี่ขอยกให้คนเยอรมัน (ต่อไปนี้จะเรียกว่าคนด๋อย) ของขายในตลาดเริ่มมีของตกแต่งต้นคริสต์มาส ขนมคริสต์มาสมาขายตั้งกะหลัง Haloween เรียกว่าเก็บของขาย set ฟักทองก็เอาของคริสต์มาสมาวางขายต่อกันทันที (ขอแอบเมาท์ หลังปีใหม่เธอก็เอา ไข่กับ กระต่ายอีสเตอร์ออกมาตั้งแล้วค่ะ ไก่โห่ ไก่เห่อ อย่างแรง)

ช่วงเทศกาลคริสต์มาสในด๋อยแลนด์จะเป็นสุดยอดแห่งความคึกคัก ถ้าจะเถียงว่า ที่ไหนๆ มันก็คึกคักกันทั้งนั้นแหละ ก็ให้ลองนึกถึงธรรมชาติชาวด๋อย ที่ปกติจะหน้าตูด และไม่สุงสิงกะใคร ในด๋อยแลนด์ร้านต่างๆ ปิดตอน 2 ทุ่ม วันอาทิตย์ไม่เปิด ดังนั้นพอถึงวันอาทิตย์ เมืองทั้งเมืองกลายเป็นแดนสนธยา (ยกเว้นเมืองใหญ่ๆ นะ แต่พอดีกุสุอยู่เมืองกะลาครอบ) พอเข้าเทศกาลคริสต์มาสเขาก็จะมีงานออกร้าน เรียกว่า Weihnachtsmarkt (Weihnacht = Christmas, Markt = market) ภาษาอังกฤษเรียกว่า christmas fair มีทุกเมืองค่ะ ประดับประดากันเอิกเริก อลังการ ร้านขายของก็เปิดจนดึกดื่น มีการแสดงเวที มีเครื่องเล่น มีของกินที่ขายเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น เช่น Glühwein (ไวน์ผสมเครื่องเทศและดื่มตอนอุ่นๆ) ถั่วเคลือบ และอื่นๆ (เดี๋ยวไปทัวร์กินแล้วจะมาเล่าให้ฟัง) ชาวด๋อยก็จะหอบลูกจูงหลานมาเที่ยวงาน (วัด) ที่ไหนๆ ก็มีแต่คนหน้าตายิ้มแย้ม สนุกสนาน และมันคือสวรรค์ของเด็กๆ งานออกร้านนี้จะเริ่มตั้งแต่วันสุดสัปดาห์ที่ 4 ก่อนวันคริสต์มาส (งงมั๊ย คือนับอย่างงี้ นับวันอาทิตย์ก่อนถึงวันคริสต์มาสเป็น Advent ที่ 4 แล้วนับขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึง Advent ที่ 1 ซึ่งตรงกะวันที่ 3 ธันวา) แต่ว่าเขาจะเปิดก่อนนะ ปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวา

เอาเป็นว่าชาวด๋อยจะสนุกสุดแสนในช่วงเวลานี้ บ้านเรือนก็ประดับประดาด้วยไฟรูปดาว เทียน ปีรามิด แสงเทียนมันทำให้คืนวันอันดำมืดของช่วงต้นฤดูหนาวดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวาถ้าดูหนังเรื่อง love actually จะเข้าใจว่า Christmas 's all around มันเป็นยังไง แถมเป็น Christmas is in the air ด้วยก็ยังไหว แต่ แต่ แต่ ความรื่นเริงในงานร้านตลาดนี้จะหยุดลงในช่วงวันที่ 23 ธันวา เพราะChristmas เป็นวันของครอบครัว ดังนั้น ปิดร้าน ปิดร้าน ให้คนไปอยู่กะครอบครัว ไอ้บรรยากาศที่เคยร่าเริงสนุกสนาน กลับมาเงียบเป็น เป่าสากเหมียนเดิม ที่หนักหนาสาหัสสำหรับกะเหรี่ยงน้อยตัวดำๆ อย่างกุคือ “เดี๊ยนม่ายมีครอบครัวที่นี่ฮ่ะ” ดังนั้นในเวลาที่คนอื่นเขาอยู่กะพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย มีอาหารดีๆ ขนมอร่อยๆ กินจนพุงกาง แกะของขวัญแล้ว แกะของขวัญอีก จนเมื่อยมือ ฉันต้องเดินต๊อกต๋อยอยู่ตามถนน ไปรอรถเมล์กลับหอ แล้วเจียวไข่กินกะน้ำพริกนรกกันตาย โฮ โฮ แม่จ๋า พ่อจ๋า หนูคิดถึงบ้าน.....

ดังนั้น ช่วงคริสต์มาสทุกปีฉันต้องหาอะไรทำ ไปเที่ยวเอย ไปเยี่ยมเพื่อน (ที่เป็นกะเหรี่ยงในด๋อยแลนด์ ไร้ครอบครัวเหมือนกัน) ลองรำลึกความหลังมาได้ดังนี้

ปี 2003
ไปเยี่ยมกิ๊กเก้ (Enrique) กับอีโร (Rodolfo) สองหนุ่ม mexican ที่ Hamburg แล้วฉลองปีใหม่กับบ้านฮูลิโอและครอบครัว (Julio เพื่อน love ชาวเวเนซูเอลา) ที่ Dresden ปีนั้น

ปี 2004
ไปโปรตุเกสกับพี่ลูกน้ำ เดินโต้ลมกันที่ Lisboa ไปครั้งนั้นก็หลงรัก ลิสบอนไปเลย แล้วแวะเที่ยว มิวนิค ขากลับ ฉลองปีใหม่ที่บ้านฮูลิโอ again

ปี 2005
ไม่ได้ไปไหน อยู่ที่เมืองเยนา แต่หัวใจไม่ดิ้นรน เพราะรู้ว่า ตาไมค์ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวจะกลับมา ปีใหม่ก็ไปจุดประทัดระเบิดเถิดเทิงแล้วไปเคาท์ดาวน์กะเพื่อนๆ และตาไมค์บนเนินเขา หวานแหววกันซะไม่มี (หลังจากนั้นไม่นานก็รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตา 5555)

ปี 2006
จริงๆ แล้วปีนี้อยากไปต่างประเทศ คืออยากไปรับแดดอุ่นๆ ตามเกาะแก่ง ของสเปน พวก canary ไม่ก็ ternarif หรือ ไป Athens ไม่ก็ตุรกี แต่ แต่ แต่ เพิ่งไปทำ passport ใหม่ เพราะอันที่ใช้อยู่มันจะหมดอายุเดือนมีนาปีหน้า ตัวจริงก็ต้องแนบไปด้วย ตอนนี้ได้กระดาษซีร็อกมาใช้แทน (รูปหน้าดำปี๋เลยอ่ะ แลดูโจรมากๆ) เลยออกนอกด๋อยแลนด์ไม่ได้ ทั้งๆที่ตอนนี้ใจมันอยากออกแบบสุดๆ เพราะไม่ได้เที่ยวต่างประเทศมานานแล้ว

พอไปเล่าให้เพื่อนเยอรมันฟัง มันบอกว่า ดูบิสท์ เกฟังนิส อิน ด๊อยช์แลนด์ ‚ du bist gefangnis in Deutschland’ แปลว่าเธอถูกขังอยู่ในประเทศเยอรมนี แล้วก็หัวเราะอย่างดังเลยอ่ะ

สรุปว่า ......ที่พล่ามมายาวเหยียดขนาดนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า คริสต์มาสและปีใหม่ปีนี้ฉันไปไหนไม่ได้ นอกจากต้องอยู่ในประเทศเยอรมนี (เปรียบได้กับการติดคุกในใจของฉัน เพราะฉันอยากไปที่อื่น) ซึ่งฉันก็ต้องพยายามหาทางออกต่อไปว่า แล้วฉันจะทำอะไร หรือไปไหนดี ในช่วงวันหยุดยาวอันเงียบเหงานี้ เฮ้อ.....อยากกลับบ้านจังเลย

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2549

Last Update : 1 ธันวาคม 2549 4:03:09 น.

7 comments

Counter : 1119 Pageviews.

ง่ะ สรุปแล้ว เฝ้าหิม่ะแถวนี้เหมือนกันหรอค้า...

โดย: fluffyboy101

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:08:35 น.

แวะมาส่งยิ้มยามค่ำล่ะน๊า

โดย: d__d (มัชชาร

) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:12:16 น.

คุณ fluffyboy101
ใช่แล้วค่ะ แต่ว่ามันจะมีหิมะให้เฝ้าไหมล่ะคะ เมืองดิฉันมันไม่เยอะน่ะ ตกมายังกะรังแค

d_d
ส่งยิ้มตอบด้วยนะคะ ไม่มีรูปเพราะยังไม่ได้ศึกษาวิธีโพสค่ะ

โดย: O_Sole_mio

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:39:23 น.

สวัสดีคะ แวะเขามาอ่านการติดคุกแบบน่ารักคะ

โดย: kero (Miss.KERO

) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:45:42 น.

เวลาหน้าเทศกาลมาที ทำให้เราพวกต่างด้าว(อาจจะพวกในด้าวด้วย) คึกคักทีว่าม่ะ แล้วหลังจากนั้นชีวิตก็เงียบเหมือนเป่าสากเหมือนเดิม

ทำตัวให้คึกคักอย่าเหงา พี่ก็คึกคักแบบว่าจะตายแล้วนี่ ลูกกรี้ดทุกวันเลย ไม่รู้เป็นบ้าอะไร

โดย: แหม่ม (DesperateMommy

) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:53:46 น.

เห็นจั่วหัวไว้ นึกว่าโดนจับเพราะ DUI (ขับรถขณะมีแอลกอฮอลในร่างกายเกินขนาด)

อย่างว่าแหละครับ ข้อหายอดนิยมที่นักเรียนไทยจะติดคุกในต่างแดนได้ก็มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่นึกได้ (ผู้นิยมสุราก็นึกได้เรื่องนี้เรื่องเดียว

)

จากบล็อกผม...
ขอบคุณที่บอกว่าเป็นประตูอัลคาลานะครับ

ส่วนเรื่องไวน์นี่ แนะนำเหมือนคุณเอ็นริเก้ พ่องานสัมมนาเลย เขาบอกว่าให้ดูว่ามาจาก Rioja ก็นับว่ารับประกันไปได้พอสมควรแล้วว่ารสชาติไม่ขี้เหร่แน่นอน

โดย: คนทับแก้ว

วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:17:25:37 น.

คุณ kero
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมในคุกค่ะ

พี่แหม่ม
กำลังพยายามปลุกใจตัวเองให้คึกคักอยู่ค่ะพี่ ยากหน่อย ไม่วัยรุ่นแล้วทำคึกลำบาก แต่ปอว่าบ้านพี่คึกคักกว่านะ เด็กๆ น่ารักทุกคนเลย

อาจารย์คนทับแก้ว
ข้อหาขับรถตอนเมาน่ะ ไม่โดนหรอกค่ะ เพราะขับรถไม่เป็นค่ะ ยกเว้นว่า เขาจะจับข้อหาเมาแล้วร้องเพลง ส่วนเรื่อง rioja รอไว้เก็บข้อมูลได้พอแล้วจะเล่าให้ฟังต่อนะคะ

โดย: O_Sole_mio

วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:1:49:07 น.