กว่า หกปี ที่เปลี่ยนไป
ย่างเข้าเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ แล้ว สิ้นเดืิอนนี้ กุสุ ก็ จะ ครบ หกปีครึ่ง ที่จากบ้านนามาอยู่ด๋อยแลนด์ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ปริญญา ฉบับนี้ ใช้เวลายาวนานเกิน คาด ฟาดไปเกือบ หก ปี ไม่รวมเรียนภาษาด๋อย อีก ครึ่งปี ตอนนี้ อายุ สาม สาม แล้ว (เขียนเป็นตัว อักษร เพื่อ พราง ความแก่ ) ต้อง บอกว่า กว่าหนึ่งในห้า ของชีวิต มาใช้ที่ด๋อยแลนด์ นี่เอง.... สามปีหลัง นี้ไม่ได้กลับไทย เลย กะจะกลับ ตอนจบทีเดียว "สภาวะเกือบจบ ละ" ดำเนิน อยู่ เป็นเวลา สาม ปี (เกือบตายก่อน จบล่ะค่ะ )จากบ้านมาตอนวัยสาว ปลายๆ มา ชราได้ที่ ที่ด๋อยแลนด์ นี่เอง นั่งดูตัว เอง นอกจาก จะ้เห็นตีนกา เต็มหน้า แล้ว สิ่งต่างๆ ที่ผ่าน เข้ามาในชีวิต ทำให้ น้องนาง บ้านนา อย่าง ข้าเจ้า เปลี่ยนไป พอสมควร.... (รากเหง้า ยังเป็น เบ้า อีสาน ครือเก่า แต่ ชีวิตมันสอน...)หกปีที่ผ่านมา ทำให้ กุสุ ...-หล่ิอนปลง ง่ายขึ้น (ยังต้อง ใช้เวลา และ ธรรมะมาข่มใจ ไม่ได้ ดีเท่าไหร่ แต่ทรมานตัวเองน้อยกว่าเดิม) -หล่อน ค้นพบว่า แคร์เฉพาะคนที่ ควรจะแคร์ คนที่ำไม่รู้จักเราจริงจะนินทาว่าร้ายอะำไรก็ปล่อยไปเต๊อะ ทำให้ถูกใจไม่ได้ทุกคน -เว้นที่ว่างให้กับความแตกต่างทางวัฒนธรรม เขาก็เป็นของเขา อย่างนั้น-หล่อน ชอบฟังความจริงที่เจ็บปวด ดีกว่า เกรงใจ อมพะนำ สายเกินแก้ -ขณะเดียวกันหล่อน ก็ชอบเอ่ยความจริง อัีนแสนเจ็บปวด ต่อ ผู้ฟัง เำพราะคิดว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ตรง จุด-หล่อนเลิก พิรี้พิไร เป็นสาวซำน่อย... มีอะไรคุยกันดีๆ เร็วดี ตรงประเด็น ไม่เซ้าซี้....-หล่อนยังรักที่จะฝัน แต่ขาข้่างหนึ่งนั้น ยังอยู่เหยียบ บนพื้นดิน.... (ความเป็นจริงมัน ฉุดรั้ง)-หล่อน แมน มากๆ -หล่อน กล้าหน้า้ด้าน ไม่อาย ที่จะยอมรับความดำมืดในจิตใจ เลิก แอ็บแบ๊ว หลอกตัวเอง ว่า "หนูไม่รู้ ว่าเป็น อะไร ทำไมเซ้า เศร้า"-เคารพการตัดสินใจ ของผู้อื่น และยอมรับมัน อย่างสงบ แม้ว่า ตูจะไม่เข้่าใจและไม่เห็นด้วย เลยก็เถอะสรุปง่ายๆ ว่า แก่ เกิน แกง เกินจะเอาเรี่ยวแรง ไปดันทุีรัง พิรี้พิไร ปลงๆ ซะ ว่า อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด มีเรื่องวุ่นวาย มาตูข้าก็แก้ปัญหาไป โอ้ พระเจ้่า passive อย่างมาก.... นี่มันดี หรือ ไม่ดีวะเนี่ย.... หรือว่า เรา คือ ปลาตาย ซะแล้ว.....
อยู่ที่นั่นไมทราบว่าคิดถึงกลิ่นแผ่นดินไทยไหม
เราคนบ้านนอกก็ต้องกระเซ้าคนไกลอย่างนี้แหละ
ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละโยม
(เมื่อไหร่จะกินไอติมในไปรไฟล์หมดซักทีนี่แม่นางด๋อย)