ภาพรวมการปฏิบัติธรรม - มุมมือใหม่
ถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่อ่านบทความของผมใน blog แล้วยังสับสนการฝึกฝนการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ แล้วละก็ ขอให้อ่านเรื่องนี้ให้ละเอียดและให้เข้าใจให้ดี ท่านจะมองภาพออกว่า การปฏิบัติธรรม คืออย่างไร และ ท่านจะเข้าใจได้ดีขึ้นในการฝึกฝนการปฏิบัติธรรม
1. สภาพปรกติของจิตปุถุชนที่จมอยู่ในกองทุกข์เป็นเช่นไร
อธิบายภาพ ระยะที่ 1 คือสภาพของจิตปุถุขนในขณะที่ยังไม่มีทุกข์ใจ จิตใจจะยังสดใสไร้ทุกข์ ระยะที่ 2 เมื่อไปพบเหตุที่ทำให้เกิดการทุกข์ใจ จะเกิดจิตปรุงแต่งที่เป็นลักษณะอาการของการทุกข์ใจขึ้น จิตปรุงแต่งที่เกิดขึ้น จะถูกตัณหาอันเป็นแรงยึดเกาะ ทำให้จิตที่สดใสในระยะที่ 1 ถูกจิตปรุงแต่งยึดเกาะไว้ แล้วเข้าผสมรวมเข้าด้วยกัน เป็นระยะที่ 3 ทำให้จิตใจที่สดใสไร้ทุกข์ในระยะที 1 กลายเป็นจิตที่เป็นทุกข์ในระยะที่ 3 ไปทันที
2. แล้วจะหลุดจากกองทุกข์ในข้อ 1 ได้อย่างไร ในการหลุดจากกองทุกข์ในข้อ 1 นั้น ในขณะที่อยู่ในระยะที่ 1 ในภาพ จิตใจของคนต้องประกอบด้วยความรู้สึกตัวที่มีความเข็มแข็ง ซึ่งในทฏษฏีจะเรียกว่า การมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น
การมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น เมื่อเกิดเหตุแบบระยะที่ 2 ขึ้น พลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น จะเห็นการเกิดขึ้นของจิตปรุงแต่งอันเป็นทุกข์ และตราบใดที่ความตั้งมั่นของสัมมาสติ สัมมาสมาธิยังดีอยู่ กำลังแห่งความตั้งมั่นจะชนะแรงยึดเกาะ (ตัณหา) ทำให้จิตปรุงแต่งไม่สามารถเข้าผสมรวมกับจิตใจในระยะที่ 1 ได้ และ จิตปรุงแต่งก็จะสลายลงไปเอง เมื่อหมดเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดจิตปรุงแต่งนี้ขึ้น ทำให้จิตใจยังคงสดใสไม่เป็นทุกข์อยู่ต่อไป
ขอให้อ่านเรื่อง ชักกะเย่อ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=07-2009&date=28&group=1&gblog=68
3.ท่านจะเห็นว่า ความสำเร็จของการไร้ทุกข์อยู่ที่พลังความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ที่ว่าตั้งมั่น หมายความว่า มันต้องพร้อมใช้อยู่ทุกขณะที่ท่านตื่นอยู่ ที่ท่านทำกิจการงานอยู่ เสมอ ถ้าท่านไม่สามารถปลุกพลังความตั้งมั่นให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ท่านต้องลงมือฝึกฝน ซึ่งก็คือการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิอยู่เสมอ ๆ ให้กลายเป็นนิสัยประจำตัว (ภาษาพระเรียกว่า การเป็นผู้ปรกติเจริญสติปัฏฐาน) ซึ่งถ้าท่านเป็นมือใหม่ ท่านคงต้องลงมือฝึกฝนโดยจำลองแบบชิวิตประจำวันของท่านเอง
หลักการฝึกฝนก็คือ ให้ทำกิจการงาน หรือ ทำกิจวัตรประจำวัน ประกอบด้วยความรู้สึกตัว ( ผมขอย้ำ ต้องประกอบด้วย .ความรู้สึกตัว. )
ดังนั้น ท่านควรพิจารณาดูกิจวัตรของตนเองตามหลักการดังนี้.. ในชิวิตประจำวัน ท่านจะมีการเดินบ่อย ๆ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ท่านควรฝึกฝนด้วยการเดินจงกรม การเดินจงกรม ก็คือ การเดินพร้อมด้วยการมีความรู้สึกตัวแบบสบาย ๆ อันเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องไปกังวลแห่งความสวยงามในการเดิน แต่ท่านต้องเน้นว่า การเดินย่างก้าว ต้องสบาย ๆ และพร้อมด้วยความรู้สึกตัว
ถ้ากิจวัตรของท่านต้องใช้มือทำโน้นทำนี่ เช่นทำกับข้าว ล้างจาน ถูบ้าน ล้างรถ กวาดบ้าน ท่านก็เอาสิ่งที่ท่านทำประจำมาฝึก เช่นกวาดบ้าน ท่านก็กวาดมันเข้าไป ถึงแม้ว่าจะไม่มีฝุ่นแล้วก็ตามกวาดเข้าไป กวาดบ่อย ๆ แต่ขอให้ท่านกวาดพร้อมความรู้สึกตัว และ ต้องสบาย ๆ
การหัดฝึกฝนดังกล่าว จะทำให้ท่านเกิดความเคยชินในการทำกิจวัตรประจำวันพร้อมดัวยความรู้สึกตัว ยิ่งเคยชินมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นธรรมชาติ และ ความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ก็จะตามมาเองโดยที่ผู้ฝึกฝนไม่รู้ตัวเลยว่า มันได้ค่อย ๆ เจริญงอกงามอย่างเงียบเงียบในจิตใจของท่านเอง
4.ผมเชื่อว่า จะมีหลาย ๆ ท่านที่อ่านบทความนี้มาถึงข้อ 3 แล้วจะเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่า มันจะง่ายอย่างที่ผมเขียนเชียวหรือ เพราะไปเห็นพระตามวัด เห็นสำนักปฏิบัติธรรมต่าง ๆ มีการสอน มีการฝึกแบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งเรื่องนี้ ผมกล้ารับรองว่า เป็นไปได้อย่างแน่นอน ถ้าท่านหมั่นฝึกฝนดังที่ผมแนะนำให้ข้อ 3
5.ข้อดีของการฝึกฝนให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของท่าน ก็คือความเป็นธรรมชาติที่เป็นไปของท่านเอง มันจะง่ายและท่านก็ได้งานด้วยและได้ผลเร็วด้วย เพียงแต่ท่านทำอะไรก็ตามพร้อมด้วย .ความรู้สึกตัว. + .สบาย ๆ .
6.การฝึกฝนที่มีการเกร็ง จะทำให้จิตใจท่านไม่เป็นธรรมชาติ อาจเกิดอาการเวียนศรีษะ เครียด เกิดการจ้อง โดยที่ท่านอาจไม่รู้ต้ว หรือ อาจรู้ว่าเวียนศรีษะ หรือ รู้ว่าจ้อง รู้ว่าเครียด แต่ว่า ท่านก็แก้มันได้ด้ เพราะท่านมีการเกร็งขึ้น
7.เมื่อท่านฝึกฝน มันจะต้องเป็นธรรมชาติ จิตใจท่านต้องเป็นปรกติ จึงจะถูกทางในการเจริญสติปัฏฐาน ไม่มีอะไรพิสดารไปกว่าความเป็นปรกติของคนธรรมดานี่เอง แนะนำให้อ่านเรื่อง ปรกติ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=08-2009&date=15&group=1&gblog=74
แนะนำอ่าน เพียงรู้สึกตัว ก็พอแล้วหรือในการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=26&group=5&gblog=9
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:00:59 น. |
Counter : 1889 Pageviews. |
|
|
|