รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ยึดติด คือ อย่างไร -มุมมือใหม่

ท่านเคยใช้เทป 2 หน้าเพื่อติดวัสดุเช่นชิ้นไม้เล็ก ๆ 2 ชิ้นให้ติดกันไหมครับ นั้นแหละครับ เหมือนการ .ยึดติด. ในการปฏิบัติธรรม
แต่ถ้า ในเหตุการณ์เดียวกัน ถ้าเราพยายามติดวัสดุไม้ 2 ชิ้นด้วยการประกบกันเฉยๆ โดยไม่ใช้อะไรช่วยเลย ไม้ก็จะหลุดออกจากกัน
ไม่.ยึดติด.กัน

นักปฏิบัติที่เข้ามาใหม่เป็นอันมาก พอได้ฟังหรืออ่านวิธีการปฏิบัติแล้ว ก็จะลงมือปฏิบัติ พอปฏิบัติไปสักพัก ก็จะมีอาการทางกาย อาการทางใจ ปรากฏขึ้น เช่น เกิดฟุ่งซ่าน เกิดขาชาเพราะนั่งสมาธิ เกิดอาการตัวโยกโครง เกิดอาการตัวเล็กตัวใหญ่ตัวลอย เกิดอาการตัวคัน เกิดนิมิต เห็นโน่นเห็นนี่ เกิดได้ยินเสียงแปลก เกิดสงสัยในขณะฝึกฝนว่า เอ ตอนนี้ได้ฌานหรือยัง เกิดแสงสว่างจ้า เกิดสุข เกิดปิติ เกิดความรู้จากการปฏิบัติ และอื่น ๆ อีกสารพัด จะเกิดจากการฝึกในการปฏิบัติธรรม

พอเกิดอาการแล้ว ก็จะมี การ .ยึดติด.ตามมาเสมอก็คือ
>>สงสัยว่าอาการเหล่านี้คืออะไร
>> เกิดความอยาก ให้อาการบางที่ปรากฏในคราวก่อนหน้านี้ ปรากฏอีกในการปฏิบัติครั้งใหม่
>> เกิดความไม่ต้องการ ให้อาการบางอย่างที่เคยปรากฏมาแล้วปรากฏอีก
>> หลงดีใจในปรากฏการณ์ทางจิตที่เกิดขึ้น เฝ้าพร่ำเพ้อถึงแต่ปรากฏการณ์นั้น ๆ เช่นบอกเล่าให้คนอื่นฟังแบบไม่รู้จักพอ เป็นต้น
>> การปักใจเชื่อในสิ่งที่ได้รับรู้มาทางอายตนะต่าง ๆ ว่าเป็นจริง มีจริงเพราะได้สัมผัสมาแล้ว

การยึดติดดังกล่าว เป็นตัวขัดขวางการปฏิบัติธรรมของผู้ปฏิบัติเอง ผู้ปฏิบัติที่หลงไป .ยึดติด. โดยไม่รู้ตัว ทางพระเขาเรียกว่า เกิดวิปัสสนูกิเลส

ในการปฏิบัตินั้น นักปฏิบัติสมควรที่จะซื่อ ๆ แบบเด็กแบเบาะ
ที่เด็กเขาเห็นตุ๊กตา ก็เพียงแต่เห็น แต่ไม่รู้ว่านี่คือตุ๊กตา เป็นต้น
ซึ่งก็หมายความว่า การรู้เห็นอะไร ก็ไม่ต้องไปสนใจอะไร ไม่ต้องไปรู้ด้วยว่า สิ่งที่พบเห็นเรียกว่าอะไร มีชื่ออะไร เพียงแค่รู้แล้วปล่อยผ่านไป ปล่อยผ่านไป ไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งสิ้น

นักปฏิบัติใหม่อาจงงว่าทำไมจึงเป็นแบบนั้น ทั้งนี้เพราะว่า...

การปล่อยผ่านนั้น จิตที่ซ่อนอยู่เขาจะรู้เอง เขาจะบันทึกไว้เองในจิตใจ โดยที่ผู้ปฏิบัติจะไม่เห็นไม่เข้าใจการทำงานในส่วนนี้ของจิต
ผู้ปฏิบัติไม่ต้องไปช่วยจิตเขาทำอะไร ไม่ต้องไปช่วยจิตเขาจดจำอะไรเลย

ท่านที่ปฏิบัติมานานและไม่ก้าวหน้า ขอท่านลองสำรวจด้วยใจเป็นกลางดูครับว่า ตอนนี้ท่านยังยึดติดอะไรอยู่หรือไม่ ผมเชื่อว่าต้องมี แต่ท่านอาจมองไม่ออก

ผมหว้งว่า บทความนี้ คงกระตุกใจท่านได้บ้าง

รู้แล้วผ่านแบบเด็กแบเบาะ ไม่ยึดติด ครับท่าน

หมายเหตุ ที่ผมเขียนบทความใน blog นี่ก็เป็น การยึดติด อย่างหนึ่งเหมือนกันครับท่าน แต่ผมรู้ตัวข้อนี้ดีครับ


Create Date : 14 ตุลาคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:34:29 น. 2 comments
Counter : 1755 Pageviews.

 
สัญญาเจตสิกเกิดกับจิตทุกขณะ...
สัญญากระทำกิจจำ เกิดกับจิตทุกขณะ ทุกประเภท ...

เหมือนที่เจ้าของบทความบอก..ไม่ต้องช่วยจิตจำ

รู้แล้วก็จบลงที่รู้..สิ่งที่นอกเหนือจากรู้คือสมมุติบัญญัติ

ขออนุโมทนา.........



โดย: palmgang IP: 119.42.70.233 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:10:02:27 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:57:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.