ยึดติด คือ อย่างไร -มุมมือใหม่
ท่านเคยใช้เทป 2 หน้าเพื่อติดวัสดุเช่นชิ้นไม้เล็ก ๆ 2 ชิ้นให้ติดกันไหมครับ นั้นแหละครับ เหมือนการ .ยึดติด. ในการปฏิบัติธรรม แต่ถ้า ในเหตุการณ์เดียวกัน ถ้าเราพยายามติดวัสดุไม้ 2 ชิ้นด้วยการประกบกันเฉยๆ โดยไม่ใช้อะไรช่วยเลย ไม้ก็จะหลุดออกจากกัน ไม่.ยึดติด.กัน นักปฏิบัติที่เข้ามาใหม่เป็นอันมาก พอได้ฟังหรืออ่านวิธีการปฏิบัติแล้ว ก็จะลงมือปฏิบัติ พอปฏิบัติไปสักพัก ก็จะมีอาการทางกาย อาการทางใจ ปรากฏขึ้น เช่น เกิดฟุ่งซ่าน เกิดขาชาเพราะนั่งสมาธิ เกิดอาการตัวโยกโครง เกิดอาการตัวเล็กตัวใหญ่ตัวลอย เกิดอาการตัวคัน เกิดนิมิต เห็นโน่นเห็นนี่ เกิดได้ยินเสียงแปลก เกิดสงสัยในขณะฝึกฝนว่า เอ ตอนนี้ได้ฌานหรือยัง เกิดแสงสว่างจ้า เกิดสุข เกิดปิติ เกิดความรู้จากการปฏิบัติ และอื่น ๆ อีกสารพัด จะเกิดจากการฝึกในการปฏิบัติธรรม พอเกิดอาการแล้ว ก็จะมี การ .ยึดติด.ตามมาเสมอก็คือ >>สงสัยว่าอาการเหล่านี้คืออะไร >> เกิดความอยาก ให้อาการบางที่ปรากฏในคราวก่อนหน้านี้ ปรากฏอีกในการปฏิบัติครั้งใหม่ >> เกิดความไม่ต้องการ ให้อาการบางอย่างที่เคยปรากฏมาแล้วปรากฏอีก >> หลงดีใจในปรากฏการณ์ทางจิตที่เกิดขึ้น เฝ้าพร่ำเพ้อถึงแต่ปรากฏการณ์นั้น ๆ เช่นบอกเล่าให้คนอื่นฟังแบบไม่รู้จักพอ เป็นต้น >> การปักใจเชื่อในสิ่งที่ได้รับรู้มาทางอายตนะต่าง ๆ ว่าเป็นจริง มีจริงเพราะได้สัมผัสมาแล้ว การยึดติดดังกล่าว เป็นตัวขัดขวางการปฏิบัติธรรมของผู้ปฏิบัติเอง ผู้ปฏิบัติที่หลงไป .ยึดติด. โดยไม่รู้ตัว ทางพระเขาเรียกว่า เกิดวิปัสสนูกิเลส ในการปฏิบัตินั้น นักปฏิบัติสมควรที่จะซื่อ ๆ แบบเด็กแบเบาะ ที่เด็กเขาเห็นตุ๊กตา ก็เพียงแต่เห็น แต่ไม่รู้ว่านี่คือตุ๊กตา เป็นต้น ซึ่งก็หมายความว่า การรู้เห็นอะไร ก็ไม่ต้องไปสนใจอะไร ไม่ต้องไปรู้ด้วยว่า สิ่งที่พบเห็นเรียกว่าอะไร มีชื่ออะไร เพียงแค่รู้แล้วปล่อยผ่านไป ปล่อยผ่านไป ไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งสิ้น นักปฏิบัติใหม่อาจงงว่าทำไมจึงเป็นแบบนั้น ทั้งนี้เพราะว่า... การปล่อยผ่านนั้น จิตที่ซ่อนอยู่เขาจะรู้เอง เขาจะบันทึกไว้เองในจิตใจ โดยที่ผู้ปฏิบัติจะไม่เห็นไม่เข้าใจการทำงานในส่วนนี้ของจิต ผู้ปฏิบัติไม่ต้องไปช่วยจิตเขาทำอะไร ไม่ต้องไปช่วยจิตเขาจดจำอะไรเลย ท่านที่ปฏิบัติมานานและไม่ก้าวหน้า ขอท่านลองสำรวจด้วยใจเป็นกลางดูครับว่า ตอนนี้ท่านยังยึดติดอะไรอยู่หรือไม่ ผมเชื่อว่าต้องมี แต่ท่านอาจมองไม่ออก ผมหว้งว่า บทความนี้ คงกระตุกใจท่านได้บ้าง รู้แล้วผ่านแบบเด็กแบเบาะ ไม่ยึดติด ครับท่าน หมายเหตุ ที่ผมเขียนบทความใน blog นี่ก็เป็น การยึดติด อย่างหนึ่งเหมือนกันครับท่าน แต่ผมรู้ตัวข้อนี้ดีครับ
Create Date : 14 ตุลาคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:34:29 น.
2 comments
Counter : 1755 Pageviews.
โดย: palmgang IP: 119.42.70.233 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:10:02:27 น.
โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:57:49 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****
สัญญากระทำกิจจำ เกิดกับจิตทุกขณะ ทุกประเภท ...
เหมือนที่เจ้าของบทความบอก..ไม่ต้องช่วยจิตจำ
รู้แล้วก็จบลงที่รู้..สิ่งที่นอกเหนือจากรู้คือสมมุติบัญญัติ
ขออนุโมทนา.........