รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
7 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
เกิดอารมณ์รักใครขึนในจิตใจ จะทำอย่างไร

มีผู้ถามมา ผมขอสรุปคำถามได้สั้น ๆ ว่า ก่อนที่เข้ามาปฏิบัติธรรม ก็ไม่มีอารมณ์รักใคร่ขึ้นในจิตใจ แต่พอเข้าสู่การปฏิบัติ ก็เกิดอารมณ์นี้ขึ้นตลอดเวลา ถามมาว่า จะให้ทำอย่างไรให้อารมณ์นี้มันหยุดลง
...........................................
เนื่องจากผู้ถามมา ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก ก็เลยไม่ทราบว่า
ผู้ถามเป็น นักบวช หรือ เป็นฆราวาส ที่ยังไม่ได้แต่งงาน
ผมจึงขอดาดเดาว่าเป็นฆราวาสที่ยังไม่ได้แต่งงานก็แล้วกัน
มาอ่านดูความเห็นของผมครับ
----------------------------------
เนื่องจากเป็นฆราวส อารมณ์รักใคร่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
ถ้ามันเกิดขึ้นมา แต่ถ้าต้องการให้อารมณ์นี้ไม่เกิดอีก สำหรับคนที่เป็นปุถุชน เป็นสิ่งที่ยาก แต่ก็ยังมีทางออกอยู่ที่ว่า ไม่ใช่ไม่ให้เกิดอีก แต่เป็นว่า เกิดแล้วรู้ได้ทัน ดับได้เร็วขึ้น แต่ก็ต้องมีเกิดอยู่อีกเสมอๆ

อารมณ์จิตต่าง ๆ ของมนุษย์ ถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับเสียงสุนัขที่เห่าหนวกหูในตอนกลางคืนที่เรากำลังต้องการจะนอน แต่เสียงเห่าก็มาทำให้รำคราญขึ้นซะอย่างนั้นแหละ

อารมณ์จิตใด ๆ ที่เกิดขึ้น (ที่ว่าคล้ายเสียงสุนัขเห่า) ถ้าเราไปให้ความสำคัญแก่มัน โดยการที่ .อิน. เข้าไปกับอารมณ์นี้ หรือ ต้องการที่จะ ..ขจัด. มันละก็ มันก็จะยิ่งมีอำนาจมากขึ้นกว่าเดิม กลายเป็นตามหลอกหลอนไม่รู้จบสิ้น

การที่ .อิน. เข้ากับอารมณ์จิต ก็คือ การที่ .จิต. ถูกอารมณ์นี้ครอบงำโดยสิ้นเชิง ซึ่งปุถุชนเป็นอย่างนี้กันเกือบทุกคน ไม่มีเว้น
ที่จิตถูกครอบงำ ก็เพราะว่า กำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ไม่ตั้งมั่น ไม่มีกำลังพอนั้นเอง

สำหรับความคิดที่จะ .ขจัด. ก็เป็นตัณหา

ความเป็นกลางของจิตใจ ที่ไม่ .อิน. เข้าไป หรือ ต้องการ .ขจัด. อารมณ์จิตใด ๆ จะมีได้ก็ต่อเมือมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ที่ตั้งมั่นแล้วเท่านั้น ดังนั้นการฝึกฝนที่ถูกต้องจึงจะมีการพัฒนากำลังตั้งมั่นแห่ง สัมมาสติ สัมมาสมาธิได้

ผู้ถามได้บอกมาว่า ได้ปฏิบัติธรรมอยู่ ซึ่งผมก็ขอแนะนำว่า ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ถามด้วยว่า ตรงตามสติปัฏฐาน 4 หรือไม่ ซึ่งถ้าปฏิบัติไม่ตรง ต่อให้ปฏิบัติอย่างไร ผลแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิก็ไม่เกิดขึ้นจนตั่งมั่นได้เลย เมื่อไม่ตั้งมั่น อาการ .อิน . ย่อมมีอยู่ เมื่อ .อิน. อยู่ มันก็ไม่จางคลาย แต่จะปรากฏรบกวนท่านตลอดเวลา

ในผลแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ที่ตั้งมั่นได้นั้น เมื่ออารมณ์จิตใด ๆ ปรากฏขึ้น .จิตรู้ . จะเกิดขึ้นและเห็นอารมณ์นั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อจิตรู้เห็นอารมณ์นั้นแล้ว อารมณ์นั้นก็จะดับลงทันทีทันใด เช่นกันโดยไม่ต้องไปทำอะไรเลย มันเป็นอัตโนมัติ ที่เกิด - หยุด เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง พอมันเกิดคราวใหม่ จิตรู้ ก็เห็นอีก แล้วมันก็หยุดไปอีก วนเวียนเช่นนี้ไปตลอด

แต่การเกิดขึ้น แล้วหยุดลงของอารมณ์จิตต่าง ๆ เมื่อจิตรู้ได้เห็น ก็จะเป็นปัญญาทางพุทธศาสนาอันมีค่ายิ่งต่อผู้ปฏิบัติ

จากประสบการณ์ส่วนตัว การปฏิบัติเพื่อเพิ่มกำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ดีมาก ๆ คือ การฝึก กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
แต่ถ้าท่านมีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ตั้งมั่นแล้ว จะไปฝึกจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานเลยก็ได้

อนึ่งผู้ถามบอกมาว่า อารมณ์โกรธ ก็จัดการยังไม่ได้ นี่เป็นเครื่องหมายที่บอกว่า ถ้าอารมณ์โกรธ ยังหยุดไม่ได้ กำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ยังอ่อนอยู่มาก

ในการปฏิบัตินั้น เพียงผู้ปฏิบัติมองเห็นกลไกและเข้าใจธรรมชาติการทำงานของจิตใจของตนเองแล้ว เขาก็จะรู้สึกได้ถึงการลดลงไปเรื่อย ๆ ของทุกข์ทางใจ

การปฏิบัติธรรมทุกวิธี ถ้าไม่มุ่งตรงเพื่อเห็นกลไก เพื่อเข้าใจธรรมชาติแห่งจิตใจ ย่อมเป็นการปฏิบัติที่ไม่ตรงเพื่อการดับทุกข์ทางใจ
นี่คือหลักการสำรวจตนเองว่า สิ่งที่ตนปฏิบัติอยู่นั้นตรงทางหรือยัง
ถ้าท่านตอบไม่ได้ ท่านอาจถามสำนักที่ท่านปฏิบัติอยู่ ฟังเขาตอบว่าเป็นไปได้หรือไม่ แต่ระวัง ถ้าเขาตอบไม่ได้ เขาอาจมองว่า ท่านอาจไปหักหน้าเขา ท่านอาจโชคดีแค่ถูกไล่ออกจากสำนักอย่างกะสุนัขเป็นโรคเรื่อน ถ้าโชคร้าย ท่านอาจถูกลูกศิษย์ที่พักดีรุมทำร้ายเอาได้

แนะนำอ่านเพิ่มเติม

ขอบคุณ กิเลส ที่โผล่มาให้เห็น -มุมปัญญา//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=14&group=5&gblog=2

ฝ่ายธรรมเกิดพร้อมฝ่ายมาร ท่านจะเป็นฝ่ายธรรมหรือฝ่ายมารก็แล้วแต่ความเป็นกลางของท่าน
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=10&group=1&gblog=107

ทำไมผมสอนแต่กายานุปัสสนา ไม่สอนการดูเวทนา ไม่สอนการดูจิต ไม่สอนการดูธรรม แล้วจะครบสูตรได้อย่างไร

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=07-2009&date=03&group=1&gblog=53

ชักกะเย่อ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=07-2009&date=28&group=1&gblog=68

ตัวอย่างการฝึกเพือการรู้กาย
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=30&group=1&gblog=20



Create Date : 07 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:33:01 น. 3 comments
Counter : 993 Pageviews.

 
อารมณ์รักใคร่ มันเป็นเพียงความคิด ที่จิตใจเข้าไปยึดมั่นว่าเป็นความจริง เมื่อมีการยึดติดแบบนี้ และมีความต้องการที่จะไม่ต้องการให้มีการยึดติดแบบนี้ จึงเกิดทุกข์ขึ้นมาได้

เพียงแต่ท่านที่ถาม เปลี่ยนแนวคิดเสียใหม่ว่า อารมณ์รักใคร่ มันเกิด ก็ช่างมันเสีย ไม่ต้องอยากที่จะหยุดทำลายมันออกไป ท่านก็จะไม่ทุกข์ใจเลย

อนึ่ง ถ้าท่านมีการฝึกสัมมาสติ สัมมาสมาธิอย่างหนักแน่น จนเห็นกลไกการทำงานของจิตใจได้เมื่อไร
ท่านจะทราบด้วยปัญญาว่า อารมณ์รักใคร่นี้เป็นเพียงความคิด ไม่ใช่ของจริง มันเป็นเพียงมายาที่เกิดขึ้นในจิตตสังขารเท่านั้น ถ้าท่านรู้แบบนี้ได้เมื่อไร ท่านจะไม่ทุกข์เลย และ อารมณ์นี้ก็จะตั้งอยู่ไม่ได้อีก มันจะสลายตัวไปในทันทีทันใด แต่การรู้แบบนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็ต้องใช้เวลามากในการฝึกฝน และต้องมีปัญญาประกอบด้วย แต่เป็นการลดทุกข์ใจแบบถาวร


โดย: นมสิการ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:28:42 น.  

 
สาธุค่ะ _/\\_


โดย: benyapa IP: 68.183.49.153 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:1:11:54 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:52:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.