ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...
บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้
เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง
**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **
เพียงแต่ท่านที่ถาม เปลี่ยนแนวคิดเสียใหม่ว่า อารมณ์รักใคร่ มันเกิด ก็ช่างมันเสีย ไม่ต้องอยากที่จะหยุดทำลายมันออกไป ท่านก็จะไม่ทุกข์ใจเลย
อนึ่ง ถ้าท่านมีการฝึกสัมมาสติ สัมมาสมาธิอย่างหนักแน่น จนเห็นกลไกการทำงานของจิตใจได้เมื่อไร
ท่านจะทราบด้วยปัญญาว่า อารมณ์รักใคร่นี้เป็นเพียงความคิด ไม่ใช่ของจริง มันเป็นเพียงมายาที่เกิดขึ้นในจิตตสังขารเท่านั้น ถ้าท่านรู้แบบนี้ได้เมื่อไร ท่านจะไม่ทุกข์เลย และ อารมณ์นี้ก็จะตั้งอยู่ไม่ได้อีก มันจะสลายตัวไปในทันทีทันใด แต่การรู้แบบนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็ต้องใช้เวลามากในการฝึกฝน และต้องมีปัญญาประกอบด้วย แต่เป็นการลดทุกข์ใจแบบถาวร