รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ทิฐินักปฏิบัติ

เมื่อท่านคิดจะคุยเรื่องธรรมกับใคร ท่านสมควรชั่งใจให้ดี เพราะถ้าท่านไม่มีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบัน เขาจะไม่มีวันฟังท่าน พูดไปดี ๆ ก็จะเกิดปัญหาโต้เถียงกันขึ้น นี่คือทิฐินักปฏิบัติครับ

ในอดีตที่ผ่านมาตลอดเกือบ 25 ปีแห่งการเข้าสู่วงการปฏิบัติธรรม
ช่วงใหม่ ๆ ผมกำลังหาหนทาง กำลังหากัลยาณมิตร กำลังหาอาจารย์สอน แต่ผมไม่ข้าใจเลยว่า เวลาผมไปถามเรื่องธรรมกับเหล่านักธรรมรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ คนเหล่านี้ทำไมช่างใจจืดใจดำเสียจริง พอเราอ้าปากถาม เขาก็จะบอกว่าไม่ทราบแล้วเดินหนีไปทันที ผมมีแต่ท้อใจ และ ท้อใจ

เมื่อผมพบพระอาจารย์ทีสอนผม จนผมเข้าใจเรื่องธรรมปฏิบัติ ผมเฝ้าฝึกฝน จนรู้เข้าใจเรื่องแล้ว ผมนึกถึงอดีตที่ผ่านมาถึงเหล่านักธรรมใจจืดพวกนั้นที่ผมเจอ เมื่อมีใครมาถามธรรมกับผม ผมก็เพียรพยายามที่จะอธิบายให้เขาฟัง เพราะผมเข้าใจจิตใจตอนนั้นของผมดีว่าเป็นอย่างไร ผมเลยคิดว่า คนที่มาถามผม จิตใจเขาก็เหมือนกับผมในตอนนั้น แต่คนแล้วคนเล่าที่ผมเฝ้าเพียรอธิบายให้เขาเข้าใจ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การโต้เถียงในธรรมที่คุยกัน
จนผมอ่อนใจ ผมเลยเข้าใจแล้วครับว่า ทำไมเหล่านักธรรมรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ จึงเดินหนีทันทีเมื่อมีใครมาถามธรรมกับพวกเขา ผมเข้าใจแล้วจริง ๆ

จิตใจผมเปลี่ยนจากผู้มากด้วยน้ำใจที่คิดจะเผยแผ่พระธรรมขององค์สมเด็จสัมมาสัมมาพุทธเจ้า กลายเป็นคนใจจืดใจดำเฉกเช่นนักธรรมรุ่นพี่ไปแล้ว

จากที่เคยตอบข้อสงสัยในเวปบอร์ดต่างๆ ผมก็เลิกตอบ เพราะผมเห็นว่า การตอบในเวปบอร์ดมีแต่จะสร้างปัญหาให้ และไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

ผมหันมาเขียน blog ที่นี่คือบ้านของผมเอง ใครไม่สนใจไม่ต้องเข้ามาอ่านก็ได้ ใครทีอ่านแล้ว เขียนไม่ดี ผมก็มีสิทธิลบทิ้งได้ทันที ผมเองยังเห็นประโยชน์ของ blog ที่ให้ผมเผยแผ่ธรรมปฏิบัติแก่สาธารณชนต่อไปได้

พระอาจารย์ที่สอนผม เคยเตือนผมว่า อย่าไปยุ่งกับใคร โดยเฉพาะคนทีไม่รู้เรื่อง เพราะพูดอย่างไร เขาก็จะไม่เข้าใจ ไม่มีประโยชน์ นี่คือความจริงที่ผมประจักษ์ในคำสอนของพระอาจารย์แล้ว

ธรรมแท้นั้น ที่จริงพูดหรือเขียนอะไรออกมาไม่ได้เลย ไม่รู้จะเขียนอย่างไรดี ก็คงต้องเงียบไว้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพยายามจะทำใน blog ก็คือ การไขปัญหาวิธีการปฏิบัติแก่ผู้ที่ต้องการจะให้ผมช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ถ้าเรื่องสภาวะธรรม ผมพยายามจะเลี่ยงเลี่ยงไม่ตอบครับ

เมื่อสภาวะแห่งอนัตตายิ่งเด่นชัดชึ้น การเขียนใด ๆ ก็ยิ่งยากลำบากและถ้าเขียนไปจริง ๆ ก็จะมีแต่ปัญหาที่จะตามมา เพราะสิ่งที่จะแสดงมันจะขัดแย้งในทิฐิแห่งนักปฏิบัติท่านอื่น ๆ เป็นอย่างมาก ถึงขั้นรับไม่ได้ เพราะธรรมแท้ มันเป็นสิ่งที่หลุดโลก เป็นสิ่งทีอยู่เหนือโลก อะไรที่หลุดโลก อะไรที่เหนือโลก โลกย่อมไม่เข้าใจ ย่อมไม่ยอมรับ ถ้าผมเขียนไปแล้วไปขัดกับตำราเข้า ถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงแห่งธรรม มันจะได้ประโบนชน์อันใดแก่ผู้อ่านเล่า ในเมื่อทิฐิที่เขาสร้างขึ้นมาเอง มันเต็มแน่นอยู่ในสัญญาของเหล่านักปฏิบัติอยู่เต็มเปี่ยม

ทิฐินักปฏิบัติ ต้องการและยอมรับได้ แต่เรื่องที่ตรงกับทิฐิของเขาเท่านั้น

การที่เขาเข้ามาถาม ไม่ใช่ต้องการความรู้ในธรรม แต่เขาต้องการแนวร่วมในหมู่คนที่มีทิฐิตรงกับเขาเท่านั้น สำหรับในสิ่งทีไม่ตรง เขาก็พร้อมจะโต้แย้ง โดยเอาทิฐิแห่งตนเป็นที่ตั้ง

ผมคาดเดาว่า นี่คือสาเหตุที่ทำให้พุทธศาสนาที่ว่าจะอยู่ได้ 5000 ปี ก็เพราะทิฐินักปฏิบัตินั้นเอง นักปฏิบัติรุ่นพี่ รุ่นแม่ รุ่นพ่อ ที่เขาเข้าใจ จึงเก็บตัวเงียบ ปล่อยให้สัตว์โลกหลงไปกับทิฐิแห่งตน

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม !

ที่ผมเขียนออกมานี้ ก็เป็นทิฐิของผมเช่นกันครับท่าน !

ธรรมแท้ เขียนออกมาไม่ได้ เพราะมันไร้สัญญา ไร้สังขารแล้ว

แนะนำอ่าน
สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมด ล้วนมาจากสัญญาขันธ์ สังขารขันธ์//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=11-2009&date=13&group=5&gblog=23




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2552
5 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:31:44 น.
Counter : 1069 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

ดีใจที่ได้พบคนคิดแบบนี้ จุฬาภินันท์ไม่ใช่นักปฏิบัติ แต่เป็นคนที่ปฏิบัติธรรม จนเข้าสู่ระดับอรหันต์แล้ว

ยินดีแลกเปลี่ยนทุกความเห็นค่ะ ขอแอดไว้นะคะ

 

โดย: Chulapinan 20 พฤศจิกายน 2552 17:55:04 น.  

 

บุคคลใดที่ยังไม่สามารถข้ามพ้นหลักความคิดของตนเองได้ ย่อมหาเหตุและผล นำมาเกื้อหนุนความคิดของตนเองเสมอ เป็นเรื่องปกติ ของมนุษย์โลก...ธรรม..เป็นสิ่งที่ทวนกระแสโลก...การสอนธรรมจึงเป็นเรื่องยากยิ่งนัก..ต้องอาศัยความอดทน ความพยายามและความเมตตาอย่างสูงยิ่ง....เมื่อพยายามอย่างเต็มที่แล้วได้แค่ไหนก็แค่นั้น...เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนั้น มีความอยากที่จะช่วยคนสอนคน..สุดท้ายก็ต้องปล่อยวาง ใครมีวาสนาร่วมกันเมื่อถึงเวลาย่อมได้ช่วยเหลือเขาเอง.....

 

โดย: ตามพันธสัญญา IP: 119.46.43.78 20 พฤศจิกายน 2552 18:30:22 น.  

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณมนสิการนะคะ ปูยังรอที่จะได้ไปฝึกกับคุณมนสิการนะคะ

บุญรักษาค่ะ _/\\_

 

โดย: เบญญาภา IP: 68.183.49.153 20 พฤศจิกายน 2552 22:21:25 น.  

 

สาธุค่ะ

 

โดย: kaoim IP: 118.173.255.165 21 พฤศจิกายน 2552 7:51:04 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:47:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.