ดูภาพยนต์จิตในขณะทำงาน
1. สำหรับปุถุชนที่ไม่ได้ฝึกฝน สัมมาสติ สัมมาสมาธิ หรือ ยังอยู่ในระหว่างการฝึกฝน แต่กำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ยังไม่ตั้งมั่น ในขณะที่เขากำลังทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่ หรือ ในขณะที่เขากำลังทำกิจวัตรประจำวัน จิตใจของเขาจะคอยแว๊บไปคิดเรื่องต่าง ๆ เสมอ และมักจะเป็นเรื่องที่เขากำลังติดใจอยู่ เช่น เรื่องกลุ้มใจ เป็นต้น เมื่อจิตใจเขาแว๊ปไปแบบนั้น เปรียบเหมือนกับว่า เขากำลังดูภาพยนต์ที่ตนแห่งกำลังแสดงในภาพยนต์นั้น เสียแต่ว่า มันเป็นภาพยนต์ที่ดูแล้วกลุ้มใจ ไม่มีความสุข ครั้นจะพยายามหยุดคิดเรื่องที่กลุ้มใจนั้น ก็ไม่อาจจะหยุดได้เลย ภาพแห่งความกลุ้มใจ ก็มาฉายวนไม่รู้จบ เขาก็จะจมอยู่กับกองทุกข์นั้น ไม่อาจหลีกหนีไปได้ ภาพยนต์ฟรีแบบนี้ ไม่มีใครต้องการชม แต่ก็ต้องชม
2.สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงการฝึกฝนที่กำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เริ่มมีกำลัง ภาพยนต์แห่งความกลุ้มใจ จะแอบเข้ามาฉายบ่อย ๆ เหมือนกัน แต่เนื่องด้วย กำลังแห่ง สัมมาสติ สัมมาสมาธิในจิตใจนั้น จะหยุดภาพยนต์ด้วย.จิตรู้. ที่ไปเห็นมันเข้า เมื่อภาพยนต์ฉาย จิตรู้จะไปเห็น เมื่อเห็นแล้ว ภาพยนต์จะหยุดฉายไปเอง ( ซึ่งขึ้นกับกำลังแห่ง สัมมาสติ สัมมาสมาธิด้วย ) แต่แล้ว มันก็จะแอบมาฉายใหม่ แล้วจิตรู้ ก็จะไปเห็นมันอีก แล้วมันก็จะหยุดฉายอีก วนเวียนอย่างนี้ตลอดไป สำหรับบุคคลในข้อ 2 นี้ จะดีกว่าปุถุชนในข้อ 1 ที่การฉายภาพยนต์ไม่ได้มีตลอด แต่เป็นฉาย แล้วหยุด ฉายแล้วหยุด ทำให้ทุกข์ใจจะลดน้อยกว่าบุคคลในข้อ 1
3 สำหรับผู้ที่กำลังฝึกฝนอยู่แต่มีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิที่ตั้งมั่นเป็นอย่างมากแล้ว คนในข้อ 3 นี้จะพบเห็นจิตว่างได้ หรือ เห็นจิตเงียบได้ ( กรุณาอ่านเรื่อง จิตเงียบ ถ้าไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ) ในขณะที่เขากำลังทำงานอยู่ เขาก็จะรู้สึกถึงจิตเงียบนี้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นภาพยนต์ที่ฉายในจิต จะต่างเรื่องไปจากบุคคลในข้อ 1 และ ข้อ 2 ซึ่งส่วนใหญ่จะฉายแต่เรืองกลุ้มใจ แต่ภาพยนต์ของบุคคลในข้อ 3 จะเป็นเรื่องจิตว่าง จิตเงียบแทน ดังนั้น บุคคลในข้อ 3 จะมีชีวิตอยู่ และทำงานโดยไม่ทุกข์ใจ เหมือนอย่าง บุคคลในข้อ 1 และ ข้อ 2
นี่คือคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่จากการได้ลงมือฝึกสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตามมรรค8 อย่างถูกต้อง ผู้ปฏิบัติไม่ต้องคาดหวังนิพพานในชาติหน้าตอนตายไปแล้ว แต่ผลแห่งความสงบเย็นที่ไร้ทุกข์จะปรากฏให้พบได้ทันทีในชาติปัจจุบันนี้เอง
ถ้าท่านเป็นผู้ปฏิบัติที่เข้าใจไปเองว่า ตนเองอยู่ในข้อ 3 แล้ว พบเห็นจิตว่าง จิตเงียบอยู่เสมอในขณะที่กำลังนั่งสมาธิ ผมจึงอยากให้ท่านพิจารณาตนเองให้รอบครอบอีกสักนิดว่า ในขณะที่ท่านไม่ได้นั่งสมาธิ ท่านยังเป็นบุคคลในข้อ 3 อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ท่านยังไม่เข้าข่ายการอยู่ในข้อ 3 นี้ ดังเหมือนที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงทราบในขณะที่ท่านได้เรียนสมาธิทำฌานกับดาบสทั้ง 2 เมื่อเจ้าชายออกจากฌานในสมาธิเมื่อไร อาการจิตก็จะเกิดการปรุงแต่งก่อให้เกิด อาการพอใจ ไม่พอใจ ขึ้นมาได้อีก อันไม่ใช่หนทางที่ในการดับทุกข์ที่สมบูรณ์แบบ
ธรรมแห่งการดับทุกข์ของพระพุทธองค์จะพบได้ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนเท่านั้น ไม่อาจพบได้ด้วยตำราทีอ่านมา หรือ ไปแอบจำจากปากของคนอื่น ถึงแม้ว่า หนทางมีอยู่ แต่ผู้ปฏิบัติก็ต้องพากเพียรฝึกฝนด้วย จึงจะเกิดผลออกมาได้
หวังว่า ท่านที่เข้ามาอ่าน คงได้กำลังใจในการพากเพียรฝึกฝนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่มีใครช่วยท่านดับทุกข์ได้ นอกจากตัวท่านเองเท่านั้นครับ
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:32:14 น. |
Counter : 1000 Pageviews. |
|
|
|