คุณยายข้างบ้านฝึกวิปัสสนา-มุมมือใหม่ ข้างบ้านผมมีคุณยายคนหนึ่ง ทุกเช้าคุณยายจะมารอพระใส่บาตรทุกวัน หน้าบ้านคุณยายมีเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง คุณยายจะมานั่งรอพระพร้อมกับ.พัด.ในมือ ที่พัดไล่ยุง หรือ พัดคลายร้อน สุดที่ผมจะเดาได้ การที่คุณยายนั่งพัดอยู่ตลอดอย่างสบาย ๆ ไม่หยุดพัด ถ้าในเวลานั้น สมองคุณยายไม่ได้ตั้งใจคิดเรื่องโน้น เรื่องนี้อยู่ละก็ คุณยายท่านนี้กำลังเจริญวิปัสสนาอยู่ในตัวแล้วครับ ซึ่งคุณยายอาจไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า กำลังปฏิบัติธรรมที่มีกุศลสูงสุดอยู่ การที่มือคุณยายกำลังพัดอยู่ตลอดแสดงว่า คุณยายกำลังรู้สึกตัวอยู่ เพราะถ้าไม่รู้สึกตัวจะพัดตลอดเวลาไม่ได้ เพียงคุณยายไม่นั่งคิดโน่นคิดนี่เท่านั้น นี่คือการปฏิบัติวิปัสสนาแล้ว และเป็นการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน วิปัสสนานั้นจะมาพร้อมกับความรู้สึกตัว เมือ่ไม่หลงไปคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จิตใจย่อมรู้สึกได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบตัว ตาย่อมมองเห็นได้ หูย่อมได้ยินเสียงได้ เมื่อลมจากพัดมากระทบกายย่อมรู้สึกถึงได้ หรือ ยุงมากัดก็รู้สึกได้ ง่ายไหมครับท่าน วิปัสสนาไม่ใช่ของยากเลย มันพื้น ๆ กับการมีชีวิตอยู่นั่นเองครับ ลองไปหาซื้อพัดดมาสักอัน แล้วในขณะที่นั่งดูทีวี ก็พัดไปด้วย พัดลมไม่ต้องเปิด แอร์ไม่ต้องเปิด นอกจากประหยัดไฟฟ้า ช่วยโลกร้อนแล้ว ท่านยังได้อานิสงค์อันยิ่งใหญ๋จากการปฏิบัติธรรมไปในตัวด้วยครับ   Create Date : 01 พฤศจิกายน 2552 9 comments Last Update : 29 มกราคม 2555 18:33:33 น. Counter : 949 Pageviews. Share Tweet

ขออนุโมทนากับคุณมนสิการด้วยค่ะ   โดย: benyapa IP: 68.183.49.153 1 พฤศจิกายน 2552 6:51:30 น.

สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูมาอ่านคำตอบแล้วนะคะ ยิ่งอ่านเรื่องคุณยาย ยิ่งรู้สึกว่า ง่ายมากๆ เฮ้อ แต่พอจะทำจริงๆ ก็ไม่ง่ายเล้ย ช่วงนี้หนูเป็นตาแดงค่ะ อ้อ ส่วนที่หนูรู้สึกว่า นิ่งๆ คือ ใจ ความคิด มันนิ่งๆ คือเวลามันคิด มันฟุ้งหนูก็รู้สึกได้ ตอนนี้พอมันนิ่งๆ หนูก็รู้สึกได้เหมือนกัน ประมาณนั้นค่ะ หนูยังติดตามอาจารย์อยู่นะคะ   โดย: มือใหม่ คนเดิม IP: 61.7.186.252 1 พฤศจิกายน 2552 9:32:22 น.

ได้ลองหาหนังสือหลวงพ่อเทียนมาอ่าน เพื่อดูว่าเก้ามีอะไรที่พลาดไปหรือเปล่า เพราะว่า อ่านบล๊อคคุณนมสิการที่ผ่านมาสองบล๊อค ได้เตือนเรื่องการรู้สึกที่ความเคลื่อนไหวที่เป็นจังหวะตามคำสอนของลพ.เทียน วันนี้ได้เห็นความคิดมันแยกออกมาจากร่างกาย อย่างตอนที่ทำธุระในห้องน้ำ อาบน้ำ มันก็มีความคิดปรุงเกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ก็เห็นว่า ร่างกายมันก็ทำงานของมันไป คือทำกิจกรรมอาบน้ำไป แต่งตัวไป ส่วนใจก็คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วมันก็เฉลียวใจว่า เฮ้ย..แล้วร่างกายที่มันเคลื่อนไหวไป อะไรเป็นตัวกระทำล่ะ   โดย: kaoim IP: 119.31.102.234 1 พฤศจิกายน 2552 20:25:24 น.

แล้วมันก็เฉลียวใจว่า เฮ้ย..แล้วร่างกายที่มันเคลื่อนไหวไป อะไรเป็นตัวกระทำล่ะ >> การชุกคิดเรื่องอะไรขึ้นมาแล้ว ก็พอในคราวนั้น แต่อย่านำไปคิดต่อด้วยการใช้สมอง เพราะนั้นเป็นจิตตสังขาร ไม่ใช่การรู้ธรรมด้วยจิต การชุกคิดอะไรบ่อย ๆ นี่เป็นเครื่องหมายที่ดีครับ   โดย: นมสิการ 1 พฤศจิกายน 2552 22:23:55 น.

การชุกคิด กับการรู้ว่าคิด นี่ความหมายเดียวกันมั้ยคะคุณนมสิการ _/\\_   โดย: benyapa IP: 68.183.49.153 2 พฤศจิกายน 2552 9:43:38 น.

การรู้ว่าคิด นี่คือ การรู้ธรรมดาแต่ไม่เอะในใจ การชุกคิด คือ การที่มีอะไรเอะในใจ เช่น สมมุติว่า เราเคยทำอะไรสักอย่างหนึ่งไว้เป็นประจำอยู่เสมอ แต่อยู่มาดี ๆ ก็มีการเอะในใจว่า สิ่งที่ทำอยู่แบบนี้ ยังมีวิธีการอื่นทีดีกว่า เร็วกว่า ง่ายกว่า เป็นต้น คล้าย ๆ กับการคิดอะไรออกในสิ่งที่เราเคยมองข้ามไป อะไรอย่างนั้น   โดย: นมสิการ 2 พฤศจิกายน 2552 10:25:36 น.

คุณยายปฏิบัติธรรมครบ   โดย: อัสติสะ 3 พฤศจิกายน 2552 8:43:16 น.

ขอบพระคุณค่ะ   โดย: benyapa IP: 68.183.49.153 3 พฤศจิกายน 2552 10:42:44 น.

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่ asknamasikarn@gmail.com หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน   โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:53:10 น.