รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

เรื่องที่ยากลำบากที่สุดในธรรมปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์

เป็นเรื่องที่แทบไม่น่าเชื่อ เรื่องที่ยากลำบากที่สุดในธรรมปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ นั้นคือ .ความเชื่อ. ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของท่านนั้นเอง

ถ้าท่านหนีมันออกมาได้เมื่อไร ท่านก็จะพ้นจากกองทุกข์ได้ทันที

เมื่อท่านเชื่อสิ่งใด สิ่งนั้นจะจมลึกอยู่ในส่วนลึกของจิตใจแม้ตังท่านเองก็ไม่รู้
เมื่อท่านได้ฟังหรือได้อ่านเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อที่อยู่ในจิตใจ ถ้ามันตรงกัน ท่านก็จะยิ้มและพยักหน้าและยินดีและว่า เรื่องนี้ถูก เรื่องนี้ดี เรื่องนี้เป็นจริง

ในทำนองตรงกันข้าม ถ้าท่านได้ยินหรือได้อ่านเรื่องที่ขัดแย้งกับเรื่องที่ท่านเชื่ออยู่ในจิตใจ ท่านก็จะหน้าเสียพร้อมส่ายหน้าและว่าเรื่องนี้มั่วนิ่ม เรื่องนี้เป็นเท็จ เป็นเรื่องมุสา เป็นข่าวโคมลอย เป็นสิ่งที่ผิด

ท่านไม่รู้ตัวเลยว่า ท่านกำลังเป็นหุ่นกระบอกไปแล้วที่มีอวิชชาเป็นตัวชักหุ่นที่ท่านเป็นตัวหุ่นนั้นเสียเอง

ในพุทธประวัติมีกล่าวไว้ เมื่อปัญจวัคคีย์ที่เฝ้าดูแลเจ้าชายสิทธัตถะที่กำลังทรมานกายอย่างหนัก เพื่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ต่อมาเจ้าชายได้คิดใหม่เนื่องด้วยพิณ 3 สาย ก็กลับมาเสวยพระกายาหารอีก พอเหล่าปัญจวัคคีย์เห็นดังนั้น ต่างก็ลงความเห็นว่า บัดนี้เจ้าชายกลับมามักมากในกามคุณอีก ไม่มีทางบรรลุธรรมขั้นสูงสุดเป็นแน่ ต่างก็พากันหนีจากไป นี่เพราะความเชื่อในสมัยนั้นที่ว่า การจะเข้าถึงที่สุดแห่งทุกข์ ต้องทรมานกายให้ลำบาก ต้องไม่กินอาหาร เมื่อปัญจวัคคีย์เห็นสิ่งทีเป็นอยู่ตรงกับกับความเชื่อของตน จึงรับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ในแวดวงกรรมฐานของไทยก็เช่นกัน มีการปลูกความเชื่อมากมายลงในหมู่ชนชาวไทย ว่าการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ ต้องอย่างนี้ ต้องอย่างนั้น จนกลายเป็นความเชื่อนิยมไปแล้ว ซึ่งถ้าผมเขียน ผมก็จะกลายเป็นคนนอกคอก คนทำลายศาสนา ไปทันที รู้ทั้งที่รู้ แต่ผมเขียนไม่ได้ ท่านต้องใช้ปัญญาพิจารณาเอาเองว่ามีเรื่องอันใดบ้าง

ในอดีต มีพระดังๆ ที่มีคนศรัทธามากขนาดกล่าวขวัญกันว่าท่านเหล่านั้นคือพระอรหันต์ มีคนขึ้นกราบไหว้มากมาย รูปหนึ่งเคยอยู่เมืองกาญจนบุรี บัดนี้หนีไปห่มเขียวอยู่อเมริกา รูปหนึ่งอยู่ราชบุรี ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหน รูปหนึ่งอยู่นนทบรี ตอนนี้ผมก็ไมทราบว่าอยู่ที่ไหน ท่านทั้ง 3 ต่างก็ต้องฏีกา การเสพย์เมถุนธรรม มีเมียมีลูก ในเวลาต่อมา
คนทีศรัทธาในอดีต ก็เพราะความเชื่อที่ร่ำลือกันมา ปากต่อปากนั้นเอง

ในขบวนการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ เมื่อท่านฝึก.จิตรู้.จนตื่นตัว การรู้ด้วย .จิตรู้. นี่คือการรู้ที่บริสุทธิเหมือนเด็กทารก ( ที่ยังไม่มีคำสอนใด ๆ ยัดเยียดลงในสมองของเด็กนั้น ) ไร้การเชือในสิ่งที่รับรู้ว่า อันนี้ใช่แล้ว หรือว่าอันนี้ไม่ใช่ ถ้าท่านรู้แล้วตัดสินว่าถูกแล้ว ว่าใช่แล้ว นั่นเป็นขบวนการของอวิชชาที่ไปเกิดการตัดสินในสังขารขันธ์ ไม่ใช่ใน.จิตรู้.

ความยากอยู่ตรงนี้ครับ เพราะเรา ๆ ท่าน ๆ มักคุ้นเคยกับการตัดสินผิดถูกเสมอ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า การตัดสินผิดถูกนี้ ไม่ใช่เป็นอย่างที่ท่านตัดสินเลย เพราะสิ่งที่ท่านตัดสินต่าง ๆ นั้นเป็นสิ่งทีท่านล้วนคิดไปเองจากสังขารขันธ์ทั้งสิ้น

แล้วรู้ที่ไม่มีอวิชชา คือรู้โดยไม่ตัดสินลงความเห็นใด ๆ ที่เรียกกันว่า รู้เฉย ๆ รู้ซื่อ ๆ รู้โง่ ๆ นั้นแหละ

เมื่อท่านอ่านถึงตรงนี้ ท่านก็อาจจะตัดสินไปแล้วว่า บทความนี้มั่วนิ่ม เป็นเท็จ เชื่อไม่ได้ เป็นสิ่งที่ผิด เป็นบทความพวกนอกศาสนา ก็ได้ครับ

ตามสบายครับท่าน ผมเพียงแต่ฝากไว้ให้ท่านพิจารณาด้วยปัญญา
อย่าได้เชื่อผม เพราะถ้าเชื่อผม นั้นก็คือมีการตัดสินไปแล้วครับท่าน

เสียงปีนสั้นมีหรือจะดังกว่าเสียงปืนใหญ่ - นี่ก็ตือการตัดสินอีกเช่นกัน ท่านมองตัวอย่างที่ผมยกไว้นี้ออกหรือไม่

หมายเหตุ บทความนี้ เป็นบทขยายความในบทความก่อนหน้าในเรื่อง
รู้แบบธรรม รู้แบบโลก ฉบับชาวบ้าน

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=11-2009&date=18&group=5&gblog=26




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
3 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:31:39 น.
Counter : 956 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: มังคุดม่วง 23 พฤศจิกายน 2552 17:53:58 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: นาฬิกาสีชมพู 24 พฤศจิกายน 2552 0:12:14 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:46:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.