รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

เผลอ-โกรธ-อารมณ์เพศ ล้วนเป็นสภาวะธรรมที่ไม่ใช่ของเรา - มุมมือใหม่

นักปฏิบัติมือใหม่ที่เป็นชาวไทย ที่พอเริ่มลงมือฝึกฝนการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ก็มักจะมีสิ่งหนึ่งฝังอยู่ในหัวมาก่อนแล้ว สิ่งนั้นก็คือ การไม่ต้องการพบสภาวะ เผลอสติ - อารมณ์โกรธ - อารมณ์เพศ โดยมักจะมีความเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้มันของชั่ว มันเลวทรามต่ำช้า มันไม่ดี

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม เมื่อท่านยังเป็นมือใหม่ที่เพิ่งก้าวจากปุถุชนเข้าสู่ถนนสายการปฏิบัติ ท่านจะพบอารมณ์ต่าง ๆ มาก ๆ รวมไปถึงอารมณ์ทีท่านไม่พึงปรารถนาดังที่ผมยกมาในข้างต้น

แต่ว่า ในความจริง ท่านจะหนีอารมณ์เหล่านี้ไปไม่ได้เลย
ท่านต้องพบกับมันอยู่เสมอ ท่านสมควรใช้มันเป็นประโบชน์
ไม่ใฃ่ไปจงเกลียดจงชังมัน

ในบรรดาสภาวะธรรมต่าง ๆ นั้น เมื่อท่านพบมัน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็คือสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง เพียงแต่ท่านเห็นมันบ่อย ๆ ด้วย .จิตรู้. แล้วท่านจะเข้าใจมันได้ดีในเวลาต่อมาว่า มันสักแต่ว่าเป็นสภาวะธรรม ที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันเกิด แล้วมันก็สลายไป

การทีท่านไปจงเกลียดจงชังมันเป็นการสร้างกิเลสซ้อนขึ้นในจิตใจของท่านเองโดยที่ท่านไม่รู้ตัว เหมือนต้องการหนีเสือแต่ท่านกลับไปวิ่งเข้าจระเข้ ท่านจะมองมันอย่างไม่เป็นกลางคือ มองแบบลำเอียงใจ อันไม่ตรงต่อการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ผมเข้าใจดีครับว่า ใหม่ ๆ อาจทำใจลำบาก แต่เมื่อท่านเห็นมันไปเรื่อย ๆ ด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่ลำเอียง ผลของปัญญาก็จะเกิดแก่ท่าน

การปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ ก็ด้วยปัญญาแบบนี้ ถ้าท่านจะปฏิบัติเข้าฌานแบบฤาษี ทำตัวนิ่งประดุจก้อนศิลาที่ไร้ชีวิตจิตใจ ท่านก็ต้องกำจัดมัน แต่มันจะไร้ปัญญาครับท่าน ซึ่งไม่ใช่ทางแห่งพุทธศาสนาที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบและสอนแก่พุทธบริษัท

ท่านอาจเคยอ่านตำรามาว่า การปฏิบัติต้องควบคุมจิตใจ สำรวมตาหูจมูกลิ้นกายใจ ถูกต้องครับ แต่ท่านจะแปลความหมายผิดไป ทีว่าสำรวม คือการมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิอยู่ เมื่ออารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ไม่ใช่ไปปิดกั้นไม่ให้มันเกิดขึ้น

ในการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ จิตท่านสมควรพบกับอาการของกิเลสต่าง ๆ แต่ท่านต้องสำรวมเมื่อพบมัน ท่านสมควรหาโอกาสพบมันบ่อย ๆ ยิ่งบ่อยยิ่งดี แต่ท่านต้องสำรวมครับ

ท่านมือใหม่คงมองสิ่งที่ผมชี้ได้ออก จึงฝากท่านเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ด้วยครับ

เรื่องปัญญาในพุทธศาสนา สมควรศึกษาให้เข้าใจ ถ้าไปใช้ทิฐิแห่งตนเป็นที่ตั้ง ย่อมไม่ใช่สัมมาทิฐิ เมื่อใม่ใช่สัมมาทิฐิ มันก็ไม่ใช่ทางแห่งการพ้นทุกข์ครับ

ผู้จัดการฝ่ายบริหาร ที่ทำงานมา 20 ปี แต่ตลอด 20 ปีไม่เคยพบปัญหาการทำงานเลย เขาจะไร้ประสบการณ์อย่างสิ้นเชิง และจะสู้คนทีทำงานมาเพียงไม่เกี่เดือน แต่เขาแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้มากมายแทบทุกวัน

แนะนำอ่านเพิ่มเติม
ขอบคุณ กิเลส ที่โผล่มาให้เห็น -มุมปัญญา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=14&group=5&gblog=2




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2552
7 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:32:08 น.
Counter : 1152 Pageviews.

 

เมื่ออ่านเรื่องนี้ทำให้นึกถึงว่า เมื่อคืนก็เจอสภาวะที่เศร้า ทุกข์ บีบคั้น นอนไม่หลับ จนถึงที่สุดแล้วก็เหมือนว่ามีอะไรมากระตุกว่าทั้งหมดนี่ไม่ได้เป็นอะไรที่เป็นเรา ไม่ใช่คน ไม่ใช่สิ่งของ แล้วความทุกข์ความเศร้า เหงาที่บีบคั้นมันก็หายไปเลย นอนหลับได้เลยน่ะค่ะ ตรงนี้มันเกิดจากการที่เรารู้ หรือ เป็นแค่สัญญาที่มาสอนเราคะ

 

โดย: kaoim IP: 119.31.126.141 17 พฤศจิกายน 2552 9:05:43 น.  

 

ถ้าจิตหลุดออกจากการยึดติด มันก็ใช้ได้ทั้งนั้นครับ
อย่าได้สนใจว่า มันะป็นปัญญา หรือ เป็นสัญญา
คำ 2 คำนี้ก็เป็นเพียงชื่อสมมุติขึ้นทั้งสิ้น
เอาเป็นว่า เมื่อทุกข์ใจ แล้ว จิตปล่อยไม่ยึด แล้วไม่ทุกข์เกิดขึ้น ก็พอแล้วครับ

การปฏิบัติ ถ้ายิ่งเจาะลึกลงไปเรื่อย ๆว่า นี่เรียกว่าอะไร นี่เป็นอะไร นี่เพราะอะไร ล้วนแต่หลงเข้าไปในสมมุติทั้งสิ้น

ปรมัตถ์ธรรมไม่มีชื่อ ไม่มีการแยกแยะวิเคราะห์ว่าเป็นอะไร เพื่อะไร แพราะนั้นคือจิตตสังขาร เป็นการใช้สมองคิด เมื่อสมองคิดเมื่อไร ม้นก็เป็นเพียงการปุรุงแต่ง ไม่ใช่ของจริง

ปรมัถต์ธรรมเพียง รู้ ล้วน ๆ รู้ที่ไม่ต้องคิดอะไรต่อ

ทำขนมให้สนุกนะครับ นั่นแหละครับ คือชีวิตจริง

 

โดย: นมสิการ 17 พฤศจิกายน 2552 10:49:23 น.  

 

เข้ามาอ่าน ด้วยความที่เป็นมือใหม่
ไม่มีพื้นฐานอะไร เลยยัง งง มั้งค่ะ
เหมือนจะเข้าใจ แต่ มันก็ยังไงไม่รู้

แต่ก็ขอบคุณและยินดีที่ได้อ่าน

ขอบคุณพี่นุ่มด้วยค่ะ เมตตาให้ link น้องคนนี้มา

 

โดย: ก้อนหินในดินทราย 17 พฤศจิกายน 2552 13:08:36 น.  

 

ค่อยเป็นค่อยไปครับ คุณก้อนหินในดินทราย
แล้วจะค่อย ๆ เข้าใจไปทีละนิด จนสามารถมองภาพรวมได้ทั้งหมดเอง

 

โดย: นมสิการ 17 พฤศจิกายน 2552 18:29:38 น.  

 

เข้ามาอนุโมทนาครับ

 

โดย: อัสติสะ 17 พฤศจิกายน 2552 21:10:29 น.  

 

ยังไมได้เริ่มอะไรเลยค่ะ
ฝึกหายใจอยู่ คุณหมึกสีดำสอนมา
เพิ่งรู้ว่า ที่ผ่านมาหายใจไม่เป็น
คงต้องหมั่นและเรียนรู้ให้มาก แบบค่อยเป็นค่อยไป
ด้วยสะสมกิเลสมาหลายปี

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ก้อนหินในดินทราย 18 พฤศจิกายน 2552 13:03:04 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:48:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.