รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
ปฏิบัติธรรมแล้วไม่ได้อะไรจริงหรือ

บทความนี้ เขียนขึ้นเพื่อไว้ให้ชาวพุทธทีสนใจการปฏิบัติได้อ่านกัน และเป็นความเห็นส่วนตัว ถ้าบทความนี้ เกิดไปพาดพิงถึงครูบาอาจารย์ท่านใดในทางลบ ขอให้ท่านได้ทราบว่า มันไม่ใช่เจตนาของผู้เขียนบทความนี้เลย และผมก็ไม่มีใจจะปรามาสต่อท่านผู้ใดทั้งสิ้น
และบทความนี้ค่อนข้างเชื่อได้ยาก เพราะผู้เขียนเป็นเพียงฆราวาสคนหนึ่งเท่านั้น และไม่มีการอ้างอิงพุทธพจน์ดังค่านิยมที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ต้องการ และบทความนี้ ยังบังอาจไปแย้งกับครูบาอาจารย์ที่เป็นพระภิกษุที่มีผู้คนเคารพเป็นจำนวนมากอีกเสียด้วย

ฝากไว้ให้ท่านพิจารณาเอาเองก็แล้วกัน
**********************************
เมื่อท่านที่สนในการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ได้มีความเพียรเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 ดังที่พระบรมศาสดาได้บัญญัติไว้ให้พุทธบริษัทได้ปฏิบัติกัน

เมื่อท่านลงมือปฏิบัติอย่างถูกต้อง ผลขั้นต้นอันแรกที่ท่านจะได้คือ จิตรู้ แยกตัวออกจากสิ่งที่ถูกรู้ ทำให้ จิตรู้ สามารถเห็นปรมัตถ์ธรรมของขันธ์ 5 ได้ตามความเป็นจริง นี่คือขบวนการวิปัสสนาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เมื่อจิตรู้ของท่านเริ่มตั้งมั่นมากขึ้นเพราะความเพียรอย่างไม่ลดละ
ผลต่อไปก็คือ ขบวนการหยุด .จิตปรุงแต่ง. ด้วยสัมมาสมาธิ
ขอให้ท่านลองจินตนาการดู วันหนึ่ง ๆ ท่านมีเรื่องทีต้องคิด และมีความวิตกกังวลประดังเข้ามาวันละกี่เรื่อง แต่ถ้า สัมมาสมาธิหยุดจิตปรุงแต่งที่เป็นส่วนของการวิตกกังวลนี้ได้ ชิวิตท่านจะมีความสุขขนาดไหน ท่านจะทำงานอย่างมีความสุขขนาดไหน ผมไม่เฉลย ท่านคงคิดต่อได้เอง จริงไหมครับ

เมื่อท่านมีความเพียรต่อไปอีกจากทีมีความตั้งมั่นแห่งสัมมาสมาธิ
สิ่งที่จะเกิดแก่ท่านตามมาก็คือ ท่านจะมี .ญาณ.
บางท่านอาจมี ญาณ หลายอย่าง
แต่ ญาณ ที่ผมจะกล่าวถึงและเป็นสิ่งที่ใช้ในการดับทุกข์
ก็คือ อาสวขยญาณ

เมื่อ อาสวขยญาณ เกิดในจิตใจท่าน มันจะเหมือนว่า ท่านมียามรักษาการณ์ที่ไม่เคยนอนหลับเฝ้าบ้านท่านไว้ โจรผู้ร้ายไม่อาจกล้ำกลายมาในบ้านท่านได้เลย เพราะยามคนนี้จะไม่เคยหลับเลยและจะเฝ้าบ้านอย่างขยันมาก และ มีดาบอัน คมกลิบ ที่สามารถบั่นหัวโจรร้ายที่บังอาจโผล่เข้ามาในบ้านท่าน
เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น

ถ้ากล่าวในทางธรรม อาสวขยญาณ จะปรากฏให้ท่านรู้ว่า จิตใจของท่านตอนนี้กำลังเป็นอย่างไร เช่น จิตใจของท่านมันมันกำลังว่างเปล่า ไร้ทุกข์อยู่ มันก็รู้ เมื่อมีกิเลสร้ายพยายามจะโผล่ขึ้นมาในจิตใจท่าน มันก็รู้อีก แล้ว อาสวขยญาณนี้จะทำลายกิเลสที่โผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วดังฟ้าแล็บ โดยที่ท่านไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย ขบวนการทำลายกิเลสทั้งหมดเกิดอย่างอัตโนมัติทั้งสิ้น

ท่านลองนึกเองก็ได้ ถ้าอาสวขยญาณ เกิดในจิตใจท่าน ทุกข์ใดจะโผล่มาเล่นงานท่านได้อีก

เมื่อท่านมีความเพียรต่อไปอีก จะเกิดมรรคผลในระดับสูงขึ้นไปอีก ซึ่งผมไม่ขอกล่าวถึงในบทความนี้ เพราะผมยังไปไม่ถึงครับ

ท่านชาวพุทธที่เป็นนักปฏิบัติครับ สิ่งที่ผมเขียนมานี้ ท่านจะเห็นว่า นี่คือผลแห่งการปฏิบัติธรรมอันมีอริยมรรคมีองค์ 8 เป็นประธาน
ผลของมัน มีเป็นขั้นเป็นตอน ตามลำดับแห่งการปฏิบัติและกำลังแห่งสัมมาสมาธิ และ กำลังแห่ง ญาณ

เมื่อเป็นอย่างนี้ จะกล่าวได้อย่างไรว่า ปฏิบัติธรรมแล้วไม่ได้อะไร ถ้าไม่ได้อะไร จะมีความเพียรในการปฏิบัติกันไปทำไม จริงไหมครับ

หมายเหตุ ท้ายบทความ

สิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ จะอ่านแล้วอาจเข้าใจไม่ได้ หรือ เข้าใจยากสักหน่อย

สิ่งที่ท่านได้จากการปฏิบัติธรรมตามที่ผมเขียนข้างต้นนั้น ท่านจะได้ต่อเมื่อท่านยังมีตัวตนอยู่

แต่ถ้าท่านปฏิบัติจนสิ้นความเป็นตัวตนเสียแล้ว (ไม่ได้หมายความว่า ตาย นะครับ)
ถึงตอนนั้น สิ่งทีท่านได้มาข้างต้น มันก็ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว




Create Date : 10 มีนาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:12:09 น. 1 comments
Counter : 1015 Pageviews.

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:17:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.