ส่งจิตออกนอก ฉบับชาวบ้านอ่าน
ท่านที่เป็นนักอ่านหนังสือธรรมปฏิบัติ หรือ นักฟังซีดี มักได้ยินคำว่า .ส่งจิตออกนอก. ผมจะเขียนถึงสภาวของอาการนี้ด้วยภาษาชาวบ้านให้ท่านได้อ่านกัน
ในธรรมชาติของปุถุชน เมื่อเห็นอะไร ได้ยินอะไร ก็มักสนใจไปยังสิ่งที่พบเห็น สิ่งที่ได้ยินเสมอ ตัวอย่างเช่น เวลาคนเดินสวนทางกับเพศตรงข้าม พอพบเห็นเพศตรงข้ามที่ถูกสเป๊คในใจ ก็อาจคิดอยู่ในใจว่า อุ๊ย คนอะไรหล่อเป็นบ้า (ในกรณีที่เป็นหญิง) หรือ สวยอะไรอย่างนี้ (ในกรณีที่เป็นชาย) นี่คือสภาวะของการส่งจิตออกนอกครับ
ในเหตุการณ์เดียวกัน สำหรับนักปฏิบัติที่เจริญสติปัฏฐานอยู่เป็นนิสัย เมื่อมีการเดินสวนทางกับเพศตรงข้าม การอุทานดังกล่าวก็อาจมีหรือไม่มีก็ได้ แต่สภาวะหนึ่งที่ได้เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่ปุถุชนที่ไม่ได้เจริญสติปัฏฐานจะไม่ทราบ แต่คนที่เจริญสติปัฏฐานจะทราบก็คือ การที่จิตใจเกิดการไหวตัวขึ้นแล้ว
การที่นักปฏิบัติที่เจริญสติปัฏฐานเห็นการไหวตัวของจิตใจ นี่คือปัญญาทางพุทธศาสนา แต่ปุถุชนที่ไม่เห็นการไหวตัวนี้ ก็ไม่เกิดปัญญานี่ขึ้น
ดังนั้น ในแง่การปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์นั้น สิ่งที่สำคัญคือการเห็นจิตใจที่มันไหวตัว เมื่อมีการกระทบสัมผัสอะไรเข้าแล้วส่งผลให้มีการไหวได้
อนึ่งการรู้การไหวตัวของจิตใจนี้ ต้องเป็นการรู้ได้เองที่เป็นธรรมชาติ อันเนื่องด้วยการมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิอยู่ ถ้านักปฏิบัติยังต้องมาจงใจรู้การไหวตัวในจิตใจนี้ ก็ยังเป็นการจงใจที่จะรู้อยู่ ผมแนะนำว่า ท่านต้องฝึกสัมมาสติ สัมมาสมาธิต่อไปจนให้มันเป็นการทำงานที่เป็นไปเองแบบอัตโนมัติ แล้วผลจึงจะส่งให้เข้าตรงต่อการดับทุกข์ทางจิตใจของท่านได้
สรุป การส่งจิตออกนอก คือ การไปรับรู้แต่เรื่องราวภายนอกร่างกาย ภายนอกจิตใจ โดยไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของตนอง
ใน blog ของผม ผมพยายามนำสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมาเขียนอธิบายให้ท่านที่ติดตามอ่านได้ทราบว่า เมื่อท่านปฏิบัติแล้วผลที่ควรจะเป็นเพื่อการดับทุกข์จะออกมาอย่างไร เมื่อท่านได้ทราบ มันก็จะเป็นแนวทางให้ท่านได้ตรวจสอบตนเองได้ว่า ท่านเดินมาตรงหรือยัง ซึ่งเรื่องนี้ ในสมัยที่ผมยังเริ่มต้นการปฏิบัติ ผมเองมีปัญหาามาก จะไปถามใครก็ไม่ได้ ทำให้เกิดความสับสน ไม่แน่ใจ เดินผิดเดินถูกเสียเวลาไปมาก ๆ ต่อมากโดยไม่จำเป็น ครั้นไปถามครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็มักได้คำตอบว่า ให้มีสติ ให้มีสติ แล้วก็ไม่รู้ว่า มันคืออย่างไรกัน
การเข้าใจในสภาวะธรรมที่ปรากฏแล้ว เมื่อท่านเข้าใจและพบเห็นได้ด้วยตนเอง ท่านจะมีเข้มมุ่งที่ตั้งมั่นพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะปฏิบัติผิดทางเลย มันจะทำให้ท่านเดินได้ตรง เห็นได้ชัด ไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
เมื่อท่านนักปฏิบัติอ่านบทความนี้จบลง ท่านทราบไหมครับว่า เมื่อท่านอ่านแล้วจิตใจท่านเป็นอย่างไร ถ้าไม่ทราบ ก็แสดงว่า ท่านต้องขยันฝึกให้มาก ๆ อีกสักหน่อย ถ้าท่านทราบแล้ว ผมก็อนุโมทนาต่อท่านครับ
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:01:36 น. |
Counter : 888 Pageviews. |
|
|
|
การหลงคิด ที่รู้เรื่องราวที่คิด แต่ไม่รู้อาการของจิตใจในขณะที่กำลังหลงคิด ก็ถือว่าเป็นส่งจิตออกนอกได้เช่นกันครับ