กาลเวลาและสายน้ำไม่เคยย้อนทวน
แต่ความทรงจำบางอย่างในชีวิตไม่เคยลบไปตามครรลองแห่งเวลา
Dedication To: my son Jit....... I love you today as I have from the start,.... And I will love you... forever... with all of my heart...
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
2 ธันวาคม 2549

....ปริศนาการตายของสาวงามยั่วสวาท...มาริลีน มอนโร...( The dumb blonde who knew too much)...(8)



...เวลาเก้าโมงครึ่งของเช้าวันอาทิตย์ ร่างของมาริลีน มอนโร อยู่ภายใต้คมมีดของหมอนิติเวชผู้มีชื่อเสียงในขณะนั้นคือ ด็อกเตอร์โทมัส โนกูชิ ..สาเหตุการตายที่แจ้งไว้มาริลีนกลืนกินยา Nembutal จำนวน 50 เม็ดตามด้วย chloral hydrate อีกหนึ่งกำมือเต็มๆแต่ผลการผ่าชันสูตรศพบอกว่า " ไม่พบร่องรอยของยาใดๆในท้องและลำไส้เล็ก"...มีเพียงจ้ำเลือดจุดเล็กๆตรงช่องท้อง

...โนกูชิ บันทึกไว้ว่าการที่ไม่พบยาตกค้างในกระเพาะอาหารไม่ใช่สิ่งที่แปลกเพราะในร่างกายของคนที่ใช้ยาเป็นประจำ ระบบการย่อยจะคุ้นเคยกับการย่อยสลายยาที่รับเข้าไปอย่างรวดเร็ว ...แต่ในการสัมภาษณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชคนอื่นถึงประเด็นนี้ได้รับคำตอบว่าเป็นไปไม่ได้ที่ยาจำนวนมากขนาดนั้นจะถูกย่อยสลายจนไม่เหลือร่องรอยอะไรเลย

...ยา Nembutal นั้นมีชื่อเรียกแฝงว่า " แจ็คเก็ตเหลือง" เพราะเมื่อกินเข้าไปผ่านระบบการย่อยแล้วจะมีสีเหลืองตกค้างอยู่ในระบบลำไส้ แต่ศพของมาริลีนไม่ปรากฏร่องรอยของยาที่มีผู้อ้างว่าเธอกินเข้าไปเพื่อปลิดชีวิตตนเอง...ความจริงจากศพข้อนี้เพียงข้อเดียวก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเธอไม่ได้กินยาฆ่าตัวตายแต่เป็นการฆาตกรรม

...มีการตั้งทฤษฏีสมมุติฐานว่าอะไรคือวิธีการที่ใช้สังหาร ข้อแรกถ้าจำนวนยาที่เป็นอันตรายถึงชีวิตไม่ได้ผ่านเข้าร่างกายทางปาก และโรเบิร์ตอ้างว่านำหมอไปฉีดยาระงับประสาทให้มาริลีนในบ่ายวันเสาร์ ..การฆาตกรรมโดยใช้ยาฉีดจะเป็นไปได้หรือไม่

...หลังจากตรวจหาอย่างละเอียดยิบโนกูชิ ยืนยืนยันว่าไม่พบรอยเข็มใดๆบนร่างของศพ...เขากล่าวว่าถ้าใช้เข็มขนาดเล็ก เป็นไปได้ที่รอยเข็มบนผิวจะสมานตัวภายในไม่กี่ชั่วโมงและไม่สามรถตรวจพบ..สมมุติฐานข้อนี้จึงยังมีความเป็นไปได้...ผลการชันสูตรยังพบด้วยว่าลำไส้ใหญ่ตอนปลายมีลักษณะสีซีดเขียวผิดปกติ ซึ่งจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแสดงถึงความเป็นไปได้ของการใช้ยาที่ผ่านเข้าไปโดยตรงทางลำไส้ใหญ่แทนการกลืนกิน...นั่นก็คือการใช้สวนทวารเข้าไป

...โนกูชิบันทึกไว้ด้วยว่าสภาพโดยทั่วไปของศพ มีรอยฟกช้ำตรงข้างหลังด้านซ้าย และตรงสะโพก แสดงถึงการได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง...แต่สมมุติฐานทุกข้อก็ไม่ได้รับการพิสูจน์ให้ชัดเจน เพราะอวััยวะภายในที่ต้องเก็บไว้เพื่อตรวจอีกครั้งตามระเบียบทั่วไปนั้น...สำหรับเคสนี้ไม่เป็นดังนั้น

....มีเพียงผลการตรวจเลือดและตับที่แสดงให้เห็นถึงระดับที่สูงเกินกว่าปกติของยา Nembutal และchloral hydrate...เนื้อเยื่อส่วนต่างๆ, กระเพาะอาหาร,สิ่งตกค้างภายใน, ลำไส้และอวัยวะส่วนอื่นที่เก็บไว้ ได้อันตธานหายไปอย่างลึกลับ...สิ่งเหล่านี้หากผ่านกระบวนการตรวจวิเคราะห์โดยละเอียดทุกขั้นตอนจะสามารถบอกได้ว่ายาที่มาริลีนได้รับเข้าไปนั้นเข้าทางปากหรือส่วนอื่นของร่างกาย

....สิบหกปีผ่านไป..เจ้าหน้าที่ที่เซ็นใบมรณะบัตรของมาริลีน ชื่อลีโอเนล แกรนดิสันได้เปิดปากให้สัมภาษณ์โดยการบันทึกเทปไว้กับ สเลทเซอร์ว่า ในจำนวนทรัพย์สินส่วนตัวของมาริลีน เขาได้เห็นสมุดไดอารี่สีแดงที่มาริลีนบันทึกความลับเกี่ยวกับจอห์นและ โรเบิร์ต เคเนดี้ ...เขาอ้างด้วยว่ามีรอยฟกช้ำทั่วทั้งตัวของมาริลีนที่ถูกจงใจละเลยไม่บันทึกไว้ในใบชันสูตรศพและการที่เซ็นในใบมรณะบัตรว่าสาเหตุของการเสียชีวิตคือฆ่าตัวตายนั้น เกิดจากการถูกสั่งให้เซ็น ทั้งๆที่ตนเองไม่เห็นด้วย...ทั้งยังเปิดเผยต่อไปว่ามีบางคนในสถาบันนิติเวชฉวยโอกาสล่วงเกินทางเพศกับศพของมาริลีน

...คำบอกเล่าจากแกรนดิสันขาดความน่าเชื่อถือเพราะเขาเพิ่งพ้นโทษจำคุกเป็นเวลาหกเดือนด้วยข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ แต่มีคำถามต่อมาว่าไดอารี่สีแดงเล่มนั้น หายไปไหน...นักสืบเอกชนที่ลอฟอร์ดจ้างเข้าไปทำลายล้างหลักฐานได้รับการเปิดทางโดยสะดวกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ และเริ่มงานตรวจค้นทุกซอกทุกมุมภายในบ้านของมาริลีนเมื่อเวลาประมาณ เก้าโมงเช้าของวันอาทิตย์.. สี่ชั่วโมงครึ่งหลังตำรวจได้รับแจ้งความ

...สิ่งหนึ่งที่พบคือกะบะจากตู้เอกสารที่มาริลีนใช้เป็นที่เก็บของสำคัญส่วนตัวถูกรื้อค้นและวางทิ้งไว้ท่ามกลางห้องที่ถูกค้นจนกระจุยกระจาย...แสดงว่าทีมทำลายหลักฐานที่ลอฟอร์ดจ้าง ไม่ใช่เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เริ่มงานเก็บกวาดครั้งนี้ ..ผู้ที่ค้นกะบะเอกสารและได้ไดอารี่เล่มนั้นไปต้องลงมือปฏิบัติการก่อนตำรวจได้รับแจ้งความหรือลงมือขณะที่ตำรวจยังอยู่ในบ้านหลังนั้น

...ความตายของมาริลีนกลายเป็นปริศนาที่มัวมนไม่กระจ่างชัดในหลายๆประเด็นเนื่องจากเป็นความตายที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่มีอำนาจและกฏหมายอยู่ในกำมือ...อธิบดีกรมตำรวจและหัวหน้าฝ่ายสืบราชการลับต่างก็เป็นคนสนิทของโรเบิร์ต เคเนดี้ ข้อมูลต่างๆถูกเก็บงำมิดชิด...พยานวัตถุถูกทำลาย...พยานบุคคลที่ใกล้ชิด หลังเกิดเหตุการณ์นี้ต่างก็พร้อมใจกันปิดปากเงียบ หากถูกซักไซร้ก็จะให้การวกวนเปลี่่ยนเรื่องไปมา

...สิ่งที่พอจะปะติดปะต่อกันได้เป็นเรื่องราวเกิดจากความพยายามของคนที่สนใจกรณี้เป็นพิเศษ, นักค้นคว้าวิจัย, นักเขียนและนักสืบอิสระ หลักฐานที่น่าสนใจอีกชิ้นหนึ่งก็คือเทปบันทึกเสียงจากเครื่องดักฟังที่ติดอยู่ภายในบ้านและโทรศัพท์ของมาริลีน เชื่อกันว่าขณะเกิดเหตุ เครื่องดักฟังได้บันทึกเสียงทุกอย่างไว้จนกระทั่่งถึงวาระสุดท้ายของมาริลีน.

....คนที่ครอบครองเทปชุดนั้นน่าจะตกทอดจาก สปินเดล ไปสู่ฮอพฟาผู้จ้างและเปลี่ยนไปอีกหลายมือ ในปี 1985 ผู้ค้นคว้าเรื่องนี้เพื่อผลิตสารคดีให้ บีบีซีพบข้อมูลว่ามีเทปม้วนสำคัญถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายอนาคตทางการเมืองของโรเบิร์ต เคเนดี้ เนื่องจากช่วงปี 1968 โรเบิร์ต เคเนดี้คือตัวเต็งของพรรคเดโมแครตในการเข้าแข่งขัน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี....ฝ่ายขวาสุดอย่างรีพับลิกันได้จ้างนักข่าวชื่อ ราฟล์ โทเลดาโน ให้ไปสืบเสาะค้นหาเทปลับชิ้นนี้มาให้ได้

...และในที่สุดหลังจากระดมการสืบหาอย่างหนัก ก็ได้เบาะแสว่าตำรวจคนหนึ่งที่มีเทปชุดนี้ไว้ในครอบครอง ยินดีจะขายให้ในราคา $ 50,000 กลุ่มรีพับลิกัน ตกลงรับซื้อเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1968 แต่ขอเวลาสองสามวันเพื่อรวบรวมเงิน...คืนนั้นหลังจากเฉลิมฉลองชัยชนะในเขตแคลิฟอร์เนีย ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ นครลอสแอนเจอลิส...โรเบิร์ต เคเนดี้ ถูกลอบยิงเสียชีวิต..ผู้ที่ผ่าชันสูตรศพคือ ด็อกเตอร์ โทมัส โนกูชิ ได้ทำหน้าที่นี้ให้กับโรเบิร์ต เคเนดี้ หลังจากที่เมื่อหกปีก่อนเคยผ่าศพของมาริลีน...เมื่อโรเบิร์ตเสียชีวิตไปแล้วแผนการที่จะซื้อเทปนั้นมาใช้เป็นเครื่องมือก็ล้มเลิกไปด้วยและกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่หายสาบสูญไปเช่นเดียวกับไดอารี่สีแดงเล่มนั้น

....ในปี 1982 ยี่สิบปีผ่านไป..ด้วยความพยายามของสเลทเซอร์และเพื่อนๆ กรณีการตายของมาริลีนได้ถูกนำมาพิจารณาในชั้นศาลของเขตมณฑลคาลิฟอร์เนียอีกครั้ง คราวนี้แม้จะมีพยานหลักฐานเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อครั้งก่อน แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ยกเลิกการพิจารณาด้วยเหตุผลที่ว่า" ไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนทางด้านอาชญากรรมเพิ่มเติม"




Create Date : 02 ธันวาคม 2549
Last Update : 2 ธันวาคม 2549 10:40:12 น. 12 comments
Counter : 3955 Pageviews.  

 
อีกตอนเดียวก็จะจบแล้วค่ะ ครั้งแรกคิดว่าจะรวบให้จบวันนี้เลย แต่ไม่ไหว...อ้วกแตกแล้วค่ะ เนื้อหาเยอะมาก


โดย: แม่ของจิตร วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:10:52:46 น.  

 
" ไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนทางด้านอาชญากรรมเพิ่มเติม"


ที่นำมาให้อ่านกันค่ะ


โดย: สาวแกร่งแรงเหลือน้อย วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:12:31:51 น.  

 
ขอบคุณค่ะ เธอต้องถูกฆาตกรรมแน่นอน ไม่งั้นก็ไม่มีเงื่อนงำน่าสงสัยมานานวัน การได้ใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพล มีทั้งผลดีและผลเสียและเสี่ยง..


โดย: ป่ามืด วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:12:37:43 น.  

 
"มีบางคนในสถาบันนิติเวชฉวยโอกาสล่วงเกินทางเพศกับศพของมาริลีน" ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่หดหู่มากๆเลยนะคะ ขนาดเสียชีวิตไปแล้วยังโดนทารุณอีก


โดย: นู๋โนริ วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:15:53:40 น.  

 
ชอบมากเลยค่ะ เดี๋ยวขอตามอ่านย้อนหลังก่อนนะคะ


โดย: ยายดาค่า (ศิริรักษ์ ) วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:16:28:31 น.  

 


แจ่มมากๆ


โดย: อุ้มสี วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:0:42:22 น.  

 
ต่อๆ....นิดเดียว


โดย: รออ่านอยู่ IP: 58.147.112.190 วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:5:40:23 น.  

 
จขบ.สู้ๆ ฮ่ะ อีกตอนเดียวเอง
ปล.เตรียมเรื่องใหม่ไว้แล้วใช่มั้ยคะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:7:52:53 น.  

 


สวัสดีครับ ..ไม่เคยทราบ มาก่อนเลยครับ เรื่องนี้ เป็นความรู้ใหม่เลยครับ..มารีลิน

ถึงเค้าจะเป็นนางงามยั่วสวาท ....แต่ทำไม

..คนเราถึงจดจำเค้าครับ แม่ ...


โดย: เทียมฟ้า** (benjarong9 ) วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:8:25:37 น.  

 
น่าสงสารเธอจัง...
ขอบคุณพีมินที่สละเวลาแปลให้พวกเราได้อ่านกันค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่...


โดย: แดดร่มลมโชย วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:12:47:44 น.  

 
อียัยมารีลีนนี้ ผ่านผู้ชายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คน แถมยังเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนึงในเรือนจำ คนอย่างมารีลีนที่ได้เป็นดาวค้างฟ้าเพราะว่าเธอมีหน้าตาที่ทำให้คนหลงใหลได้เท่านั้น และเรื่องยั่วยวนทางเพศแจ่มสุดๆเพียงแค่ขี้แมลงวันที่ใกล้ปากของเธอนั้นก็ดูยั่วยวนมากแล้ว นั้นแหละใครๆก็บอกว่าเธอปากหมา สวยแต่ภายนอกแต่ภายในดูไม่ได้เลย ก็สมแล้วอยากเล่นชู้มั่วโน้นเยอะนะถึงกลายเป็นแบบนี้ นี้ถ้ายังไม่ตายป่านนี้อายุคงเกือบ 90 ปี แล้วแหละแต่ไม่รู้ว่ายังได้อีกมั้ย


โดย: It's Marilyn Bitch IP: 118.173.203.196 วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:20:45:30 น.  

 
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับเจ้าของความคิดเห็นที่ 11 ที่ไปวิพากวิจารณ์ในสิ่งที่ท่านไม่ได้เห็นหรือได้ยินด้วยตัวท่านเอง ท่านไม่ได้อยู่ในยุคนั้นแต่ดันทราบความประพฤติของเธอได้อย่างไร? เธอล่วงลับไปนานแล้ว สิ่งที่ควรให้ความสนใจก็คือการเสียชีวิตที่ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้


โดย: GTR IP: 10.153.11.248, 58.137.188.50 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:16:03:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lascrus13
Location :
บุรีรัมย์ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
[Add Lascrus13's blog to your web]