13 ธันวาคม 2549
...JEFFREY DAHMER...ฝันร้ายของอเมริกันชน...(5)
จากข้อหาดังกล่าวทำให้ เจฟฟรี่ถูกศาลตัดสินให้คุมประพฤติเป็นเวลาหนึ่งปี...เดือนกันยายน ปี 1987 เจฟฟรี่ ฆ่าเหยื่อรายที่สอง คือ สตีเว่น โทมี่...ทั้งสองพบกันในบาร์เกย์ ดื่มกินร่วมกันและมาลงเอยที่โมเต็ลแห่งหนึ่ง...เขาไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป จนกระทั่งตื่นมาอีกครั้งพร้อมกับเลือดสดๆที่ปากและพบว่า สตีเว่น โทมี่ได้กลายเป็นศพไปแล้ว ...เจฟฟรี่ซื้อกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ยัดศพของสตีเว่นลงไปและนำกระเป๋าใบนั้นกลับไปที่ห้องใต้ดินของบ้านย่าซึ่งตนเองอาศัยอยู่ ...ที่นั่น..เขาร่วมเพศกับศพอีกครั้ง และสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ก่อนที่จะจัดการหั่นศพใส่ถุง นำไปทิ้งขยะ...หลายเดือนต่อมา เหยื่อรายที่สามของเขาเป็นเด็กอินเดียแดงอายุสิบสี่ปี ชื่อเจมี่ ด็อกซ์เทเตอร์... .....หลังจากผ่านประสบการณ์ที่ติดใจจากสองศพแรก การฆ่าคนสำหรับเจฟฟรี่เริ่มมีรูปแบบที่ชัดเจนด้วยความตั้งใจมากขึ้น....เขามักจะเตร็ดเตร่ไปตามบาร์เกย์ เลือกเหยื่อที่ถูกใจ เข้าไปตีสนิทและเสนอเงินล่อใจ แลกกับการให้เหยื่อโพสต์ท่าเพื่อให้เขาถ่ายรูป...หรือชวนให้มาดื่มกิน ดูหนัง ดูวีดีโอด้วยกันที่ห้องพักของตน ..หลังจากนั้นก็หาโอกาสแอบใส่ยาให้กิน...รัดคอเหยื่อจนขาดใจตายแล้วร่วมเพศกับศพหรือสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง ...ชำแหละแยกชิ้นส่วนศพ นำไปทิ้ง.. ....ในเหยื่อบางรายก็เก็บชิ้นส่วนของร่างกายหรือหัวกะโหลกไว้เป็นที่ระลึก....พฤติกรรมเช่นที่ว่านี้เป็นลักษณะที่พบส่วนใหญ่ในกลุ่มฆาตกรต่อเนื่อง...จากการศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของ เอฟ บี ไอ ซึ่งมีหน่วยงานและบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ กล่าวว่าการฆ่าแล้วเก็บชิ้นส่วนของเหยื่อ หรือกินเข้าไป เป็นการแสดงถึงอำนาจที่เหนือกว่า สามารถควบคุมและเก็บสิ่งที่ตนพึงพอใจไว้ในครอบครอง ....เพราะในชีวิตจริงฆาตกรประเภทนี้มักจะดูอ่อนแอขี้อาย ไร้ความสามารถในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมตามปกติ...เมื่อชื่นชมกับของที่ระลึกจนเริ่มขาดความตื่นเต้นแล้วก็จะออกล่าเหยื่อรายใหม่... จนกระทั่งสิ้นปี 1987 เจฟฟรี่ฆ่าคนไปทั้งหมดสี่ศพด้วยกัน ย่าของเขาไม่สนใจว่าหลานของตนเองทำอะไรในห้องพักชั้นใต้ดิน แต่เริ่มรำคาญเสียงที่ดังมาจากที่นั่น จึงบอกให้เจฟฟรี่ไปหาที่อยู่ใหม่ ...วันที่ 25 กันยายน 1988 เจฟฟรี่ย้ายออกมาเช่าอพาทเมนต์อยู่ตามลำพัง และได้ก่อคดีที่สวนทางกับกฏหมายอีกครั้งด้วยการ จ้างเด็กชายชาวลาวอายุสิบสามปี ให้มาโพสต์ท่าเพื่อให้ตนถ่ายรูปที่ห้อง....เช่นเคย..เขามอมยาเด็กและลงมือคลึงเคล้า ลวนลามทางเพศ แต่ไม่ได้ทำร้ายหรือร่วมเพศด้วยการสอดใส่แต่อย่างใด.. ....เป็นเรื่องที่บังเอิญอย่างน่าเศร้าใจ.. เด็กคนนี้ก็คือพี่ชายของ คุณารักษ์ สินทะสมพร..หนึ่งในเหยื่อที่เจฟฟรี่ฆาตกรรมสามปีถัดมานั่นเอง...เมื่อเด็กกลับบ้าน ผู้ปกครองเห็นอาการผิดปกติ จึงนำส่งโรงพยาบาลและได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าเด็กถูกมอมยา...เจฟฟรี่ถูกดำเนินคดีในข้อหาล่วงเกินทางเพศผู้เยาว์ โดยที่ตัวเขาเองพยายามแก้ตัวว่าเด็กดูแก่กว่าอายุจริง จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด ...ในระหว่างที่ได้รับการประกันตัวออกมารอคำตัดสิน เจฟฟรี่กลับไปอยู่กับย่าอีกครั้ง และไม่สามารถทนต่อความกระหายในการฆ่าได้....เขาไปที่บาร์เกย์..ได้เหยื่อรายใหม่คือ แอนโทนี่ เซียร์...กรรมวิธีการมอมยา, รัดคอเหยื่อจนเสียชีวิต, ร่วมเพศกับศพ และชำแหละร่างก่อนนำไปโยนทิ้ง ถูกนำมาใช้เช่นเคย ....เขาตัดหัวของเหยื่อเก็บไว้ นำไปต้มลอกหนังและเนื้อเยื่อออกจนสะอาด ก่อนจะทาสีให้ดูเหมือนกะโหลกปลอม เผื่อว่าถ้ามีคนมาเห็นจะได้ไม่สงสัย...เจฟฟรี่เริ่มเก็บของที่ระลึกจากการฆ่าอย่างจริงจังในระยะสองปีก่อนถูกจับได้ และสารภาพภายหลังว่า เมื่อสำเร็จความใคร่ต่อหน้าหัวกะโหลกของคนที่ตัวเองฆ่าให้ความรู้สึกที่สะใจ และมีความสุขสุดยอด.. ...เมื่อการพิจารณาคดีเพื่อตัดสินลงโทษ คดีล่วงเกินทางเพศผู้เยาว์ มาถึง...เจฟฟรี่แสดงบทบาทของผู้สำนึกผิด ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำทุกอย่าง และยืนยันอยู่เสมอว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มาจากความเข้าใจผิดว่าเด็กอายุมากกว่านั้น...เป็นการแสดงละครตบตาร่วมกับบุคคลิกภาพที่คนทั่วไปเห็นเพียงว่าเขาคือคนอ่อนโยน ขี้อายธรรมดาๆคนหนึ่งซึ่งทำผิดโดยไม่ตั้งใจ...แต่แท้ที่จริงแล้วเขาได้ซ่อนความโกรธ..ปัญหาทางจิตใจที่อยู่ลึกล้ำเกินกว่าคนทั่วไปจะคิด...เป็นปัญหาที่จิตใต้สำนึกไม่ยอมรับและเจ้าตัวคิดว่าไม่ใช่ปัญหาเลยด้วยซ้ำ
Create Date : 13 ธันวาคม 2549
8 comments
Last Update : 13 ธันวาคม 2549 0:23:07 น.
Counter : 1132 Pageviews.
โดย: Ohm Thai crew-on board in USA (sochana9 ) 13 ธันวาคม 2549 0:40:22 น.
โดย: โจเซฟิน 13 ธันวาคม 2549 7:11:07 น.
โดย: ฟอ รอ ฟัน..โช๊ะๆ IP: 58.8.12.217 13 ธันวาคม 2549 12:50:19 น.
โดย: haiku 13 ธันวาคม 2549 18:55:50 น.
Lascrus13
<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร
Always great story na krab.
Thank you.
Ohm Thai crew