กาลเวลาและสายน้ำไม่เคยย้อนทวน
แต่ความทรงจำบางอย่างในชีวิตไม่เคยลบไปตามครรลองแห่งเวลา
Dedication To: my son Jit....... I love you today as I have from the start,.... And I will love you... forever... with all of my heart...
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
30 พฤศจิกายน 2549

....ปริศนาการตายของสาวงามยั่วสวาท...มาริลีน มอนโร...( The dumb blonde who knew too much)...(7)



.....ปีเตอร์ ลอฟอร์ด ผู้รู้เห็นและเป็นตัวกลางเชื่อมสัมพันธ์ลับระหว่างเคเนดี้ทั้งสองกับมาริลีน ดูจะเดือดร้อนเกี่ยวกับการตายของเธอมากกว่าคนอื่น ...เฟร็ด โอทาช นักสืบเอกชนได้รับการมาเยือนจาก ลอฟอร์ด เมื่อเวลาประมาณตีสาม ของวันเดียวกันด้วยอาการลุกลี้ลุกลนและกังวลใจอย่างใหญ่หลวง

...เขาบอกกับโอทาชว่า .. มาริลีน มอนโร เสียชีวิตแล้ว โดยที่ก่อนหน้านั้นโรเบิร์ต เคเนดี้ได้ไปพบปะและอยู่กับเธอ ทั้งคู่ทะเลาะมีปากเสียงกันอย่างหนัก ก่อนที่มาริลีนจะพบเป็นศพ...ลอฟอร์ดต้องการให้โอทาชและทีมงานไปที่บ้านของมาริลีน..จัดการเก็บหลักฐานทุกอย่างที่จะโยงใยไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของบ้านกับ จอห์น และ โรเบิร์ต เคเนดี้

...สิ่งที่ลอฟอร์ดไม่รู้ก็คือ ก่อนหน้านั้นโอทาชได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มมาเฟียและฮอพฟาให้ร่วมมือกับ สปินเดล จารชนผู้เชี่ยวชาญการดักฟัง แอบเข้าไปติดเครื่องมือสืบความลับในบ้านของลอฟอร์ดเองด้วย...

....เหล่านักแสดงที่ถูกกำหนดให้ไปร่วมกันจัดฉาก " พบศพมาริลีน ฆ่าตัวตาย" มีเวลาอย่างน้อยห้าชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น ดำเนินการและซักซ้อมทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจ

...ร่างที่ปราศจากชีวิตของมาริลีนเริ่มแข็งตัวเพราะเธอตายอย่างน้อยสี่ถึงหกชั่วโมงก่อนหน้านั้น...เมื่อสารวัตรเคลมมอนไปถึง ผู้ที่เขาพบมีเพียงแม่บ้านและหมอประจำตัวของมาริลีนอีกสองคน...แล้วดารานำแสดงที่แท้จริงของละครฉากสุดท้ายอยู่ที่ไหน?..

....มีเอกสารที่ถูกบันทึกไว้กล่าวว่าในช่วงวันหยุดที่เกิดเหตุการณ์นี้ ..โรเบิร์ต เคเนดี้ พร้อมด้วยภรรยาและลูกอีกสี่คน เดินทางไป ซานฟรานซิสโก โรเบิร์ตมีประชุมกับสภาทนายความของอเมริกาที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และพาครอบครัวไปพักอยู่กับทนายที่รู้จักสนิทสนมกันซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากเมืองซานฟรานฯออกไปประมาณหกสิบไมล์

...มาริลีนไม่สิ้นความพยายามที่จะติดต่อกับโรเบิร์ตให้ได้ ...ถึงแม้ว่าหลังจากเสียชีวิตแล้ว บันทึกการใช้โทรศัพท์ของเธอในช่วงสี่วันก่อน จะถูกทำให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่มีนักข่าวที่ตามขุดคุ้ยเรื่องนี้ได้ข้อมูลมาว่า มาริลีนโทรไปที่โรงแรมซึ่งโรเบิร์ตไปประชุมหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีการโทร.กลับ...อย่างไรก็ตามมีผู้รู้เห็นว่าโรเบิร์ต ได้เดินทางจากซานฟรานฯมาพบกับมาริลีนก่อนเธอเสียชีวิต...

...ทนายความผู้เป็นเจ้าของบ้านที่โรเบิร์ตและครอบครัวพักอยู่ด้วย ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงซึ่งตรงกันข้ามกับคำให้การของบางคน...นักสืบเอกชนที่ทำงานให้ สเลทเซอร์อดีตคนรักและเพื่อนสนิทของมาริลีน รายงานว่า ...บ่ายวันที่ 4 สิงหาคม 1962 เพื่อนบ้านของมาริลีนคนหนึ่งได้นัดชุมนุมสังสรรค์กันกับเพื่อนฝูง และด้วยความสนใจในความเคลื่อนไหวของบ้านดาราดังที่อยู่ติดกันเธอและเพื่อนๆได้สังเกตเห็นการมาถึงของโรเบิร์ต เคเนดี้ กับชายอีกผู้หนึ่งถือกระเป๋าที่ดูคล้ายกระเป๋ายาของหมอ

...หลังเกิดเหตุเพื่อนบ้านผู้นี้ได้ถูกชายลึกลับเตือนแกมข่มขู่เป็นอาทิตย์ให้ " หุบปากให้สนิทในสิ่งที่พบเห็น" แต่เมื่อถูกสอบปากคำพร้อมกับมีทนายส่วนตัวไปร่วมฟังด้วย โรเบิร์ต เคเนดี้ ยอมรับว่าไปพบมาริลีนพร้อมหมอคนหนึ่งจริง เป็นการพาหมอไปรักษาอาการเศร้าเสียใจอย่างรุนแรงของดาราสาว และหมอได้ฉีดยาระงับประสาทเพื่อให้มาริลีนผ่อนคลายลง ...การให้ปากคำครั้งนี้ไม่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรืออย่างอื่นที่อาจจะนำไปเป็นหลักฐานได้ในชั้นศาล...

...ยี่สิบสามปีผ่านไป..มิสซิสเมอร์เร ผู้ให้การปฏิเสธโดยตลอดว่า โรเบิร์ต เคเนดี้ไม่เคยไปที่บ้านมาริลีนในวันเสาร์นั้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งกับ รายการสารคดีของบีบีซีที่ผลิตขึ้นเมื่อปี 1985 ยอมรับว่า โรเบิร์ตได้ไปที่บ้านจริงในเวลาบ่ายแต่ไม่ยอมพูดลึกลงไปถึงรายละเอียดที่มากกว่านั้น

....อดีตภรรยาของ ปีเตอร์ ลอฟอร์ด เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ลอฟอร์ด เล่าให้เธอฟังว่า โรเบิร์ตไปพบมาริลีนเพื่อจะบอกเลิกความสัมพันธ์ทุกอย่างที่เคยมี เป็นการยืนยันด้วยตนเองที่ทำให้มาริลีนโศกเศร้าเสียใจอย่างมาก

...อย่างไรก็ตามไม่มีหลักฐานหรือพยานที่จะพิสูจน์ได้ว่าโรเบิร์ต ได้กลับไปยังบ้านของมาริลีนอีกครั้งในตอนค่ำก่อนที่เธอจะเสียชีวิต...แต่มีรายงานจากหลายฝ่ายที่ยืนยันได้ว่าโรเบิร์ตอยู่ที่บ้านของลอฟอร์ดในค่ำคืนนั้นและยกเลิกการออกไปทานอาหารค่ำกับมาริลีน

...ช่างภาพและนักข่าวอิสระชื่อ บิลลี่ วู๊ดฟิลด์ ได้ตามสืบเรื่องนี้ไปถึงบริษัทที่ให้บริการพาหนะทางอากาศที่ลอฟอร์ดและแขกเรียกใช้บริการบ่อยครั้ง วู๊๊ดฟิลด์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้โชว์ให้เขาดูถึงรายการตารางรับส่งผู้ใช้บริการซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า เฮลิค็อปเตอร์ได้ไปรับ โรเบิร์ตออกจากบ้านของลอฟอร์ดเมื่อเวลาประมาณตีสองของเช้าวันอาทิตย์และบินไปส่งที่สนามบินใหญ่ของแอลเอ...ตรงกับคำให้การของเพื่อนบ้านที่ตกใจตื่นตอนรุ่งสางด้วยเสียงของเครื่องยนต์จากเฮลิค็อปเตอร์...อดีตภรรยาของลอฟอร์ดได้รับการบอกเล่าจากสามีในขณะนั้นว่า โรเบิร์ต ได้เดินทางกลับไปซานฟรานฯแล้ว

...ตามความเห็นของเธอคิดว่า การที่ยืดระยะเวลาแจ้งให้ตำรวจทราบไปจนถึงตีสี่ ยี่สิบห้านาทีน่าจะมาจากประเด็นแรกคือ ต้องการใช้เวลาเคลื่อนย้ายหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวกับสัมพันธ์สวาทให้หมดไปจากบ้านหลังนั้น และประเด็นที่สอง.. ยืดเวลาให้โรเบิร์ตได้เดินทางไปให้พ้นจากพื้นที่ก่อน

...ไม่เพียงแต่เรื่องราวก่อนพบจุดจบของมาริลีนจะเป็นข้อกังขาเท่านั้น...แม้แต่ศพที่ผ่าหาสาเหตุการตายก็ยังคงทิ้งปริศนาอีกปมหนึ่งว่า เธอตายด้วยอะไร และวิธีไหนกันแน่?




Create Date : 30 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 1 ธันวาคม 2549 6:52:37 น. 6 comments
Counter : 3033 Pageviews.  

 
ต่อๆ....


โดย: รออ่านอยู่ IP: 124.157.220.139 วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:4:58:26 น.  

 
โอ้ววว ...
ติดตามอยู่ค่ะ


โดย: สาวแกร่งแรงเหลือน้อย วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:6:52:02 น.  

 
เด็ดมาก ใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว


โดย: โจเซฟิน วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:7:13:43 น.  

 
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:7:14:35 น.  

 
แซ่บบบๆๆหลายเด๊ ประวัติเจ๊มอนโรเนี่ย


โดย: ยายดาค่า (ศิริรักษ์ ) วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:16:36:52 น.  

 
แวะมาอ่านต่อค่ะ


โดย: แดดร่มลมโชย วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:12:34:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lascrus13
Location :
บุรีรัมย์ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
[Add Lascrus13's blog to your web]