กาลเวลาและสายน้ำไม่เคยย้อนทวน
แต่ความทรงจำบางอย่างในชีวิตไม่เคยลบไปตามครรลองแห่งเวลา
Dedication To: my son Jit....... I love you today as I have from the start,.... And I will love you... forever... with all of my heart...
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
2 มกราคม 2550

....พูลัน เทวี...ราชินีโจร....(2)



.....พูลัน เทวีไม่เลิกลาการทวงถามสิทธิ์ี่ที่พ่อของเธอควรจะได้รับจากมรดก เธอหวังพึ่งกฏหมายด้วยการประจัญหน้ากับเมนาดีนในชั้นศาล... ไม่เพียงแต่เป็นหญิงหม้ายที่คนรังเกียจเหยียดหยามเท่านั้น แม้อยู่ต่อหน้าศาล พูลัน เทวีก็ปราศจากการเกรงกลัวหรือขลาดอาย เธอระเบิดอารมณ์ใส่คู่กรณีอย่างไม่ยั้ง เล่นเอาตะลึงงันกันไปทั้งศาล


... เมยาดีนคั่งแค้นและอับอายอย่างมาก จึงกุเรื่องขึ้นมาในวันหนึ่งว่า พูลันเทวีขโมยของจากบ้านของตน ตำรวจได้จับกุมหญิงสาวไปกักขังไว้โดยไม่มีการสอบสวนทวนความใดๆทั้งสิ้น และระหว่างถูกจองจำอยู่นั้น เธอถูกทุบตีและผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาข่มขืนจากคนที่มีกฏหมายอยู่ในกำมือ...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมนาดีนนั่นเองคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด การย่ำยีครั้งนี้ทำร้ายร่างกายของพูลันเทวีจนยับเยิน... และได้จุดประกายแห่งความชิงชังบุรุษเพศที่กดขี่ข่มเหง ผู้หญิงขึ้นในใจของเธออย่างลึกล้ำด้วยเช่นกัน

.... จุดหักเหของชีวิตเริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อชื่อเสียงของความดื้อรั้นผิดจารีตของเธอล่วงรู้ไปถึงหัวหน้ากลุ่มโจรที่ชื่อ บาบู กุจาร์ ...พูลัน เทวี ได้รับจดหมายข่มขู่ว่าจะถูกลักพาตัวและตัดจมูกทิ้ง...เป็นการลงโทษตามธรรมเนียมปฏิบัติ สำหรับผู้หญิงนอกคอกเช่นเธอ ...และแล้ว บาบู ก็ได้ทำตามคำพูด

...พูลัน เทวีถูกลักพาตัวไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง ทนทรมานทรกรรมจากการทารุณของ บาบู อยู่เกือบสามวัน จนกระทั่งสมุนโจรมือขวาของบาบูคือ วิกรม มัลละ ทนดูต่อไปไม่ไหว หยิบปืนขึ้นมายิงบาบูจนเสียชีวิต...วิกรม เป็นชายร่างสูงเพรียว ผิวสีน้ำตาลอ่อนจาง เค้าหน้าคมคายล้อมรอบด้วยผมยาวดำขลับ เขาสะดุดตาและต้องใจในความเก่งกล้าของพูลัน เทวี ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรก

...ความรู้สึกของพูลัน เทวีที่มีต่อชายผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยชีวิตก็แตกต่างจากความชิงชังที่เคยมีเช่นกัน....เป็นความรู้สึกไว้วางใจและยินดี ที่ยังเจือด้วยความหวาดกลัวอยู่บ้าง ..เธอเริ่มสัมผัสได้ถึงความแตกต่างเมื่อ ชายหนุ่มลูบผมเธอด้วยความนุ่มนวล...นิ้วที่ไล้เคลียข้างแก้มอย่างแผ่วเบาบ่งบอกถึงความอ่อนโยนที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน ..

...น้ำตาซึ่งหลั่งไหลไม่ขาดสายตลอดสามวันของการตกนรกทั้งเป็นเริ่มเหือดแห้งลง ..เธอคิดว่า หากตนมอบชีวิตติดตามชายคนนี้... บางทีเธอคงไม่ถูกทุบตี ..ไม่ถูกทำร้ายให้เจ็บปวดและอับอายอีกต่อไป

..... วิกรมตั้งตนเป็นหัวหน้าโจรคนใหม่โดยมี พูลัน เทวีเป็นคู่รักข้างกาย การฆ่า บาบู กุจาร์ ถือเป็นเรื่องที่ช็อคความรู้สึกแม้แต่ในหมู่โจรคนนอกกฏหมายด้วยกัน เพราะวิกรมมีวรรณะที่ต่ำกว่า

....ถึงแม้ในความรู้สึกของคนอื่น วิกรมจะเลวร้ายเช่นไร แต่สำหรับพูลัน เทวี เขาคือชายผู้สอนเธอให้รู้จักความหอมหวานแห่งรัก ความอาทร ..และความผูกพัน...ทั้งคู่ออกร่วมปล้นเคียงบ่าเคียงไหล่ทุกแห่ง ตรายางสัญญลักษณ์ประจำตัวของพูลัน เทวี สลักจารึกไว้ว่า " พูลัน เทวี นางโจรผู้เลอโฉม; สตรีอันเป็นที่รักของ วิกรม มัลละ จอมราชันย์แห่งโจร"


...เป็นครั้งแรกที่ความกล้าหาญ ไม่กลัวใครของเธอได้รับการยอมรับ ไม่ถูกมองอย่างเหยียดหยามและติฉิน วิกรมสอนเธอให้ใช้ปืนจนชำนาญและกลายเป็นนิสัยที่จะต้องมีปืนไรเฟิ่ลติดตัวอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เขายังสอนเธอให้ ปล้น, ฆ่า, ลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ ทุกวิถีแห่งโจรที่จะได้มาซึ่งทรัพย์สิน...ทั้งคู่ใช้ชีวิตรอนแรมเป็นเงาของกันและกัน ผ่านป่าเขา ทะเลทรายที่กันดาร คุมสมุนโจรออกปล้นสดมภ์คนร่ำรวยในวรรณะสูง รวมทั้ง ปล้นขบวนสินค้าทั้งทางรถยนต์และรถไฟ

...ทรัพย์สินที่ได้มาจะถูกแบ่งนำไปให้กับคนยากไร้ไม่มีจะกิน จุดประสงค์ของการปล้นสำหรับพูลัน เทวี ไม่ได้อยู่ที่เงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระจายความเป็นธรรมทางสังคมจากคนร่ำรวยชั้นสูงไปสู่คนชั้นล่างระดับรากหญ้าที่มีอยู่มากมาย...เครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของเธอคือท่านมหาตมะ คานธี และเจ้าแม่กาลี...พระแม่เจ้าผู้เป็นสัญญลักษณ์แห่งพลังความสำเร็จที่เธอบวงสรวงบูชาทุกครั้งทั้งก่อนและหลังการออกปล้น

..ชีวิตคู่ที่โรแมนติคท่ามกลางควันปืนและการต่อสู้ของวิกรมกับ พูลัน เทวี ดำเนินไปอย่างหอมหวานได้ไม่นาน ก็เริ่มปรากฏเค้าลางแห่งปัญหา วิกรมมีสหายเก่าชื่อ ศรี ราม ซิงค์ กับ ลาลา ราม ซิงค์สองพี่น้องที่เพิ่งออกจากคุก ได้มาเข้าร่วมแก็งค์ตามคำชวนของวิกรม

..ศรี รามเป็นผู้สอนวิชาโจรให้กับวิกรมครั้งเมื่อทั้งสองรู้จักและคบหากันในคุก และศรี รามผู้นี้ยังเป็นสหายสนิทกับ บาบู กุจาร์ หัวหน้าโจรคนเก่าที่ถูกวิกรมยิงตายด้วย...วิกรมได้รวบรวมเงินจำนวน แปดหมื่นรูปีให้คนนำไปประกันตัวสองพี่น้องออกมา และบอกกับสมุนโจรของตนว่า ศรี ราม จะมาเป็นหัวหน้าแก็งค์คนใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดการแตกแยกกันขึ้นในกลุ่ม

...ฝ่ายหนึ่งเป็นกลุ่มที่หนุน ศรี ราม และอีกฝ่ายยังต้องการให้วิกรมเป็นผู้นำต่อไปเนื่องจาก ศรี ราม มาจากวรรณะกษัตริย์ สืบเชื้อสายมาจากพวกนักรบ ในขณะที่เหล่าสมุนโจรรวมทั้งตัวของวิกรมเองนั้นเป็นพวกที่จัดอยู่ในวรรณะที่ต่ำกว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวของศรี รามจึงยังเป็นข้อสงสัย พูลัน เทวีก็รวมอยู่ในกลุ่มที่ไม่ยอมรับ ศรี ราม ด้วยเช่นกัน...


...ในค่ำคืนหนึ่งหลังจาก ศรี รามได้เข้ามาร่วมแก็งค์ ...วิกรมและ พูลัน เทวี ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานในหมู่บ้านที่ห่างไกล เป็นเรื่องปกติที่ทั้งสองจะได้รับเชิญจากคนยากคนจนให้ไปร่วมพิธีมงคลที่จัดขึ้นและ พูลัน เทวีมักช่วยจ่ายเงินให้กับครอบครัวของฝ่ายหญิงที่ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าสินสอด สำหรับงานนี้ วิกรม, พูลัน เทวี และสมุนจำนวนหนึ่งตกลงที่จะเดินเท้าไปยังหมู่บ้านดังกล่าว...นาทีสุดท้ายก่อนจะเริ่มเดินทาง ศรี ราม,น้องชายและสมุนในกลุ่มแสดงความจำนงจะร่วมขบวนไปด้วย ทั้งหมดเริ่มเคลื่อนขบวนเมื่อยามพลบค่ำโดยถือคบไต้เดินเรียงกันไป

...ระหว่างทางทั้งกลุ่มหยุดซื้อแตงโมที่ชาวบ้านนำมาวางขายข้างทาง ขณะที่วิกรม ก้มหน้าลงกัดกินชิ้นแตงโมที่ถืออยู่ในมือ เสียงปืนรัวระงมขึ้นทางเบื้องหลัง..พูลันหันไปดูวิกรมชายคนรัก....สิ่งที่เธอเห็นคือแตงโมชิ้นนั้นร่วงหล่นลงจากมือของวิกรมพร้อมกับร่างสูงเพรียวทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้น...วิกรมถูกยิงจากข้างหลัง...พูลัน เทวีกวาดตามองอย่างรวดเร็วและพบว่าศรี รามกับกลุ่มของเขาหายไปจากตรงนั้นแล้ว...ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปว่าใครยิงคนรักของเธอ

....พูลัน เทวี ถลาเข้าไปประคองวิกรมและจัดการเอาผ้ามัดปิดปากแผลเพื่อห้ามเลือด ก่อนจะรีบพาเขาไปหาหมอให้ช่วยชีวิต...หลังตรวจบาดแผลหมอแจ้งให้พูลัน เทวีทราบว่าไม่อาจเสี่ยงผ่าเอากระสุนออกมาได้เพราะกระสุนปืนได้เข้าไปตุงอยู่ใกล้กระดูกสันหลัง ..หมอช่วยได้เพียงเท่าที่ทำได้และยังบอกอีกว่าวิกรมคงไม่รอด....ข่าวลือแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วว่าวิกรม หัวหน้าโจรผู้เป็นที่หมายหัวของผู้รักษากฏหมายได้สิ้นชีวิตลงแล้ว
...




Create Date : 02 มกราคม 2550
Last Update : 2 มกราคม 2550 3:52:50 น. 12 comments
Counter : 1511 Pageviews.  

 
ตัดสินใจแปลเรื่องนี้ เพราะอ่านจนจบแล้วรู้สึกยอกแสยงใจกับความอยุติธรรมที่คนกระทำต่อคนด้วยกัน ..มีบางตอนและบุคคลิกบางอย่างของผู้เป็นต้นเรื่องที่ตรงกับชีวิตของตนเองด้วยจึงทำให้ค่อนข้างมีความรู้สึกร่วมกับเรื่องราวบทนี้มากเป็นพิเศษ...โศกนาฏกรรมชีวิตของคนๆหนึ่งอาจพ้องพานกับชีวิตของคนอีกมากมายบนโลกใบนี้ .... destiny.. ถูกกำหนดมาแล้วจริงหรือ?


โดย: แม่ของจิตร (แม่ของจิตร ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:4:07:26 น.  

 

ขอให้มีความสุข

คิดสิ่งใดให้สมปราถนา ทุกๆประการ

สุขภาพร่างกาย แข็งแรง

ร่ำรวย ยิ่งๆๆขึ้นไป

นะค่ะ

ได้ไปเที่ยวไหนบ้างป่าวค่ะนี่

เที่ยวให้สนุกนะค่ะ



โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:4:49:56 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ รออ่านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยม่เกี่ยงว่าเรื่องไหน ยังไง ชอบทุกเรื่องที่คุณแม่ของจิตรแปลค่ะ แล้วยิ่งทุกครั้งมีที่ที่ไปในเชิงเป็นรื่องมาจากเรื่องจริงยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เรื่องนี้ก็อีกเช่นกัน เคยสงสัยอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องสังคมวรรณะของอินเดียหรืออาหรับ สนุกดีค่ะ ดีใจที่เราไม่มีวรรณะหรือเลิกทาสไปแล้ว ถึงแม้กระนั้น อะไรหลายๆอย่างในสังคมมันก็ยังมีเรื่องให้ขบคิดอยู่เป็นประจำ สนับสนุนความยุติธรรมค่ะ


โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:7:21:20 น.  

 
I Wish in 2oo7
This year gives You...
12 Month of Happiness,
52 Weeks of Fun,
365 Days Success,
8760 Hours Good Health,
52600 Minutes Good Luck,
3153600 Seconds of Joy...
and that's all!

HAPPY NEW YEAR 2007




โดย: โสดในซอย วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:8:27:59 น.  

 
เคยอ่านเรื่องนี้คร่าว ๆแล้วเมื่อคราวที่อาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล แปลไว้ ชอบมาก เพราะเราเป็นครูผู้หญิงที่ถูกครูผู้ชายบางคนประนามว่า เธอมันบ้าไปรักษาตัวเสียให้หาย ทำตัวไม่เหมือนคนอื่นแถมยังด่าหยาบคายจะทำร้ายต่อหน้าเด็กๆ ถ้าการเป็นคนดีคือการที่เราต้องยอมถูกกดขี่ วางอำนาจละก็ เรายอมเป็นคนบ้า เพราะเราเลือกที่จะลุกขึ้นสู้กับความชั่ว เราจะไม่ยอมเงียบและเลี่ยงๆไปแบบคนดีๆคนอื่นๆ


โดย: ปิ่นกำนัน IP: 203.113.45.205 วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:8:28:53 น.  

 
โห ดีจังค่ะ ได้คึวามรู้มากๆเลยค่ะ ชอบๆ


โดย: สะใภ้จ้าว วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:9:14:18 น.  

 
อย่างที่บอกคุณแม่น้องจิตรค่ะ เรื่องนี้ได้ความรู้สึกแตกต่างจากที่เคยอ่าน อาจจะเพราะเรื่องนี้เป็นความจริงที่โหดร้ายมากๆ การรับรู้จึงของคนอ่านจึงขึ้นอยู่กับคนนำเสนอ อาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่คนนำเสนอหรือคนแปลจะออกมาเช่นไร ยอมรับว่าคุณแม่น้องจิตรแปลได้ละเมียดละไมขึ้นจากที่เคยอ่านมาค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปค่ะ




โดย: โจเซฟิน วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:9:49:06 น.  

 
ดูรอยยิ้มรูปบนตรงกลาง ดูเธอเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปไม่แตกต่างไปเลยนะคะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:9:53:13 น.  

 








สวัสดีปีใหม่ค่ะ มีความสุขมากๆน่ะค่ะ คิดอะไรขอให้สมปราถนาน่ะค่ะ




โดย: icebridy วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:11:59:30 น.  

 
คนเราเมื่อถูกกระทำ ถ้ามันไม่บ่อยครั้งมันก็ยังพอหยวนๆ ได้แต่ว่าเมื่อถูกกระทำบ่อยครั้งและก็รุนแรงมันก็ไม่สามารถอดทนต่อไปได้อ่ะค่ะ

เพราะฉะนั้นทางออกก็คือเราก็ต้องเลือกจะสู้ เพื่อปกป้องตัวเอง ถึงบางครั้งอาจจะมองดูเหมือนคนบ้าไปบ้าง แต่ด้วยเพราะสิทธิและความยุติธรรมมันก็ต้องยอมค่ะ ...

แต่อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกสลดใจกับการถูกกดขี่จังนะค่ะสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง


โดย: JewNid วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:12:22:33 น.  

 
...จิตใจของเธอ...สุดยอดค่ะ....

หวัดดีค่ะพี่มิน...
สบายดีนะคะ...รักษาสุขภาพด้วยนะคะ..
ขอให้มินและน้องจิตร...
มีความสุขมากๆในเทศกาลปีใหม่นี้ค่ะ..



โดย: แดดร่มลมโชย วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:17:36:10 น.  

 
ไม่เคยได้ยินเลยเพิ่งเคยได้ยินก็วันนี้


โดย: เหมิง555 IP: 124.121.2.24 วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:19:34:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lascrus13
Location :
บุรีรัมย์ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
[Add Lascrus13's blog to your web]