กาลเวลาและสายน้ำไม่เคยย้อนทวน
แต่ความทรงจำบางอย่างในชีวิตไม่เคยลบไปตามครรลองแห่งเวลา
Dedication To: my son Jit....... I love you today as I have from the start,.... And I will love you... forever... with all of my heart...
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
14 ธันวาคม 2549

...JEFFREY DAHMER...ฝันร้ายของอเมริกันชน...(6)




...ก่อนคำตัดสินจากศาลจะถูกกำหนดออกมา จิตแพทย์สามคนได้ทำการทดสอบ,วิเคราะห์ เจฟฟรี่ ดามเมอร์.. ต่างลงความเห็นว่าเจฟฟรี่มีบุคคลิกและสภาวะทางจิตที่ต้องการการบำบัดในโรงพยาลด้านจิตเวชโดยเร่งด่วน

...เมื่อได้รับโอกาสให้กล่าวต่อหน้าศาล เจฟฟรี่ โยนความผิดที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากความมึนเมา...คำพูดของเขาโน้มน้าวจิตใจคนฟังได้อย่างดี และสำหรับคนที่ฆ่าผู้อื่นโดยที่ยังไม่มีใครรู้..การยืนขึ้นกล่าวคำสำนึกผิดและขอโอกาสจากศาล ด้วยอาการสงบเยือกเย็น...ไม่ใช่อาการของคนป่วยทางจิตที่ไม่รู้ตัวเพียงอย่างเดียว...แต่เป็นการกระทำที่ได้รับการไตร่ตรองและคิดมาแล้วเป็นอย่างดี

...การแสดงตบตาคนที่ยอดเยี่ยมประกอบเข้ากับทนายที่มีความสามารถ..จูงใจผู้พิพากษาคดีให้หลงเชื่อ...โทษของเจฟฟรี่ที่ได้รับก็คือ การถูกคุมประพฤติอีกครั้งเป็นเวลาห้าปี และต้องใช้เวลาหนึ่งปีอยู่ในคุกภายใต้โปรแกรมที่อนุญาตให้นักโทษออกไปทำงานในตอนกลางวัน และกลับมาอยู่ในคุกหลังเลิกงาน

...แต่เพียงแค่สิบเดือนผ่านไป เจฟฟรี่ก็ได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ถึงแม้ว่าบิดาของเขาจะได้ยื่นจดหมายขอร้องไม่ให้ปล่อยลูกชายของตนออกมา จนกว่าเจฟฟรี่จะได้รับการรักษาและบำบัดทางจิต แต่คำขอร้องนั้นก็ไม่ได้รับความสนใจ ..หลังเป็นอิสระ เจฟฟรี่ได้ไปอาศัยอยู่กับย่าชั่วคราวจนกระทั่งหาอพาทเมนท์อยู่เองได้ ...ปฏิบัติการล่าเหยื่อและลงมือฆ่าเพื่อสนองความตื่นเต้นจึงเริ่มอีกครั้ง ...

...ระยะเวลาปีกว่าๆหลังจากยืนกล่าวคำเสียใจ สำนึกผิดในศาล...ชีวิตของเด็กชายและชายหนุ่มอีกสิบสองคนต้องจบลงภายใต้เงื้อมมือของเจฟฟรี่...เขาฆ่าบ่อยขึ้น อัตราเฉลี่ยหนึ่งศพต่ออาทิตย์...เหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นคนผิวดำและชนกลุ่มน้อย ที่มีประวัติเคยทำผิดกฏหมายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ทุกคนไม่ใช่โฮโมเซ็กส์ช่วล หรือ ไบเซ็กส์ช่วล บางรายเป็นชายหนุ่มธรรมดาที่บังเอิญเคราะห์ร้ายเท่านั้น....เหยื่อที่อายุน้อยที่สุดคือ คุณารักษ์ อายุสิบสี่ปี...รายที่อายุมากที่สุดอายุเพียงสามสิบเอ็ดปี

.....เจฟฟรี่ละลานใจกับสัมผัสของร่างอุ่นๆที่พึ่งสิ้นใจด้วยฝีมือของตนเอง.. มันกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเขาให้ลุกโชนเป็นอย่างดี...ก่อนจะลงมือทำลายหลักฐาน เจฟฟรี่ใช้กล้องโพราลอยด์ ถ่ายแต่ละขั้นตอนไว้ชื่นชมในภายหลัง ...กระดูกและเนื้อหนังของแต่ละศพถูกทำลายด้วยสารเคมีที่เจฟฟรี่คิดค้นขึ้นเอง ทุกอย่างกลายเป็นเมือกเหลวที่สามารถเททิ้งในท่อหรือส้วมชักโครก

...พวกที่ชอบร่วมเพศกับศพ ไม่ได้ชอบกินเนื้อศพไปด้วยทุกราย...ในกรณีของ เจฟฟรี่ ดามเมอร์ เขาเปิดเผยว่าสาเหตุที่กินเนื้อศพด้วยก็เนื่องจากคนๆนั้นจะยังเป็นส่วนหนึ่งในร่างของตนตลอดไป...เขาใช้เครื่องเทศและสารปรุงรสที่ทำให้เนื้อแต่ละชิ้นนุ่มและมีรสชาติดีขึ้น ...ทุกๆคำที่ขบเคี้ยว.. ความตื่นตัวทางเพศจะปรากฏขึ้นเสมอ..ในตู้แช่แข็งของเขาจึงมีเนื้อคนอยู่เป็นจำนวนมาก...มีอยู่อย่างเดียวที่รสชาติไม่ถูกปาก เท่าไหร่นักคือเลือดคน.

...สิ่งที่เหมือนกับ ฆาตกรอย่าง เอ๊ด กีนส์ ก็คือการเก็บรักษาชิ้นส่วนของศพไว้ด้วยความใส่ใจเหมือนการสร้างผลงานทางศิลปะชนิดหนึ่งสำหรับพวกเขา และที่สำคัญคือได้สนองความรู้สึกว่าตนเองควบคุมคนอื่นไว้ได้...เจฟฟรี่ไม่สามารถทนรับความรู้สึกว่าถูกปฏิเสธหรือทอดทิ้งจากคนที่ตนเองพึงใจ

... แต่ในขณะเดียวกันในความสัมพันธ์แบบโฮโมเซ็กส์ช่วลอย่างที่ชอบ เขาเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะเล้าโลมหรือเอาใจคู่นอนด้วยเช่นกัน...เขาต้องการเพียงความสุขสมอารมณ์หมายของตนแต่อย่างเดียว...เป็นความสุขในรูปแบบของออรัลเซ็กส์ หรือทางทวารหนักทั้งจากร่างที่ยังมีชีวิต และที่เป็นศพไปแล้ว

..ความต้องการควบคุมคนอื่นนำไปสู่พฤติกรรมที่วิปริตอีกอย่างก็คือ หลังจากมอมยาจนเหยื่อหมดทางต่อสู้แล้ว...เจฟฟรี่ เจาะกะโหลกของเหยื่อจนเป็นร่องรูแล้วก็ฉีดสารเคมีที่เป็นกรดเข้าไปในสมอง เพื่อดูปฏิกริยาที่จะเกิดขึ้น...เหยื่อส่วนใหญ่จะตายทันที แต่ก็มีบางรายที่ตายช้าๆอย่างทรมาน...เจฟฟรี่วางแผนที่จะตบแต่งห้องของตนให้เหมือนกับมหาวิหารแห่งซาตานที่มีการจุดธูปบูชาในหัวกะโหลกของเหยื่อเพื่อเสริมพลังและอำนาจแห่งตน

....เมื่อมีปรากฏการณ์อย่าง เจฟฟรี่ ดามเมอร์ เกิดขึ้น ทุกคนต่างสงสัยว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนๆหนึ่งมีพฤติกรรมที่น่ากลัวได้ถึงเพียงนี้...หลายทฤษฏีเชื่อว่าคำตอบพบได้จากประวัติการถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก, บิดามารดาขาดการอบรมดูแลที่ดี, การได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง, ยาเสพย์ติด...สิ่งเหล่านี้อาจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกรณีอื่น...แต่ไม่ใช่ของ เจฟฟรี่ ดามเมอร์...



ถังที่ภายในบรรจุอวัยวะของเหยื่อ ถูกขนย้ายออกมาจากห้องของเจฟฟรี่ ดามเมอร์



Create Date : 14 ธันวาคม 2549
Last Update : 14 ธันวาคม 2549 1:39:48 น. 12 comments
Counter : 952 Pageviews.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและลงคอมเมนท์ทักทาย ให้กำลังใจไว้ ...จบซี่รี่ส์เรื่องนี้คงได้มีโอกาสไปเยี่ยมที่บล็อกด้วยเช่นกัน


โดย: แม่ของจิตร วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:1:51:34 น.  

 
ยิ่งอ่านยิ่งสลด สยดสยอง คุณแม่น้องจิตรบรรยายให้เห็นภาพทุกช็อต ตายๆตกลงอิตานี่มันเลวเนียนได้ขนาดนี้เลยรึ แล้วอะไรคือสาเหตุสำคัญของพฤติกรรมแบบนี้ล่ะคะ ลุ้นมากๆ เดาว่า "เกิดมาเลว" โดยแท้ รออ่านบทต่อไปด้วยใจระทึก เอาใจช่วยให้คุณแม่น้องจิตรมีเวลาแปลให้อ่านในบทต่อไปค่ะ

ปล.เอ่อ เรื่องไปเยี่ยมบล็อคไม่เป็นไรค่ะเกรงใจ โจเข้ามา (อ่าน) เองสะดวกกว่าค่ะ แฮ่ ถ้าเรื่องอิตาเจฟฟรี จบเป็นเรื่องอะไรดีคะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:6:06:57 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณแม่ของจิตร โอโห การพิจารณาคดี ต่างจากของเอ็ดมากเลยนะคะ นี่แบบลอยนวลไปได้ง่ายๆ แบบนี้ ให้ได้กลับมาฆ่าคนอีกเพียบเลย เป็นไปได้ไงเนี่ย จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ


โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:6:28:39 น.  

 
มาแล้วค่ะ...โห...โหดเหี้ยมแบบสุดจะบรรยายเลยนะคะ...
ยิ่งทำให้กลัวคนสมัยนี้มากขึ้นไปอีกค่ะ
รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ
รอลุ้นอยู่ค่ะว่าตอนหน้าตกลงว่าเป็นเพราะอะไรทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้

ขอบคุณมากนะคะคุณแม่ของจิตร
ไม่ต้องกังวลเรื่องไปเยี่ยมที่บล๊อคนะคะ
แค่แปลให้พวกเราอ่านก็คงยุ่งแล้วอ่ะค่ะ
เดี๋ยวเจ๊โจผู้ใหญ่บ้านไปตามพวกเรามาเองค่ะ...


โดย: จันทร์สวย วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:8:07:32 น.  

 
บรื๊อออออ สยองเหลือหลาย แค่อ่านก็ขนหัวลุกแล้ว


โดย: haiku วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:9:31:30 น.  

 
ติดตามตอนต่อด้วยใจระทึกค่ะ


เมื่อคืนก่อน เพิ่งอ่านเรื่องปีเตอร์ เคอเท่น จอมกระหายเลือดแห่งดุสเซลดอฟฟ์ ยังไม่หลอนเท่าเรื่องของเจฟฟรี่ ดามเมอร์เลยค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:9:48:28 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแม่ของจิตร
อ่านสนุก ปนสยองนะคะ
บล็อกนี้มีประชาสัมพันธ์ดีเด่น คือคุณพี่โจเซฟิน อิๆ
ต้องขอบคุณคนแปลที่แปลเรื่องน่าสนใจให้อ่านกันและต้องขอบคุณคุณประชาสัมพันธ์ที่ไปบอกข่าวด้วยนะค๊า...


โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:10:46:30 น.  

 
โห้...อีหนูหายอยากลาบเลือดไปบัดดล

ศาล...สถิตยุติธรรม หลอกตาได้ง่ายเหมือนกันเน่อ

ถ้าได้เจอ ทนายไม่ได้ความ


โดย: ฟ้า.....อยากร้องไห้ IP: 58.8.12.201 วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:11:44:47 น.  

 
หลังจากมอมยาจนเหยื่อหมดทางต่อสู้แล้ว...เจฟฟรี่ เจาะกะโหลกของเหยื่อจนเป็นร่องรูแล้วก็ฉีดสารเคมีที่เป็นกรดเข้าไปในสมอง เพื่อดูปฏิกริยาที่จะเกิดขึ้น...เหยื่อส่วนใหญ่จะตายทันที แต่ก็มีบางรายที่ตายช้าๆอย่างทรมาน -------> อ่านถึงตรงนี้แล้วอึ้ง สงสารเหยื่อมากๆเลยค่ะ

ติดตามอยู่ค่ะ อยากรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เจฟฟรี่ มีจิตใจที่ผิดปกติมากขนาดนี้


โดย: Wabbit IP: 213.93.153.234 วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:15:31:30 น.  

 
ไม่ได้เข้ามานานสักพัก แต่ว่าได้จังหวะดีเลยค่ะเพราะว่าเข้ามาก็ได้อ่านอย่างเต็มอิ่มเลย ...

อ่านเรื่องราวเหล่านี้แล้วก็ทำให้เราเห็นจริงๆ นะค่ะว่าคนพวกนี้ป่วยทางจิตเยอะมาก ข้างนอกดี หน้าตาดี ใช่ว่าจะปกติ ดูจากกรณีนายคนนี้สิค่ะหน้าตาก็ดีไม่น่าเลยจริงๆ


โดย: Jewnid IP: 80.56.213.206 วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:18:46:28 น.  

 
คนเจ็บป่วยทางจิตนี่ดูยากจริงๆค่ะ
ตาย อย่างนี้อิฉันเดินไปไหนมาไหน เจอใครตามบาร์ คงต้องระวังตัวมากขึ้นซะแล้ว
ขอยาดแอด นะคะ จะได้ตามมาอ่านได้ง่ายๆ
และยังยืนกรานอย่างเดิม คือ อยากให้ติดต่อ สนพ พิมพ์รวมเล่มจังค่ะ สำนวนแปลสวยมากค่ะ


โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:22:57:12 น.  

 
โอ้ อ่านต่อไม่ไหวแล้วค่ะ
จะอาเจียน
รับไม่ได้
แปลได้สุดยอดจริงๆเลยค่ะ

ไปอ่านเรื่องอื่นดีกว่า ขอเรื่องที่น่ารักๆด้วยนะ
แนวนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ เศร้า อ่านแล้วทรมานจิตใจ


โดย: mrsmurtaugh วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:0:16:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lascrus13
Location :
บุรีรัมย์ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
[Add Lascrus13's blog to your web]