กาลเวลาและสายน้ำไม่เคยย้อนทวน
แต่ความทรงจำบางอย่างในชีวิตไม่เคยลบไปตามครรลองแห่งเวลา
Dedication To: my son Jit....... I love you today as I have from the start,.... And I will love you... forever... with all of my heart...
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
13 ธันวาคม 2549

...JEFFREY DAHMER...ฝันร้ายของอเมริกันชน...(5)




จากข้อหาดังกล่าวทำให้ เจฟฟรี่ถูกศาลตัดสินให้คุมประพฤติเป็นเวลาหนึ่งปี...เดือนกันยายน ปี 1987 เจฟฟรี่ ฆ่าเหยื่อรายที่สอง คือ สตีเว่น โทมี่...ทั้งสองพบกันในบาร์เกย์ ดื่มกินร่วมกันและมาลงเอยที่โมเต็ลแห่งหนึ่ง...เขาไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป จนกระทั่งตื่นมาอีกครั้งพร้อมกับเลือดสดๆที่ปากและพบว่า สตีเว่น โทมี่ได้กลายเป็นศพไปแล้ว

...เจฟฟรี่ซื้อกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ยัดศพของสตีเว่นลงไปและนำกระเป๋าใบนั้นกลับไปที่ห้องใต้ดินของบ้านย่าซึ่งตนเองอาศัยอยู่ ...ที่นั่น..เขาร่วมเพศกับศพอีกครั้ง และสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ก่อนที่จะจัดการหั่นศพใส่ถุง นำไปทิ้งขยะ...หลายเดือนต่อมา เหยื่อรายที่สามของเขาเป็นเด็กอินเดียแดงอายุสิบสี่ปี ชื่อเจมี่ ด็อกซ์เทเตอร์...

.....หลังจากผ่านประสบการณ์ที่ติดใจจากสองศพแรก การฆ่าคนสำหรับเจฟฟรี่เริ่มมีรูปแบบที่ชัดเจนด้วยความตั้งใจมากขึ้น....เขามักจะเตร็ดเตร่ไปตามบาร์เกย์ เลือกเหยื่อที่ถูกใจ เข้าไปตีสนิทและเสนอเงินล่อใจ แลกกับการให้เหยื่อโพสต์ท่าเพื่อให้เขาถ่ายรูป...หรือชวนให้มาดื่มกิน ดูหนัง ดูวีดีโอด้วยกันที่ห้องพักของตน ..หลังจากนั้นก็หาโอกาสแอบใส่ยาให้กิน...รัดคอเหยื่อจนขาดใจตายแล้วร่วมเพศกับศพหรือสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง ...ชำแหละแยกชิ้นส่วนศพ นำไปทิ้ง..

....ในเหยื่อบางรายก็เก็บชิ้นส่วนของร่างกายหรือหัวกะโหลกไว้เป็นที่ระลึก....พฤติกรรมเช่นที่ว่านี้เป็นลักษณะที่พบส่วนใหญ่ในกลุ่มฆาตกรต่อเนื่อง...จากการศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของ เอฟ บี ไอ ซึ่งมีหน่วยงานและบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ กล่าวว่าการฆ่าแล้วเก็บชิ้นส่วนของเหยื่อ หรือกินเข้าไป เป็นการแสดงถึงอำนาจที่เหนือกว่า สามารถควบคุมและเก็บสิ่งที่ตนพึงพอใจไว้ในครอบครอง ....เพราะในชีวิตจริงฆาตกรประเภทนี้มักจะดูอ่อนแอขี้อาย ไร้ความสามารถในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมตามปกติ...เมื่อชื่นชมกับของที่ระลึกจนเริ่มขาดความตื่นเต้นแล้วก็จะออกล่าเหยื่อรายใหม่...

จนกระทั่งสิ้นปี 1987 เจฟฟรี่ฆ่าคนไปทั้งหมดสี่ศพด้วยกัน ย่าของเขาไม่สนใจว่าหลานของตนเองทำอะไรในห้องพักชั้นใต้ดิน แต่เริ่มรำคาญเสียงที่ดังมาจากที่นั่น จึงบอกให้เจฟฟรี่ไปหาที่อยู่ใหม่

...วันที่ 25 กันยายน 1988 เจฟฟรี่ย้ายออกมาเช่าอพาทเมนต์อยู่ตามลำพัง และได้ก่อคดีที่สวนทางกับกฏหมายอีกครั้งด้วยการ จ้างเด็กชายชาวลาวอายุสิบสามปี ให้มาโพสต์ท่าเพื่อให้ตนถ่ายรูปที่ห้อง....เช่นเคย..เขามอมยาเด็กและลงมือคลึงเคล้า ลวนลามทางเพศ แต่ไม่ได้ทำร้ายหรือร่วมเพศด้วยการสอดใส่แต่อย่างใด..

....เป็นเรื่องที่บังเอิญอย่างน่าเศร้าใจ.. เด็กคนนี้ก็คือพี่ชายของ คุณารักษ์ สินทะสมพร..หนึ่งในเหยื่อที่เจฟฟรี่ฆาตกรรมสามปีถัดมานั่นเอง...เมื่อเด็กกลับบ้าน ผู้ปกครองเห็นอาการผิดปกติ จึงนำส่งโรงพยาบาลและได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าเด็กถูกมอมยา...เจฟฟรี่ถูกดำเนินคดีในข้อหาล่วงเกินทางเพศผู้เยาว์ โดยที่ตัวเขาเองพยายามแก้ตัวว่าเด็กดูแก่กว่าอายุจริง จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด

...ในระหว่างที่ได้รับการประกันตัวออกมารอคำตัดสิน เจฟฟรี่กลับไปอยู่กับย่าอีกครั้ง และไม่สามารถทนต่อความกระหายในการฆ่าได้....เขาไปที่บาร์เกย์..ได้เหยื่อรายใหม่คือ แอนโทนี่ เซียร์...กรรมวิธีการมอมยา, รัดคอเหยื่อจนเสียชีวิต, ร่วมเพศกับศพ และชำแหละร่างก่อนนำไปโยนทิ้ง ถูกนำมาใช้เช่นเคย

....เขาตัดหัวของเหยื่อเก็บไว้ นำไปต้มลอกหนังและเนื้อเยื่อออกจนสะอาด ก่อนจะทาสีให้ดูเหมือนกะโหลกปลอม เผื่อว่าถ้ามีคนมาเห็นจะได้ไม่สงสัย...เจฟฟรี่เริ่มเก็บของที่ระลึกจากการฆ่าอย่างจริงจังในระยะสองปีก่อนถูกจับได้ และสารภาพภายหลังว่า เมื่อสำเร็จความใคร่ต่อหน้าหัวกะโหลกของคนที่ตัวเองฆ่าให้ความรู้สึกที่สะใจ และมีความสุขสุดยอด..

...เมื่อการพิจารณาคดีเพื่อตัดสินลงโทษ คดีล่วงเกินทางเพศผู้เยาว์ มาถึง...เจฟฟรี่แสดงบทบาทของผู้สำนึกผิด ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำทุกอย่าง และยืนยันอยู่เสมอว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มาจากความเข้าใจผิดว่าเด็กอายุมากกว่านั้น...เป็นการแสดงละครตบตาร่วมกับบุคคลิกภาพที่คนทั่วไปเห็นเพียงว่าเขาคือคนอ่อนโยน ขี้อายธรรมดาๆคนหนึ่งซึ่งทำผิดโดยไม่ตั้งใจ...แต่แท้ที่จริงแล้วเขาได้ซ่อนความโกรธ..ปัญหาทางจิตใจที่อยู่ลึกล้ำเกินกว่าคนทั่วไปจะคิด...เป็นปัญหาที่จิตใต้สำนึกไม่ยอมรับและเจ้าตัวคิดว่าไม่ใช่ปัญหาเลยด้วยซ้ำ


Create Date : 13 ธันวาคม 2549
Last Update : 13 ธันวาคม 2549 0:23:07 น. 8 comments
Counter : 1082 Pageviews.  

 


Always great story na krab.
Thank you.
Ohm Thai crew


โดย: Ohm Thai crew-on board in USA (sochana9 ) วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:0:40:22 น.  

 


แวะมาทักทายจ้า


โดย: แสงไร้เงา วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:3:25:12 น.  

 
โห...นี่มันอาการเข้าขั้นโคม่าของอมนุษย์เลยนะคะเนี่ย สัตว์ที่ติดใจในรสชาติของการฆ่า ล่าและทารุณเหยื่อ มันยิ่งกว่าอีก.. อุ๋ย หยองๆ

ขอบคุณที่อัพมากๆค่ะ หวังว่าคุณแม่น้องจิตรคงสบายดีนะคะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:7:11:07 น.  

 
คุมประพฤติ 1 ปี....ได้ประกันตัว... ฯลฯ

แอ๊ะ แย่จังนะคะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:11:03:27 น.  

 
มาปูเสื่อรออ่าน


โดย: ฟอ รอ ฟัน..โช๊ะๆ IP: 58.8.12.217 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:12:50:19 น.  

 
อ่านแล้วสยองมากเลย แปลดีสมกับคำโฆษณาของเจ๊โจเลยค่า


โดย: haiku วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:18:55:50 น.  

 
แปลดีมากๆเลยค่ะคุณแม่ของจิตร..ขอบคุณนะคะที่แปลให้พวกเราอ่าน...
อืม...อมนุษย์จริงอย่างที่คุณโจว่าจริงๆนะคะ
ตอนนี้เริ่มมีอาการคลื่นไส้แล้วค่ะ
แต่อยากอ่านต่อ....แฮ่...


โดย: จันทร์สวย วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:1:25:42 น.  

 
เหมือนกับว่า ทั้งศาลและเจ้าหน้าที่ ถูกหลอกจากท่าทางของฆาตกรเลยนะคะเนี่ย
โลกเราใจดีกับคนทำผิดมากเกินไปหรือเปล่า


โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:22:52:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lascrus13
Location :
บุรีรัมย์ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
[Add Lascrus13's blog to your web]