กาลเวลาและสายน้ำไม่เคยย้อนทวน
แต่ความทรงจำบางอย่างในชีวิตไม่เคยลบไปตามครรลองแห่งเวลา
Dedication To: my son Jit....... I love you today as I have from the start,.... And I will love you... forever... with all of my heart...
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
14 พฤศจิกายน 2549

.......Ed Gein....ฆาตกรผู้เป็นตำนานของ "ไซโค" และ Silence of the Lambs".....(2)



.....เอ๊ด กีนส์ เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนสองคนของ ออกัสต้า กับ จอร์จ กีนส์ ...มีพี่ชายชื่อเฮนรี่ ซึ่งมีอายุห่างกันแปดปี...ออกัสต้าผู้เป็นแม่เคร่งศาสนาแบบสุดขั้ว ในขณะที่จอร์จผู้พ่อนั้นนอกจากจะอ่อนแอไม่มีสภาพของผู้นำแล้วยังติดเหล้าอย่างหนัก ทิ้งภาระของการอบรมดูแลลูกและหาเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ในความรับผิดชอบของภรรยาแต่เพียงผู้เดียว....อำนาจการตัดสินใจและความคิดเห็นทุกเรื่องขึ้นอยู่กับออกัสต้าทั้งหมด....แม้แต่วิถีชีวิตของลูกชายทั้งสอง....

.....ทัศนะคติของออกัสต้าต่อสังคมในเมืองก็คือเป็นแหล่งที่รวมกิจกรรมและผู้คนซึ่งนอกรีต บาปหนา...สิ่งที่เฮนรี่และเอ๊ดถูกสอนให้จำฝังเข้าจิตสำนึกคือเพศหญิงที่นอกจากแม่แล้ว ..ล้วนแต่สำส่อน...การมีเซ็กส์เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและนำไปสู่ขุมนรกในบั้นปลาย...

.....ทุกวันเวลาบ่าย เด็กทั้งสองไม่มีโอกาสได้ออกไปวิ่งเล่นหรือสมาคมกับเด็กวัยเดียวกัน...แต่ต้องมานั่งฟังแม่อ่านไบเบิ้ลกรอกหู...รับฟังคำสั่งสอนให้ละเว้นความสัมพันธ์ทางธรรมชาติกับเพศตรงข้าม...

.....ออกัสต้า ทำงานหนักและพยายามเก็บรวบรวมเงินจนกระทั่งสามารถ ไปซื้อฟาร์มนอกเมืองได้ในพื้นที่ 195 เอเคอร์....และได้นำครอบครัวอพยพย้ายออกจากสังคมที่ตนเองต่อต้าน มาใช้ชีวิตอยู่กันเงียบๆในอาณาจักรส่วนตัว...ถึงแม้ว่าออกัสต้าได้ทำทุกวิถีทางที่จะกันลูกให้พ้นจากโลกภายนอก...แต่นางไม่สามารถที่จะขัดขวางเรื่องที่เด็กต้องไปโรงเรียนได้....

....ผลการเรียนของเอ๊ดอยู่ในระดับปานกลางและค่อนข้างดีในด้านการอ่านเพราะการอ่านหนังสือเป็นสิ่งเดียวที่เอ๊ดสามารถปลดปล่อยจินตนาการได้เต็มที่...แต่ในชีวิตจริงเขาไม่มีเพื่อน และถ้าหากพยายามจะมี... สิ่งที่ได้รับคือคำดุด่าจากผู้เป็นแม่ที่มองคนอื่นเป็นพวกนอกศาสนาน่ารังเกียจไปหมด...นอกจากนี้เด็กร่วมชั้นเรียนยังชอบแกล้งและล้อเลียนความเงอะงะขี้อายของเอ๊ดอยู่เสมอ...

.....มีน้อยครั้งที่ออกัสต้าจะพึงพอใจในตัวของลูกชายทั้งคู่...นางมักใช้วาจาเสียดสีทำร้ายความรู้สึกของเด็กว่าจะต้องมีชีวิตที่ล้มเหลวไร้แก่นสารเช่นเดียวกับจอร์จผู้เป็นพ่อ....แต่ไม่ว่าออกัสต้าจะร้ายเช่นใด...เอ๊ดยกย่องบูชาแม่เหมือนเทพธิดาประจำชีวิตและพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำตามคำสั่งสอนของแม่...

.....โลกของเฮนรี่กับเอ๊ดมีเพียงงานในฟาร์ม...มีกันและกันเป็นเพื่อนตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ ...เอ๊ดเชื่อฟังและทำตามพี่ชายทุกอย่าง เมื่อจอร์จผู้เป็นพ่อเสียชีวิต...ทั้งสองคนต้องออกไปรับจ้างทั่วไปในเมืองเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลฟาร์มและแม่...งานที่เอ๊ดชอบและทำได้ดีคือรับจ้างเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็ก ซึ่งอาจเป็นเพราะการเล่นกับเด็กทำให้ความรู้สึกประหม่าขัดเขินลดน้อยลง ...

.....เฮนรี่นั้นมีบุคคลิกเป็นตัวของตัวเองไม่ได้สยบยอมและบูชาแม่อย่างสุดหัวใจแบบน้องชาย...บ่อยครั้งที่เฮนรี่ตำหนิและวิจารณ์แม่ของตนใ้ห้เอ๊ดได้ยิน...เป็นสิ่งที่เอ๊ดรับไม่ได้และสะเทือนใจอย่างที่สุด...ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเป็นสาเหตุแห่งการตายของเฮนรี่ในเวลาต่อมา....โดยเริ่มจากวันหนึ่งทั้งคู่ร่วมกันพยายามดับไฟป่าที่ลุกลามเข้าใกล้เขตฟาร์ม...เอ๊ดให้การกับตำรวจว่าเฮนรี่หายไปท่ามกลางกลุ่มควันและตนไม่สามารถหาพี่ชายพบ....แต่เมื่อตำรวจไปยังที่เกิดเหตุ...ผู้ที่นำำไปยังร่างของเฮนรี่ก็คือเอ๊ดนั่นเอง....

.....เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพลงความเห็นว่าเฮนรี่เสียชีวิตเนื่องจากสำลักคว้นจนหมดสติและขาดอากาศหายใจ...แต่เมื่อพลิกคดีนี้ย้อนหลังสิ่งที่พบในบันทึกเพิ่มเติมคือศพของเฮนรี่มีรอยถูกฟาดด้วยของแข็งที่ท้ายทอยด้วย....นับจากพี่ชายตายโลกของเอ๊ดกับแม่ก็ยิ่งแคบมากกว่าเดิมแต่ผูกพันกันมากยิ่งขึ้น....

....จนกระทั่งออกัสต้าเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบตัน...โลกของเอ๊ดดูเหมือนจะแตกดับตามไปด้วย...เขาปิดห้องนอนของแม่และทุกห้องชั้นบนของบ้านไว้ในสภาพเดิม ย้ายตัวเองลงมาใช้ห้องเล็กๆชั้นล่างและห้องครัวเท่านั้น....ปล่อยฟาร์มให้เป็นที่รกร้าง ยังชีพอยู่ด้วยการทำงานรับจ้างทั่วไป ...

....สิ่งที่ผ่อนคลายในชีวิตคือการอ่านหนังสือแนวที่ตัวเองสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือทางด้านสรีระของคน,การผ่าตัดรูปแบบต่างๆรวมไปถึงนิตยสารเกี่ยวกับกลุ่มความเชื่อเรื่องความตาย....และที่น่าสนใจจนต้องติดตามทุกวันคือ หนังสือพิมพ์...โดยเฉพาะคอลัมภ์ที่แจ้งข่าวการตายของผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้น...

.....เอ๊ดค้นพบกิจกรรมใหม่ที่ทำให้เขาไม่รู้สึกอ้างว้างอีกต่อไป.....สุสาน...หลุมฝังศพ..และศพผู้หญิงที่เพิ่งตาย....คือสิ่งที่เอ๊ดเฝ้ารอถึงการไปเยี่ยมเยือนในยามดึกด้วยความลิงโลดใจ ...เป็นก้าวแรกของการนำจินตนาการกับความจริงมาพบกัน....จนกระทั่งเตลิดไปสู่ความสยองขวัญที่เหนือการควบคุม....






Create Date : 14 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 17:22:17 น. 5 comments
Counter : 833 Pageviews.  

 
เข้ามาอ่าน


โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:40:42 น.  

 



nice to read ur Blog.

Ohm


โดย: Ohm De Puerto Rico (sochana9 ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:16:20 น.  

 
เป็นแบบนี้เองล่ะค่ะ ... เรื่องลูกชายที่มีความวิกลจริตแบบนี้ส่วนใหญ่พื้นฐานก็มีปัญหาเนื่องมาจากการเลี้ยงดูและความสัมพันธ์ของแม่จริงๆนะค่ะ ...

เลยกลายเป็นเรื่องเศร้าและโหดร้ายไปเลยสำหรับการต้องปลดปล่อยแบบนี้


โดย: JewNid วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:08:37 น.  

 
แวะมาอ่านต่อค่ะพี่...


โดย: แดดร่มลมโชย วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:54:15 น.  

 
อุ๊ยยย หวาดเสียวจังตาคนนี้


โดย: ยายดาค่า (ศิริรักษ์ ) วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:17:27:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lascrus13
Location :
บุรีรัมย์ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
[Add Lascrus13's blog to your web]