14 ธันวาคม 2549
...JEFFREY DAHMER...ฝันร้ายของอเมริกันชน...(7)
....ลีโอเนล ดามเมอร์ พ่อของเจฟฟรี่ได้เขียนหนังสือชื่อ A Father's Story กล่าวถึงความรู้สึกของพ่อแม่ที่พยายามอย่างดีที่สุดที่จะเลี้ยงลูกให้ได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ เจริญเติบโตและก้าวหน้าในทางที่ถูกที่ควร...แต่ความพยายามนั้นไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อพบว่าลูกที่ตนเลื้ยงมากับมือ เริ่มสร้างกำแพงล้อมรอบตนเองที่สูงขึ้นเรื่อยๆกระทั่งปิดตัวเองทุกหนทางจากคนอื่น ..พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจโชคดีที่ไม่มีลูกเป็นอย่างเจฟฟรี่ ...แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องเฝ้ามองลูกของตนเติบโตขึ้นมาแล้วจมดิ่งลงสู่หนทางแห่งความเสื่อมอย่างการติดเหล้า ติดยา หรือเข้าสู่วงจรของคนทำผิดกฏหมาย...และไม่ว่าคนที่เป็นพ่อแม่จะพยายามมากเพียงไรก็ไม่สามารถขัดขวางทางที่ลูกของตนเลือกได้..." มันเป็นภาพที่เศร้าสลดสำหรับผู้เป็นพ่อแม่...ความรู้สึกที่ว่านี้ยากจะอธิบายเมื่อเห็นลูกหลุดลงไปจนตัวเองไม่สามารถเอื้อมไปดึงกลับมาได้คืน...ลูกที่เคยเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ ใช้ชีวิตที่ไร้ทิศทาง ..หลุดลอยไปไกลขึ้นทุกที" .....ในหนังสือเล่มนี้ ลีโอเนลยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เจฟฟรี่เป็นอย่างนี้ อาจเนื่องจากเบื้องหลังของครอบครัวด้วย..แม่ของเจฟฟรี่มีพ่อที่ติดเหล้าอย่างหนักซึ่งทำให้มีผลกระทบทางด้านจิตใจมาถึงการดำเนินชีวิตของลูกและหลาน ...นอกจากนี้จอยซ์ผู้เป็นแม่ยังมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง เจ็บออดๆแอดๆอยู่เสมอ...ข้างฝ่ายลีโอเนลเองซึ่งเป็นนักเคมีก็หมกมุ่นอยู่แต่กับงานและการทำปริญญาเอกเฉพาะทางจนไม่มีเวลาให้กับลูกเมีย... ชีวิตครอบครัวจึงลงเอยด้วยการหย่าร้างเมื่อเจฟฟรี่ อายุได้สิบแปดปี ..แต่ปัญหาดังกล่าวไม่น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งต้องกลายเป็นฆาตกรร้ายและชื่นชอบการร่วมรักกับศพ...ปัญหาทางจิตที่ซับซ้อน มีความเป็นมาที่ต่อเนื่องยาวนาน... ....เจฟฟรี่ ดามเมอร์ เกิดที่เมือง มิลวอร์คกี้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 1960 บิดามารดาคือ ลีโอเนล กับ จอยซ์ ดามเมอร์... เขาเป็นลูกคนแรกที่เกิดขึ้นมาจากความรักความต้องการของพ่อแม่...ได้รับความรักและเอาใจใส่อย่างดี..เมื่อแรกเกิดสมบูรณ์แข็งแรงทุกอย่างและเมื่ออยู่ในวัยหัดเดินและคลาน เขาก็เหมือนทารกทั่วไปที่ร่าเริง ชอบเล่นกับตุ๊กตาสัตว์และตัวต่อชนิดต่างๆ...นอกจากนี้เขายังมีสัตว์เลี้ยงเป็นสุนัขที่รักมากชื่อฟริสกี้ .... เจฟฟรี่เป็นเด็กที่อ่อนโยนเหมือนเด็กปกติทั่วไป..ลีโอเนล จำได้ว่าลูกชายของตนมีความสุขที่สุดก็เมื่อครั้งที่เขาทั้งสองได้ช่วยรักษานกที่บาดเจ็บจนแข็งแรง..." ผมประคองนกไว้ในมือ และค่อยๆยกมือปล่อยให้มันโบกบินเป็นอิสระ ดวงตาของเจฟฟรี่เบิกกว้างและยิ้มด้วยความยินดี"...ลีโอเนลและครอบครัวย้ายจาก มิลวอร์คกี้ไปยัง ไอโอวา เพื่อที่ตัวของลีโอเนลจะได้เรียนต่อในระดับปริญญาเอก ...เมื่อเจฟฟรี่ อายุได้สี่ขวบ พ่อของเขาได้เขี่ยซากสัตว์และกระดูกออกมาจากบริเวณบ้าน...ทันทีที่เห็นและได้ยินเสียงกระดูกกระทบกัน ลีโอเนลสังเกตเห็นว่าเจฟฟรี่แสดงอาการตื่นเต้นมากกว่าปกติ...ตรงเข้าไปใช้มือน้อยๆของตนคุ้ยเขี่ยเศษกองกระดูกเหล่านั้นอย่างสนใจ...เป็นความทรงจำของผู้เป็นพ่อที่นึกย้อนหลังและเริ่มเห็นเงามืดอีกด้านที่ก่อตัวในจิตใจของลูกตนเองอย่างช้าๆ ...เจฟฟรี่ต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกเมื่ออายุ หกขวบ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องไส้เลื่อน..หลังการผ่าตัดเขาดูเงียบขรึมเปลี่ยนไป ชอบนั่งเงียบๆเป็นเวลานาน...ใบหน้าไร้ความรู้สึก แทบจะไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ...ระยะนั้นลีโอเนลเรียนจบและได้งานทำที่รัฐโอไฮโอ...จอยซ์ตั้งท้องลูกคนที่สอง และเจฟฟรี่เริ่มเข้าเรียนเกรด 1 ...จากเด็กน้อยที่เคยร่าเริงสดใส..แทนที่ด้วยเด็กชายที่มีแต่ความหวาดกลัวในการพบปะอยู่ร่วมกับคนอื่น..เจฟฟรี่กลายเป็นเด็กขี้อาย ไม่มีความมั่นใจในตัวเองแทบจะไม่ยอมคุยกับใครเลย...การต้องไปโรงเรียนเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับเขา...แสดงให้เห็นถึงการไม่สามารถยอมรับและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ...ลีโอเนลคิดว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกชาย เป็นเรื่องปกติที่มีสาเหตุจากการต้องย้ายที่อยู่ใหม่ และตัวของลีโอเนลเองเมื่อยังเด็กก็ขี้อายมากเช่นกัน ..เขาจึงคิดว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้นได้เองเมื่อเจฟฟรี่เติบโตรู้เดียงสามากขึ้น...สิ่งที่ลีโอเนลไม่รู้ก็คือเจฟฟรี่เริ่มมีปัญหาจากการแยกตัวออกจากคนอื่นมากกว่าที่เขาคิด ...ในเดือนเมษายน 1967 ลีโอเนลและครอบครัวซื้อบ้านหลังใหม่ ลงหลักปักฐานเป็นการถาวร...เจฟฟรี่ดูเหมือนจะมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น มีเพื่อนสนิทที่ถูกคอกันชื่อ ลี...นอกจากนี้เจฟฟรี่ยังชื่นชอบครูคนหนึ่งมาก ถึงขนาดที่ว่าจับลูกกบใส่กระป๋องเอาไปฝากครูคนนั้นเป็นกรณีพิเศษ...เจฟฟรี่มารู้ภายหลังว่าครูที่ตนเองชอบ เอาลูกกบที่ให้ไปให้ลีเพื่อนของตนอีกทอดหนึ่ง...เขาแอบเข้าไปในโรงรถที่ลีเก็บลูกกบไว้และใช้น้ำมันเครื่องราดจนลูกกบเหล่านั้นตาย ...เวลาผ่านไป เจฟฟรี่ยิ่งโตก็ยิ่งเก็บตัวมากขึ้น ไม่ชอบสุงสิงกับใครเกินความจำเป็น...หากต้องปฏิสันถารกับคนอื่นจะมีอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด...เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ดูทีวีอยู่ในห้องส่วนตัวเพียงลำพัง นั่งนิ่งเงียบหน้าตาปราศจากความรู้สึกใดๆ...เพื่อนคนเดียวที่มีก็ย้ายจากไปเมื่อเขาิอายุได้สิบห้าปี ....ลีโอเนลพึ่งมารู้ในศาลภายหลังว่าระยะเวลานั้น เจฟฟรี่จะพกถุงพลาสติกเที่ยวตามเก็บซากสัตว์ที่ถูกรถชนตายตามถนน เอามาถลกหนังแยกชิ้นส่วนดูด้วยความสนใจ..และเคยเอาไม้เสียบหัวสุนัขมาตั้งไว้...ต่างจากในวัยเด็กที่เขาเคยรักสุนัขและแมว...สิ่งที่ดึงดูดใจของเจฟฟรี่ก็คือร่างที่เป็นซากหลังความตาย
Create Date : 14 ธันวาคม 2549
8 comments
Last Update : 14 ธันวาคม 2549 23:44:46 น.
Counter : 807 Pageviews.
โดย: เทียมฟ้า** (benjarong9 ) 15 ธันวาคม 2549 0:09:13 น.
โดย: โจเซฟิน 15 ธันวาคม 2549 4:54:36 น.
โดย: ฟอ รอ ฟัน..โช๊ะๆ IP: 58.8.12.117 15 ธันวาคม 2549 15:43:46 น.
โดย: โจเซฟิน 15 ธันวาคม 2549 16:52:40 น.
Lascrus13
<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร
ผมโชคดีมากครับ ที่เกิดมาในสังคมแบบชนบท เป็นคนไทย
มาอ่านได้สาระมาเลยครับ