18 ธันวาคม 2549
.......JEFFREY DAHMER...ฝันร้ายของอเมริกันชน..(9)
....เจฟฟรี่ไม่ได้สนใจคำแนะนำจากทนายส่วนตัวเท่าไหร่นัก เขายืนยันที่จะต่อสู้คดีด้วยการยอมรับผิด ภายใต้ข้ออ้างว่าวิกลจริต...แทนที่จะพยายามแก้ต่างว่าลูกความของตนไ่ม่ได้ทำความผิด ทนายเจอรัลด์ บอยล์ กลับต้องพิสูจน์และโน้มน้าวให้กระบวนศาลสถิตยุติธรรมเชื่อว่า เจฟฟรี่ ดามเมอร์ กระทำทุกอย่างลงไปด้วยอาการของคนที่สติไม่สมประกอบ เพราะมีแต่คนเช่นนี้เท่านั้นที่สามารถกระทำเรื่องสยองขวัญดังกล่าวได้ ....ขณะเดียวกัน ไมค์ แม็คเคน ทนายของฝ่ายโจทก์ ก็ต้องพยายามพิสูจน์ให้ได้เช่นกันว่า เจฟฟรี่ ดามเมอร์ ไม่ได้วิกลจริตตามกฏหมาย แต่เจฟฟรี่รู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิดแต่ยังทำอยู่นั่นเอง เพราะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมเลวร้ายโดยสันดานและลงมือฆ่าเหยื่อแต่ละรายอย่างเลือดเย็น ....คณะลูกขุนที่เข้าร่วมพิจารณาคดี.. คัดเลือกมาจากคนทุกชนชั้นและอาชีพ โดยมีทนายความของทั้งสองฝ่ายร่วมกันเลือกเฟ้นตัวอย่างละเอียดลออ มีข้อแม้หลักก็คือต้องไม่เป็นบุคคลที่มีอคติหรือต่อต้านรสนิยมทางเพศของกลุ่มโฮโมเซ็กส์ช่วล และต้องมีพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยาอยู่บ้าง ....การนำเสนอพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายในศาล รายละเอียดส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กส์ก่อนความตาย, ระหว่างใกล้ตาย และหลังจากที่เหยื่อสิ้นใจตายไปแล้ว..ดังนั้นผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกจึงได้รับการเตือนให้ทราบก่อนว่าอาจได้ยิน ได้เห็น ในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นในโลกแห่งความจริง ....วันที่ 29 มกราคม 1992 การคัดเลือกคณะลูกขุนและตัวสำรองอีกสองคนได้เสร็จสิ้นลง..มีคนผิวดำเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับเลือกเข้าร่วมกลุ่ม ก่อให้เกิดการประท้วงกันขึ้นจากญาติของผู้เสียชีวิต เพราะนอกจากจะได้รับรู้เรื่องที่เกล็นด้า คลีเวนแลนด์ ถูกตำรวจเมินเฉยเมื่อเธอพยายามช่วยคุณารักษ์ แล้ว ...เหยื่อที่ถูกฆาตกรรมส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ ..คณะลูกขุนที่ประกอบไปด้วยชายผิวขาวหกคน, หญิงผิวขาวอีกเจ็ดคน จึงสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจเรื่องความยุติธรรมที่คนต่างสีผิวจะได้รับ... ....การสู้คดีในศาลเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ และหลักฐานสำคัญๆ ที่ต่างงัดขึ้นมาประกอบการนำเสนอให้คณะลูกขุนพิจารณา..ทนายความของเจฟฟรี่ย้ำอยู่เสมอว่าพฤติกรรมทางเพศและความผิดปกติทางจิตทำให้เจฟฟรี่ไม่เข้าใจสิ่งที่ตนเองทำลงไป...ดังนั้นคณะลูกขุนต้องคิดให้ดีว่า คนที่ทำลงไปโดยสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์นั้นวิกลจริตหรือชั่วร้าย? ....ทนายความฝ่ายโจทก์ได้ขอเบิกตัวตำรวจฝ่ายสอบสวนมาให้การเป็นพยาน...หนึ่งในสำนวนการสอบสวนระบุชัดจากปากคำของเจฟฟรี่เองว่า " มันเป็นเรื่องยากสำหรับผม ที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมรู้ตัวว่าตนเองกำลังทำอะไร " เขายังอ้างด้วยว่า ความกลัวที่จะถูกจับได้ มีน้อยกว่าความตื่นเต้นของการได้เป็นผู้ที่ควบคุมชีวิตคนอื่นอย่างสิ้นเชิง ....การนำเสนอว่าเจฟฟรี่ วิกลจริตหรือไม่และรายละเอียดทางจิตวิทยาที่แต่ละฝ่ายนำมาใช้ ทำให้คณะลูกขุน สับสนงุนงงไม่น้อย แต่ในที่สุดหลังจากกระบวนการต่างๆผ่านไป...คำตัดสินคดีของเจฟฟรี่ ดามเมอร์ก็ออกมาว่า ...เจฟฟรี่ ดามเมอร์ ไม่สมควรจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในโรงพยาบาลโรคจิต แต่ควรที่จะไปอยู่ในคุกที่คุมขังแทน...ตลอดข้อกล่าวหาที่รวมทั้งสิ้นสิบห้ากระทง ศาลตัดสินชี้ขาดว่า เจฟฟรี่ ดามเมอร์ ไม่ใช่คนวิกลจริต ...รู้ความต่างระหว่างผิดถูก ชั่ว ดี โดยตลอด...ระยะเวลาที่เขาต้องชดใช้ในคุกทั้งหมดรวมกันคือ 957 ปี ...หลายๆคนอาจคิดว่าความยุติธรรมได้ทำหน้าที่ตามความต้องการของคนส่วนใหญ่แล้ว....แต่ฉากสุดท้ายของเจฟฟรี่ ดามเมอร์ ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้..
Create Date : 18 ธันวาคม 2549
6 comments
Last Update : 18 ธันวาคม 2549 11:52:37 น.
Counter : 1053 Pageviews.
โดย: โจเซฟิน 18 ธันวาคม 2549 13:12:20 น.
โดย: ฟ้าคำรน ฝนคำราม!!! (ฟ้าคงสั่งมา ) 18 ธันวาคม 2549 13:57:43 น.
โดย: ปลาทอง9 18 ธันวาคม 2549 16:41:07 น.
โดย: PANDIN 19 ธันวาคม 2549 10:34:48 น.
Lascrus13
<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร