5 ธันวาคม 2549
....ปริศนาการตายของสาวงามยั่วสวาท...มาริลีน มอนโร...( The dumb blonde who knew too much)...บทสุดท้าย
Hollywood is a place where they'll pay you a thousand dollars for a kiss and fifty cents for your soul. Marilyn Monroe- .....ถึงแม้หลายๆคนเชื่อว่านี่คือการฆาตกรรม มีข้อบ่งชี้ที่หากสืบสาวลงไปจริงๆอาจพบคำตอบที่สงสัย แต่ทางผู้มีอำนาจตามกฏหมายก็ไม่ได้ให้ความสนใจที่จะทำอะไรมากไปกว่านั้น สิ่งหนึ่งที่ควรจะติดตามนำมาพิสูจน์ได้ทั้งๆที่มีผู้ให้เบาะแส ก็คือเทปบันทึกเสียงในวันเกิดเหตุ แต่ทุกอย่างยังถูกเพิกเฉยไม่เปลี่ยนแปลง ..บางคนเชื่อว่าการตายของมาริลีนอาจไม่ใช่ฝีมือของโรเบิร์ต เคเนดี้ แต่เป็นฝีมือของมาเฟียใหญ่จากชิคาโก ที่ลงมือปิดปากมาริลีนตามคำขอของ จอห์น เอฟ เคเนดี้ โดยแลกเปลี่ยนด้วยข้อตกลงบางอย่าง ไม่ใช่เรื่องแปลกในแวดวงของฮอลลีวู้ด ที่เต็มไปด้วยมายาและอิทธิพลมืดซึ่งอยู่เบื้องหลังความงดงามที่ฉาบฉวย ...แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าโรเบิร์ตผู้เป็นน้องชายของท่านประธานาธิบดีนั้น ขับเคี่ยวอย่างรุนแรงกับกลุ่มมาเฟีย...จึงอาจเป็นไปได้เช่นกันที่การฆ่าชู้รักของพี่น้องเคเนดี้ครั้งนี้คือการหักเหลี่ยมเย้ยหยันแผนการที่คนทั้งสองคิดจะโค่นล้มอิทธิพลมืด โดยเป็นการฉวยโอกาสป้ายความผิดให้โรเบิร์ตที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์อย่างประจวบเหมาะ และต้องตกกระไดพลอยโจน ทำลายล้างหลักฐานทุกอย่างที่จะโยงมาถึงตนและพี่ชาย ...การตายของมาริลีนดูจะยังมืดมนต่อไปเช่นเดียวกับคดีลอบสังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี้...ข้อมูลจากพยานคนหนึ่งที่น่าสนใจคือ ได้มีนักข่าวโทรไปหา หมอกรีนสัน จิตแพทย์ส่วนตัวของมาริลีน และเป็นผู้ที่อยู่กับศพของมาริลีนในคืนเกิดเหตุ...เมื่อถูกรุกต้อนด้วยคำถามมากเข้า หมอกรีนสันระบายความอัดอั้นตันใจออกมาว่า.." ผมไม่สามารถที่จะชี้แจงหรือปกป้องตัวเองโดยเลี่ยงการเปิดเผยในสิ่งที่ไม่ควรพูดได้...การต้องตกอยู่ในฐานะแบบนี้ไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าผมชี้แจงเรื่องทั้งหมดไม่ได้จริงๆ....แต่ถ้าพวกคุณอยากรู้...ไปคุยกับโรเบิร์ต เคเนดี้ เอาเอง" ....เป็นการคุยทางโทรศัพท์ที่ถูกอัดเทปบันทึกเสียงไว้โดยนักข่าวผู้โทรไปสัมภาษณ์....ปัจจุบันไม่มีใครสามารถตามไปสัมภาษณ์ผู้แสดงนำในละครชีวิตฉากสุดท้ายครั้งนั้นได้อีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะเป็นโรเบิร์ต, หมอกรีนสัน, ปีเตอร์ ลอฟอร์ด และคนอื่นๆ ต่างก็เสียชีวิตไปหมดแล้วต่างกรรมต่างวาระกันไป แต่ยังมีความหวังกันว่าสักวันหนึ่งผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และรู้ความจริงเรื่องนี้จะออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน. ...และยังมีความเป็นไปได้ที่วาระสุดท้ายของมาริลีนจะถูกบันทึกไว้ในเทป.. วันใดวันหนึ่งอาจปรากฏขึ้นมาอีกครั้งเช่นเดียวกันกับไดอารี่สีแดงที่สาบสูญไป...ถ้าบันทึกเล่มนั้นยังไม่ถูกทำลาย ถึงแม้จะพิสูจน์สาเหตุการตายไม่ได้แต่สิ่งที่เป็นข้อมูลในสมุดเล่มนั้นคงจะบอกกล่าวอะไรหลายๆอย่างได้เช่นกัน. ...กุญแจดอกสำคัญที่จะพิสูจน์ได้ว่ามาริลีนถูกฆาตกรรมจริงหรือไม่อีกประการหนึ่งคือผลการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์จากศพ แต่น่าเสียดายที่หลักฐานที่ถูกเก็บไว้ส่วนหนึ่งได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว คำถามที่ว่าเธอตายอย่างไรและเพราะอะไร...คำตอบอาจซ่อนอยู่ในเทปลับ และในความคิดของฆาตกรตัวจริงรวมทั้งผู้ที่ร่วมมือด้วยก็ได้...เรื่องราวจากชีวิตจริงของมาริลีน มอนโร เป็นตัวอย่างของการเล่นกับไฟ..ที่สุดท้าย ไฟซึ่งร้อนแรงนั้นก็แผดเผาคนเข้าใกล้จนวอดวายเป็นจุล. ...ระหว่างความว้าเหว่ทางใจ...ต้องการจะเป็นและมีในสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต...บางทีการเข้าใกล้กองไฟโดยสมัครใจจึงเป็นหนทางซึ่งหลายๆคนพร้อมจะเสี่ยงชีวิตเข้าไป ...แม้จะรู้ว่าไม่มีโอกาสรอดออกมาก็ตาม..
Create Date : 05 ธันวาคม 2549
11 comments
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 0:20:07 น.
Counter : 3352 Pageviews.
โดย: Nok (nokjeffus ) 5 ธันวาคม 2549 1:22:45 น.
โดย: เฮีย...... IP: 58.147.112.221 5 ธันวาคม 2549 5:13:04 น.
โดย: (นู๋โนริ) IP: 210.250.81.215 5 ธันวาคม 2549 8:49:45 น.
โดย: ดนย์ 5 ธันวาคม 2549 13:49:32 น.
โดย: โจเซฟิน 6 ธันวาคม 2549 9:09:37 น.
โดย: โจเซฟิน 6 ธันวาคม 2549 18:10:12 น.
Lascrus13
<Notre Dame de Paris - Belle
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร