Group Blog All Blog
|
FIGHT FOR 4>WEEK 3 Day 16<ตอน ทบทวนเป้าหมาย ประกาศเป้าหมาย ขั้นที่ 1 : 55 กก ขั้นที่ 2 : 53 กก ขั้นที่ 3 : 50 กก ขั้นที่ 4 : 47 กก ขั้นที่ 5 : 45 กก การขับถ่าย : เรียบร้อยค่ะ การดื่มน้ำ : ประมาณ 1.5 ลิตร อาหาร มื้อเช้า : โยเกิร์ต 0% 1 ถ้วย + แกงจืดผักรวมเต้าหู้ไก่สับ 1 ถ้วย + แก้วมังกร มื้อว่างสาย : องุ่นไร้เมล็ด มื้อกลางวัน : แกงจืดผักรวมเต้าหู้ไก่สับ 1 ถ้วย + แก้วมังกร มื้อว่างบ่าย : องุ่นไร้เมล็ด มื้อเย็น : โยเกิร์ต 0% 1 ถ้วย + แกงจืดผักรวมเต้าหู้ไก่สับ 1 ถ้วย ออกกำลังกาย งดออกกำลังกาย ประเมินผลวันนี้ วันนี้เป็นการปรับสมดุลจากเมื่อวานที่กินไม่คิดลงโทษตัวเองด้วยการต้มจืดขนาดเท่าหม้อหุงข้าวแล้วแบ่งกินเป็นสามมื้อทั้งวันและกินแค่ผลไม้กับโยเกิร์ต รู้สึกได้เลยว่ากินแบบนี้แล้วตัวเบาหวิว และท้องไส้ครืดคราดๆ ผายลมตลอดทั้งวัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร วันนี้ต้องบอกเลยว่าการที่น้ำหนักเด้งกลับมาสู้เลขเจ็ดอีกครั้งทำให้ต้องกลับมาทบทวนและถามใจตัวเองว่า นี่เธอต้องการจะลดน้ำหนักจริงๆ รึป่าว ถ้าเธอต้องการลดทำไมไม่จริงจังกับตัวเองสักที ถ้าเธอจริงจังกับชีวิตการกินร่างกายมันก็จะจริงจังกับเธอ จนได้คำตอบกลับมาว่า "ฉันท้อ ฉันทำไม่ได้" และแล้วก็ตอบสวนตัวเองกลับไปว่า "ถ้าคนอื่นๆ ทำได้เธอก็ต้องทำได้ เค้าลดกันตั้งเป็นกี่สิบโล เธอถือว่าจิ๊บจ๊อยมากเลย เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้แล้วจะไปทำอะไรกิน ฮะะะ!!" ประโยคสุดท้ายที่พูดกับตัวเอง โอ้ยเจ็บ!! ที่ผ่านมาไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยถ้าเป็นเรื่องที่ต้องชนะใจตัวเอง เช่น ทำงานพาร์ทไทม์ แต่ไม่นับเรื่องการเรียนเพราะถือว่ามีสภาพแวดล้อมบังคับเรา ไม่เคยมีความอดทนเลย เพราะฉะนั้นจะขอทำสำเร็จสักเรื่องหนึ่งเถอะ ให้มีอะไรได้ภาคภูมิใจกะเค้าบ้าง ถึงแม้จะอายตัวเองอีกครั้งที่ต้องพูดคำว่า "เริ่มต้นใหม่" แต่มันจะน่าอายยิ่งกว่าถ้าหากยอมปล่อยให้ตัวเองล้มเลิกความตั้งใจ วางแผนพรุ่งนี้ ตอนนี้ยังไม่มีแผนอะไรในหัว ช่วงวันหยุดถึงวันจันทร์นี้ก็ขอกินอาหารที่เป็นประเภทต้มๆ หรือไม่ก็เกาเหลาอย่างวันนี้ไปก่อน อาหารว่างระหว่างมื้อจะกินผลไม้หรือไม่ก็โยเกิร์ต พอคิดที่จะเริ่มใหม่ทีไรก็จะกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดในอนาคตทุกทีสิน่ะอย่างเช่นว่าคิดว่าจะกินแบบนี้แต่กลัวว่าวันที่มีเรียนจะทำไม่ได้กลัวจะหลุด ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำในทุกนาทีคือ ต้องคอยเตือนตัวเองให้อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติและทำวันนี้ให้ดีที่สุด สิ่งที่ได้เรียนรู้ อย่าท้อจ้า แต่ก็อย่าบีบคั้นตัวเองมากจนรู้สึกไม่มีความสุขล่ะ เจ้เคยเป็นมาแล้ว ตอนที่รู้ตัวใหม่ ๆ ว่าเรากลายเป็นคนอ้วนแล้ว ตอนที่เห็นตัวเองในกระจกใหม่ ๆ เห็นภาพที่ต่างไปจากเดิม ตอนั้นมองเงาในกระจกว่าเป็นคนแปลกหน้า โทษตัวเองที่ทำร้ายตัวเองจนกลายเป็นแบบนั้น แต่สุดท้าย..เมื่อคิดได้ เจ้ก็คิดได้ว่า เราเกลียดตัวเองไม่ลงหรอก และเราก็จะไม่ยอมทำร้ายตัวเองต่อไปแน่ ๆ เจ้อยากจะทำทุกอย่างให้ตัวเองมีความสุข ส่วนการเป็นคนผอม และเป็นคนที่ดูดี มันเป็นเป้าหมายรอง สู้ต่อจ้า ถ้าใจยังสู้ ถ้าไม่ไหวก็ไปชาร์ตแบตซักพัก แล้วกลับมาทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ สิ่งที่เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำ แปลว่าเราคิดบวกลบคูณหารมาดีแล้ว ดังนั้นอย่าลังเล Just do it และ enjoy life จ้า
ว่าแต่ว่า ไปซื้อ heart rate monitor มาหรือยางงงงงง โดย: Kika_ii วันที่: 18 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:02:52 น.
|
JETiiZ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog
Link |
สู้ สู้ นะคะ พี่จุ๋มเอาใจช่วยอยู่ค่ะ