O - M - A - D ลดอาการหมกมุ่น ความสุขเพิ่มได้ ด้วยการตั้งเงื่อนไขกับอะไรๆให้น้อยลง  ตั้งแต่หลังปีใหม่มา . . อีหนอนมารขาวกับหนอนมารดำ มันก็สู้กันอยู่นั่นแหละ สู้แบบ งงๆ ไม่รู้สู้เพราะอะไร ไม่มี Topic ส่วนอีเจ้าของบล็อก มันก็ทำมึนๆไม่สนใจ ก็ปล่อยให้มันสู้กันไป แล้วก็มาสนุกกับการกินแทน ช่ายยยยย อ่าน-ไม่-ผิด 5555555+ ตอนนี้อีนี่ Happy กับอาหารเผ่ามาก ก็คือ ตั้งแต่หัวหน้าเผ่าปลดล็อก ของกินหลายอย่าง ทั้งผัก ผลไม้ โกโก้ เนี่ยะ อีนี่ไม่เคยตกเทรนเลยจร้า ไปเสาะหาซื้อมา หาในตลาดไม่ได้ก็ไปหาใน App ส้ม จากนั้นก็เอฟๆๆๆ แล้วมันก็หาทำ หากินไปหมด ทำโยเกิร์ตกรีกเผ่า ทำซอสชีสนั่นนี่ Happy เกิ๊นนนน . . กินไปกินมา มันรู้สึกเหมือนไปโฟกัสกับตัวเลข ในตราชั่งมากเกินไป หมกมุ่นอ่ะ วันๆ ต้องมานั่งดูว่า วันที่ไม่กิน กล้ามเนื้อหายไป แล้ววันที่กินกล้ามเนื้อเป็นไง แล้วมันตลกตรงที่ วันที่ไม่กินกล้ามเนื้อดันเพิ่ม ส่วนวันที่กินกล้ามเนื้อดันหาย ปวดกะบาล เนี่ยะ เลยรู้สึกว่าตัวเองจะหมกมุ่นเกินไป เดี๋ยวคอติซอลจะหลั่งแล้ว แทนที่จะดี เดี๋ยวมันจะกลับตะละปัดเอา เลยกะว่า Week นี้จะไม่ทำ IF ละ หมายถึง ไม่ทำ Alternate-Day Fasting ละ เพราะขี้เกียจ ขึ้นตาชั่ง เลยกะว่าจะกลับมาทำ OMAD สักระยะ แบบไม่ต้องนับเวลาอะไร วันนึงกินมื้อเดียว แค่กินโปรตีนให้ถึง นอนให้พอ นน.ไม่ชั่ง โฟกัสแค่นี้พอ วันนี้เลยเริ่มกิน One meal a day วันที่ 1 นะ ทำไปเรื่อยๆ ก่อนถ้ามัน หายกดดันตัวเองแล้ว ค่อยมาปรับ IF กันอีกที . . ที่ตลกคือวันก่อน . . มีพี่ที่ทำงานคนนึงมาถามว่า . .  หนอนๆ คือ เผ่าที่หนอนว่าเข้าเผ่า มันคือเผ่าอะไรหรอ พี่ลองไปหาใน Google หาไม่เจอเลย เรานี่ขำกร๊ากกกกกก มันจะไปเจอได้ยังไง ก็ไอเผ่าที่เราเรียกๆ เนี่ยะ เราไม่ได้เอาจากไหน เราตั้งขึ้นมาเอง เป็นความเข้าใจของเราเองว่า ถ้าอีนี่จะคุมอาหารนะ จะใช้คำว่าเข้าเผ่า เวลาใครเรียกกินอะไร ก็จะบอกว่าไม่ไปนะคะพี่ น้องเข้าเผ่าอยู่ เค้าจะได้เข้าใจว่ากินกะเขาไม่ได้ ต้องกินอาหาร ที่ทำกินเองเท่านั้น . . ซึ่งความจริงไม่ใช่กินนอกบ้านไม่ได้ มันกินได้หมดและ ถ้าอาหารเข้าตามโจทย์ที่ตั้งไว้คือ ไม่ผงชูรส ไม่น้ำตาล ไม่น้ำมันพืชปรุงแต่งบลาๆ แต่ . . มันหาไม่ได้ไง มันจะไปสั่งเข้าทำแบบที่เราตั้งใจจะกินไม่ได้ มันก็เลยต้องทำกินเอง นี่บางคนก็ทำเหมือนเราเข้าลัทธิอะไรสักอย่างไปแล้ว ลัทธิอดอาหาร ลัทธิไม่กินแป้ง ไม่กินน้ำตาล คนน๊อวววววว มันก็ไม่รู้ดิ คือ ถ้าเรามีทางที่ง่ายในการรักษาตัวเอง แล้วววว เราจะเลือกเดินในทางที่มันยากทำไม . . แล้วมีบางคนบอกว่า กินคีโตฯ ไม่ดีนะ อย่าทำบลาๆ . . คือ เอาแค่กินคีโตฯ ก่อน เข้าใจกันมั่วไปหมด มันมีที่ไหนกัน อาหารคีโตฯ กินอาหารคีโต แล้วจะผอม อันนั้น ก็มั่วไปอีก อาหารก็คืออาหารเหมือนๆ กันนั่นแหละ เพียงแต่พอเราตัดแป้ง ตัดน้ำตาล แล้วอินซูลินต่ำ ร่างกายมันก็จะ สลับโหมดจากกินน้ำตาลเป็นพลังงาน เปลี่ยนไปใช้ไขมันแทน ตับจะเอาไขมันมาย่อยออกมาเป็นคีโตนส่งให้เซล์ต่างๆ ส่งให้สมอง เอาไปใช้งานแทนน้ำตาล ซึ่งไอ้ที่ร่างกายอยู่ในคีโตซีสที่ว่าเนี่ยะ คนเขาก็เลยเรียกว่ากินแบบนี้ ว่าเป็นการกินคีโตฯ ไง ส่วนทำไม เราต้องหยุดกินเป็นช่วงเวลา นั่นก็เพราะเราต้องการปล่อยให้ร่างกาย มันสลายไขมันเก่าออกไปไง มันเป็นกระบวนการทางชีววิทยาของร่างกาย แบบ Basic เลย แบบคนปกติที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคทางระบบเผาผลาญ ก็ทำแบบนี้ได้ พระที่ฉันมื้อเดียว ช่วงไม่กิน เค้าก็เอาไขมันมาใช้ ได้เหมือนกันกับที่เราทำนี่แหละ . . แต่ . . มันก็มีคนที่ไม่เข้าใจ บางคนบอกกินคีโตฯ แล้วเอาแต่ กินขนมคีโตทั้งวัน มันก็เหมือนคุณกินถั่วทั้งวันนั้นแหละ คาร์บเกินไม่พอ ท้องอืดด้วย ไหนจะสารให้ความหวานที่ให้ ต่อมรับรส รวนไปอีก เขาถึงบอกไง เราจะทำอะไรกับร่างกาย ของเราเองมันต้องศึกษาก่อน ถ้าทำไปมั่วๆ ร่างกายก็พัง อีกทั้ง เมื่อลดมื้ออาหารลงแล้ว อาหารที่เลือกกินจะต้องมี สารอาหารถึงด้วย โปรตีนต้องเพียงพอ ถ้าได้รับโปรตีนต่อวันไม่พอ กล้ามเนื้อก็จะหายได้ คราวนี้ จะไม่เรียกว่าหายจากโรคแล้วนะ มันจะกลายเป็น "หายนะ" มากกว่า ซึ่งในปัจจุบันนี้ มันก็มีหลายแบบมาก บางคนกินโลวคาร์บ บางคนกิน Canivore บางคนกิน วีแกน กินคีโตเจนิก บลาๆ มันอยู่ที่เราจะเลือกกินอะไร ทุกอย่างมันก็ทำให้ร่างกายเข้าคีโตซีส ได้ทั้งนั้นแหละ ถ้ากินถูกหลังกจริงๆ ซึ่ง . .ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูจาก สุขภาพของร่างกายแต่ละคนด้วย อย่างเราเป็นโรค Metabolic Syndrome มีหลายโรคที่พ่างตามมา จะให้เราเอาแต่กินยาระงับอยู่ทุกวี่วันเราก็คงต้อง กินไปจนแก่นั่นแหละ แถมกินนานไปไม่รู้มันจะพ่วงโรคไตมาตอนไหนด้วย เราเลยเลือกที่จะโฟกัสที่ที่ต้นเหตุ โดยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง โรคมันเกิดการจากที่เรากินผิดใช่ไหม เราก็แก้ใหม่ เป็นกินให้ถูกซะ ทำ IF เพื่อเคลียไขมันเก่าไปเรื่อยๆ พอสามารถกู้คืนระบบเผาผลาญเราได้ อีโรคต่างๆ ที่มันพ่วงมามันก็จะหายไปได้เอง เรียกว่า . . ยิงครั้งเดียว ได้นกหลายตัวเลยซึ่ง เราว่ามันดีมาก คุ้มไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ซึ่ง . . . . มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องกินแบบนี้ไปตลอดชีวิตซะเมื่อไร พอเราหาย เราก็ค่อยๆ ปรับการกินใหม่ อาจจะกลับมากินแป้งเหมือนเดิม แต่คงไม่กินของหวาน น้ำตาลเฟอะฟะเหมือนเก่าแล้ว อะไรแบบนั้น คือ ขอแค่หายจากโรคก่อน จากนั้น ค่อยมาเลือกอีกที ว่าตัวเรา เหมาะกับการกินแบบไหน เพื่อจะรักษาสุขภาพให้มันยาวนาน ไม่กลับมาป่วยเหมือนเดิมอีก ถ้าไม่ตั้งใจ มันก็จะกลับไปเป็น เหมือนเดิม วนไป แล้วก็วนไป เราเลยตั้งใจและจริงจังมากๆ ไง เกรินมาตั้งนาน . . ความจริงมาอัพไดฯ วันนี้แค่อยากจะมา อัพเดทเรื่องเดียวเลยคือ จะหยุดกิน ADF แล้วเปลี่ยนมากิน OMAD ไปก่อนนะคะ ยังสนุกกับการกินแบบนี้อยู่ ก็เลยคิดว่า กินมื้อเดียว มันก็ดี ไม่ต้องมานั่งปั้นสามมื้อ ทำอาหารก็ง่ายด้วย ไม่ต้องไปรอคิวไมโครเวฟตอนเที่ยงด้วย อีกทั้งเรายัง Happy กับการออกไปกินชาบูแล้วขอน้ำเปล่า ใส่เครื่องต้มยำที่นำมาเองจากบ้านลงไป ปรุงรสด้วยน้ำจิ้ม น้ำปลาพริกที่เอามาเอง แบบที่เห็นเนี่ยะ แล้วถ้าเราทำแล้ว เรายังสนุกกับมัน เรายังอร่อยกับมัน ก็ทำแบบนี้ไปเถอะเนอะ เออ ตอนนี้ กินน้ำเวย์สดหลังมื้ออาหาร นี่ดีสุดจริงๆ วันไหนกินเนี่ยะ คือ วิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน ท้องนี่โล่งโปร่งสบาย ทะลุทะลวงลำไส้สุดๆ 55+ เสียอย่างเดียวคือ เรายังปรับทัศนคติแม่เราไม่ได้เล้ยยย ฮืออ คนน้ำตาลสองร้อย บอกกินยาแล้ว เลยกินขนมได้ กินไอติมยั่วเรา กินน้ำหวานด้วย ให้เปลี่ยนมากินน้ำเปล่าก็ไม่ยอม แล้วก็เป็นคนขอออกไปกินนอกบ้านเองด้วยนะ เฮ้อออ ชั้นจะทำยังไงกับแม่ฉันดีเนี่ยะ . . มันมีแต่จะต้องหาย เราจะต้องหายจากโรคนี้ก่อน นางถึงจะเข้าใจ แต่ ก็ไม่อยากจะเร่งรัดตัวเองไปมากกว่านี้แล้ว ได้แต่กระตุ้นนางทุกวัน จนตอนนี้ คือ ปลงแล้ว บอกนางไปว่า แม่กลับไปกินข้าวเหมือนเดิมเถอะ มันน่าจะดีกว่า ถ้าแม่เลิกกินข้าวแล้วเก็บกดแบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรดี แม่กินข้าวไม่ต้องเยอะก็ได้ มื้อละครึ่งทัพพีงี้ แม่จะได้กินกับอย่างอื่นได้ คือ มันกินข้าวได้นะ ข้าวไม่ได้น่ากัว มันถือว่ายังมีไฟเบอร์ แต่ช่วย เลิกกินน้ำตาลได้ไหม คนที่มีน้ำตาลในเลือด 200 ทั้งๆ ที่กินยาเนี่ยะ มันต้องไม่ควรเอานำตาลเข้าร่างเพิ่มแล้ว ลูกสาวสำนึกผิดและคิดได้แล้ว แล้วเมื่อไรแม่ฉันจะคิดได้มั่งเนี่ยะ . . ปวดหมองเลย  ส่วนนี่เป็นค่าน้ำตาลหลังอาหาร 2 ชั่วโมงค่ะ 05/01/25 บั น ทึ ก   D a i r y   โ ด ย   ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ   Create Date : 06 มกราคม 2568 12 comments Last Update : 6 มกราคม 2568 15:43:07 น. Counter : 267 Pageviews. (โหวต blog นี้)  Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณนางฟ้าฟ้าสะท้าน, คุณกะว่าก๋า, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณmultiple, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ

ประเดิมโหวตแรกของปีนี้ที่บล็อกน้องหนอน โห...เหลือมื้อเดียว สุดยอดครับ พี่ก๋าอยากกินแค่สองมื้อ แต่คค่อยๆลด ค่อยๆลอง เพราะกลับมาออกกำลังกายด้วย กลัวจะหิวตอนดึกครับ เห็นคุณแม่กินไอติม อยากกินตามเลยครับ 555   โดย: กะว่าก๋า 6 มกราคม 2568 13:22:05 น.

พี่ก๋าจะลองสองมื้อไปก่อนครับ เดี๋ยวถ้าไหว จะลองวันละมื้อดูบ้าง มื้อเดียวนี่คงต้องกินเยอะเป็นพิเศษเลย   โดย: กะว่าก๋า 6 มกราคม 2568 14:48:58 น.

ดูไม่เหมือนบล็อกคนคุมอาหารเลยนะ 555 กินวันละมื้อ แต่ปริมาณเท่ากับ 3 มื้อรวมกันหรือเปล่า ดูจะแฮปปี้กับการกินนะเนี่ย แม่ก็แฮปปี้ในแบบของแม่ ค่อยเป็นค่อยไปเนอะ ... กินอย่างมีความสุข แต่ไม่ผิดกฎเผ่า   โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 6 มกราคม 2568 15:08:58 น.

หวัดดีค่ะคุณหนอน ขอดูผลน้ำตาลค่ะ   โดย: หอมกร 6 มกราคม 2568 15:19:11 น.

เห็นตารางอาหารและหน้าตาอาหารแล้วน่ากินทุกอย่างเลยครับ 555 เอาใจช่วยเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยครับคุณหนอน ของผมนี่ออกกำลังกายเยอะ แต่กินเยอะเหมือนกัน น้ำหนักมันก็เลยทรง ๆ ตอนนี้เสื้อผ้าเริ่มจะหลวม ๆ หละ ปีนี้ว่าจะตั้งใจอย่างจริงจัง จะได้วิ่งสบายหน่อยครับ ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า 555   โดย: The Kop Civil 6 มกราคม 2568 16:17:40 น.

มาบล็อกนี้ทีไร หิวทุกทีเลยจร้าาา555 บล็อกนี้อยู่นานไม่ได้ ของกินแยะเห็นแล้วหิวววมั๊กๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเม้นท์น้า ว่าแต่ว่าน้องหนอนหนึ่ง ทำแผนที่ sk ปิ่นเกล้าให้ เฮีย ดูเสร็จหรือยังจ๊ะ แฮร่ 555   โดย: multiple 6 มกราคม 2568 18:54:43 น.

นึกถึงกินน้อยอิ่มนาน อ. ลอยด์เลยครับ เจอคนกล่าวหาว่าเป็นลัทธิสุดโต่งด้วย แกเลยแซวตัวเองซะเลยว่าเป็นลัทธิสุดโต่ง ถ้ามีเนื้อสัตว์ยังไงผมก็อยู่ไหวครับ 555 จากในบล็อกนี้คุณแม่ดูจะมีความสุขสุดนะครับ   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 6 มกราคม 2568 21:17:30 น.

ดูจากความตั้งใจแล้วนี่ ของน้องหนอนเกินร้อยเลยนะจ๊ะ ตั้งแต่การทำอาหารกินเอง ขนาดไปกินร้านยังทำน้ำซุปกินเองอีก ร้านนี่ ยิ่งชอบเลย เพราะ ถ้าไม่อร่อย ก็มาโทษร้านไม่ได้นะจ๊ะ 555 เรื่องกินผักนี่ อาจารย์เต๊ะ เล่นแต่ บล็อกโคลี่อย่างเดียว เพราะเค้าบอกว่าบำรุงตับ โปรตีนก็กินแต่ แซลม่อนกับไข่ แต่ถ้าไปกินตามร้าน ก็จะฟาดแต่เนื้ออย่างเดียวเชียว แต่ดูแล้ว ทูน่านี่ โปรตีนแยะสุดเลย เดี๋ยวต้องจัดมากินมั่งดีกว่า ส่วนเรื่องการวัดผลหลังกินนี่ ของน้องหนอนละเอียดยิบ ต้องเป็นคนไข้ดีเด่นของหมอปีนี้แน่ๆ 555 ของอาจารย์เต๊ะ ได้แต่ ชั่งน้ำหนัก กับตรวจเลือดที่แล็ปแค่นั้นเองจ้า ส่วนเรื่องคุณแม่นี่ เหมือนอาจารย์เต๊ะ เป็นเพื่อนกินได้ เพราะเป็นคนโบราณ555 ยังไงก็ต้องกินข้าว ของอาจารย์เต๊ะ กินข้าวหอมมะลิด้วยซ้ำ แต่ลดลงแค่มื้อละถ้วยน้ำพริก ถ้าไม่กินน้ำตาล กินขนม ไอติม ผลไม้ซะอย่าง ค่าเลือดยังออกมาดีเลยน้า คุณแม่น้ำตาล 200 นี่ น้องหนอนต้องพาไปตรวจตาบ้างน้า บางทีเดี๋ยวเบาหวานจะขึ้นตา รักษายากด้วยจ๊ะ วันก่อนไปงานทำบุญที่บ้าน เพื่อนบ้าน กินแต่น้ำชาไปแก้วเดียว ไม่กินอาหารบ้านงานเค้า พอกลับมาบ้าน เพื่อนบ้านรู้เข้า รีบวิ่งตามมา แถมเอาอาหารใส่กล่อง ขนมนมเนยมาให้อีกเพียบ ตอนนี้ได้แต่ยัดใส่ตู้เย็น 4ตู้ แน่นเอี๊ยดไปหมดเลยอ่า 555   โดย: multiple 7 มกราคม 2568 4:18:44 น.

อรุณสวัสดิ์ครับน้องหนอน มาดามก็เน้นให้กินโปรตีนนี่ล่ะครับ ช่วงนี้ลดแป้งและน้ำตาลครับ   โดย: กะว่าก๋า 7 มกราคม 2568 5:25:18 น.

จากบล็อก เสื้่อวิ่งผมเต็มตู้แล้วละครับ เยอะมาก ๆ มีบริจาคไปก็หลายแล้วครับ   โดย: The Kop Civil 7 มกราคม 2568 10:23:53 น.

"ใน 1 มื้อโปรตีนเท่าน้ำหนักตัว ถ้าวันไหนออกกำลังกาย เพิ่มมาอีกครึ่งถึง1 เท่า" อ่านแล้วงง ๆ ... โปรตีนเท่าน้ำหนักตัว ไม่ได้เขียนผิดใช่มั้ย หรือเราเข้าใจผิด ถ้าน้ำหนักตัว 50 โล มิต้องกินโปรตีน 50 โลเหรอ กินเข้าไปกลายเป็น 100 โล ตายพอดี 555   โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 7 มกราคม 2568 11:57:59 น.

รู้แล้ว 555 หน่วยเป็น กรัม ไม่ใช่ กิโลกรัม   โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 7 มกราคม 2568 12:48:58 น.