ตุลาคม 2566

1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เรื่องเขา..เราเล่าบ้าง..จอดรถหน้าบ้าน
เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนสี จากสีชมพูกลายเป็นสีฟ้าเหมือนเดิม ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป...😝😝😝
 
หลังจากเดินหงอยๆออกมาจากห้องบางรัก เดินไปต้มมาม่าแล้วถือไปรวมกลุ่มกับผู้คนกลุ่มหนึ่งในห้องศาลาประชาคม
 
ตักเส้นเข้าปากพลางเงี่ยหูฟังว่าเค้าคุยเรื่องอะไรกัน🍜🍜🍜
 
จับใจความได้ว่า มีคนมาเล่าด้วยความหัวเสียว่าเค้าจอดรถอยู่หน้าบ้านตัวเองแท้ๆ แต่ดันไปเดือดร้อนบ้านตรงข้าม🤔🤔
 
มาไม่ทันคนเล่า น่าจะลุกออกไปแล้ว เหลือแต่คนที่ยังอยู่ที่คุยกันอย่างออกรสออกชาด ต่างก็ตำหนิเจ้าของรถที่ทำแบบนั้น
 
นั่งฟังไป ซดน้ำร้อนๆไป เพิ่มความอร่อยให้มาม่าชามนี้ได้โขอยู่😋😋
 
แล้วก็ให้มานึกถึงเรื่องของตัวเอง
 
แน่นอนว่าการจอดรถหน้าบ้าน ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านของตัวเองก็ตาม ถ้าทำให้คนอื่นหรือเพื่อนบ้านเดือดร้อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ไม่ถูกต้องและไม่สมควร
 
เพราะพื้นที่หน้าบ้านมักจะเป็นที่สาธารณะ หรือ เป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ใครก็สามารถใช้สอยได้ ไม่สมควรยึดเป็นพื้นที่ของตน
 
อันนี้พูดตามที่เคยอ่านกระทู้ประเภทนี้มาพอสมควร ทุกครั้งก็จะมีนักกฎหมายบ้าง ผู้รู้บ้าง เข้ามาอธิบายให้ฟังแทบจะทุกกระทู้เลยมั้ง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
 
แต่ก็น่าแปลกที่ยังมีกระทู้แบบนี้ออกมาอยู่เรื่อยๆ🤔🤔
 
กลับมาเรื่องของเราบ้าง เราก็เป็นคนนึงที่จอดรถหน้าบ้านเหมือนกัน😵😵😵
 
อ่ะ..อย่าเพิ่ง รู้ว่าจะพูดอะไร...สิ่งที่จะเล่าไม่ใช่คำแก้ตัวใดๆ แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ เพราะสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
 
หมู่บ้านที่เราเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่สร้างมานานเกิน 30 ปี เข้ามาอยู่เป็นรุ่นแรกๆ เลยได้เห็นความเป็นไปและเปลี่ยนแปลงมาตลอด
 
บ้านเราเป็นทาวเฮ้าส์ในซอยย่อยที่มีบ้านรวมกัน 13 หลัง โดยหันหน้าชนกันแถวละ 6 หลัง สุดซอยเป็นบ้านเดี่ยวใช้ถนนทางออกร่วมกัน🏘🏘🏘
 
ถนนหน้าบ้านถ้าจอดรถหน้าบ้านกันทั้ง 2 ฝั่ง บ้านที่อยู่ด้านในจะเข้าออกไม่ได้เลย และตั้งแต่อยู่มาจนปัจจุบันก็ยังไม่เคยเกิดปัญหานี้..นับว่าโชคดี
 
ตอนมาอยู่ใหม่ๆ แต่ละบ้านยังไม่ค่อยมีรถกันหรอก ต่อมาอาซื้อปิ๊กอัพใช้ขายของก็จอดหน้าบ้าน บ้านฝั่งซ้ายไม่มีรถ ฝั่งขวาเค้าตีทะลุชั้นล่างเป็นที่จอดรถได้ 2 คัน เลยจอดในบ้าน..โชคดีไปอีก
 
อยู่ต่อมาอาย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านฝั่งซ้ายเปลี่ยนเจ้าของ คนใหม่ขับแท๊กซี่จอดรถหน้าบ้านตัวเอง
 
ช่วงนี้ก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างเพราะชอบจอดล้ำมาหน้าบ้านเรา เพื่อจะให้หน้าบ้านตัวเองมีทางเข้าออกสะดวก 😞😞
ถ้าล้ำมานิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก นี่เล่นล้ำมาครึ่งประตู บางทีสตาร์ทรถทิ้งไว้ กลิ่นลอยเข้าบ้านก็ทนๆกันไป😓😓
 
ทุกครั้งที่เค้าจอดล้ำมาเกือบจะปิดหน้าบ้านเรา อาเราจะออกไปบอกเค้าดีๆ ว่าให้ขยับรถหน่อย เค้าก็จะมาเลื่อนให้
 
ว่าทีนึงก็จะจอดตรงบ้านตัวเองได้พักนึง แล้วก็ค่อยๆไหลมาหน้าบ้านเราอีก เป็นแบบนี้วนไป😞😞😓😓
 
จนเราทำงานก็ไม่คิดจะซื้อรถหรอกเพราะคิดว่าไม่จำเป็น ทั้งๆที่บ้านอยู่ฝั่งธน ทำงานอยู่ย่านธุรกิจตอนนั้นอาไปขายของก็เรียกแท๊กซี่ตลอด ส่วนเรานั่งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถตู้ แท๊กซี่ สองแถว เรือ ใช้มาหมดทุกขนส่ง🚈🚌🚕🏍🛶
 
พอมีตังค์หน่อยก็ทำหลังคาหน้าบ้าน ไว้กันแดดกันฝน พอหลังคามา ก็อยากปูกระเบื้อง...อ่ะจัดไป⛏️⚒️🪚⛓️🪝🔩🗜
 
พอหลังคามา พื้นกระเบื้องมา สมบัติต่างๆ ก็ทะยอยกันมา จากเดิมที่มีแค่จักรยานกับราวตากผ้าใหญ่ ก็เริ่มมีโต๊ะม้าหิน เก้าอี้ยาวนั่งเล่น โต๊ะวางของ ชั้นวางรองเท้า และของจุกจิกจิปาถะ 
 
อ้อ..แล้วก็บรรดาขวดน้ำพลาสติก เศษกระดาษ ขวดแก้วที่เก็บไว้ขายอีก รวมๆแล้วกินพื้นที่ไปเกือบครึ่ง😓😓
 
วันเวลาผ่านไป จนเราลาออกจากงานประจำมาช่วยอาขายของ ช่วงแรกๆ ก็ยังเรียกแท๊กซี่อยู่ จับพลัดจับผลูน้องให้รถคันเก่ามาใช้🚙🚙
 
เลยได้มาหัดขับรถตอนอายุขึ้นเลข 4 โดยได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างว่า..จะขับได้เหรอ🙄🙄
 
โชคดีที่ช่วงที่ได้รถมาเป็นช่วงที่ข้างบ้านเลิกขับแท๊กซี่แล้ว ไม่งั้นจอดหน้าบ้านทั้ง 2 คัน ได้ล้ำกันไปล้ำกันมาได้มีปัญหาเข้าซักวัน
 
ปัญหานึงของบ้านทาวเฮ้าส์ส่วนใหญ่คือ หน้าบ้านกว้างไม่พอกับความยาวของรถ ถ้าเป็นรถอีโคคาร์คันเล็กๆ ก็น่าจะพอไม่ให้หัวท้ายเลยไปบ้านข้างๆได้อยู่ 
 
แต่ยังไงก็ไม่ควรจอดหน้าบ้านอยู่ดี..กำลังจะพูดแบบนี้ใช่มะ🧐🧐
 
ส่วนบ้านตรงข้าม เจ้าของปล่อยเช่าไปก่อนเราจะลาออกจากงานซะอีก และโชคดีที่คนมาเช่าไม่มีรถ
 
เลยมีบ้านเราบ้านเดียวที่จอดรถหน้าบ้าน ก็ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว จอดชิดๆหน้าบ้านและเก็บกระจกมองข้างทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกะกะกีดขวางใคร
 
เพราะการมีปัญหากับเพื่อนบ้านไม่ใช่เรื่องสนุก การอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย มีน้ำใจต่อกัน ไม่เห็นแก่ตัวเป็นสิ่งที่พึงกระทำ และพยายามไม่มีปัญหากับใคร จะได้ไม่มีเรื่องให้ปวดหัว
 
ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่แบบสงบสุขดี😇😇
 
ด้วยความที่อยู่มานาน ได้เห็นความเป็นไปของบ้านหลังอื่น ซอยอื่นมาเรื่อยๆ
 
ตั้งแต่ถนนเมนยังไม่มีรถจอด จนเริ่มมีมาจอด และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากที่พอจะขับสวนกันได้ จนตอนนี้เริ่มต้องจอดหลบให้สวนกันเป็นระยะๆแล้ว
 
สมัยที่ทำงานประจำ ใช้บริการวินมอไซค์ก็ไม่ได้สนใจว่าตรงไหนเคยมีรถจอดหรือไม่มี แต่พอมีรถเอง ขับเข้าออกทุกวันจนจำได้ละว่าตรงไหนมีรถจอด ตรงไหนเป็นช่องว่างพอให้หลบรถที่สวนมาได้
 
คิดว่าอีกไม่นานที่จะหลบกันคงน้อยลง 
 
เพราะ...คนรุ่นเด็กกว่าเรา เค้าเริ่มเข้าสู่วัยทำงานก็ซื้อรถมาใช้กันมากขึ้น บางบ้านรุ่นพ่อแม่มีคันนึง พอลูกโตงอกมาอีกคันนึง ที่สาธารณะก็ลดลงไปอีก
 
ทั้งหมดทั้งมวล ก็แค่อยากจะบอกว่า ปัญหาการจอดรถที่เราอ่านๆกัน บางทีมันก็มาจากสาเหตุแบบนี้แหละ
 
รุ่นพ่อรุ่นแม่ซื้อบ้าน ต่อเติมกันจนเต็มพื้นที่ บางที (ส่วนมาก) จะล้นมาในที่สาธารณะด้วย พอรุ่นลูกเติบโตเข้าสู่วัยทำงาน ซื้อรถก็จำต้องจอดหน้าบ้าน ไม่งั้นก็ต้องซื้อบ้านของตัวเองเพื่อแยกตัวออกไป ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
 
บ้านเราก็เหมือนกัน ถ้าจะให้ทุบหน้าบ้านเปลี่ยนใหม่ หรือขนบรรดาสมบัติเค้าทิ้ง เพื่อเอารถเข้าจอด ก็ทำไม่ได้ คงได้ทะเลาะกันบ้านแตก😱😱
 
จะให้เปลี่ยนบ้านใหม่ก็คงไม่มีปัญญาแล้ว ก็ต้องอยู่แบบนี้ต่อไป และไม่สร้างปัญหาจากการจอดรถหน้าบ้านให้ใคร ซึ่งเราว่ามันก็ไม่ได้ยาก ถ้ารู้จักประนีประนอมและพูดคุยกันด้วยเหตุผล

เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน อันไหนพอยอมได้ก็ยอมๆกันไป เพราะเราต้องอยู่ร่วมกัน เป็นมิตรกันไว้ดีกว่าสร้างศัตรูเป็นไหนๆ🤗🤗

รู้แล้วล่ะน่า..ทุกวันนี้ก็เจียมตัวจนไม่รู้จะเจียมยังไงแล้ว🥺🥺🥺
 
มาม่าหมดชามพอดี คนที่จับกลุ่มกันอยู่เมื่อกี้ต่างก็ทยอยแยกย้ายกันไปแล้ว เราก็เดินแยกออกมาเหมือนกัน😘😘
 
 
 



Create Date : 19 ตุลาคม 2566
Last Update : 19 ตุลาคม 2566 17:32:16 น.
Counter : 253 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i_mafuang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเพ้อเอาถ้วย
MY VIP Friends