กันยายน 2561

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
19 กันยายน 2561
เป็น/ไม่เป็น


วันนี้มาแนวแปลก แถมใส่กลุ่มสุขภาพด้วย จะมีสาระจริงๆ เหรอSmiley

บอกก่อน...ข้อความข้างล่างนี้ เอามาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินไม่ได้ว่าใครเข้าข่าย
หรือเป็นโรคทางจิตเวช เพราะพื้นฐานทางกายภาพและอารมณ์ของแต่ละคนไม่เหมือน
กัน เพราะฉะนั้นควรจะศึกษาจากบทความของแพทย์หรือแหล่งที่น่าเชื่อถือจะดีที่สุด



ถ้าเปิดมาแบบนี้แล้ว ก็อย่าคาดหวังอะไรมากเลย อาจจะมีติดมานิดๆ หน่อยๆ
นอกนั้นก็น้ำล้วนๆ Smiley คิดซะว่า เพื่อนเล่าให้ฟังละกัน Smiley

เริ่มเถอะ....วันก่อน มีกระทู้แนะนำ ขึ้นหน้าฟรีดเฟซบุ๊ค ที่เจ้าของกระทู้สอบถาม
เรื่องการไปพบหมอจิตเวช
ในฐานะคนที่มีประสบการณ์ตรง เลยอยากมาเล่าในส่วนของตัวเองให้ฟังบ้าง

....แล้วทำไม ไม่ไปเล่าในกระทู้นั้นล่ะ Smiley
คำตอบคือ มันจะยาวไป (และไม่มีสาระ) และอยากเล่าในส่วนอื่นๆ ด้วย....เริ่มได้ยัง Smiley

ก่อนจะไปถึงโรงพยาบาล มักมีคำถามยอดฮิต ที่เกิดขึ้นก่อนแบบที่ทำให้รู้สึกสับสน
ว่า มันถึงกับจะต้องไปโรงพยาบาลเลยมั๊ย หรือ เอ๊ะ เรานี่เข้าข่ายต้องไปพบหมอรึเปล่า Smiley

(เห็นมั๊ยว่าน้ำมันเยอะ) เพราะเราก็เคยสับสนกับความคิดนี้มาก่อน ว่าตกลงฉันเป็นอะไร
กันแน่
แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะเธอ.... Smiley

เราอาจจะเข้าไม่ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของผู้ป่วย โรคซึมเศร้านะ แต่เชื่อเถอะ เราพอรู้
บ้าง แม้ว่ามันจะแค่เบาบาง แต่เราจำได้ไม่ลืม... Smiley

คนเรา เวลามีความเศร้า มันจะรู้สึกได้ลึก หรือมากขนาดไหน หรือว่ามันจะกินระยะ
เวลานานเท่าไหร่ อยู่ที่ความรู้สึกยับยั้งของแต่ละคน อันนี้อยู่ที่ภูมิคุ้มกันส่วนตัว

บางคนอาจจะเศร้าแค่ไม่กี่วัน หรือบางคนเป็นเดือน แต่ถ้าเวลาผ่านไป แล้วสามารถ
กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ก็ไม่เป็นไร

แต่บางคนจมอยู่ในความเศร้านั้นนานและมากเกินไป จนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลง
ไป และคงรู้นะ ว่าเปลี่ยนแปลงในทางไหน

ถ้ารู้สึกว่า ชีวิตมันมีแต่ความทุกข์ อารมณ์มันหม่นหมอง จมอยู่กับความคิดที่เป็นลบ
อยู่ตลอดเวลา เป็นเวลานานติดต่อกัน อยากลองให้แก้ไข ปรับเปลี่ยนความคิดและชีวิต
ประจำวันดูก่อน มันอาจไม่ใช่ภาวะซึมเศร้าอย่างที่กังวล

แต่ถ้าหากมันไม่มีอารมณ์อยากจะทำอะไรเลย แล้วความรู้สึกหม่นหมองนั้นยังคงอยู่
ก็ควรจะไปพบจิตแพทย์ดู Smiley

เพราะโรคนี้ ถ้าความเศร้ามันเดินทางมาจนถึงจุดหนึ่ง จุดที่ร้ายแรงที่สุด นั่นก็คือ
ความคิดที่อยากจะตาย และนำไปสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด Smiley

แล้วตกลงต้องไป หรือไม่ต้องไป ยังคงสับสนต่อไป....โถ Smiley

พล่ามมาขนาดนี้... คือ ในความรู้สึกเรานะความรู้สึกเศร้าปกติกับเศร้าของโรค
ซึมเศร้าเนี่ย ถ้าคนที่เป็นและเข้าใจในโรคแล้วน่าจะแยกออกได้ไม่ยาก แต่สำหรับคนที่
ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหรือเปล่าคงไม่เข้าใจ Smiley มันก็แหงสิเธอ Smiley

เอางี้...ถ้ามันกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ทำงานไม่ได้
ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน อยากอยู่แต่ในห้อง นั่งเฉยๆ ไม่มีกะจิตกะใจอยากทำอะไร
ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม โลกจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย ฟ้าจะร้อง น้ำจะท่วม ไม่สนทั้งนั้น
หรือที่ชัดเจนที่สุดคือ มีความคิดอยากตาย นั่นแหละ ไปพบแพทย์ซะ Smiley

อันนี้ไม่ได้ประชดนะ จริงๆแล้ว อาการของโรคซึมเศร้าเนี่ย หาได้ในกูเกิ้ลเลย มี
เยอะแยะมากมาย จากบทความของจิตแพทย์เอง และจากเรื่องเล่าของผู้ป่วย แต่ขอให้
ขยับมาเปิดหาอ่านเถอะ ถ้าเข้าข่าย หรือว่า มีเกณฑ์จะเป็นอย่างนั้นก็ลองไปพบแพทย์
ดู ไม่เสียหายอะไร (แต่เสียตังค์) เพราะบางทีอาการที่เราเป็น ความรู้สึกที่เป็นมันอาจ
ไม่ใช่โรคทางจิต อาจจะแค่ช่วงนั้นมีเรื่องให้คิดมากไปหน่อย อันนี้ หมอเค้าจะบอกให้เอง
ว่าเป็นหรือไม่เป็น....จบนะ Smiley

เขียนมายืดยาว ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์มั๊ย แต่อยากให้คิดสักนิดนึงก่อน ถ้าเป็น
หรือสงสัยว่าจะเป็น ควรจะไปพบแพทย์ อย่าจมอยู่ในที่มืดนั้นคนเดียว ก้าวออกมาจาก
เงามืดนั้นเถอะ แล้วไปหาหมอรักษา โรคนี้รักษาได้ เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างมี
ความสุขเหมือนเดิมได้ โลกนี้ยังมีสิ่งสวยงามรออยู่ (โลกสวยอีกละ)

เอาน่ะ...เอาใจช่วย








Create Date : 19 กันยายน 2561
Last Update : 19 กันยายน 2561 22:33:15 น.
Counter : 660 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i_mafuang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเพ้อเอาถ้วย
MY VIP Friends