มิถุนายน 2566

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
ไปปฏิบัติธรรม ep.3 ไปอยู่วัดสบายจะตาย..จิงดิ
ก่อนจะเข้าหัวข้อ ขอเกริ่นก่อนนิดนึง (แน่นะ😅) เพื่อทำความเข้าใจว่าในแต่ละวัดนั้นอาจมีแนวทางการปฎิบัติ วิธีการ ขั้นตอน กิจวัตร แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้น การบอกเล่าของเราก็ไม่ได้หมายรวมถึงว่าทุกวัดจะต้องเป็นแบบนี้ แบบนั้นควร แบบนี้ผิด แบบนั้นทำไม่ได้....อ่านด้วยใจเปิดกว้างสักหน่อยแล้วกัน😊😊
 
ป่ะ..มาดูกันว่าอยู่วัดสบายจะตายจริงดิ😉😉
 
ขอแบ่งเป็น 2 ฝั่งละกัน คือฝั่งพระสงฆ์ กับฝั่งผู้ปฎิบัติธรรม เราก็ไม่ได้เป็นผู้รู้บทบัญญัติหรือนักปฎิบัติระดับฌาณอะไร ขอเล่าแบบที่เห็นด้วยตาเนื้อธรรมดานี่ล่ะ
 
เริ่มฝั่งพระสงฆ์ก่อน...ที่ได้เจอทุกวันในการไปปฎิบัติก็คือพระอาจารย์ ซึ่งแต่ละรอบการปฎิบัติ 7 วันจะมีพระอาจารย์ประจำรอบนั้นๆ 1 รูป ซึ่งพระอาจารย์จะเป็นผู้มาสอนและนำการปฎิบัติทุกวัน รวมถึงการสอบอารมณ์ตอบข้อซักถาม ถ้าผู้ปฎิบัติมีอะไรติดขัดด้วย 😇😇
 
นอกจากพระอาจารย์ 1 รูปแล้ว ยังมีพระผู้ช่วยอีก 2-3 รูป ที่ติดตามมาด้วย ส่วนตัวคิดว่าอาจมาช่วยสอน มาดูวิธีการสอน หรืออาจจะเพื่อไม่ให้เกิดการครหาระหว่างผู้ปฎิบัติ (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง) กับพระอาจารย์ ถ้ามีพระอาจารย์รูปเดียวอาจดูไม่เหมาะสม อันนี้ความคิดส่วนตัว
 
สำหรับวัดนี้ เค้าจะมีตารางแจ้งไว้เลยว่าเดือนนี้ รอบปฏิบัติวันที่นี้ พระอาจารย์รูปใดเป็นผู้สอนวิปัสสนา 
 
 
ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า สวดมนตร์ ปฎิบัติ กินอาหารเช้า ปฎิบัติต่อ กินอาหารเที่ยง ปฎิบัติต่อรอบบ่าย จนถึงตอนเย็น พระอาจารย์ก็จะอยู่ด้วยเกือบตลอด บางทีก็จะร่วมปฏิบัติไปกับพวกเราด้วย จนถึงตอนค่ำ ปฏิบัติรอบสุดท้าย ถ้าใครปฏิบัติแล้วติดขัด เกิดปัญหา หลับตาแล้วเห็นนู่นนี่ พระอาจารย์ก็จะช่วยอธิบายแล้วแนะแนวทางแก้ไขให้😇😇
 
สำหรับอาหารทั้ง 2 มื้อของพระอาจารย์และพระผู้ติดตามจะมีเด็กวัดคอยจัดหาและนำสำรับมาถวาย มื้อเช้าตรู่ก็จะเป็นข้าวต้มเหมือนผู้ปฎิบัติ ส่วนมื้อเพลบางวันก็เป็นกับข้าว 2-3 อย่าง คิดว่าอาจเป็นญาติโยมนำมาถวาย แต่บางวันก็มาเป็นแบบแกงถุง และขนมหวานสารพัดอย่างที่ชอบใส่บาตรกัน บางทีท่านยังส่งต่อมาให้ผู้ปฎิบัติที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ให้ไปแบ่งกันกิน😋😋
 
ได้รับรู้ความรู้สึกของพระสงฆ์เวลาฉันภัตตาหารต่อหน้าญาติโยมก็คราวนี้ เพราะพระอาจารย์และพระติดตามจะฉันภัตตาหารในห้องพร้อมกับผู้ปฎิบัติเลย ท่านจะนั่งบนอาสนะ ส่วนพวกเราก็นั่งประจันหน้ากับพระ เวลาทานอาหารก็ออกไปตักแล้วกลับมานั่งเรียงเป็นแถวเหมือนเดิม
 
ไม่ได้มานั่งล้อมวงเหมือนงานบุญ กินใครกินมันไม่มีการคุยกัน เราก็ก้มหน้าก้มตากิน ด้วยจานอาหารเป็นแบบถาดหลุม เวลาช้อนกระทบถาดก็จะเสียงดัง ทำให้ต้องคอยระวังมากขึ้น🍱🍱
 
ทั้งรู้สึกแปลกที่ต้องมานั่งกินข้าวต่อหน้าพระ ไหนจะต้องระวังเสียงช้อนส้อมกระทบถาดไม่ให้โครมคราม แล้วยังการนั่งกินกับพื้นที่ไม่ค่อยถนัดอีก เป็นการกินที่มีความเพลิดเพลินน้อยมาก😶😶
 
สมกับคำปฎิญาณก่อนรับประทานว่า เราจะบริโภคอาหารเพื่อบำรุงสังขารนี้ จะไม่ให้เป็นไปเพื่อความเพลิดเพลิน....😑😑
 
สำหรับอาหารการกินของที่นี่ สำหรับเราถือว่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว ถ้าเทียบกับที่เคยไปปฎิบัติที่อื่น อาหารของผู้ปฏิบัติจะมีแม่ครัวเป็นคนหุงหาให้ กับข้าวจะมีประมาณ 2-3 อย่าง ก็จะเป็นประเภทต้มจืด แกง ผัดผัก ไปอยู่ 3 วันได้กิน แกงส้ม ต้มจับฉ่าย ผัดกระเพรา ไม่เจอแกงกะทิเลย คิดว่าเค้าคงไม่ทำ เพื่อสุขภาพของผู้ปฎิบัติ จะเน้นไปทางผัก แต่รสชาดอร่อย แถมมีผลไม้ให้ล้างปากด้วยทุกมื้อ🥦🥬🫑🥒🍅🍊🍉🍌🍍
 
มีอยู่วันนึง ไม่รู้ว่าแม่ครัวกะปริมาณผิด หรือพวกเราใช้ลมปราณกันไปเยอะ วันนั้นเป็นต้มยำปลากับผัดผัก เราผู้อยู่เกือบท้ายแถว ตักปลาชิ้นเขื่องมา 1ชิ้นกับผัดผักก้นถาดมาหน่อยนึง มองไปด้านหลังเหลืออีก 3 คน คงได้กับข้าวไปคนละนิดละหน่อย
 
แล้ววันนั้นมีสตอเบอร์รี่เป็นผลไม้เสริม กับขนมเปี๊ยไข่เค็ม 🍓🍓🍓
 
ใจฟูมากตอนเห็นขนมเปี๊ย เพราะกำลังโหยขนมหวานเลย ส่วนสตอเบอร์รี่ ได้แต่มองตามคนอื่นหยิบ มีไม่พอถึงหางแถว😶😶
 
แค่ขนมเปี๊ยก้อนเดียว (อร่อยมาก) ก็มีแรงใจปฎิบัติต่อได้ทั้งวันแล้ว😉😉
 
ณ ที่แห่งนี้ยังไม่สิ้นคนมีน้ำใจ พอกลับมานั่งที่เดิม คนข้างๆคงเห็นว่าในถาดเรามันช่างแห้งแล้งทั้งกับข้าวและขนม เลยจะแบ่งขนมมาให้ แต่เราปฏิเสธไป เค้าเลยเปลี่ยนไปหยิบสตอเบอร์รี่มาให้แทน คราวนี้เราไม่ปฏิเสธ เอ้ย ปฏิเสธสิ เห็นในถาดเค้าก็มีแค่ 2-3 ลูก แต่เค้าคะยั้นคะยอให้รับไว้ก็ไม่อยากให้เค้าเสียน้ำใจ เลยได้สตอเบอร์รี่มาเพิ่มแรงใจอีกนิดนึง😃😃
 
มาดูที่หลับที่นอนบ้าง ที่นี่ห้องพักจะถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆ น้อยๆ หลายห้อง ห้องที่เรานอนน่าจะนอนได้ประมาณ 12 คนแบบเว้นระยะห่าง แต่วันที่เราไปก็ยังพอมีที่ว่างเหลืออยู่
 
แต่การรักษาศีล 8 จะมีข้อห้ามไม่ให้นอนบนที่นอนนิ่มๆ เครื่องนอน จึงมีแค่ผ้าปูรองพื้น หมอน และผ้าห่ม แต่เค้าก็มีปลอกหมอนให้นะ
 
แล้วภายในห้องยังติดแอร์+พัดลมอีก รู้สึกว่าค่อนข้างสบายเลยทีเดียวถ้าเทียบกับที่อื่นที่เคยไปมา
 
ส่วนห้องน้ำ ถึงจะมีน้อยแต่ก็นับว่าเพียงพอสำหรับผู้มาปฏิบัติ ถ้าผลัดกันใช้
 
โดยรวมค่อนข้างสบายเลยแหละสำหรับการกินการอยู่ แถมห้องที่ปฏิบัติก็ติดแอร์ ก็สบายไปอีก
 
แต่ด้วยความเป็นคนธรรมดาอ่ะเนอะ ต่อให้สบายแค่ไหน แต่ความอยากมันก็มีไม่สิ้นสุดอยู่ดี
 
อยากกินนั่น นี่ ในตอนนั้น ตอนนี้ อยากพัก อยากนอน อยากเล่นโทรศัพท์ ตลอดเวลา
 
ทั้งพระและฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรม ต่างจึงต้องฝึกฝนในความอยากให้มีแค่พอประมาณ ให้มีแค่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพื่อลดกิเลสตัณหาต่างๆ ให้เบาบางลง😇😇
 
ในส่วนของพระ ท่านมีบทบัญญัติที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าควรปฎิบัติอย่างไร ด้วยศีล 227 ข้อ ตามหลักศาสนา😇😇
 
ส่วนผู้ปฏิบัติ หากเราจะมาหาความสบาย แนะนำว่าให้ปฏิบัติอยู่บ้านน่าจะสบายสุด
จากที่เล่ามา เมื่อสถานที่ และความเป็นอยู่สะดวกสบายเพียงพอแล้ว ก็ทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความราบรื่น เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ผู้ปฏิบัติจะพากเพียรเอาเอง😇😇
 
 
ep.หน้าจะมาเก็บตกเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ แต่คาดว่าจะยาวกว่า ep.นี้แน่นอน😆😆
 
ไม่รู้เขียนอะไรนักหนาเนอะ🥴🥴🥴
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 



Create Date : 27 มิถุนายน 2566
Last Update : 27 มิถุนายน 2566 23:04:26 น.
Counter : 391 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**

  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 29 มิถุนายน 2566 เวลา:14:36:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i_mafuang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเพ้อเอาถ้วย
MY VIP Friends