กับความหวังของคนอยากมีบ้าน
หลังจากที่ลงเรื่องบ้านไว้ ร่วมๆปีก็หายยยยยย....ไปเพื่อค้นหาบ้านในฝันความจริงก็ไม่อยากจะพรรณาอะไรอีก เพราะกลัวว่าถ้าหวังมากก็ทุกข์เยอะแต่ว่า....สุดท้ายก็อยากจะเขียนไว้เป็นบันทึกเล็กๆ เผื่อว่าใครจะเป็นแบบเราจะได้มีกำลังใจหาบ้านกันต่อเริ่มจากวัชและคุณสามี เราทั้งสองมีอาชีพเป็นฟรีเลนซ์ทำงานด้านโฆษณากันทั้งคู่ รายได้ส่วนใหญ่ก็จะมาจากค่าตัวและมีการหักภาษีเมื่อรับเงินไม่มีความมั่นคงทางรายได้ จึงทำให้เราทั้งคู่ถอดใจเรื่องกู้แบงค์ตลอดแต่เดชะบุญวัชมีคุณน้าสาว ที่รักและหวังดีคอยกระตุ้นให้เรามีกิเลสในความยาก ท่านค่อยหาบ้านที่ขายแล้วส่งมาทางเมล์อยู่ร่วมๆปีแต่ก็ไม่ถูกใจคนเรื่องมากอย่าง 2 สามีภรรยา ก็เลยหากันเองอีกทางช่วงเวลาที่หาบ้าน อยากบอกว่ามันนานแสนนาน และคนเบี้ยน้อยอย่างเราทั้ง 2 ก็มีความต้องการที่ส่วนทางกับความเป็นจริง คืออยากได้บ้านที่มีเนื้อที่ และราคาไม่แพง แล้วก็อยู่ในเมือง เห็นมั้ยว่ามันส่วนทางจริงๆเรานั่งหน้าจอคอมทุกวันที่มีโอกาส เปิดดูโฆษณาบ้านมือสองในเวปที่ดูแล้วก็ดูอีก เบื่อ ท้อ เมื่อไรก็พักหายแล้วเราก็เริ่มใหม่ เราจะบอกตัวเองเสมอ " อย่าท้อนะ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่เวลาของเราคนอื่นทำได้เราก็ทำได้ " ถึงจะช้าไปนิด 5555 เราจะท้อมากๆเวลาที่เรียกคุณสามีมาดู รายละเอียดบ้านที่ลงไว้แล้วเขาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ จะมีแรงตึงเครียดทันที เพราะเราเองก็เหนื่อย และเซงเอามากๆ ยิ่งมาเจอแบบนี้เลยพลอยแย่ไปด้วย แต่เราก็พยามตลอดที่จะพูดจาให้กำลังใจเขา ว่ายังไม่ทันไรจะท้อแล้วรึ ไม่ลองดูก่อนเรอ ที่พี่เขาไม่กล้าคิดก็อย่างที่บอกไปตอนต้น แล้ววันที่ฟ้าเป็นใจก็มาถึง เมื่อไม่กี่วันเราเองเปิดเวปขายบ้าน ก็โทรไปถามตามเคยพี่ที่รับสายปลายทาง ชื่อคุณปุ่น น้ำเสียงเป็นมิตรดี ก็ถามๆๆๆๆแล้วก็ถามจนนัดดูบ้าน ครั้งแรกสุดท้ายก็ต้องเลื่อน แต่พี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะติดงานพอไม่กี่วันงานเราเลื่อนอีกเลย โทรไปหาพี่ปุ่นนอีกว่าอยากไปดูบ้านวันเสาร์ที่ 18 กรกฎา นี้ จะได้มั้ยค่ะพี่เขาก็ดีมากๆไม่ว่าไม่บ่นแต่หัวเราะซะงั้น ที่แกหัวเราเพราะเราเองก็กราบขอโทษแก อย่างแรงยังกะเราง้อเขางัยแต่เขาซะอีกที่ต้องง้อเรางัย เราเองก็ต้องเอางานไว้ก่อนอะนะ หนังเราถ่าย 3 วันถึงวันจันทร์ที่ 20 แต่เราก็นัดพี่เขาช่วงบ่ายวันจันทร์ รีบสุดชีวิตทุกอย่างเพราะกลัวจะไม่ทันนัดกลับถึงบ้านก็รีบกินข้าวกกลางวันแล้วก็ออกเดินทางไปดูบ้านกันเลย ไปกันโดยรู้แค่ว่า หมู่บ้านอะไร ซอยอะไร แต่ไม่รู้บ้านเลขที่ ก็ไปกันซะงั้นเดาๆเอาว่างั้น ก็ไปหากันจนเจอ ไปถึงพอดีรั้วบ้านไม่ได้ล็อคคุณสามี เลยเดินเข้าไปเฉยเลย บ้านค่อนข้างเก่านะ แต่ปรับปรุงซ่อมแซมสักหน่อยก็พออยู่ได้ด้วยความที่เราดูบ้านจนเป็นอาชีพเลยมองหาเยื่อที่จะถามข้อมูล ก็มองเห็นคุณป้าบ้านตรงข้าม นั่งทานข้าวอยู่เลยเดินไปถามแกว่า" เจ้าของบ้านนี้ไม่อยู่บ้านนี้นานหรือยังค่ะ " แกก็บอกว่า " เนี่ยอยู่บ้านติดกับป้านี้เอง" แจ็คพ็อตสิเรา เลยเดินไปก้มๆเงยๆตะโกนถามเข้าไปว่า มีใครอยู่มั้ยค่ะ ก็มีเสียงเจ้าของบ้านตอบกลับมา ภาพที่ฉันเห็นคือชายที่ดูสูงอายุแต่สุขภาพดีมากๆ ผิวพรรณขาว ผมหงอกทั้งหัว เสียงหนุ่มมาก แล้วพี่เขาก็พาชมบ้าน แล้วเราทั้งสามก็พูดคุยกันเกี่ยวกับบ้าน วัชกะสามีเป้นคนไม่มีฟอรม์เท่าไร มีไรก็บอกหมดยืนคุยกันอยู่นานจนพี่เขาเริ่มถูกคอ ชวนไปนั่งคุยที่บ้านเขา แล้วก็รอพี่ปุ่นโป๊กเกอร์มาเพื่อ คุยรายละเอียด แต่แปลกพี่เจ้าของบ้านคุยง่ายมากๆต่อราคาบ้านแกก็ให้ ไม่ว่าไรไม่เอามัดจำ แต่ให้เราลองยืนกู้ดูก่อนมันดูเหมือนเราจะมีหวังขึ้นใช่มะ แต่เราก็ไม่กล้าหวังมาก เพียงแต่คิดว่านี้เขาเปิดโอกาศให้เรามากๆเลยนะเนี่ย ถ้าเราไม่ลองดูแล้วจะรู้มั้ยว่ามันคือประสบการณ์ในการ รวบรวมข้อมูลการเงินของเรากู้แบงค์ความจริงเราเองก็ไม่กล้าคิดมาก เพราะถ้ากู้ได้แต่ไม่มีเงินซ่อมมันก็แย่เราเพิ่งส่งเอกสารไปเมื่อเย็นวันที่ 21 กรกฎา นี้ .......อย่างที่บอกไม่กล้าคาดหวังเยอะ แค่อยากบอกความรู้สึกที่มีให้คนอีกหลายคนที่กำลังเป็นแบบเรา ได้แชร์ความรู้สึกกันไป
อย่าเพิ่งท้อนะค่ะ