ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 1 ... "ช่อคราม"









บทที่ 1

...เมื่อความรักบังเกิดขึ้น
และเมื่อหัวใจโลดลิ่วโบกบินไป ก็ยากจะมีสิ่งใดทัดทาน....


เสียงสัญญาณไฟเบื้องหน้าเตือนให้รัดเข็มขัด เภตรากัดริมฝีปากตัวเองหลับตาแน่นรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองเต้นดังไปตามเสียงสัญญาณ...

ไม่เอาน่า...เธอตัดสินใจแล้ว จนมานั่งอยู่บนเครื่องบินแล้วนี่นา แค่อีกเพียงไม่กี่อึดใจของอีกหลายชั่วโมงข้างหน้านี้ เธอก็จะได้พบผู้ชายอันเป็นที่รัก

ผู้ชายที่เธอมอบความรู้สึก ความรัก และหัวใจของเธอไป ความรักแบบที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะบังเกิดขึ้นกับตัวเธอ…

“เมษ...จะตื่นเต้นอย่างที่เราตื่นเต้นแบบนี้มั้ยหนอ” หญิงสาวพยายามคิดไปถึงคนที่อยู่ปลายฟ้าอีกฟากหนึ่ง คนที่เธอกำลังจะบินไปให้ประหลาดใจ

แต่แล้วจู่ ๆ เสียงของอันย่าเพื่อนสนิทที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ของเธอโวยลั่นแทรกผ่านความรู้สึกอันสวยงาม...

“หา!!! … อะไรนะเธอทำเรื่องขอย้ายไปสาขาเมืองไทยเหรอ? อย่าบอกนะเพราะหนุ่มไทยคนนั้น...เภตราถามจริง ๆ นี่เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า!!??

แล้วเธอบ้าหรือเปล่าละนี่!!??...

เภตราพยายามตั้งคำถามกับตัวเอง แต่เหตุการณ์เมื่อเดือนก่อนที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เธอไม่เคยมีความรักมาก่อน สมัยเรียนตอนเด็กเธอก็เคยมีคนรักนี่นาไม่ว่า อีริค หรือโจนาธาน แต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็ช่างแตกต่างกับความรู้สึกที่มีต่อเมษา มันเบาบาง หวือหวาด้วยอารมณ์ของเด็ก ๆ และจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่หนักแน่น จริงจัง รุนแรง และเต็มไปด้วยความปรารถนาที่แผดเผาเธอมาตลอด 1 เดือนตั้งแต่เมษากลับไป...

“ถ้าผมมีโอกาส ผมต้องบินกลับไปหาคุณแน่นอน ผมอยากให้คุณรู้ว่า ผมคิดถึงมากแค่ไหน” เมษามักลงท้ายแบบนี้ทุกครั้งที่ได้คุยโทรศัพท์ทางไกลกัน หรือลงท้ายอีเมล ให้เธอต้องคลุ้มคลั่งอ่านมันแล้วอ่านมันอีก จนจำได้ขึ้นใจ ราวกับเขามาพูดต่อหน้าเธอ...



“เธอนี่เป็นเอามากนะเภตรา เธอเจอหมอนั่นแค่ไม่กี่อาทิตย์ รู้จักเขาดีแค่ไหนกัน ดูเหมือนเธอจะตกหลุมรักเขาหัวปักหัวปำ ใช้สมองอันชาญฉลาดของเธอคิด คิด...คิดแบบทนายหน่อยสิ!”

เฮ้อ!! คำพูดของอันย่ายังตามแทรกมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะใช้สมองซีกซ้าย หรือซีกขวา ให้เธอใช้เหตุผล เอาข้อมูลมากมายมากองตรงหน้า เธอก็มั่นใจว่า เมษาต้องเป็นเนื้อคู่ของเธอ ไม่เช่นนั้นคนที่อยู่ห่างไกลกันคนละฟากฟ้าคงจะไม่มาได้พบ ได้ใกล้ชิด ได้สนิทสนมกันรวดเร็วอย่างนี้...

มันน่าจะเป็นความรักจริงจัง รักแท้แน่นอน เภตราบอกตัวเอง อย่างน้อยมันก็ต่างจากความรักสมัยเด็ก ๆ มากมาย เธอไม่เห็นจะรู้สึกเหมือนอย่างที่รู้สึกกับเมษาแม้แต่น้อย จะว่าไปแล้วมันเริ่มต้นและหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอยังไม่ค่อยแน่ใจเสียด้วยซ้ำ...

บางทีความรักแบบนี้ อาจเป็นรักแท้ก็ได้นะ....

รักแท้แรกพบมันมีจริง ๆ นะ...
เธออยากตะโกนให้ก้องเครื่องบิน เภตรารู้ตัวดีว่า เธอผูกพันกับเมษาตั้งแต่วันที่สบตากันครั้งแรก

วันที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาเป็นเอเชีย ขาวใส กับชายสูงอายุสองคนเดินเข้ามา ขณะที่เธอ และจัสตินเพื่อนร่วมงานนั่งรอพร้อมกับลูกความอยู่ในห้องประชุม และเมื่อได้จับมือทักทายกัน โลกทั้งโลกก็เหมือนวิ่งผ่านไปรอบ ๆ ตัวเธอด้วยความรวดเร็ว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเหมือนคนที่จากกันไปนานแสนนานที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง...

“ไนน์ ไนน์!!...ไม่มีทางเภตรา ฉันพนันได้ ขอยืนยันในฐานะผู้ชาย มันไม่มีหรอกไอ้วูบวาบ หวือหวาขนาดนี้แล้วจะกลายเป็นรักแท้จริงจัง” เสียงของสเตฟานเพื่อนสนิทตั้งแต่เล็กอีกคนหนึ่งของเธอแทรกความทรงจำอันสวยงามของเธอ…

สเตฟานเอ๋ย....ทำเป็นผู้เชี่ยวชาญความรัก อย่างกับนายรู้จักสัมผัสเจอรักแท้มาแล้วอย่างนั้นแหละ!!

“แล้วรักแท้เป็นอย่างไร!!?? ต้องค่อย ๆ ผูก ค่อย ๆ พัน รอดูใจกันเป็นสิบ ๆ ปี อย่างนั้นหรือ” เภตราจำได้ว่าโต้กลับสเตฟานไปแบบนั้น นั่นสินะ! ความรักมันไม่ได้มีรูปแบบเหมือนกันไปทุกคนทุกคู่เสียที่ไหน ใครจะรู้ดีว่าความรักเป็นอย่างไร นอกจากตัวของเราที่รู้สึกได้เอง...

แต่ก็นั่นแหละ ความรักแท้จริง ๆ มันเป็นอย่างนี้หรือเปล่าหนอ.....
อย่าง 3 อาทิตย์ที่เมษาอยู่ในแฟรงก์เฟิร์ตเพื่อถ่ายทำโฆษณา และประชุมรวมกิจการเข้ากับ ออตโตไฮน์เอเย่นซี่ บริษัทโฆษณาที่เธอเป็นตัวแทนดูแลการควบกิจการในขณะนี้ มันก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนวิเศษไม่ว่าการเดินทางท่องเที่ยวรอบ ๆ เมือง ในช่วงเวลาที่เขาว่างจากงาน ปิกนิกมื้อกลางวันที่แสนมหัศจรรย์ หรือดินเนอร์ทุกค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติก ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเมษา และเมษามีให้กับเธอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตรงนี้ต่างหากที่ผูกพัน และหลอมหลวมดวงใจให้เขาและเธอเป็นหนึ่งเดียวกัน...

“คุณเป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์ที่สุด... ไม่ใช่แค่สวย ร่าเริง สดใส แต่เก่งทั้งเรื่องงาน และยังสามารถเอาหัวใจของผมไปได้อย่างง่ายดาย ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกรู้จักเลยทีเดียว...ผมอยากบอกว่าผมรักคุณเข้าแล้ว”

เภตรายังจำคำสารภาพรักของเมษา พร้อมด้วยจุมพิตที่หวานละมุน ขณะที่เธอมาส่งเขาที่โรงแรมของค่ำคืนอันแสนโรแมนติกก่อนวันที่เขาจะเดินทางกลับ

“มันเหมือนช่วงเวลาที่แสนสั้น แต่ผมก็รู้สึกว่าเหมือนมันนานนับปี”
และเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเขา...

“โปรดเก็บรักษาหัวใจของผมให้ดีเท่าที่ผมจะดูแลรักษาหัวใจของคุณ... แล้วผมจะกลับมา” และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่สนามบิน ขณะที่หัวใจของเธอโบยบินไปพร้อมกับเขาเรียบร้อย...



แค่คิดถึงวันและคืนที่ผ่านมากับเมษาก็ทำให้หน้าของเธอแดงซ่าน อิ่มเอิบในหัวใจ จนแทบลืมไปว่าเครื่องบินเริ่มรักษาระดับบนท้องฟ้าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน... อีกเดี๋ยวนะหัวใจ อีกเดี๋ยวเธอก็จะได้เจอเขาแล้ว เภตรายิ้มอย่างมีความสุข ด้วยดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยความรัก คิดแค่นี้ก็ทำให้หัวใจพองโตราวกับลูกบอลลูนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ผ่านเหล่าก้อนเมฆสีขาวอันแสนนุ่มนวลที่เธอเห็นอยู่เบื้องหน้า...


“ไม่ได้หรอก...ทนายมือเก่ง ๆ ด้านการเงินทางนี้มีน้อย คุณก็รู้ ... เอาเป็นว่าให้คุณไปดูงานทางโน้น 2 ปีแล้วกันนะ...อย่างน้อยผมก็เชื่อว่ายังไงคุณก็ยังทำงานข้ามทวีปได้อยู่ดี”

เภตราสะดุ้งตื่นหลังจากเผลองีบไป เสียงคุ้น ๆ ของเจ้านายเหมือนยังดังก้องอยู่ น่าเสียดายที่แฮร์โรแบร์อนุญาตให้เธอย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองไทย 2 ปี โดยไม่ยอมให้เธอขอลาออกและย้ายไปอยู่เมืองไทยถาวรก็ตาม แต่เอาเถอะ สองปีก็ยังดี ก็มากพอที่เธอจะสานสัมพันธ์กับเมษา คิด ๆ ไป หากเมษาขอเธอแต่งงาน แฮร์โรแบร์ก็ต้องอนุญาตให้เธอประจำอยู่ที่เมืองไทยอย่างถาวร แล้วเรื่องงานบินไปบินมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

และเธอก็เชื่อว่า แฮร์โรแบร์คงไม่ปล่อยให้ฝ่ายกฎหมายธุรกิจการเงินของ โทมัสแอนด์เจมส์ ลอว์เฟิร์ม สำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ สาขาแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมัน ต้องขาดทนายมือดีไปแน่ ๆ ตัวเขาหรือสำนักงานใหญ่ที่อเมริกาก็คงต้องหา หรือส่งทนายใหม่ ๆ เข้ามาประจำสำนักงานอย่างแน่นอน

แต่อีกอย่างหากเธอเพ้อฝันลากยาวไปไกลว่า...เมษาอยากให้เธอเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเฉย ๆ เลี้ยงลูกล่ะ แฮร์โรแบร์ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้ว...

นั่นล่ะ 2 ปีก็ยังดีกว่าไม่ได้มาเลย เธอไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองต้องระทมตรอมใจด้วยความคิดถึงอย่าง 1 เดือนที่ผ่านมาอีกแล้ว ให้ตายเถอะ!! 1 เดือนที่ผ่านมานับจากที่เมษาจากไป ช่างไม่ต่างกับนรกที่เธอไม่เคยสัมผัส เธอไม่เคยคิดถึงใครทุรนทุรายทุกลมหายใจเข้าออก มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ต่างจากความคิดถึงเมื่อมีความรักครั้งเก่า ๆ หรือแม้ว่าพ่อกับแม่ก็เถอะ
แม้จะโทรศัพท์คุยกันทุกคืน จนบิลค่าโทรศัพท์ยาวเหยียด มันมากกว่าเธอโทรไปหาพ่อกับแม่ในเรือ หรือคุณปู่คุณย่าที่อิตาลีก็ตาม ทั้งสมาธิในการทำงานของเธอก็ถดถอยลง จนเธอรู้ตัวดีว่า หากเธอปล่อยให้ความรักของเธอเป็นความสัมพันธ์แบบทางไกลอยู่อย่างนี้ คงทำให้เธอต้องเสียทั้งงาน เสียทั้งสติอย่างแน่นอน...

เมื่อสมองทำงาน สิ่งที่เธอกำลังหาคือหลักฐาน และข้อพิสูจน์ จะมีอะไรดีเท่ากับการหาเรื่องย้ายไปอยู่เมืองไทย ได้ใกล้ชิดกับเขา เพื่อได้เห็นนิสัยใจคอเมษามากขึ้น...


“คิดใหม่อีกทีมั้ย? เภตรา...” อันย่ายังคงพยายามโน้มน้าวใจเธออีกครั้ง แม้จะนาทีสุดท้ายก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่องก็ตาม ใช่! อีกครั้งที่ไม่รวมกับอีกหลาย ๆ ครั้ง และแทบทุก ๆ ครึ่งวัน นับตั้งแต่เมื่ออันย่ารู้ว่าเธอตั้งใจจะเดินทางไปเมืองไทย

“อันย่า... เธออยากเห็นฉันเสียสติ เป็นบ้าไปจริง ๆ หรือ…แค่นี้ฉันก็เกือบทำงานพลาดไปหลายสัญญาแล้วนะ…มันเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม และมีความสุขมากกว่าเดิม”

“ฉันไม่เคยเห็นเธอรักใครเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้นี่นา ถึงเธอจะเหมือนรักใครได้ง่าย ๆ แต่นั่นก็เล่น ๆ วูบวาบตอนเด็ก แต่นี่เธอจริงจังมากจนน่ากลัว... และฉันก็ไม่เคยเห็นเธอมีความรักกับใครมานานมากแล้ว...ไม่แม้ตอนเธอไปเรียนต่อที่อังกฤษ เธอก็ไม่เป็นแบบนี้...พวกเราเป็นห่วงเธอนะ ใช่มั้ยสเตฟาน?...นิ่งอยู่นั่นแหละ พูดให้เภตราเปลี่ยนใจหน่อยสิ” เสียงเศร้า ๆ ของอันย่าเกือบทำให้เภตราใจอ่อนอยู่เหมือนกัน

“เฮ้อ!!! ฉันไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วล่ะ พูดมาเกือบเดือน อันย่า... ฉันว่าเรามายอมรับความจริงว่า เราแค่ไม่อยากให้เภตราจากไปมากกว่า... สวรรค์เท่านั้นที่รู้!! ...มันอาจเป็นรักแท้ เป็นพรหมลิขิตอันยิ่งใหญ่ของเภตราจริง ๆ ก็ได้... น่า…เมืองไทยก็แค่นี้เอง วันไหนเธอว่างจากเดินซื้อของที่ฝรั่งเศส หรือเปลี่ยนพักร้อนจากเมืองคานส์มาเป็นเมืองไทยก็แค่นั้น...”

“ขอบใจนะสเตฟานที่เข้าใจ” เภตราร่ำไห้อดไม่ได้ต้องเสียน้ำตากับการร่ำลาเพื่อนสนิททั้งสองคนที่มาส่งเธอที่สนามบิน

“เธอควรบอกเขาให้เขามารับที่สนามบิน” สเตฟานเอ่ยต่อ ขณะที่อันย่าเริ่มสะอึกสะอื้นเสียงดังขึ้น

“ไม่ล่ะ...ฉันอยากให้เขาประหลาดใจ และเหมือนกับที่เธอสองคนว่า ฉันจะได้รู้ ได้เห็น ได้รู้จักชีวิต ตัวตนของเขาที่ฉันยังไม่เคยเห็นด้วยไง”
อย่างน้อยมันก็ทำให้อันย่ายิ้มออกมาได้บ้าง แน่ล่ะ! อันย่าจะได้รู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ไม่โง่งี่เง่า หลงรักแบบหน้ามืดตามัว

“พระเจ้าคุ้มครอง... เธอต้องระวังตัว ดูแลตัวเองนะเภตรา โทรมาทันทีที่ถึงเมืองไทยนะ มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ....คิดถึงพวกเราอย่างที่คิดถึงผู้ชายของเธอนะ…” อันย่ายังอดห่วงเธอไม่ได้อีกตามเคย

เภตรารู้สึกประหลาดใจ สมัยที่เธอแยกไปเรียนที่อังกฤษ อันย่าก็ไม่ฟูมฟายมากเท่านี้ บางความรู้สึกเตือนให้รู้ว่า ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์กำลังแปรเปลี่ยนไป...

ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยคิดจะเดินทางไปประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่เป็นเมืองเกิดของแม่ แถมไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าการผจญภัยครั้งแรกนอกทวีปยุโรปของเธอจะเป็นการออกเดินทางเพื่อความรักอันยิ่งใหญ่ เภตราเป็นคนชอบอยู่กับที่
ไม่เหมือนกับพ่อแม่ของเธอที่เป็นนักประวัติศาสตร์ที่ชอบเดินทาง ชอบตื่นตาตื่นใจกับการผจญภัยใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา...

เอาเถอะ! การผจญภัยในเมืองไทย การเดินทางของหัวใจของเธอในครั้งนี้จะสั้นหรือยาวนานจนไม่มีโอกาสได้กลับไปเดินเล่น ซื้อของ ดูหนัง ฟังเพลง จิบกาแฟ กินไส้กรอกแกล้มเบียร์กับเพื่อนทั้งสองอีกต่อไปแล้วก็ตาม

ก็อย่างที่สเตฟานว่านั่นแหละ กรุงเทพ ฯ กับแฟรงก์เฟิร์ตก็ไม่ได้ห่าง ไม่ได้ไกลกันสักแค่ไหน... ใครจะไปรู้ อันย่าอาจเปลี่ยนใจมาทำสปา ทำเล็บที่เมืองไทยทุกอาทิตย์ก็เป็นได้ หรือเธออาจหาสาวไทยน่ารัก ๆ สักคนให้เป็นเจ้าสาวของสเตฟานในอนาคตก็ได้อีกเช่นกัน...


คิดได้แค่นี้เภตราก็อมยิ้มจนเผลอหัวเราะออกมาเบา ๆ ความรู้สึกเศร้า ๆ ที่ต้องจากเพื่อน จากแผ่นดินเกิดค่อย ๆ จางหายไป แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้มีโอกาสคิดถึงเพื่อนทั้งสองตลอดเวลาเหมือนอย่างที่คิดถึงเมษา แต่เธอก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสองที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจนปาเข้าไปเกือบ 25 ปีนั้นจะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจของเธอ...แม้ว่าจะไกลกันแค่ไหนก็ตาม...

“ส่งข่าวมาเรื่อย ๆ นะ” สเตฟานยังคงพูดสั้น ๆ เหมือนเดิม

“โชคดีกับความรักของเธอนะ...เภตรา และเธอต้องให้สัญญา! ห้ามหนีแอบแต่งงานโดยไม่มีฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวโดยเด็ดขาดนะบอกให้รู้!”




...โปรดติดตามตอนต่อไป...






** "*เพลง Lay Lady Lay ประพันธ์โดย Bob Dylan เมื่อปี 1969 มีนักร้องหลายคนนำมาร้องใหม่ แต่ version นี้เป็นของ Magnet feat. Gemma Hayes ปี 2003 อัลบั้ม On Your Side





Create Date : 10 พฤษภาคม 2551
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 20:06:01 น. 23 comments
Counter : 532 Pageviews.

 

อิอิ จองที่ไว้ก่อน หลังจากนี้สักหน่อยจะมาอ่านค่ะ ตอนนี้งานสุมหัวและพอกหางหนูแป้ง


โดย: อสิตา IP: 124.121.214.249 วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:47:09 น.  

 
หลังจากยุ่ง ๆ เหมือนเดิม
แต่ไม่รู้จะบ่นอะไร
พรายทรายก็ไปเอาเรื่องยาวของ "ช่อคราม"
มาลงค่อยง่ายกว่า


หวังว่าคงสนุก และฟังเพลงเพราะ ๆ เพลิน
สำหรับฤดูฝนนี้นะคะ
มีความสุขทุก ๆ คนค่ะ



โดย: พรายทราย วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:50:05 น.  

 
โหหห มาอย่างรวดเร็วเชียว หนูแป้ง....
ขอบคุณค่ะที่มาลงชื่อ
ช่วยลงชื่อให้นี่ก็เป็นเพื่อนกันไม่เหงาแล้วค่ะ

ว่าง ๆ แล้วค่อยแวะมาอีกทีก็ได้ค่ะ
เอาใจช่วยให้งานเสร็จเร็ว ๆ นะคะ



โดย: พรายทราย วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:56:23 น.  

 
ไม่ได้มาบล็อกพี่นานเลย สวยขึ้นครับ


โดย: ศล วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:31:50 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่า


โดย: Magic of Azure IP: 58.136.206.220 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:47:13 น.  

 
อยากเอาไปทำหนังสือเสียงบริจาคห้องสมุดคนตาบอดได้ไหมคะ
ถ้าอนุญาต ป้ามดจะได้ไปวิ่งหา studio


โดย: ป้ามด วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:08:22 น.  

 
ฟุดฟิด ฟุดฟิด.. ตามสูดกลิ่นไส้กรอกเยอรมันมาค่ะ อิอิ
หิวจังเลยพี่พรายสาวจ๋า

ว่าเเต่เมื่อไร เภตราจะเเล่นออก(เป็นเล่ม)
มาจอดเทียบท่าคะ



โดย: ใยบัว IP: 203.132.83.39 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:26:33 น.  

 
55555 คุณศลเจ้าขา
ฟังแล้วเหมือนไม่ได้เจอกันตั้งนาน พรายทรายสวยขึ้น
อิอิ อ่านเป็นอย่างนั้นจริง ๆ น้า

สวัสดีค่ะ คุณ Magic
แวะมาเยี่ยม ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
ชื่นใจ ฐานะแฟนคลับ ช่อคราม เลยนะนี่


โดย: พรายทราย วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:29:18 น.  

 
ป้ามดขา ธุค่ะ...
พรายทรายดีใจและเป็นเกียรติจากป้ามดมาก ๆ
ด้วยความยินดีเลยค่ะ ที่จะได้ร่วมสร้างกุศลร่วมกับป้ามด
ดำเนินการอย่างไร ส่งข่าวได้เลยนะคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:30:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ น้องใยบัว...
เอ...คงเสิร์ฟอาหารบนเครื่องด้วยไส้กรอกเยอรมันนะนี่
ยายเภตรากำลังอินเลิฟคงไม่ได้ใส่ใจอาหารบนเครื่องสักเท่าไรนะนี่

อิอิ ส่วนเรื่องเป็นเล่ม แหะ แหะ
ได้ข่าวว่าช่อครามยังละลายขมองอิ่ม ปั้นน้ำใส่เครื่องปั่นมูลิเน็กซ์อยู่เลยค่ะ...

แต่คิดว่าคงอีกไม่นานเนอะ...


โดย: พรายทราย วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:34:01 น.  

 
55555 เป็นอึ้งเล็กน้อย
กำลังปวดหัว ปวดตาไปตามสภาพอากาศ
เห็น page counter เมื่อตะกี้แล้วแทบช็อก 1123
โอว์ เล่นเอามึน...สงสัยเพราะแผ่นดินไหว...

เมื่อเช้ายังแค่ 50 เลย อิอิ แต่พอ refresh อีกที
เห็น 53 ค่อยสบายใจหน่อย

จริง ๆ อยากเห็นคนเข้าเยอะ ๆ นะคะ
แต่หากมีคนเข้าเป็นพัน แต่คอมเมนต์มีแค่ 10
พรายทรายคงคิดเยอะอีกตามเคย

แต่แบบนี้ไม่อึ้งดีกว่านะคะ อิอิ...
ยังไงหากใครแอบอ่านแล้วก็ช่วยเมนต์หน่อยนะคะ
ส่งเป็นแรงใจให้คนเขียน เขียนจบสะที


โดย: พรายทราย วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:43:05 น.  

 
มีความคืบหน้ามาแจ้งค่ะ
ลูกค้า(ฝรั่ง)ผู้น่ารักของป้ามด เสนอให้ใช้ studio ของเขาฟรี
แต่มีข้อแม้ว่า
ให้ป้ามดไปหัดอ่านให้คล่องก่อน แล้วค่อยไปอัดเสียง จะได้ไม่เสียเวลา
(ปกติค่าเช่าตั้ง 3000/ชม.แน่ะ)

ทีนี้ก็ถึงตาป้ามดต้องไปหัดอ่านก่อน แล้วเราจะได้ทำบุญร่วมกันเนอะ น้องอ้อ


โดย: ป้ามด วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:38:11 น.  

 
น่ายินดีค่ะ คุณลูกค้าของป้ามดน่ารักมาก
แต่สตูแพงเนอะ
เอาใจช่วยป้ามดฝึกอ่านก่อนค่ะ

หนูคอยได้ร่วมทำบุญกับป้ามด
พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
ป้ามดต้องการให้ช่วยอะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:06:05 น.  

 
ได้ฤกษ์ แวะมาทำความรู้จักสาว "เภตรา" แล้วครับ ภาษาละมุนละไมชวนให้ผ่อนคลายเหมือนที่คุ้นเคย คิดถึงขึ้นมาเลยนะนี่ (ไม่ต้องบอกพี่อ้อก็รู้ว่าคิดถึงอะไร... หรือใคร... อิๆ)

แต่ตอนนี้ก็ยินดีทักทายหนูเภตรา "ขัดดอก" ไปก่อน อ่านแล้วหวิวๆ เกรงๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ พบกันแค่ชั่วเวลาสั้นๆ แล้วกำลังจะไปเจอเขา ในสภาพแวดล้อม "จริง" ในชีวิต "จริง" ของเขาแบบนี้...

ว่าแล้วก็ลุยบทที่ 2 ต่อ


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:53:26 น.  

 
สัญญา ๆ ค่ะ คุณพีทคุง
ให้เกียรติแวะมาอ่านหนูเภตราแบบนี้
เดี๋ยวจะรีบเขียนให้เสร็จสะที
ไม่งั้นนายอธิปหลับแล้วหลับอีก
เดินวนหลงอยู่ในถ้ำ ดำน้ำไปมาไม่ได้ออกสะที


เนอะ ความรักที่บินมาแบบไว ๆ สติสัมปชัญญะมันหลงหายโบกบินกระเจิงไปได้เหมือนกัน

รักแท้ รักจริง ความเป็นจริงแท้ ๆ มันก็ต่างกันเนอะ

หวังว่าคงเป็นแฟนหนูเภตราไปเรื่อย ๆ นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:12:40 น.  

 

ป้าติ๋วไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาค่ะ
เลยเพิ่งได้ฤกษ์มาเริ่มเดินทางไปกับหัวใจ
กับสาวน้อยเภตราเสียที ..

แค่ตอนแรกก็ลุ้นๆๆๆๆ ..


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:13:33:54 น.  

 
เย้ เย้
ขอบคุณป้าติ๋วค่ะ
ดีใจจัง ได้ป้าติ๋วร่วมเดินทางไปแบบนี้
ช่อคราม คงมีกำลังใจเขียนให้จบสักทีอิอิ

หวังว่าป้าติ๋วคงสนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับหนูเภตรานะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:21:22:39 น.  

 
Artist: Magnet feat. Gemma Hayes
Song: Lay Lady Lay



Lay lady lay, lay across my big brass bed.
Lay lady lay, lay across my big brass bed.

Whatever colors you have in your mind.
I'll show them to you and you'll see them shine.

Lay lady lay, lay across my big brass bed.
Stay lady stay, stay with your man awhile.
Until the break of day, let me see you make 'em smile.

[Gemma]:
Your clothes are dirty but your hands are clean.
And I'm the best thing that you've ever seen.
(Stay lady stay, stay with your man awhile.)
Why wait any longer for the world to begin?
You can have your cake and eat it too.
(Why wait any longer for the one you love?
I am standin' in front of you.)

Lay lady lay, lay across my big brass bed.
Stay lady stay, stay with your man awhile.

[Gemma]:
You long to see me in the morning light.
You long to reach for me in the night.
(Stay lady stay, stay while the night is still ahead.)
So maybe I'll stay, stay while the night is still ahead.
(Stay lady stay, stay while the night is still ahead.)
So maybe I'll stay,
[Both]: stay while the night is still ahead.


โดย: พรายทราย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:21:57:39 น.  

 
พรายทราย เอาเนื้อเพลง Lay Lady Lay มาลง
เผื่อใครอยากร้อง หรืออ่านความหมาย

อิอิ เผื่อไว้ตั้งปัญหาชิงรางวัล อิอิ


อาจมีคนสงกาสัย
เพลงนี้ทำไมเป็น ธีม คาแร็คเตอร์ ของหนูเภตรา
ไม่ใช่เนื้อเพลงเท่าไรหรอกนะคะ
แต่ก็นิด ๆ บ้างเล็กน้อย

แต่เพราะเมโลดี้ของเพลงนี้ต่างหาก
และเสียงร้องของ แกมม่า มั้งคะ
ที่ให้อารมณ์คิดถึงยายหนูเภตรา
มาตั้งแต่ตอนเขียนบทแรกเลยน่ะค่ะ

รู้สึกแบบนี้เลย....
sexy นิด ๆ
เจ้าเล่ห์ เรื่องมากหน่อย ๆ อิอิ
นี่แหละยายหนูเภตรา ...


โดย: พรายทราย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:22:07:34 น.  

 
เวร เอ๊ย... กรรม (ดูเหมือนสองคำนี้จะไม่แตกต่างกันเลยแฮะ...เหอ เหอ) ...

สเตฟานจะเป็นพระเอกไหมหนอ??...

เภตรานี่อย่างแรงงง.... อ๊ะ.... ม่ายยยย

ไปอ่านบทต่อไปดีกว่า หุหุ....

+++++++++++++++++++


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:34:50 น.  

 
สเตฟานเป็นเพื่อนค่ะ
ว่าแต่ว่าเภตราอะไรแรงอ่ะคุณรักดี

เวร และ กรรม ผสมผสานกันค่ะ

ขอบคุณนะคะที่สละเวลามาอ่านรวดเดียวอย่างนี้


โดย: พรายทราย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:12:13 น.  

 
Kn Or jaa, ya bok na wa Nang ja broken heart or been treating bad..heu heu, I am already crying..hahaha Just kidding..it good start jaa..!!


โดย: PiCorn (Camille) IP: 71.81.178.101 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:8:44:23 น.  

 
คุณคามิลคะ

ถ้าเรื่องนี้ต้องร้องไห้ คงต้องร้องไห้อย่างมีความสุขค่ะ


ขอบคุณนะคะที่สละเวลาแวะมาอ่านให้
อ่านอย่างมีความสุขนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:6:44:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.