ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 22.. "ช่อคราม"










บทที่ 22

หลากหลายความรู้สึกของความรักที่เกิดขึ้น และเป็นไป
หลาย ๆ ครั้งมันก็ยากเกินกว่าที่เราเองจะเข้าใจ


โลกทั้งโลกเคลื่อนที่หมุนผ่านไปอย่างช้า ๆ …

ชั่วเสี้ยวของเข็มวินาทีอาจเดินไปอย่างรวดเร็ว แต่เวลาของความรู้สึกนั้นกลับเนิ่นนาน…

กระแสสัมผัสแห่งความรู้สึกค่อย ๆ วิ่งซึบซับผ่านคลื่อนเข้ามาในตัว แตะ... แทรกผ่านในทุกอณูของความรู้สึก ให้รับรู้ได้อย่างอ่อนโยน ลึกซึ้ง และ นุ่มนวล...

ความรู้สึกประสานไหลมารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อให้เกิดเป็นความอบอุ่นอยู่ภายใน พร้อมกับกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ หยาดเล็ก ๆ ที่พร่างพรายขึ้นวนฉ่ำเวียนอยู่ในหัวใจ ให้ดื่มด่ำอยู่ในความรู้สึกนั้น...เนิ่นนาน ราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุดไปตลอดกาล...

มันช่างเป็นความรู้สึกของอารมณ์ ที่ไหลเวียนผ่านอยู่แต่ในหัวใจ ในร่างกายของกันและกัน อย่างละเมียด ละไม แม้มันจะอ้อยอิ่ง เนิ่นนาน เชื่องช้า แต่มันก็ไม่ได้ส่งผ่านไปถึงระบบของสมองให้ต้องวิเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ราวกับมีปฏิกิริยาเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นเป็นกลไกอย่างอัตโนมัติ ตัดระบบสติให้ไกลออกจากการควบคุมของสมองไปชั่วขณะ...

กว่าจะคืนให้ระบบร่างกายทำงานได้อย่างปกติอีกครั้ง ความรู้สึกบางเบา นุ่มนวลก็ไม่ได้จางหายไปแต่อย่างใด...

เขาอยากให้มันเกิดอีกครั้งเสียด้วยซ้ำ อยากให้อารมณ์นั้น ความรู้สึกอบอุ่นนั้น มากขึ้น ๆ เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นความรุ่มร้อน ที่พร้อมจะเผาตัวเองและหญิงสาวให้มอดไหม้...

หากแต่สติที่กำลังคืนกลับมาในระบบ พยายามดึงรั้งให้เขาถอนตัวออกมาจากเวทมนตร์ที่กำลังจะจางหายไป...

แม้จะรู้สึกดีว่า ริมฝีปากคู่นั้นยังคงตอบสนอง ดื่มด่ำอยู่ในความรู้สึกเดิม แต่สายตานั้น ดวงตาคู่นั้น ที่เพิ่งลืมตามองมายังเขากำลังสะท้อนกลับด้วยคำถามมากมาย ที่เขาไม่สามารถจะแปลออกมาให้เข้าใจได้

สิ่งที่เขาทำได้แค่เพียง แตะนิ้วไปที่มุมปาก ไล่เคลียแก้มนั้นเบา ๆ เกลี่ยน้ำตาเม็ดเล็ก ๆ ที่ปลายตา เหน็บปอยผมเส้นเล็ก ๆ ที่ตกบนหน้าผากเนียนนั้นคืน

อย่างเท่าที่เคยทำได้อยู่เป็นประจำ...

ธันวาเริ่มมั่นใจว่าเขาเกลียดสติของตัวเอง...เกลียดเจ้าเทวดาตัวน้อยที่เริ่มวิ่งวนเวียนหยิบไฟล์โน้นไฟล์นี้อยู่ในสมองของเขา เพื่อให้ตระหนักกับความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่เวทมนตร์ ภาพมายาแห่งความรู้สึกที่เจ้าซาตานกำลังสิงทำงานอยู่ในหัวใจของเขา

หากเขายังเพลิน เพลิดไปกับฟูฟองที่เจ้าซาตานใช้เวทมนตร์อยู่อย่างนี้ เขาต้องทำร้ายน้องชายของเขาอย่างแน่นอน และข้อสำคัญมันไม่ได้ส่งผลดีกับเภตราเลยสักนิด เธอคงยิ่งสับสนวุ่นวายใจมากขึ้นกับการกระทำของเขา

“เภตรา...มิสเตอร์ธันวา คุณต้องมางานแต่งงานของเรานะ... แล้วฉันจะโทรไปอีก” เสียงจากอันย่าเรียกสติให้ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เภตราคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาพูดได้เสียที

“อันย่า…สเตฟาน” น้ำเสียงแผ่วเบา เหมือนออกมาจากเรียวปากอย่างยากเย็น

“ดีใจด้วย กำหนดวันได้แล้วรีบโทรมา มีอะไรให้ช่วยต้องบอกฉันนะ แล้วก็ ห้ามให้ใครเป็นเพื่อนเจ้าสาวเธอนะ...นอกจากฉัน ”

“ไม่!..ไนน์ ไนน์ ฉันจะให้มิสเตอร์ธันวาเป็นเพื่อนเจ้าสาว ส่วนเธอเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวไปแล้วกัน ไปก่อนนะมีอะไรต้องทำอีกเยอะเลย แล้วฉันจะโทรกลับไป” อันย่าหัวเราะคิกคัก วางสายก่อนที่เภตราจะได้พูดอะไรแย้งไป เธอคืนโทรศัพท์เข้าที่ เริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง ว่ายังนั่งอยู่บนตักของเขา แขนของเธอก็ยังคล้องอยู่รอบคอ

เพราะโทรศัพท์ หรือเพราะเขามานั่งกั้นระหว่างโทรศัพท์กันแน่นะ

เภตรายังคงจับโทรศัพท์ไว้ ไม่รู้จะหันกลับไปมองหน้าเขาอย่างไรดี นี่เธอทำอะไรลงไป มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ...

หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น รวบรวมความกล้าเอียงตัวกลับมา ค่อย ๆ คลายวงแขน ก่อนไถลตัวลงกลับลงมายืน

สายตาดุ ๆ คู่นั้นยังมองกลับมา อีกเดี๋ยวเขาคงต่อว่าเธอ กับการกระทำเหลวไหลเป็นแน่ แต่ผิดคาดเขากลับหันไปมองขวดเบียร์บนโต๊ะ ราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่พูดอะไร

เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เพราะความดีใจทำให้เธอลืมตัวได้ขนาดนี้เชียวหรือ

บางสิ่งในสายตาของเขา บางสิ่งในหัวใจของเธอ บางสิ่งในสัมผัสมันมากกว่าอารมณ์ลืมตัว เธอรู้สึกได้ และมันกำลังส่งผลให้เธอเจ็บแปลก ๆ ในหัวใจ...

เธอตอบไม่ได้ว่ามันเริ่มเจ็บตรงไหน ตรงที่เขาเริ่มต้นสัมผัส หรือละจากกันแน่ หรือเพราะสายตาคู่นั้นหรือไม่

หรือเพราะสิ่งอื่น เหตุผลอื่น เพราะเมษายังอยู่ในนี้ ...

เขาคงโกรธเธอ หรือโกรธตัวเอง เภตราเม้มริมผีปากอยากถาม แต่ความรู้สึกไม่เข้าใจก็ถ่วงหนักจนยากจะตั้งคำถามว่าอย่างไร เธอยังไม่รู้จะตอบตัวเองอย่างไรเลยด้วยซ้ำไป แล้วเขาจะตอบเธอได้อย่างไร

แต่ที่แน่ ๆ เธอผิดเอง เธอเป็นคนผิดเอง... หญิงสาวได้แต่ถอนใจ

“ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะคะ” เภตราหลับตานิ่ง เอ่ยออกไปเบา ๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมสมองเลือกประโยคนั้นมาพูด ก่อนหันไปหยิบกระเป๋าถือบนเคาน์เตอร์ แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน




เภตราพยายามข่มตาให้หลับ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นยังตามวนเวียน เธอจะทำอย่างไรดี อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกล้า หนักไปทั้งหัวใจ

เธอยังหาคำตอบไม่ได้ …

เธอพยายามแยกความรู้สึกออกจากกัน มันไม่เหมือนกัน มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สัมผัสของผู้ชายสองคนที่ยังวนเวียนอยู่ในความรู้สึก...

ความรู้สึกที่แทรกอยู่ในทุก ๆ อณูของความรู้สึก ใบหน้าคร้ามแดด เคราเข้ม ๆ สายตาที่เต็มไปด้วย ความสุข มิตรภาพ รอยยิ้ม ความห่วงใยวิ่งล่องลอยผ่านไปมา ราวกับภาพหนังซ้ำที่มีเพียงฉากเดียว

ขณะที่ความรู้สึกของเมษาเหมือนถูกแช่แข็ง ไม่ได้เคลื่อนไหว ไม่ได้เติบโต ไม่ได้รู้สึกใด ๆ มาพักใหญ่ แต่มันก็ยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม ณ จุดเดิม ตำแหน่งเดิม...

เธอยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ ว่ามันเกิดขึ้นจากอารมณ์ใด ทำไมเธอถึงจูบตอบธันวา …

แต่อารมณ์ใด ๆ ก็ตามที่พาไปถึงการกระทำนั้น มันไม่ใช่ความรู้สึกขอบคุณ มันไม่ใช่อย่างจูบราตรีสวัสดิ์ค่ำคืนก่อนนั้น...

รักหรือ ไม่น่าใช่ ทำไมไม่เหมือนที่เคยรู้สึกกับเมษาแม้แต่น้อย อย่างน้อยความซื่อสัตย์ ซื่อตรงเป็นหัวใจของการทำงานมาตลอดทั้งชีวิต

เธอจะรักธันวาได้อย่างไร ในเมื่อเมษายังอยู่เต็มในหัวใจอย่างนี้

มันเป็นความรู้สึกอยากแบ่งปันความสุข ความดีใจที่เธอกำลังมีกับเขา ความดีใจที่เพื่อนรักของเธอทั้งสองคนลงเอยกันอย่างมีความสุข เธอรู้สึกเช่นนั้น ทั้งสติและหัวใจ เธอรู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป เธอไม่ห้าม ไม่รั้งตัว แต่ปล่อยให้ความรู้สึกล่องลอยไป

จูบนั้น สัมผัสนั้น เธอเต็มตื้นไปด้วยความสุข อบอุ่น มันเติมเต็มในทุก ๆ ส่วนของความรู้สึกที่ขาดหายไป เธอรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เภตราถอนหายใจ ป่านนี้ธันวาจะมานั่งครุ่นคิดอย่างเธอหรือไม่ ไม่ว่าอาบน้ำ นั่งนอนให้เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วก็ตาม เธอก็ไม่อาจลบเลือนภาพ อารมณ์ ความรู้สึกนั้นไปได้เลย เหมือนยังตามติดเธอแนบแน่นไปในทุกลมหายใจ...

ป่านนี้เขาทำอะไรอยู่นะ กำลังคิดเหมือนอย่างที่เธอคิด กำลังรู้สึกเหมือนอย่างที่เธอรู้สึกหรือไม่ ความกลัววูบผ่านเข้ามาในความรู้สึก หากเขาโกรธเธอจริง ๆ เธอไม่รู้เหมือนกันจะมองหน้าเขาอย่างไรดี

หญิงสาวหลับตาลง ความทรงจำหวนกลับมาอีก...

ความรู้สึกที่ได้นั่งอยู่บนตัก ขณะที่เขาโอบตัวเธอไว้ สัมผัสของริมฝีปาก นิ้วมือที่สัมผัสบนใบหน้า เส้นผม และสายตาอ่อนโยนคู่นั้น รอยยิ้มบาง ๆ กำลังเกลื่อนความรู้สึกกลัว หวาดระแวงต่าง ๆ ทั้งมวลให้หายไป

เภตรายิ้มตอบ รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เขาถ่ายทอดมาให้เธอ

มันชัดเจนเหมือนเกิดขึ้นอีกครั้ง....

เป็นอีกค่ำคืนที่เธอรู้สึกว่า เธอกำลังจะฝันดี...






ฝนตกอีกแล้ว...

ฝนตกเป็นละอองเม็ดละเอียด เหมือนม่านแพรสายฝนอยู่ด้านนอก ธันวาเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ไอฝ้าความเย็นในห้องเริ่มจับกระจกให้เห็นเป็นภาพลางเลือน

เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับการประชุมที่แสนจะเคร่งเครียด ผ่านไปเกือบอาทิตย์ งานนี้ก็ช่างลงตัวอย่างยากเย็น ทนายของบริษัทนี้ดูจะยังไม่พอใจกับข้อเสนอที่เขาร่างแก้ไข

ทุกอย่างเหมือนต้องกลับมาตั้งต้นเริ่มใหม่อีกครั้ง...มันมากกว่าสามครั้งแล้ว

หัวใจของเขาเหมือนล่องลอยผ่านฝ้ากระจก สมาธิไม่ได้อยู่กับคำร่ายยาวของทนายการเงินของฝ่ายตรงข้าม เขากำลังคิดถึงเธอ ...เภตรา อยากให้เธออยู่ตรงนี้ ใบหน้า สายตา รอยยิ้ม คำพูด เสียงหัวเราะที่จะช่วยปลุกปลอบให้กำลังใจ

โดยเฉพาะจุมพิตเมื่อค่ำคืนนั้น…

ธันวาอมยิ้มให้กับตัวเอง ให้กับกระจก ให้กับสายฝนเบื้องหน้า

มันหวานละมุน เหมือนสายฝนโปรยปรายลงมาเย็นใจทุกครั้งเมื่อเขานึกถึง มันพัดพา ชะล้างเอาความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียให้จางหายไป และเขาก็พร้อมที่จะลุยสู้ทุกอย่างขึ้นอีกครั้ง

แม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง...

เขาควรบอกให้เธอรู้ เปิดเผยถึงความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่อยากถอนริมฝีปาก หรืออ้อมกอดนั้น อยากทำอะไรต่ออะไรมากกว่านั้น

อยากบอกรักเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก
อยากบอกเธอให้เธอรับรู้ทุกความรู้สึกของเขา
อยากบอกทั้งวันทั้งคืน...ทุกวินาที ทุกนาที และตลอดไป


แต่ก็ได้แต่คิด มันคงไม่มีวันเกิดขึ้นได้จริง หากเขาทำทุกสิ่งอย่างที่ใจเขาต้องการ เขาไม่รู้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับเธอได้อย่างไร และรับมือกับสถานการณ์น้องชายได้อย่างไร

แม้ใจจะอยากแย่งเธอมาจากเมษามากแค่ไหนก็ตาม...

เขายังไม่แน่ใจว่าเภตราพร้อมที่จะรับความรู้สึก ความรักของเขามากแค่ไหน เขายังอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นความรัก เป็นอารมณ์ที่สวยงาม มั่นคง จริงจัง และถาวร ไม่ใช่เพียงแค่อารมณ์ หรือความรู้สึกที่พัดผ่านมาชั่ววูบ แล้วจางหายไป

มันยากเหลือเกินที่เขาจะอธิบายให้เธอเข้าใจ...

แค่จูบ ๆ เดียวมันยังยากที่จะเผชิญหน้ากับเธอ และหากคืนนั้นมีอะไรมากไปกว่านี้ เขาจะมองหน้าเธอได้อย่างไร

แต่ก็นั่นแหละ ดีหน่อยที่ตลอดอาทิตย์นี้งานเคสนี้เหมือนดึงเวลาตัวเขาให้ห่างจากโลกของเธอ ให้เขาได้เพียงแค่ทิ้งโน้ตเฝ้าครุ่นคิดถึง ห่วงหาอยู่อย่างนี้

แต่ถ้าไม่ใช่งานนี้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เขาก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าสติของเขาจะรั้งดึง ต้านทานความรู้สึกนั้นได้นานแค่ไหน...

สายตาคู่นั้น ริมฝีปากคู่นั้น นับวันมันก็ยิ่งพาอารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิงทุกครั้งไป ยิ่งเขารู้ว่าอรัญมาทานข้าวกับเธอ ทุกกลางวัน ทุกเย็นแล้ว มันยิ่งทำให้เขาพลุ่งพล่านมากขึ้น

บางอารมณ์เขาก็อยากให้เมษากลับมาเสียที อรัญจะได้ไม่มีโอกาสได้ใช้โอกาสช่องว่างตรงนี้ แต่นั่นแหละ เมษาก็ยังคงเป็นเมษา เขาจะให้ความสำคัญ มีเวลาให้กับเภตราได้มากพอหรือ ในขณะที่อรัญพยายามเก็บคะแนนมาขนาดนี้

เขาอยากรู้เหมือนกันว่า อรัญจะเผชิญหน้า อธิบายกับเมษาอย่างไร ตัวเขาเองก็เช่นกันจะบอกเมษาว่าอย่างไร ว่า...เขารักเภตรา

หรือบางทีเขาคงต้องเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ตลอดไป กลับไปเป็นผู้ช่วยนางเอก พี่ชาย เพื่อนร่วมงานที่แสนดี เหมือนอย่างเดิม

กับบทพระเอกที่ได้รับชั่วแว่บ และกลายเป็นเพียงความทรงจำอย่างรวดเร็ว ที่เขาคงไม่มีวันได้รับในความเป็นจริงในโลกของเธอ

ไม่ว่าอย่างไร นกไนติงเกลตัวนั้นก็ต้องสละเลือดให้ดอกกุหลาบเป็นสีแดงอยู่อย่างเดิม มันไม่ต่างอะไรกับการเฝ้ารักใครอยู่ข้างเดียวจริง ๆ



ธันวาถอนหายใจ เก็บเอกสาร โน้ตบุ้ค กล่าวลาทนายความและเจ้าของบริษัท เดินออกมาพร้อม ๆ กับ สมมาตรทนายฝึกงานคนใหม่ ถาวรทนายจากแผนกแรงงาน

ทุ่มกว่าแล้ว ฝนยังตกไม่ขาดสาย ทุกคนเลือกจะแยกย้ายกันกลับบ้าน มันเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน หลังแข็ง สมองเครียดตั้งแต่เช้า มากกว่าที่จะไปหาอะไรกันทานต่อ หรือจะย้อนกลับไปที่ทำงาน

เขายังลังเลจะกลับไปที่ทำงาน หรือบ้านดี

“เฮีย อยู่แถวไหน อยู่ที่ทำงาน หรือข้างนอก” เสียงเมษาดังเข้ามาในโทรศัพท์ คนที่เขาไม่อยากนึกถึงเลย

“แถววิภาวดี ดอนเมือง” ธันวาตอบไปอย่างเหนื่อยหน่ายเต็มที

“ดีเลย เจอผมแป๊บสิ ผมอยากคุยกับเฮีย อีกชั่วโมงเจอผมที่ล็อบบี้โรงแรมนะ” เมษาเอ่ยชื่อโรงแรม ที่อยู่ไม่ไกลจากตึกที่เขายืนอยู่ น้ำเสียงฟังดูร้อนรนกระวนกระวายชอบกล

นี่น้องชายเขากลับมาถึงเมืองไทยเมื่อไหร่กัน…มันยังไม่ถึงกำหนดนี่นา




เภตรามองผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังยกแก้วค็อกเทลสีฟ้าขึ้นดื่ม กับผ้ากิโมโนชิ้นสวยบนโต๊ะที่วรรณิศาซื้อมาฝาก แค่มองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ราคาถูก ๆ เลย สมกับที่เป็นนางแบบระดับแถวหน้าของเมืองไทย เธอมีรสนิยมดี เลือกของฝากได้ดี

และเธอก็มีของฝากกลับมาอย่างที่เธอพูดไว้ ไม่รู้ว่าจะมีข่าวสารใด ๆ มา
เป้นของแถมให้เธออีก...

วรรณิศาโทรมาบอกว่าเธอถึงเมืองไทยตั้งแต่เมื่อวาน และให้เมสเซนเจอร์ส่งบัตรเชิญระบุชื่อชวนให้ออกมาดูแฟชั่นโชว์แบรนด์ต่างประเทศชื่อดังที่วรรณิศามาเดินแบบ ซึ่งพอดีเป็นโรงแรมใกล้ ๆ กับที่ทำงานของเธอ

เมื่อครู่นี้เภตราไม่ค่อยสนใจแฟชั่นโชว์นัก ทั้ง ๆ ที่บัตรเชิญนั้นเป็นแถวหน้าพิเศษ หากเป็นอันย่าคงตื่นเต้นมากกว่าเธอ ทุกครั้งที่ไปดูกับอันย่า เธอมักจะง่วงเหงาหาวนอน มากกว่าตื่นตาตื่นใจ

เธอไม่ใช่สาวบ้าตามแฟชั่นเหมือนอันย่า...

แต่เภตราก็ต้องยอมรับความสง่างามบนเวทีของวรรณิศา เธอสวย ยิ่งแต่งหน้า ใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ยิ่งขับความสวยออกมามากมาย ใบหน้า สายตา ท่าทางการเดินของเธอให้อารมณ์การนำเสนอเสื้อผ้าทุกชิ้นบนเรือนร่างของเธอได้เป็นอย่างดี

หรือแม้แต่ลดเครื่องสำอางบนหน้า แต่งตัวตามปกติเธอก็ยังสวย เพราะ
วรรณิศาสวย มีจริตก้านแบบนี้ เธอถึงไม่แปลกใจที่เมษาเลือกคบวรรณิศา

หากเทียบกันแล้วเธอไม่มีความสวย ๆ ใดเทียบกับผู้หญิงตรงหน้าได้เลย

ใจจริงแล้วเธออยากปฏิเสธ อยู่ให้ห่างจากบรรดาผู้หญิงของเมษา ซึ่งไม่รู้ว่าจะหาสิ่งใดมาปั่นหัว เล่นตลก หรือให้เธอประหลาดใจได้อีก เธอตั้งใจจะกลับทันทีที่งานจบ แต่วรรณิศาก็ยังชวนเธอมานั่งดื่มต่อที่ล็อบบี้บาร์ของโรงแรม

อย่างน้อยการได้เจอกับวรรณิศาก็ยังดีกว่าเจอกับอรัญ ซึ่งก็น่าแปลกที่วันนี้เขาไม่โผล่มาเลย ไม่เหมือนตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา

เธอออกจะเบื่ออรัญ เบื่อบางนิสัยของเขา อรัญชอบตัดสินใจอะไรเอง คิดอะไรเอง ไม่ค่อยถามความเห็นของเธอ อาจคล้ายกับเมษา แต่เมษายังมีอารมณ์รับรู้เรื่องของเธอ มากกว่าอรัญที่เขาพยายามทำอะไรออกมาเฉพาะความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น

แต่ก็นั่นแหละ เธอยอมรับความจริงไปแล้ว เธอแทบไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักใกล้ชิดกับเมษา เท่ากับคนอื่น ๆ ที่เหมือนมีโอกาสให้เธอได้เห็นความเป็นไปของแต่ละคน เรื่องราวของเมษาส่วนใหญ่มาจากผู้ปรารถนาดี และร้ายต่าง ๆ มากกว่า

การออกไปทานข้าวกับอรัญอย่างคนรู้จักตลอดมา ก็ยังดีกว่าที่เธอจะกลับบ้านแล้วไปอยู่คนเดียว ธันวากลับบ้านดึกมาตลอด เธอรู้ดีว่าเพราะเรื่องงาน ทั้งเขาและเธอต่างก็ยุ่งมากจนไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน

ธันวาไม่ได้หลีกเลี่ยง หลบหน้า เภตรารับรู้จากสายตาที่ส่งมาให้เธอกับเวลาน้อยนิดที่เจอกันในที่ทำงานก่อนเขาออกไปประชุม ว่ายังเป็นห่วง และใส่ใจเธออยู่เหมือนเดิม

แม้ไม่ค่อยได้กลับบ้านพร้อมกัน อย่างน้อยก็ยังมีโน้ตเล็ก ๆ ถามทุกข์สุขปะอยู่หน้าห้อง หน้าตู้เย็นให้เธอรับรู้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวหรือถามออกมาเป็นคำพูดก็ตาม

แต่เธอก็ยังอยากให้เป็นเหมือนเดิม ๆ มากกว่า...


“ขอบคุณสำหรับของฝาก และชวนมาดูคุณเดินแบบ คุณวรรณิศาสวยจริง ๆ” เภตราหยิบผ้าขึ้นมา ยิ้มพร้อมกับกล่าวขอบคุณ เธอมาดูวรรณิศาจริง ๆ ไม่ได้ใส่ใจเสื้อผ้าแบรนด์ดังแม้แต่น้อย

“ดีจังที่คุณเภตราชอบ ศาเลือกเองนะคะ คิดว่าคงต้องชอบ อีกอย่างลายนี้น่าจะเหมาะกับคุณเภตรา ไปตัดเป็นชุดราตรีคงสวย” วรรณิศายิ้มชื่นชมผ้า เหมือนปลาบปลื้มในความสามารถของตัวเอง

“ศาสวยจริง ๆ หรือคะ แต่ความสวยความสาวติดตัวเราไม่ได้นาน ไม่รู้เหมือนกัน แก่ตัวมาแล้วจะเป็นยังไง คุณเภตรากลัวความแก่มั้ยคะ” เธอยื่นหน้ามาถาม ดวงตาใส ๆ เหมือนอยากรู้จริง ๆ

“ไม่หรอกค่ะ... คงเพราะฉันไม่ได้เป็นคนสวยอย่างคุณวรรณิศา ไม่ได้ทำงานเป็นนางแบบอย่างนี้ เป็นทนายยิ่งแก่ยิ่งน่าเชื่อถือค่ะ”

“ใช่ค่ะ ศากลัวแก่จริง ๆ ไม่อยากไปทำศัลยกรรม..กลัวเจ็บ พยายามจะเก็บตังค์ หางานอะไร ๆ ให้มันมั่นคง แก่ไปใครเขาก็เลิกจ้าง” แม้ท่าทางจะเหมือนกลัวเจ็บจริง ๆ แต่ในน้ำเสียงเหมือนมีอะไรมากกว่านั้น

“ลองดูงานที่คุณวรรณิศาจะทำได้ไปนาน ๆ ก็ดีนะคะ” เภตราเริ่มให้คำแนะนำตามนิสัยตัวเอง สมองเริ่มครุ่นคิดหาสิ่งที่เหมาะสม แต่เธอก็ไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจสำหรับนางแบบมากนัก เภตรายกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม

น่าแปลกที่นับว่าเธอเริ่มจะสนิทสนม และเข้าใจวรรณิศามากขึ้น หากไม่นับถึงการแสดงออกของวรรณิศาที่ล้น ๆ ไปบ้าง หญิงสาวตรงหน้าของเธอ ดูไปก็เหมือนผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง

“บางทีศาออกรับทำงานประจำ ไปอยู่ฝ่ายแฟชั่นกองบอกอนิตยสาร หรือเขียนข่าวแฟชั่น ข่าวสังคม ทำอะไรดีน้า...หรือลองบอกเมษา บอกอรัญขยายทำโมเดลลิ่ง นอกจากรับทำประชาสัมพันธ์อย่างเดียว ศาเข้าไปดูแลตรงนั้นก็ได้...แต่ก็นะชักเริ่มเบื่อ...”

“เบื่ออะไรหรือคะ”

“เบื่อยายบุษ เกลียดขี้หน้า เธอมีหุ้นอยู่ในบริษัทนั้นด้วย อยากไปให้ไกล ๆ เกลียด ๆ เกลียดจริง ๆ “ น้ำเสียงของวรรณิศาบ่งบอกถึงความเกลียดได้อย่างล้ำลึก

ก่อนจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นให้เภตราฟัง ว่าเธอต้องตบตีกับบุษมาส
หลายครั้ง มีรอยข่วนเต็มแขนเต็มต้นคอ จนช่างแต่งหน้าต้องลงครีมให้หนากว่าปกติ ดีที่ไม่โดนหน้า หรือทำให้ต้องเสียโฉม แถมต้องคอยแย่งช่วงเวลาของเมษาให้มาอยู่กับเธอ

เภตรารับฟังเงียบ ๆ ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ซึ่งมันก็เรื่องจริงนับวันเธอยิ่งชาชิน และไม่รู้สึกในอารมณ์ ตื่นตกใจ หรือมีอารมณ์ร่วมโกรธ เสียใจ หรือเกลียดชังไปกับวรรณิศา

เธอแค่รับรู้ เห็นใจ และเหนื่อยใจแทนวรรณิศามากกว่า

ผู้หญิงของเมษาล้วนแล้วแต่น่าสงสารจริง ๆ ...
ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว...


เธอรู้ดีว่าวรรณิศาอยากระบายความอัดอั้นในใจกับเธอ พร้อมกับขีดเส้นไว้ให้เสมอ วรรณิศาใช้เธอเป็นพันธมิตร พร้อม ๆ กับกันเธอให้ห่างจาก
เมษาออกไปทุกที จนเกือบจะหลุดออกจากวงโคจรไปแล้วเสียด้วยซ้ำ

บางทีเธอน่าจะบอกให้วรรณิศาดีใจ...

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะบอก หรือวรรณิศาจะเล่าอะไรเพิ่มเติม เสียงของใครบางคนก็ดังมาที่โต๊ะก่อนตัว

“กรี้ดดดดดดดด น้องศาอยู่แถวนี้เอง ยังไม่กลับหรือคะ” สาวประเภทสองโครงร่างใหญ่ แต่หน้าตาสะสวยเหมือนผู้หญิงจริง ๆ ผมยาวตรงนุ่มสลวย ถูกรวบมาด้านข้างอย่างหลวม ๆ เดินอาด ๆ มือถือกระเป๋าเครื่องสำอางตรงมายังโต๊ะที่วรรณิศา และเธอนั่งอยู่

“นี่ค่ะ นี่ค่ะ น้องศา ตะกี้หลังเวทีเขาพูดกันให้แซ่ด น้องศายังไม่เห็นข่าวฉบับวันพรุ่งนี้สิคะ”

“ข่าวอะไรคะพี่แองจี้ ข่าวเดินแฟชั่นหรือคะ ทำไมลงเร็วจัง”

“อ๊ายยยย ม่ายช่าย ๆ “ แองจี้กรีดนิ้วร่อนไปมา ถือวิสาสะนั่งเก้าอี้อีกตัวข้างวรรณิศา เธอส่งยิ้มพราวไปทั้งหน้าและตาให้เภตราอย่างเป็นมิตร ก่อนล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบโตข้าง ๆ ตัว

“ข่าวนี้ค่า ข่าวนี้...” คนรายงานข่าวคนใหม่หยิบหนังสือพิมพ์ออกมา เปิดหน้าแล้วพับให้เล็กวางลงบนโต๊ะ พร้อมกับจิ้มนิ้วไปยังข้อความเป้าหมายให้วรรณิศาอ่านโดยเฉพาะ

“กลับญี่ปุ่นพร้อมกับข่าวดี กำหนดงานแต่งงานพร้อมแจกการ์ด และเปิดตัวแบรนด์เสื้อใหม่ “Be Mine” ของ บุษมาส อนันต์กิจโชค และ เมษา พัฒนวรรต ในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า สาว ๆ ในอันดับหัวใจคงขาดวิ่นไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะนางแบบสาวแถวหน้าของไทย วรรณิศา สารภัทร คงแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี…”



...โปรดติดตามตอนต่อไป...





***
“Kiss the Rain” เสียงเปียโนหวาน ๆ จาก Yiruma ใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Spring Waltz” คงคุ้นชื่อนี้เป็นอย่างดี

Yiruma นักเปียโนที่มีความสามารถชาวเกาหลี ชื่อเสียงและผลงานดังทั่วทั้ง เอเชีย อเมริกา และยุโรป

ไม่แปลกใจที่เขาเล่นเปียโนตั้งแต่ 5 ขวบ จบจากโรงเรียน Purcell Of Specialist Music School ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1997 และ Kings College ในปี 2000

อัลบั้มทั้ง 5 อัลบั้ม และผลงานส่วนใหญ่เป็นบทเพลงรัก ไม่แปลกใจอีกล่ะ ที่เขาเป็นหนุ่มกุมภาฯ เกิดหลังวันวาเลนไทน์ แล้วหวานอย่างนี้จริง ๆ

ตอนนี้เลยหลงรักทุกเพลงของเขาไปแล้ว แถมยังไปรื้อเพลงบรรเลงเปียโนมาฟังอีก

กว่าจะหาเพลงที่เกี่ยวกับจูบได้ตรงกับธันวา เภตรา และใจคนเขียน เล่นเอาคนเขียน ฟังเพลงจนมึนไปหลายวัน จริง ๆ มีเพลงที่สำรองไว้ แต่ความรู้สึกมันยังไม่ใช่

จนกระทั่งได้ยินเพลงนี้ อารมณ์นี้ ความรู้สึกนี้ ... ฝนตกแบบนี้แทนสัญลักษณ์ยายหนูเภตราได้เลย อีกทั้งเป็นเปียโนด้วยสรุปได้ว่า ไม่มีเพลงไหนที่ส่งมาจากฟ้าเท่าเพลงนี้จริง ๆ

โอ๊ยยยย Mick อยู่ไหนหนอ....



Create Date : 05 ตุลาคม 2551
Last Update : 6 ตุลาคม 2551 13:33:56 น. 41 comments
Counter : 431 Pageviews.

 
เพลงหวานเหลือเกิน ฟังแล้วมีความสุข...

คราวนี้ไม่มีเนื้อเพลง ความจริงเห็นอยู่เหมือนกันตามเว็บ หรือใน you tube แต่ไม่ค่อยมั่นใจว่าเป็นเนื้อเพลงจริง ๆ หรือเปล่า

ฟังแบบบรรเลงปล่อยความรู้สึกไปกับธันวา และเภตราดีกว่านะคะ

อ่านอย่างมีความสุขนะคะ แหะ แหะ แต่ตอนจบจะเครียดหรือเปล่าก็ไม่รู้ แหะ แหะ

พรายทรายแว่บไปทานมื้อเย็นก่อนนะคะ

เดี๋ยวค่อยมาดูตัวสะกด วรรคตอนอีกที


โดย: พรายทราย วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:20:34:15 น.  

 
ชอบนักเชียว ตอนสำคัญแบบนี้
ไม่พลาดอยู่แล้ว
แต่ว่า จูบที่ 2 , ที่ 3 ของลุงแกจะตามมาเมื่อไหร่นี่

อยากถูกจูบ เอ๊ย...อยากรู้จัง


โดย: ปีกสีรุ้ง วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:21:13:52 น.  

 
คุณปีกสีรุ้ง

แป้ววว เชียร์ให้จูบกันอีกแล้วหรือ หือ หือ
ทิ้งช่วงหน่อยดีมั้ยคะ

แค่นี้ลุงธันว์ก็ข่มสติจะแย่อยู่แล้ว อย่าเพิ่งให้ลุงธันว์หน้ามืดบ่อยเลยค่ะ

แง๊ววว เดี๋ยวเรื่องนี้มีหวังกลายเป็นอิโรติก มิอาจไปแข่งกับคุณพีทบ้านลายปากกาโน้น
(ขออภัยที่พาดพิง แต่ไม่รู้จะนึกยกตัวอย่างใครดี)

อิอิ แค่นี้ก็มีคนแซวว่าบรรยายสะล้ำลึกจนนึกว่าลุงธันว์ลากหนูเภขึ้นห้องไปสะแล้ว แหะ แหะ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:21:52:08 น.  

 
ท่าทางจะยังคงเล่น seek and hide ไปเรื่อยๆ สินะ

ป.ล.ขอส่งใบลาสักอาทิตย์ ไว้กลับมาจากประเทศนอก (ทำเหมือนไกลแต่ใกล้นิดเดียว) อังคารหน้าจะแวะมาหาค่า


โดย: waidhaya วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:22:40:17 น.  

 
คุณ waidhaya

โถคุณไวขา ไม่เล่นซ่อนแอบกันแล้วค่ะ
จะขึ้นองก์สาม องก์สุดท้ายใกล้จะจบแล้ว
แง้ว ไม่อยากพูดคำนี้เลย เศร้าจัง...คิดถึงตัวละคร

อิอิ กำลังวางแผนถ่ายโอนตัวละคร ส่งวรรณิศาไปเล่นเรื่องใหม่

5555 เรื่องเก่าก็ยังจ่อคิวโดนทวงอยู่ทั้งวัน เฮ้อออ


โอ้ จะแอบหนีไปเที่ยวไหนคะ น่าอิจฉาจัง พรายทรายยังไม่ได้ไปไหนสักที หือ หือจนขึ้นเดือนตุลาแล้ว

ยังไงก็เดินทางดี ๆ เที่ยวให้สนุก (เอ หรือไปทำงาน) รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

แล้วเจอกันวันอังคารหน้าค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:22:56:52 น.  

 
เสียงเปียโนหวานมากๆๆ โหย.. เล่นเอาอินไปกะลุงธันว์
ลุงเเกบอกว่าอยากทำไรมากไปกว่านี้อีกเหรอ โฮะๆๆ
สงสัยพี่ช่อต้องเปลี่ยนสังกัดไปเขียนอิโรอิโรกะพีทคุงเเทน
พีทคุงไม่อยู่เราเลยเเอบงับนายโต๊ะ อิๆๆๆ


เรื่องเริ่มขมวดปมเเล้วสินะคะ การ์ดเเต่งงานโผล่มาเเล้ว
...อิๆๆ ตอนนี้อยากดูอาการของยัยหนูนางเเบบมากกว่า
หนูเภของเรา เพราะรู้อยู่เเล้วว่าตอนนี้หนูเภออกจะ
โอเค๊..โอเค


เเต่สำหรับลุงธันว์ หนูว่าฉีกบทเเสนดีให้เเกเล่นเเบบ
พระเอกละครไทยบ้างน่าจะเวิร์คนะพี่พรายจ๋า
เเบบว่าหนูอึดอัดเเทน ดูเเล้วอัดอั้น เห็นใจคนเเก่เต็มทนละ
55555


โดย: ใยบัว... เเหย่เล่นเพราะรักลุงธันว์หรอกน้า IP: 114.73.34.200 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:23:55:58 น.  

 
น้องใยบัว

อิอิ รักลุงธันว์จริง ๆ หรือเปล่า อย่าหลอกกันนะอิอิ...
พี่อ้อขี้เกียจดามอกลุงแก


เพลงนี้ตั้งใจหาเป็นอาทิตย์เลยนะคะ กว่าจะได้ลงตัว
โถหากไม่อินนี่ คนเขียนเสียใจแย่ เพราะส่งสารไม่ได้เรื่อง แหะ แหะ


ขนาดยายหนูเภยังรู้สึกเสียดาย คนเขียนก็ยิ่งเสียดาย
มีหรือลุงธันว์อยากจะหยุด เป็นผู้กำกับที่ใจร้ายมาก
เล่นให้นั่งอยู่บนตัก จูบกันขนาดนั้น
ไม่งั้นเดี๋ยวลุงธันว์ต้องเข้าป่าเป็นตาฤษี หรือเปลี่ยนไปชอบนายโต๊ะจริง ๆ
(เอ พาดพิงไปอีกแล้ว ป่านนี้คุณพีทสะดุ้งฝันร้ายไปหลายตลบ)

จริง ๆ นะคะมิบังอาจเลยค่ะไปเขียนอิโร อิโรแข่งกะคุณพีทนี่
เขียนออกมาท่าทางจะเอาตัวไม่รอด เหอะ เหอะ



ขึ้นองก์สามแย้ว องก์สุดท้าย ใกล้จบแล้วค่ะ เฮ้อ แอบถอนใจ
ป่านนี้วรรณิศากรี้ดลั่นสนั่นโรงแรม ยายหนูเภต้องทนไปอีกอาทิตย์แน่ ๆ แหะ แหะ
ดีนะที่ไม่ทิ้งให้หนูวรรณิศาเจ็บคอไปอีกอาทิตย์เหมือนกัน


กลัวใจบทหน้าเหลือเกิน มันจะกลายเป็นดราม่าไปอีกหรือเปล่านี่
ยายวรรณิศากำลังได้ใจคนเขียน ผู้กำกับ
ขนาดเรื่องใหม่ที่รอจอคิว เธอได้เป็นนางเอกแน่นอน
ตามข่าววงใน เร็วยิ่งกว่าหนังสือพิมพ์ 555555



หนูเภลอยตัวแล้วค่ะ แค่แคะแงะฟอลซิลออกไปจากใจแค่นั้น ตอนหน้าเมษาไม่เหลือแล้วแน่ ๆ ค่ะ
ที่เหลือแค่รอดูใจลุงธันว์นี่ล่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะยอมเป็นพระเอกอย่างหน้าชื่นตาบานสักที

ป่านนี้ไม่รู้เรื่องการ์ดหรือยัง คงลิงโลดน่าดู ที่ไม่ต้องแย่งน้องชายให้เป็นบาปเป็นกรรมกันต่อไปอีก


55555 อย่ายุ นะคะ ยายหนูเภยิ่งชอบยั่วคนแก่แบบนี้ เอิ๊กกกกก
เดี๋ยวลุงธันว์ยุขึ้น ตบะแตกฟัดหนูเภขึ้นมาจริง ๆ พี่อ้อต้องไปอยู่สังกัดฝึกวิชากับคุณพีทแน่ ๆ แหะ แหะ


โดย: พรายทราย วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:1:44:19 น.  

 
มาแอบดูพี่อ้อ



เขียนถึงบทที่ 22 แล้ว


โดย: ปณาลี วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:18:46:20 น.  

 
คุณปณาลี

55555 น้องตูนเหมือนวิ่งเล่นไล่จับ กวดตามมาจากลายปากกาเลย อิอิ

ใกล้จบแล้วค่ะ ใจมันแกว่ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้ อ่ะ
มนต์เสน่ห์ของการเขียนเรื่องยาวเป็นแบบนี้เอง


โดย: พรายทราย วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:19:01:53 น.  

 



จั น ท ร์ แ จ่ ม ใ ส จ๊ ะ

ย้ายน้ำตกยกมาให้ชื่นชมถึงบ้าน นะจ๊ะ นะจ๊ะ

รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับวันดีๆทุกทุกวันจ๊ะ





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:21:48:07 น.  

 
ธุป้ากุ๊ก

ขอบคุณค่ะสำหรับน้ำตกเย็น ๆ ใจ เข้ากับเพลง ฟังเพลินเลยล่ะค่ะ

ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:23:41:13 น.  

 

เพลงหวานๆ ใสๆ .. เข้ากับบรรยากาศหวานหวาม
ในหัวใจของหนูเภกับลุงธันว์จริงๆ ค่ะ
แถมทำเอาคนอ่านเคลิบเคลิ้มจนฝันหวานตามไปด้วย
เลยนะคะเนี่ย





ปล. วันนี้ป้าติ๋วไม่ได้มาดึกนะคะ แต่มาดึกมากกกก
เพราะเน็ตของ True หลุดตลอดเลย
เพิ่งเข้าได้สักครู่นี้เองค่ะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:1:45:51 น.  

 
ธุป้าติ๋วค่ะ

อิอิ พรายทรายหลับปุ๋ยเลยค่ะ ฟังเพลงที่นี้ ยิ้มหวานอย่างมีสุข แล้วก็หลับคาหน้าจอทุกที อิอิ

ดีใจจังเลยค่ะ ที่ทำให้ป้าติ๋วฝันหวาน และเชื่อว่าคงมีความสุขด้วย
อย่างน้อยได้ทำอะไรให้เล็ก ๆ น้อย แค่นี้พรายทรายก็สุขใจแล้วล่ะค่ะ

ดอกกุหลาบกลีบบาง แต่ดูแข็งแกร่ง สวยมาก ๆ เลยค่ะ
เพลินไปพร้อม ๆ กับเพลงนี้เลย


เวลาเน็ตไม่แข็งแรงนี่หงุดหงิดเหมือนกันนะคะ จนคิดแล้วว่าเน็ตเมืองไทยเป็นแบบนี้เกือบทุกเจ้า
ขนาดย้ายค่ายแล้ว ก็ไม่ต่างกันเท่าไรหรอกค่ะ
ช่วงนี้เน็ตใหม่ดีขึ้น ก่อนหน้ากระปลกกระเปลี้ย เหนื่อยใจเหมือนกัน

อิอิ ความจริงเน็ตไม่แข็งแรง เพราะอยากให้คนใช้พักผ่อนเยอะ ๆ หรือเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นก็ไม่รู้น่ะค่ะ
เอ หรือว่าเป็นนโยบายใหม่หรือเปล่า หึหึ เขายิ่งขยัน ๆ กันอยู่ หุหุ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:23:46 น.  

 
สาย ๆ สวัสดีวันอังคารค่ะ

พรายทรายไม่ค่อยได้ทักอรุณสวัสดิ์เลย
อาทิตย์ก่อน ๆ ที่ผ่านมาก็เดินสายแต่เช้า
อาทิตย์นี้ก็อยู่ดึก นอนเช้าตลอด วันนี้ตื่นเร็วหน่อย ไม่งั้น เกือบเที่ยงทุกที

อิอิ แถมฝนตกทุกกลางวัน มันน่านอนกลิ้งเลยไปบ่ายทุกที

แต่ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม ขอให้มีความสุขกันเยอะ ๆ นะคะ

ใจสบาย มีความสุข ใจแข็งแรง ร่างกายก็แข็งแรง พร้อมทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เต็มประสิทธิภาพ...


ว่าแล้วก็ส่งยิ้มหวานโปรยไปทั่วฟ้า....
ทำงาน กิจวัตรประจำวันของทุก ๆ คนอย่างมีความสุข ให้มีความสุขตลอดทั้งวันนะคะ

ลั้น ลา ลั้นลา
พรายทรายทำงานต่อดีกว่า ไม่อยากนอนต่อแระ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:31:11 น.  

 
มาลงชื่อเจิมไว้ก่อน แต่อ่านตอนแรกๆ แล้วโอ้โห...หวานเชี๊ยบน่าอิจฉามากๆ
ภาษาพริ้วมากๆ เลยค่ะพี่อ้อ...
สำนวน "นกไนติงเกลสละเลือด" ฟังแล้วปวดใจคนที่รักเขาข้างเดียวสุดๆ
แต่พอมาฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรในบล๊อคพี่อ้อ...ก็เคลิ้มไปก่อนที่จะเสียนำ้ตาให้
นกไนติงเกลตัวนั้น...
เพิ่งมาถึงญี่ปุ่นวันนี้ค่ะ เลยส่งสาส์นมาด้วยความ...คิดถึงจ้า !!



โดย: นางฟ้าหน้าหมวย IP: 210.253.198.241 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:16:54:25 น.  

 
ขอก๊ากหน้าบล๊อคก่อน...หนึ่งยก
อย่างงกับคำว่าเสียงหรีดหริ่งเรไรนะคะ คือได้ยินเสียงแล้วนึกว่าพี่อ้อใส่
เอฟเฟคต์เป็นเสียงธรรมชาติ ทีไหนได้...
เป็นเสียงหรีดหริ่งที่ญี่ปุ่นเองค่ะ งงมากๆๆ ร้องระงมอยู่หน้าห้องเอง

แวะมาแก้ข่าวเดี๋ยวพี่อ้อจะเง็งซะก่อน เอาใจช่วยหนูเภตรานะคะ


โดย: นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ ) วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:17:06:19 น.  

 
อาไรเนี่ย ทำไมรู้สึกร้อนๆ เหมือนโดนนินทา ฮ่าๆๆ

อ๊ากกกกก อ่านตอนจบแล้วตกตะลึงอึ้งกิมกี่ครับ นายเมษนะนายเมษ อะไรเนี่ย เอาอีกแล้ว ข่าวใคร ข่าวทางไหน ทางหนูบุษ ลุงพิศาล หรือข่าวตัวเอง ใจคอจะไม่ต้องบอกใครเลยใช่มั้ย (อ้อ เรียกพี่ชายไปหาแล้วนิ) บทหน้านายเมษลงหลุมแน่เลยครับ เดี๋ยวคนอ่านช่วยกันโกยดินกลบเอง โฮ่ๆๆ

พี่อ้อกระซิบมาว่า คนอ่านกระซิบมาอีกที ว่าอ่านไปแล้วนึกว่าลุงธันว์ลงสนามแข่งกับไอ้โต๊ะ มาอ่านเองแล้วก็พอเข้าใจ เพราะย่อหน้าแรกๆ ของพี่อ้อมันเป็นนามธรรมเคลิ้มๆ หน่อยนี่เอง บางประโยคแอบกำกวมจริงนะครับ ฮ่าๆๆ หยดน้ำ ปฏิกิริยาเคมี จากอุ่นเป็นร้อน พวกนี้มันเป็นสัญลักษณ์พื้นฐานของบทอัศจรรย์ อ่านไปแล้วเลยชวนให้เผลอนึกไปทางนั้นได้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ

กว่าจะรู้ตัวว่าแค่ "ริมฝีปาก" ก็แอบเพริดไปเล็กน้อย

(เฮือก.... ลุงจ๋า...)

แรกๆ นายอรัญก็น่ารักดี ตอนนี้ฟังหนูเภแล้วชักรู้สึกเซ็งๆ ผู้ชายคิดเองเออเองนี่ ไม่ค่อยน่าใช้เวลาด้วยเท่าไหร่นะครับ ไปนั่งคิดคนเดียวแล้วกันนะคุณ จะได้ไม่เสียเวลาของกันและกัน ฮ่าๆๆ

ตกลงหนูศาจะได้ขึ้นแท่นนางเอกแล้วใช่มั้ยครับ คงเป็นนางเอกที่แสบเซี้ยวไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย

ลุงธันว์จ๋าลุงธันว์ อดทนอีกนิดเดียว นี้ดดด เดียวเท่านั้น เมื่อความรักสุกงอม แล้วจะอ่อนหวาน เดี๋ยวไม่งั้นจะเหมือนไอ้โต๊ะนะเออ กร๊าก

(ป.ล. ลุงธันว์กับไอ้โต๊ะนี่ ไอ้โต๊ะแก่กว่าใช่มั้ยนะครับ)

ป.ล.สอง คุณใยบัว งับไอ้โต๊ะต้องระวังนิดนึงครับ แก่แล้ว หนังเหนียว เดี๋ยวฟันโยก ฮ่าๆๆ

ป.ล.สาม พี่อ้อมาฝึกวิชาสำนักผมไม่ได้มั้งครับ ผมไม่ถนัดด้านนี้ อิๆๆ

ป.ล.สี่ ขำเสียงหรีดหริ่งเรไรคุณนางฟ้าอะ ฮ่าๆๆ


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:18:51:16 น.  

 
คุณ นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ)

สวัสดีค่ะ เริ่มบินออกเดินทางแล้วสิคะ
อยากตามไปอยู่ในกระเป๋าเดินทางด้วยจัง
อิอิ แต่ขนาดกว้างของพี่อ้อจะลงกระเป๋ามั้ยนี่

ว่าไปที่ญี่ปุ่นมีเสียงหรีดหริ่งเรไร นี่ได้บรรยากาศเนอะคะ
อิอิ พี่อ้อก็เป็นบ่อย ๆ ค่ะ นึกว่าเสียงจากในเน็ต
แต่กลับเป็นเสียงจากบ้านเราเอง
เอ แต่บทเพลงนี้ก็เพราะนะคะ ฟังแล้วเหมือนเสียงฝนตกบนหลังคาได้เหมือนกัน อิอิ

ขอบคุณค่ะที่ชม ให้ชุ่มฉ่ำ บทนกไนติงเกลจริง ๆ อยู่บทที่ 16 ค่ะ
ไม่ทราบได้อ่านหรือเยอะเนอะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้ยายหนูเภตรา
พี่อ้อก็คิดถึงคุณนางฟ้า และคุณวายุ ม๊ากกกก มากกก เลย

คิดถึงนะคะ แล้วแวะมาคุยกันอีกนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:18:56:06 น.  

 
คุณพีท

หัวโหม่ง ตอบคุณนางฟ้า แล้วก็ไปดูมิค ตามอ่านข่าวเรื่องลอก
เลยไม่ได้เข้ามาดู ไม่ทันเห็นของคุณพีท เดี๋ยวมาตอบนะคะ
ขอไปละเมียดกับคุณมิค ต่ออีกเล็กน้อย อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:20:54:49 น.  

 
คุณพีท รอบสอง

55555 ขออภัยนะคะ คราวนี้ไปเข้าทางเลยพาดพิงให้ร้อนสะขนาดนี้

คงเป็นเพราะสัญลักษณ์พื้นฐานนั่นแหละค่ะ ถึงโดนพาดพิงไปหานายโต๊ะ อารมณ์มันพาไปแบบนั้น
หากใครเคยเก็บความรัก ความรู้สึกอัดไว้นาน ๆ มันจะล้นมาแบบนั้นอ่ะ 55555
แล้วนะ มีผู้หญิงนั่งอยู่บนตักสะขนาดนั้น โอ๊ยยย ลุงธันว์มะจ๋ายยยย ตาฤษีนี่นา

แล้วจูบมันก็เป็นการจุดเชื้อเพลิงดี ๆ นี่เอง สติมันปริ่ม ๆ อยู่ตรงนั้นแหละ เหอะ เหอะ
ลองเพริดอีกนิด รับรอง บึมส์ หุหุห ได้หฤหรรษ์ อัศจรรย์ ให้ลุงจ๋า ลุงจ๋า อย่างยาวแน่ อิอิ

บทหน้าได้รู้กันค่ะ ว่านายเมษจะลงหลุม ตายดีตายร้ายแน่ องก์ที่สามสะที แบบผู้ร้ายของเรื่องเตรียมตัวโดนฝังจริง ๆ คุณพีทเตรียมคอนกรีตไว้ได้เลยค่ะ
อิอิ ไม่งั้นไม่จบสะทีนิ

มีหลายคนรอดูวรรณิศาออกอาละวาดฉลองวันฮัลโหลวีน (ไม่เขียนผิดนะคะ แต่มันน่ารักดี อิอิ)
ยิ่งข่าวรั่วมาว่า เธอไปเตรียมรอรับบทใหม่ นิยายเข้าคิวของช่อคราม 55555 ได้เป็นนางเอกเต็มตัวเลยคราวนี้
อย่างน้อยก็เป็นตัวละครตัวแรกที่พี่อ้อรู้สึกว่าคาแร็คเตอร์เธอคอมเมดี้จริง ๆ 55555

เดี๋ยวลองเปรียบเทียบระหว่างอรัญ กับ นายเมษแล้วกันค่ะ เขามีอะไรคล้าย ๆ แต่ก็ต่าง
จุดประสงค์เขาชัดเจน มุ่งมั่น ทำทุกอย่างให้ได้มา เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
เจอแบบนี้เสียเวลา หงุดหงิดใจนะคะ เหมือนเอาใจเรา แต่กลายเป็นว่าที่แท้เอาใจตัวเอง


ลุงธันว์ดูชะตากรรมนายโต๊ะด้วยความหวาดกลัวค่ะ คงไม่กล้าปล่อยใจแน่ ๆ ไม่งั้นเดี๋ยวต้องผูกเรื่องต่อ คราวนี้พี่ชายแย่งผู้หญิงของน้องชายจริง ๆ

(ป.ล. 1 นายโต๊ะแก่กว่าค่ะ ตามตัวเลข แต่ลุงธันว์ทำตัวแก่กว่านายโต๊ะมากมาย คงเพราะลักษณะงาน งานลุงธันว์มันเครียด จริง ๆ

ป.ล. 2 น้องใยบัวมารับโน้ตที่คุณพีทฝากไว้ด้วยนะคะ

ป.ล.3 อิอิ ไปฝึกกับสำนักประภาคาร คุณประภาพ นี่คิดหนัก อยากฝึกกับ เฮียนพ หรือนาย ไรหนอหนุ่มน้อยช่างอ้อนคนนั้น (พี่อ้อจำชื่อไม่ได้สักที สงสัยคุณพีทเขียนถึงน้อยไปหน่อยอิอิ)

ป.ล.4 พี่อ้อเคยไปหน้าแตกบล็อกคุณไวเหมือนกันค่ะ ชมใหญ่ว่าเพลงเพราะดี อ้าววว เป็นเพลงจากบล็อกคนอื่น ดันเปิดไว้พร้อมกัน อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:22:53:07 น.  

 
ตอนนี้มาอยู่แดนภารตะแล้ว...เน็ตไวไฟ ห้องไฮโซ มีจากุซซี่ด้วย วันนี้กะว่า
จะอ่านนิยายพี่อ้อให้ฉ่ำไปเลยค่ะ นานๆ มีโอกาสเหมาะๆ คิกๆ

ไม่ยักรู้ว่ามีคนขำเรื่องหรีดหริ่งเรไรด้วย คิดแล้วขำ...เราก็นึกว่าพี่อ้อโรแม๊นซ์
เอาเสียงจริงธรรมชาติมาใส่ ฮู็ย...ที่ไหนได้ ร้องหวี่ๆ ดังมาถึงในห้องเลยค่ะ

พรุ่งนี้จะไปตะลุยตลาดอินเดียซะหน่อย ครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ ตื่นเต้ลลล...
ไว้จะมารายงานถ้ามีโอกาสได้ถ่ายรูปนะคะ

ขอตัวไปแช่อ่างก่อนค่ะ ตัวหนูจะเค็มตายแล้ว ดองมาอยู่ในเครื่อง...กลิ่นแขกกึกเชียว...


โดย: นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ ) วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:21:02:36 น.  

 
พีทคุงคะ...


จริงๆเมื่อไม่นานมานี่ ใยบัวเเอบย่องไปบ้านลายปากกามา
เเละด้วยความอยากรู้ว่านายโต๊ะเนี่ยเป็นใครยังไง
เพราะเห็นชื่อเสีย(ง)โด่งดังอยู่ไม่น้อย ก็เลยอยากรู้จัก

ปรากฎว่าอ๊ะกึ๊ย.. โผล่ไปทันเห็นนายโต๊ะเล่นบทเอาคืน
กับคุณกล้าเข้าอย่างจัง อ๊ากกก เท่านั้นละ ใยบัวรีบเผ่น
กลับออกมาทำใจอยู่เป็นนานเลยค่ะ

เหะๆ... เเต่เรื่องจริงก็คือ เเอบดูเค้าล้างเเค้นตั้งเเต่ต้น
จนจบเหมือนกัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น 5555555

เเต่ด้วยความอ่อนด้อย จึงมิกล้าบังอาจทิ้งข้อความเอาไว้
เห็นเเฟนนายโต๊ะเม้นต์กันยาวเหยียด ใยบัวก็ได้เเต่อ่าน
ทำตาปริบๆว่า โอ้โห... ดูเค้าตั้งใจอ่านเเละวิเคราะห์
คาเเร็คเตอร์ของนายโต๊ะกันอย่างจริงจัง
เเฟนๆนายโต๊ะนี่น่านับถือกันจริงๆเลยค่ะ ^_^


ทีนี้พอเห็นผู้กำกับให้ลุงธันว์จูจุ๊บกะหนูเภ
ชนิดคนอ่านเข้าใจผิดว่าสงสัยจะเลยเถิดจนกลายเป็น
ฉากอิโรกาติก ใยบัวก็อดลุ้นไม่ได้ว่ามันจะเลยเถิด
ไปเหมือนนายโต๊ะหรือไม่ อิๆๆๆ

จริงๆคือลุ้นอยากให้เเข่งกะนายโต๊ะเสียให้รู้เเล้วรู้รอด
เเบบว่าเห็นใจคนเเก่เหลือเกิน 5555555
เเต่สงสัยผู้กำกับจะไม่ยอม เพราะเกรงภาพพจน์
ลุงธันว์ผู้ล้านดีจะโดนฉีกเสียย่อยยับ
เเฟนๆที่ตามลุ้นลุงเเกอย่างใยบัวก็เลยได้เเต่ถอนใจเฮือก
ด้วยความเสียดาย เหะๆๆๆ

เอ... หรือคนเขียนบทจะเปลี่ยนใจให้ลุงธันว์
ลงเเข่งกะนายโต๊ะ พี่พรายจ๋า... ว่าอย่างไร อิๆๆๆ


โดย: ใยบัว IP: 114.73.61.21 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:21:21:53 น.  

 
อิอิ ปะโป้งบล็อกตัวเองค่ะ
เมื่อคืนเผลอหลับ
เดี๋ยวค่ำ ๆ กลับมาตอบนะคะ
น้องนางฟ้า และน้องใยบัว

มีความสุขมาก ๆ กับวันศุกร์ ปลายสัปดาห์นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:11:20:42 น.  

 
คุณนางฟ้าหน้าหมวย

ฟังแล้วต่อมอิจฉาโต น่าไปลงแช่จากุชชี่เสียนี่กระไร

ชอบเดินตลาดมากค่ะ ได้ความรู้สึกจิตวิญญาณของผู้คนที่นั่น ไม่ว่าตลาดในประเทศ หรือตลาดต่างประเทศ

อิอิ แบบเรื่องกินเป็นเรื่องสำมะคัน

แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ ว่าตลาดที่อินเดียเป็นอย่างไร
นึกแล้วก็อยากกินถั่วจัง ตลาดที่อินเดียจะมีถั่วขายมั้ยนา นา

แบบสมัยเด็ก ๆ แขกที่ขายถั่วหน้าโรงเรียน เขาบอกว่าถั่วเขามาจากอินเดียด้วยอ่ะ

กินถั่วนอกมาตั้งแต่เด็กเลยนะเรา อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:22:18:12 น.  

 
คุณใยบัว

ให้ลุงธันว์เขาแค่พออุ่น ๆ ดีแล้วนะคะ
อย่าให้ร้อนเลยค่ะ คนเขียนจะอาการหนักก่อนใครอื่นไปเสียก่อน

ยิ่งหายใจเข้าออกเป็นมิคแบบนี้ด้วย เหอะ เหอะ


โดย: พรายทราย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:22:22:09 น.  

 
ตะกี้พูดแล้วขำ เขียนไปเคี้ยวถั่วเขียวต้มน้ำตาลไป
มันหวานจนต้องเติมน้ำ...

หือ หือ นี่ขนาดกินเสร็จแล้ว ก็ยังอยากกินถั่วต่อขึ้นมาสะงั้น

เหลือบดูนาฬิกาแล้วก็ถอนใจ เฮ้ออออ

งั้นเขาโหมดต้อนรับแบบออโต้ดีกว่านะคะ

มีความสุขกับค่ำคืนวันศุกร์ทก ๆ คน ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:22:27:54 น.  

 
จุ๊กกรู้ ^ ^

เย็นวันเสาร์ ช่างเหงาอุรา
มามะมะมา ฮาเฮเย๊เย

(พยายามจะแต่งกลอนมาฝาก แต่แป้กสะแล้ว ฮ่าๆๆ)

พรายน้ำมัววิ่งเล่นไปมา เหนื่อยหอบ แฮ่ก แฮ่ก
คอแห้งเป็นผงเลยขอมาพักริมหาดบ้านนี้ก่อน
ได้ซดน้ำทะเลย้อมใจสักแก้ว คงพอดับกระหายได้บ้าง (กึ๋ย)




โดย: พรายน้ำฟ้า วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:20:43:36 น.  

 
คุณพรายน้ำฟ้า

จ๊ากกก ระวังไตไม่สบาย น้ำเค็มปานนั้น เดี๋ยวแปลงร่างจากพรายน้ำธรรมดาเป็นพรายทะเลนะคะ

ว่าแต่ว่า ทำไมไม่ไปวิ่งในห้องคุยลายปากกา อิอิ เล่นให้พี่อ้อวิ่งไล่จับอีกแย้ว

ชวนออกกำลังกายกันเรื่อยจริง ๆ


โดย: พรายทราย วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:21:23:56 น.  

 
ลากสังขารมาสวัสดีพี่อ้อค่ะ


โดย: เทียนสี (teansri ) วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:22:06:18 น.  

 
คุณเทียนสี

ขอบคุณค่ะที่ยังอุตส่าห์แวะมา
พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ จะได้แข็งแรงเร็ว ๆ
ยังรออ่านนิยายอยู่น้า


โดย: พรายทราย วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:23:45:56 น.  

 
ว่าแล้วก็ตั้งโหมดต้อนรับอัตโนมัติ
พรายทรายบอกลา ราตรีสวัสดิ์ ดีกว่า

พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาจัดการลุงธันว์ให้เรียบร้อยไว ๆ อิอิ
แต่ปะก็คงหัวค่ำเหมือนเคยค่ะ ...

ราตรีสวัสดิ์ มีความสุขกับค่ำคืนวันเสาร์
และเช้าวันอาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์นะคะ
มีความสุขเยอะ ๆ นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:23:48:57 น.  

 


ฝากดอกไม้ไว้แทนคำขอบคุณที่แวะไป เยี่ยม ๆ มอง ๆ ที่บล็อคค่ะ


โดย: ปีกสีรุ้ง วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:12:41:04 น.  

 

มาฟังเพลงเพราะๆ และแวะมาส่งกำลังใจ
ให้คุณพรายทราย และคุณช่อคราม
ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขนะคะ





โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:15:42:15 น.  

 

มาฟังเพลงเพราะๆ และแวะมาส่งกำลังใจ
ให้คุณพรายทราย และคุณช่อคราม
ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขนะคะ





โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:15:42:15 น.  

 
แวะมาตั้งแถวรอบทใหม่ครับ

พี่อ้อ - ตาน้องคนนั้น ชื่อนายแอ๊บครับ ตอนนี้เก็บใส่กรุไปชั่วคราว ซักพักค่อยขุดมาอ้อนใหม่

คุณนางฟ้า - เที่ยวตลาดให้สนุกนะคร้าบ อยากกินด้วยจัง (เกี่ยวมั้ยเนี่ย)

คุณใยบัว - เขาไม่ได้วิเคราะห์ไอ้โต๊ะกันหรอกครับ ส่วนใหญ่เป็นอาการบ่นปนสงสาร (รำคาญเป็นบางที) น่ะครับ ฮ่าๆๆ หลังๆ จะสงสารไอ้โต๊ะที่โดนผู้กำกับแกล้งน่าดูเลยครับ ส่วนลุงธันว์จะเล่นโหมดนั้นผมก็ไม่ว่าอะไรนะ ขอจังหวะดีๆ พระเอกๆ หน่อยก็ใช้ได้ เอิ๊ก


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:19:31:49 น.  

 
คุณปีกสีรุ้ง

ขอบคุณดอกไม้สวย ๆ ของคุณปีกสีรุ้งค่ะ
เอาใจช่วยให้งานเบาลงนะคะ จะได้อ่านต่อใหม่สักที
ฝากกำลังใจกลับไปด้วยค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:20:37:55 น.  

 
ธุป้าติ๋วค่ะ

ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ และกำลังใจจากป้าติ๋ว พรายทรายขอเก็บไว้ทั้งสองภาพ แบบนี้

เบิ้ลก็ไม่เป็นไรค่ะ สวยถูกใจเหลือเกิน โต๊ะน้ำชากาแฟสวย ๆ มีทะเลเห็นลิบ ๆ กรี้ดดดด ถูกใจเป็นที่สุดค่ะ

สำหรับภาพหนึ่งของพรายทราย อีกภาพยกให้ช่อครามแล้วกันนะคะ

ขอบคุณป้าติ๋วอีกครั้งค่ะ ที่ให้กำลังมาจนเกือบจะสุดป้ายแย้ววววว


โดย: พรายทราย วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:20:40:49 น.  

 
คุณพีท

แหะ แหะ วันนี้มาช้าคุณพีทตั้งแถวไปเกือบชั่วโมง
มัวไปแอบอู้กินข้าวมื้อเย็นนานไปหน่อย อิอิ

แต่ก็ปะก่อนคุณพีทกลายเป็นฟักทองน้า

โอ้ นายแอ๊บนี่เอง จำชื่อไม่แม่นสักที

โอ๊ยยยยย รู้ทันนะจะให้ธันว์มีบทหน้ามืด เสียสติ คุณพีทจะแอบดูลุงธันว์ล่ะสิ อิอิ

เป็นทั้งนายโต๊ะ ทั้ง ผกก เลยวุ้ยยยย

อิอิ ...แต่ที่แน่ ๆ พี่อ้อว่าลุงธันว์ปุ่มหื่นชักออกอาการ
รู้งี้เติมให้ลุงธันว์แอบเผลอจ้องยายหนูเภ จนเธอเขินไปสักหน่อยคงดี


โดย: พรายทราย วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:20:44:18 น.  

 
เฮ้ออออ ไม่อยากเปลี่ยนหน้านี้ เพลงนี้เลย

กลายเป็นเพลง ธีม ของคู่นี้ไปแล้ว ...

ฟังแล้วหายเหนื่อยทุกที จริง ๆ แล้วบท 23 ไม่เหนื่อยนะ แต่สงสารยายวรรณิศา กับ เภตราชมัด

ทำไมเรื่องนี้ หนุ่ม ๆ ถึงร้ายกันแทบทุกคน ลุงธันว์เป็นพระเอ๊ก พระเอกอยู่คนเดียว

เอ หรือจะให้ซาตานสิงลุงธันว์อีกดีหนอ...


โดย: พรายทราย วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:20:47:14 น.  

 
ตอนนี้ช่างเมษาไปละ... จะทำไรทำไปเต๊อะ...

แต่...

ลุงธันว์ กะ เจ๊เภฯ จะโรแมนติกไปถึงหน๊ายยยยย.....
เพลงก็เข้าบรรยากาศซ้า...
เฮ้อ...

อิน ฮ่าๆ

ต่อครับต่อ

(ตะกี้แอบสะดุดเพราะเน็ตหลุด อารมณ์ค้างเลย งึ่มๆ)

+++++++++


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:36:12 น.  

 
คุณรักดี

แป้ว แหมมม เพิ่งเชียร์เอง แอบอิจฉาล่ะสิ

เพลงเพราะเนอะ

โห จืดเลยละนั่น เน็ตหลุด อารมณ์ค้างตอนสำคัญสะด้วย


โดย: พรายทราย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:23:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.