ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 12.. "ช่อคราม"








บทที่ 12

หากเป็นเรื่องของความรักแล้ว
ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย
ต่างก็สร้างเรื่องวุ่นวายได้ไม่แพ้กัน ...


บรรยากาศของเรือนพื้นเมืองเป็นศาลาไทยหลังเล็ก ๆ ในสวน ล้อมรอบโอบเวทีการแสดงและรำไทยที่ดูเหมือนจะจัดไว้ต้อนรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ มีตั่งไม้สักแกะลาย เข้ากันได้ดีกับพื้นปูพรมผ้าฝ้ายทอลายสวย มีหมอนขวาง หมอนเหลี่ยมให้เอกเขนก จะนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรือจะเหยียดยาวได้อย่างเต็มที่

อาหารพื้นเมืองแต่ละภาคของไทยถูกจัดมาในสำรับที่สวยหรูแปลกตา ทำให้เภตรารู้สึกตื่นตาตื่นใจ พอช่วยบรรเทาอาการเจ็บแปลบ ๆ ที่ได้เห็นเมษาและบุษมาสนั่งคู่กันอยู่ข้างหน้าแบบนี้...

เภตราสูดลมหายใจ นี่เธอต้องปั้นหน้า แสร้งเก็บความรู้สึกแบบนี้ไปนานอีกแค่ไหน...

กันยายังคงดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ยินดีปรีดาและปลาบปลื้มกับพี่น้องอย่างออกหน้าออกตาเช่นเคย ขณะที่น้องชายคนเล็กนั่งเงียบกริบ ไม่ต่างอะไรกับเภตรา หญิงสาวพยายามเลี่ยงไม่สบตากับเมษาโดยตรง แต่หลาย ๆ ครั้งที่เธอไม่อาจละสายตาไปจากคนที่เฝ้าถวิลหามาตลอด และยิ่งในเวลาที่บุษมาสพยายามตักอาหารเอาอกเอาใจเมษาอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้

“ตะกี้ตอนเข้ามาน้องบุษบอกว่าคุณเภตราเคยเจอนายเมษแล้ว ไม่เห็นบอกกันก่อนเลย”

“เอ่อ ....คือ....คือตอนแรกไม่ค่อยแน่ใจน่ะค่ะว่าจะใช่” เภตราเริ่มกระอักกระอ่วน กับการเลี่ยงที่จะต้องพูดโกหก เธอเริ่มเข้าใจความหมายของธันวาที่บอกเธอที่หัวหิน

คำตอบของเธอฟังไม่ขึ้นเอาสะเลย ไม่ใช่แค่ฟังไม่ขึ้นอย่างเดียว มันช่างไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง เภตราพยายามร้องเพลง let it be อยู่ในใจ

“ที่เยอรมันพี่เมษเป็นเด็กดีมั้ยคะ? ปกติพี่เมษไปไหนต้องมีสาว ๆ อยู่ข้าง ๆ ตลอด” น้ำเสียงหวานๆ เหมือนเอ่ยลอย ๆ มากกว่าจะถามเภตราโดยตรง แต่สายตาคู่นั้นที่เปรยมายังเภตรามันช่างต่างออกไปมากมาย

“ไม่ต้องเดาหรอก น้องบุษก็รู้ รายนี้ก็เป็นแบบนี้ ใส่ใจอะไรมากมาย” กันยาแย้งออกมาตามนิสัยของตัวเองในทันที

“น่านน..เจ๊ขยันรู้อีกล่ะ เดี๋ยวคืนนี้ให้ร้องคนเดียวทั้งคืนเลย” เมษาโวยวาย ขณะที่ทุกคนในวงกำลังรอฟังคำตอบจากเภตรา และก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดขึ้น

“เห็นมั้ยคะ? โทรศัพท์ดังอีกแล้วพี่กันย์ …หากพี่เมษจีบสาวเยอรมัน หรือคุณเภตราละก็ มีหวังคงต้องขวัญเสีย... สาว ๆ พี่เมษน้อยอยู่สะเมื่อไหร่“

เภตราสะดุ้งเฮือกร้อนตัวกับการโยนหินถามทางที่มาพร้อมกับสกัดกั้นเส้นทางไว้เช่นนี้ เภตราพยายามฝืนยิ้ม เมษาจ้องมาทางเธออย่างตั้งใจ ส่ายหน้าอย่างที่ไม่ค่อยแน่ใจในความหมายนัก ก่อนลุกเลี่ยงออกไปอีกทาง...

เภตรากัดริมฝีปากเริ่มตั้งต้นสังเกตลักษณะของหญิงสาวตรงหน้าอย่างจริงจัง บุษมาสดูจะไม่ใช่ผู้หญิงเงียบ ๆ เรียบร้อย อ่อนโยนอย่างที่เธอเคยคิด ยิ่งเมื่อรู้ว่าเธอกับเมษาเคยพบกันมาแล้ว ท่าทางที่แสดงกับเธอก็เริ่มต่างออกไป ทั้งคำพูด สายตาและรอยยิ้มที่ส่งกลับมา

หรือตรงนี้อาจเป็นแค่สัญชาตญานของผู้หญิง

หรือว่าทั้งหมดนี้ไม่มีอะไร ก็แค่เธอกังวลใจร้อนตัวไปเอง...


บุษมาสจะรู้เหมือนอย่างที่เธอรู้หรือไม่ว่า สองสามวันที่ผ่านมาเมษาได้ทำอะไรเอาไว้ และจะโกหกผู้หญิงข้าง ๆ เขาเหมือนอย่างที่โกหกเธอหรือไม่

หรือว่าหญิงสาวจะคุ้นเคยกับการกระทำของเมษาเป็นอย่างดีแล้ว...


อีกสิ่งที่ให้ประหลาดใจเพิ่มมากขึ้น เมื่อยิ่งผ่านไปหลายต่อหลายนาที ยามเห็นคนที่คะนึงหามาตลอดหลายเดือนอยู่ตรงหน้า ความทุรนทุรายแน่ในหน้าอกเริ่มหมดไป มันเริ่มเลือนจาง เหมือนเมฆหมอกที่ไม่หนาแน่นอีกต่อไป มันชัดเจน เป็นความชัดเจนที่ถูกแทรกซ้อนเข้ามาแทนด้วยเมฆหมอกสีดำ กลายมาเป็นความเจ็บปวดอีกรูปแบบหนึ่ง แต่มันกลับไม่รู้สึกสาหัสเหมือนเมื่อหลายวันที่ผ่านมา...

เภตราเริ่มมั่นใจว่าสิ่งที่ทำร้ายความรู้สึกเธอไม่ใช่เรื่องเมษากับเพื่อนสาวหลายคน แม้จะสนิทแนบแน่นแค่ไหนก็เถอะ แต่เรื่องโกหกไม่บอกเธอนี่ต่างหากที่เภตรายากที่จะให้อภัย...

ทั้งหมดอาจเป็นเพราะ เธอเริ่มรู้สึกว่า ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่เมษาโกหก แต่เมษาคงโกหกกับทุก ๆ คน ด้วยนิสัยเจ้าชู้ของเขาอย่างแน่นอน...

“เดี๋ยวเจ้าอรัญจะแวะมากินข้าวด้วยนะเจ๊... อย่าเพิ่งรีบอิ่ม ยังไงคืนนี้ต้องร้องเพลงให้ตายกันไปข้างหนึ่ง”

“เออดีมีมาหลาย ๆ คน ไม่ได้เจอนายอรัญนานแล้ว...ป่านนี้ทำงานหัวตูบไปหรือยัง นายเล่นบินไปบินมาข้ามโลกแบบนี้”

“ก็มันดันไม่ชอบไปไหน ชอบอยู่แต่สตูดิโอ...นี่มันยอมออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันบ้างก็ดีแค่ไหนแล้ว”

“ความจริงนิสัยอย่างนายอรัญน่าจะแต่งงานมีคนคอยดูแล ไม่รู้จะอยู่เป็นโสดไปทำไม ริจะเป็นตาฤาษี อย่างพี่ธันว์ ...เอ หรือเป็นเกย์กันทั้งคู่ละนี่”

“เออดีนะ วกมาเกี่ยวอะไรกับพี่ด้วยล่ะ เห็นใครโสดก็จะยกมาให้ ไม่ใช่ผู้จัดการทีมฟุตบอล”

“แน่ใจนะว่าทีมฟุตบอล ไม่ใช่เป็นประธานชมรมที่พักพิงเกย์หนุ่ม…” กันยาพูดหน้าตาเฉย เภตราเผลอหัวเราะเสียงดัง อดส่งสายตาล้อเลียนธันวาไม่ได้ จนเขาต้องทำตาเขียวดุ ๆ ใส่กลับมา พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องให้ห่างจากตัว

“ดื่มก็ไม่ดื่ม กินก็ไม่กิน หรือติดให้สาว ๆ ป้อนให้?” แม้จะเป็นอารมณ์ล้อติดตลก แต่มันก็ทำให้เภตรารู้สึกแปลก ๆ ร้อนวูบวาบเหมือนไข้จะกลับขึ้นมาใหม่ ราวกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอยู่นี่ กำลังกัดกินหัวใจของเธอให้หมดไป ๆ ...

“บุษว่าพี่เมษกำลังอิ่มใจน่ะค่ะ นาน ๆ ได้มานั่งทานกันพร้อมหน้ากันแบบนี้” บุษมาสเปรยตามาทางเธออีกครั้ง เภตราเม้มริมฝีปากแน่น ทำหน้าเฉย ๆ พยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ตัวเอง

“เวลามันรวน ๆ น่ะเฮีย กินอะไรเลยไม่ค่อยอร่อย”

“หรือขาดคนรู้ใจอีกคนมานั่งทานด้วยคะพี่เมษ ไม่ได้ชวนเขามาด้วยหรือคะ? แล้วนี่เจอกันหรือยังคะ?ตั้งแต่กลับมา” บุษมาสพูดเรียบ ๆ ทีเล่นทีจริง แต่เหมือนตั้งใจทีจริงมากกว่าแค่เย้าเล่น จนเมษาทำหน้าเบื่อ ๆ

“ได้ยินแว่ว ๆ ว่าคุณลุงร่วมทุนกับอิตาลีหรือเฮีย...งั้นคุณเภตราก็มาเมืองไทยเพราะเรื่องนี้สิครับ” เป็นครั้งแรกที่เมษาหันมาพูดกับเธออย่างเป็นทางการ

“เอ่อ...ก็ไม่เชิงค่ะ...คือที่มานี่...มาทำงาน...มาหลายเรื่อง” เภตราสะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าเมษาจะโยนบทสนทนามาทางเธอ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายตีหน้าปูเลี่ยนอย่างร้อนตัว เภตราไม่ได้ตั้งใจจะย้ำเสียงแขวะไปทางเขา แต่เธอไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรที่เหมาะสมไปมากกว่านี้…

“เธอมาทำงานที่นี่สองปี” คราวนี้เภตรารู้สึกร้อนวูบวาบหนักยิ่งขึ้น ไม่ใช่ฤทธิ์เบียร์ที่ดื่มเช่นเคย หญิงสาวหันไปมองหน้าคนพูด สายตาที่มองกลับมาเหมือนเต็มไปด้วยคำถาม ธันวากำลังโยนภูเขาดักทางลงกลางวงหรืออย่างไร …

“มาอยู่...สองปี” เมษาทวนคำเบา ๆ มองหน้าเภตราอีกครั้ง ก่อนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แต่ไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ เสียงที่กันยาไม่อยากได้ยิน ไม่อยากเจอก็ดังเข้ามาก่อน

ส่วนตัวเจ้าของเสียงนั้นถลาลงไปนั่งขนาบข้างเกาะแขนประชิดราวกับจะขึ้นไปนั่งอยู่บนตักของเมษา ทำเอาบุษมาสหน้าตึงขึ้นในทันที

ส่วนเภตราเธอได้แต่เผลอถอนหายใจอีก จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทั้งสองคนอย่างลืมตัว…

“เมษไม่ยักโทรบอกษาเลย... อ่อ! วันนี้มากับยายบุษนี่เอง” น้ำเสียงประชดปนเวทนาอย่างแปลก ๆ

“ก็ขนาดไม่ได้โทรยังตามมาถูกเลย พี่เมษเขาจะต้องไปโทรทำไมให้เสียเวลาทำงานทำการ” บุษมาสเอ่ยขึ้นลอย ๆ แต่กลับทำให้หญิงสาวอีกข้างของเมษาหอมแก้มมากกว่าการทักทายอย่างตั้งใจ

เภตราแทบสำลักน้ำตะไคร้อุ่น ๆ ในถ้วยเคลือบ สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกับเธอ อยากขำก็อยากขำกับภาพสงครามที่เห็นอยู่ตรงหน้า...

ความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปในทันที ว่าไปเธอเริ่มรู้สึกสงสาร
เมษาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ต้องเผชิญหน้าสองคนก็กล้ำกลืนแย่แล้ว ยังมีอีกคนตามมาขนาบอีกข้าง ที่พร้อมจะห่ำหั่นกันอยู่ตลอดเวลาแบบนี้

นี่ถ้ามีแม่สาวผมทองคนที่เธอเจอที่โรงแรมด้วยอีกคนคงสนุกยิ่งกว่านี้ หรืออาจมีใครจะตามมาอีกที่เธอยังไม่รู้ ไม่เห็นอีก...

เธอเริ่มตระหนัก ยอมรับว่าผู้ชายคนตรงหน้าเธอแทบจะไม่รู้จักเขาจริง ๆ เลย...

การไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเมษาให้คนอื่นรู้ ช่วยทำให้เธอไม่ต้องตกอยู่ในสภาพสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เช่นนั้นคงมีคนหัวเราะเยาะ กลายเป็นเรื่องตลกที่น่าขบขัน อย่างที่เธอกำลังรู้สึกนี่ก็เป็นได้…

เธอเริ่มเข้าใจความรู้สึกตัวเองมากขึ้น แม้ในใจจะปวดจี๊ด ๆ อยู่ก็ตาม แต่การได้รู้เรื่องราวทั้งหมด ได้เห็นทุกสิ่งตรงหน้าชัดเจนเป็นคำตอบอยู่แบบนี้ คงไม่มีอะไรให้เมษาต้องแก้ตัว หรือโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว

ระบบประมวลผลในสมองจัดระบบได้อย่างลงตัว และพบกับคำตอบที่เธอกังวลมาตลอด ขณะเดียวกันมันก็เหมือนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้หัวใจเธอได้เป็นอย่างดี…

ชายหนุ่มผอมสูง วัยไล่เลี่ยกับเมษาเดินตามวรรณิศาเข้ามาพร้อมกับทักทายทุกคน กันยาค้อนก่อนแนะนำให้รู้จักเภตราด้วยเสียงเขียวเต็มที่ ชายหนุ่มลงนั่งพับเพียบกระซิบอยู่ข้าง ๆ ด้วยหน้าสำนึกผิดมากมาย

“ขอโทษด้วยนะครับพี่กัน แต่ยายศาประกบผมแจตั้งแต่บ่ายแล้ว ผมก็ไม่รู้จะทำไงจริง ๆ...” น้ำเสียงนั้นบ่งบอกความสนิทสนมกันมากมายเช่นเดียวกับกันยา

“ไปนั่งโน้นเลย!! ไปห่าง ๆ “

“เอ?!” วรรณิศาเอียงคอ มองมาที่เภตราด้วยสายตาที่ไม่แน่ใจ

“เหมือนเคยเจอคุณคนนี้ที่ไหนน้า...?” หญิงสาวรำพึงรำพัน หน้านิ่วเหมือนพยายามครุ่นคิด

“ที่บ้านพี่เมษ...เพื่อนพี่ธันว์ไง” โชคดีที่บุษมาสตอบลอย ๆ ขึ้นมาแทน เภตราเริ่มไม่แน่ใจ ค่ำคืนนั้นหญิงสาวที่แต่งหน้าจัด กระโปรงสั้น เสื้อคว้านลึกคนนี้จะจำเธอได้หรือไม่…

แต่ช่างเถอะ จนมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่มีอะไรให้เธอต้องมานั่งเสียใจ หรือวิตกกังวล ระแวงอะไรอีกต่อไปแล้ว...

“เอ! คุณเภตรา...เป็นทนาย... ใช่ทนายของออตโตไฮน์หรือเปล่าครับ?” อรัญหันมาถามทางเภตรา หลังจากเบื่อเสียงผู้หญิงข้าง ๆ เต็มทน

“ใช่ค่ะ”

“ว่าแล้วนั่งนึกอยู่นานเพราะ ๆ ชื่อแปลก ๆ แบบนี้ แถมสำเนียงเยอรมันแบบนี้...ทางออตโตไฮน์ส่งเอกสารมาชุดหนึ่ง บอกว่าให้ติดต่อกับคุณเภตราที่สำนักงานกรุงเทพฯ ผมยังงง ๆ อยู่...ดีครับว่าจะโทรไปถามพี่ธันว์อยู่พอดี ก็มัวแต่ยุ่ง ๆ เจอตัวตรงนี้ขอนัดเลยได้มั้ยครับ?”

“เฮ้ย! รู้เรื่องนี้เมื่อไหร่วะ ...ไม่เห็นบอก” หน้าเบื่อ ๆ ของเมษากลายมาเป็นสดชื่นอีกครั้ง สองสาวทำหน้าสนใจร่วมวงตั้งใจฟังขึ้นมาในทันที

“ก็นายมันอยู่ออฟฟิศสนใจเรื่องอะไรที่ไหนล่ะ”

“ยังไม่ทราบเรื่องอะไรเลยค่ะ ยังไงขอเช็คทางโน้นก่อนดีมั้ยคะ? พอดีวันนี้ออกมาประชุมข้างนอกทั้งวัน”

“ไม่เป็นไรครับ เอกสารไม่เร่งด่วน ไว้ผมว่าง ๆ จะแวะไปหาที่สำนักงานแล้วกัน” เภตรายิ้มตอบเพื่อนของเมษา แต่ไม่ได้ผ่านเลยไปถึงคนข้าง ๆ ที่ยังคงยังไม่หยุดส่งสายตามายังเธอ หญิงสาวเลี่ยงหันกลับมาคุยกับธันวา พยายามหาเรื่องที่จะไม่ต้องสนใจกับภาพตรงหน้า...




วงสนทนายังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ นอกจากการแสดงศิลปะไทย และระบำพื้นเมืองที่แปลกตาหลายชุดหน้าเวที เภตรายังมีภาพความจริงตรงหน้าให้ดูสลับฉากอีกหลายครั้ง...

หญิงสาวสองคนที่ปั้นหน้าใส่กัน และต่างก็เอาใจเมษากันอย่างเต็มที่ ไม่มีใครยอมน้อยหน้าใคร สีหน้าของเมษาก็ดูจะผะอืดผะอมมากกว่ามีความสุข…

โชว์กลางเวทีกลายเป็นกร่อยไปสนิท น่าจะมีใครสักคนบันทึกภาพ
เมษากับเหล่าสาว ๆ ไว้แทน...


“เมษทานสิคะ หรือว่าอาหารวันนี้ไม่อร่อยใช่ป่าวคะ?”

“พี่เมษทานมาก ๆ ระวังลงพุงนะคะ เดี๋ยวสาว ๆ เขาจะไม่ควงไปไหนด้วยนะ” เมษายังคงส่งสายตามาทางเภตราอย่างต่อเนื่อง สลับคุยกับพี่ชาย และเพื่อนสนิท โดยพยายามไม่ใส่ใจกับสองสาวข้าง ๆ

“ไปเดินดูเขาทำขนมหวานตรงศาลานั้นกันมั้ยคะคุณเภตรา?..สั่งขนมหวานจริง ๆ กินดีกว่า แถวนี้ชักหวานมากไปแล้ว...เดี๋ยวแวะดูคุณนิตยาเจ้าของร้านด้วยไม่รู้อยู่หรือเปล่า” กันยาเริ่มจะเบื่อกับบรรยากาศที่ความสนุกกำลังหมดไป เภตราเองก็เช่นกัน แต่คงไม่ใช่บุษมาสแน่นอน ในสถานการณ์แบบนี้

“พี่กันย์ไม่ชวนบุษไปด้วยหรือคะ?” เสียงฉอเลาะของวรรณิศาถามมาอย่างหวาน กลับยิ่งกวนประสาทกันยามากขึ้น

“น้องบุษก็นั่งเฝ้านายเมษไว้ดี ๆ แล้วกัน เดี๋ยวมด แมลงจะตอมตายไปสะก่อน” พูดจบก็ดึงข้อมือเภตราออกจากบริเวณศาลาไปในทันที อรัญหัวเราะเสียงดัง ธันวาได้แต่อมยิ้มกับท่าทางของน้องสาว และน้องชายคาสโนว่าของตัวเอง


ธันวาเริ่มรู้สึกว่าคืนนี้มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ จริง ๆ มันก็มีอะไรแปลก ๆ มาตั้งแต่ออกมาจากสำนักงานของคุณลุง ซึ่งเขายังไม่ปักใจว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ...

ไม่ใช่เพราะวรรณิศา และบุษมาสที่อยู่พร้อมหน้าแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติมาช้านานที่ทุกคนคุ้นเคยกันมาอย่างดี แต่เพราะสายตาของน้องชายที่เหมือนจะไม่ห่างไปจากเภตรา โดยไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา รวมทั้งการนั่งเงียบกริบตรงนี้ต่างหากที่มันผิดธรรมชาติวิสัยของเมษาอยู่มากมาย...

มันแทบไม่ใช่ตัวตนจริง ๆ ของน้องชายเขาแม้แต่น้อย...



กับการได้ถอยห่างออกจากบริเวณท่ามกลางสมรภูมิรบแบบนั้น อย่างน้อยก็ทำให้เภตราได้หายใจคล่องขึ้น ไม่มีสายตา ใบหน้าที่ยากจะเข้าใจของเมษา เสียงประชดใส่ มุขเกทับกัน และการเอาใจเมษาของสองสาว …

เภตราเริ่มแน่ใจ อารมณ์ตัวเอง ณ ตอนนี้ไม่มีความหึงหวง อิจฉาริษยาผู้หญิงสองคนนั้นแม้แต่น้อยเลย

แต่ก็นั่นแหละ ความจริงแล้ว มันแทบไม่เคยมีเลยมากกว่า ...




ศาลาทำขนมหวาน และแสดงการแกะสลักผลไม้อีกมุมของสวนเรียกความตื่นตา แปลกใหม่ให้กับเธอ เหมือนเรียกคืนวันเก่า ๆ สมัยเด็กที่งานออกร้านที่วัดไทย แต่ก็เป็นเพียงแค่ชั่วขณะเท่านั้น เมื่อกลับมาที่โต๊ะทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม...

พวกเขาคุยอะไรกันไปบ้างแล้ว ในขณะที่เธอไม่อยู่

“ท่าทางคุณกันยากับเจ้าของร้านจะคุยกันยาว ดิฉันลยขอแยกกลับมาก่อน.... อยากรีบมาทาน ขนมสวยดีนะคะ น่าทานทั้งนั้นเลย ” เภตราบอกก่อนทรุดตัวลงนั่ง

ตามมาด้วยพนักงานเสิร์ฟนำขนมหวานต่าง ๆ รวมทั้งผลไม้ที่สลักอย่างวิจิตรมาวางบนโต๊ะ ทันทีที่คล้อยหลังจากไป ยังไม่ทันที่เภตราจะได้ชิมลิ้มรสความสวยงามเหล่านั้น...

ขีปนาวุธลูกแรกก็หล่นปุ๊ลงกลางโต๊ะ โดยมีเธอเป็นเป้าหมาย อย่างไม่ต้องแปลกใจ...

“คุณเภตรายังไม่ได้ตอบเลยนะคะ เรื่องที่เยอรมันพี่เมษเป็นเด็กดีหรือเปล่า?” ไม่น่าเชื่อที่คนเริ่มต้นย้อนกลับไปเรื่องเดิมใหม่จะเป็นบุษมาส เธอคงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างง่าย ๆ

และเหมือนว่าคราวนี้จะถูกที่ ถูกเวลามากยิ่งขึ้น และไม่น่าเชื่อที่สองสาวก็รวมตัวกลายเป็นพันธมิตรกันไปอย่างง่ายดาย

“นั่นสิคะ เมื่อกี้ยายบุษเล่า... คุณเภตราสวย เป็นทนายที่เก่งขนาดนี้ เมษไม่จีบคุณได้ไงคะ?” ตามมาด้วยกองทัพเสริม คำถามลอย ๆ ไร้เดียงสาของวรรณิศา ที่สามารถทำให้วงแตกได้ไม่ยากอีกครั้ง

คราวนี้เธอเริ่มเข้าใจความหมายของคำนี้อย่างชัดเจน...


ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งโต๊ะ เภตราประสานสายตากับเมษาในทันที ประสาททุกส่วนเย็นวาบ เหมือนเด็กถูกจับได้ว่าทำผิด เธอเม้มริมฝีปากแน่น ระบบประมวลผลความคิดทำงานอย่างหนัก

เธอหรือเขาควรจะเป็นคนตอบคำถามนี้ หรือจะปล่อยให้มันผ่านไปกับสายลมที่พัดผ่านเข้ามา...

แต่หากไม่มีใครตอบ และปล่อยให้ผ่านไป ขณะที่สะเก็ดของระเบิดกระจายออกไปเต็มโต๊ะแล้วเช่นนี้ เภตราตระหนักดีว่า ทุก ๆ คนคงยิ่งอยากรู้สิ่งที่เกิดขึ้นที่เยอรมันอย่างแน่นอน…

ก่อนที่เภตราจะตัดสินใจตอบ เมษาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ด้วยใบหน้าสดชื่น สดชื่นอย่างที่เธอไม่เห็นมาก่อนหน้านี้

มันเป็นความสดชื่น สบายใจอย่างที่เธอเคยคุ้นตา...

“จีบสิ!!...ไม่จีบคงไม่ใช่นายเมษาคนนี้สินะ” เมษาจ้องหน้าเภตราอย่างจริงจัง ก่อนที่จะหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง ก่อนที่ใครจะทันตั้งตัวพูด หรือได้ถามอะไรต่อ

“แต่ก็นั่นแหละต่อให้คุณเภตราแสนสวย คนเก่งแห่งสำนักงานทนายความอันดับหนึ่งจะรักตอบผม จนต้องเดินทางมาหาเองถึงเมืองไทย...แล้วมาเห็นสภาพผมตอนนี้ ได้เห็นนิสัยแบบนี้แล้ว...เธอคงขอเลิกกับผมในทันที...ใช่มั้ย?ครับ...คุณเภตรา?”


สายตาของคนพูดที่ส่งมาเหมือนกำลังกรีดฉีกหัวใจของเภตราออกเป็นริ้ว ๆ ...

เทคนิคป่าวประกาศของนักโฆษณาประชาสัมพันธ์หรืออย่างไร!!??

หรือเทคนิคปิดการขายของนักการตลาด.....!!??

มันช่างเป็นการแก้สถานการณ์ที่ไร้สติ ฉวยโอกาส และหาประโยชน์ให้กับตัวเองอย่างคนเจ้าเล่ห์โดยแท้

เขาเปลี่ยนมันเป็นเรื่องตลก ขำ ๆ ที่หากตอบรับ หรือปฏิเสธ มันเข้าตัวของเธอในทุก ๆ ทาง ...

เภตราได้แต่หัวเราะเก้อ ๆ ติดตลกตอบกลับไปแทน จริง ๆ แล้วมันเป็นการหัวเราะเย้ยหยันตัวเองมากกว่า เธอมึนชา งงกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจนไม่รู้จะรับมืออย่างไรดี

เธอยังไม่พร้อมกับความรู้สึกนี้จริง ๆ ...

หรือทั้งหมดความรู้สึก ความรักที่มันเกิดขึ้นก็แค่เรื่องขำ ๆ สนุก ๆ ตามนิสัยของเมษา

ยิ่งนับนาที นับวินาที เมษาเหมือนยิ่งไม่ใช่คนที่รู้จัก เคยรักมาก่อน
ช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง...


ทุกสายตาต่างรวมมาที่เภตรา และเหมือนต่างรอคอยคำตอบ หรือคำอธิบายเพิ่มเติมจากปากของเธอในทุกเสี้ยววินาที...

วินาทีนี้เธอควรจะเดินหมาก เล่นไปตามเกมชวนหัวของเมษา!!
หรือกระโจนเข้าร่วมเปิดศึกรบในสงครามครั้งนี้...อย่างจริงจัง!!


หากมีเส้นทางอื่นให้เธอเลือกได้อีก สมองก็เจ็บล้า หัวใจปริขาด ดวงตาพร่าเลือนจนไม่อาจมองหาได้อีกแล้ว...

แล้วความคิดเห็นตรรกะในเรื่องของความรักของใครบางคน ก็แว่วเบา ๆ ผ่านเข้ามาในสมอง เหมือนจุดแสงสว่างเล็ก ๆ ให้พอนำทาง...

“ทานไรดีครับ... ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองหวานเจี๊ยบ ... มะม่วงน้ำปลาหวาน หวาน ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ เผ็ดนิด ๆ ...หรือจะเป็นสละลอยแก้วอมเปรี้ยวอมหวานเย็นชื่นใจ” เสียงของคนข้างตัวบรรยาย เรียกสติกลับมาให้เธออีกครั้ง

สายตาและรอยยิ้มที่มองมายังเธอนั้น ไม่มีร่องรอยแห่งคำถามอีกต่อไป แต่มันช่างสร้างความเชื่อมั่น เรียกขวัญ และกำลังใจให้เธอได้อย่างมากมาย …

“ขอบคุณค่ะ” เภตรากล่าวเบา ๆ เรียวนิ้วแตะจานกับถ้วยขนมที่ธันวาตักแบ่งเลื่อนมาให้อย่างลังเล ชั่งใจว่าจะเลือกอะไรดี …

“หากเป็นงั้นจริง!... ทำไมไม่แก้ตัวใหม่ละคะพี่เมษ?... น่าเสียดาย น่าเสียดาย..อย่างคุณเภตรานี่น่ะ หากทิ้งไปคงเสียดายแย่เลยนะคะ” น้ำเสียงเรียบ ๆ เฉย ๆ ของบุษมาสเล่นเอาเภตราสะดุ้งอีกครั้ง หญิงสาวสวยคนนั้นยังไม่ยอมหยุด ไม่ยอมปล่อย และกำลังขุดหลุมฝังเธอ...

สมองของเภตราหมุนขว้าง เหมือนใครจับเธอโยนเข้าไปในเครื่องซักผ้า และหมุนปั่นด้วยความเร็วสูง...

บางทีผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่เป็นคนเล่นเกม...ไม่สิเธอกำลังวางแผนมากกว่าลงมาเล่นเอง...

“นั่นสิ! ว่าไปมีคู่แข่งอีกคนเป็นทนายก็เท่ดีนะ น่าตื่นเต้น เร้าใจ สนุกกว่า เบื้อ เบื่อ!!ยายพวกเด็กสาว ๆ ที่มาคาสติ้ง อยากเป็นนางแบบ ที่มาคอย
กรี้ด ๆ เหมือนถูกใจดารา หรือลูกค้าสาว ๆ ริมทางทั่วไปของเมษน่ะ” น้ำเสียงตอนท้ายของวรรณิศาข้ามฟากผ่านหน้าเมษาบอกที่ไปอย่างชัดเจน

เภตราอมยิ้ม สงครามยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องปั้นหน้า แบกซ่อนอีกต่อไป เธอเชิดหน้าขึ้น สบตาเมษาอย่างท้าทาย สมองโล่งขึ้นในทันที

คนที่น่าสงสาร ผลพวงพิษของสงครามคือ เมษาต่างหาก!! ไม่ใช่เธอ...

“เฮ้ย!! แค่นี้ไอ้เมษมันก็แทบไม่ได้ทำงานทำการที่บริษัทแล้ว รวยเมื่อไหร่จะซื้อหุ้นคืนให้หมดเลยโว้ย” อรัญเริ่มโวยวาย “ขอโทษนะครับคุณเภตรา...ไม่ต้องไปบ้าจึ้ตามแม่คนนี้น่ะครับ…เสียเวลา อย่างไอ้เมษนี่มันไร้ค่าสำหรับคุณ” คนพูดร้อนรนทั้งน้ำเสียงและสีหน้ากับสิ่งที่เพื่อนสาวพูดออกไปอย่างเสียมรรยาท

“คนดี มีค่าสูงส่ง น้านนนไปอยู่ชมรมเดียวกับเฮียเขาได้เลย” เมษายังคงพูดทีเล่นทีจริง หัวเราะร่าเสียงใส แต่คนโดนพาดพิงดูจะเฉย ๆ อมยิ้มเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“เฮ้ย! ความรัก ไม่ใช่เรื่องเล่นสนุก ๆ กันนะโว้ย เมษ! ลองนายมีความรักจริง ๆ กับใครสักคนสิ แล้วนายจะเข้าใจเอง” อรัญยังคงเสริมต่อ

“ลืมไป...นายมันนักปรัชญา จริงจังได้ในทุกเรื่อง” เมษายังคงหัวเราะเบา ๆ ก่อนยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม แต่ก็แทบสำลักทันควัน

“คุณอรัญพูดถูก...อยากรู้เหมือนกันค่ะอะไรคือสิ่งที่คุณเมษาต้องการจริง ๆ... ความรัก... หัวใจ... เรื่องเพศ หรือมีอย่างอื่นอีกกันแน่... ดิฉันจะได้เช็คดูว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอให้คุณเมษาจีบเป็นแฟนหรือเปล่า” เภตรากลั้นใจพูดจนจบ พลางดึงถ้วยขนมมาใกล้ ก่อนตักน้ำสละลอยแก้วใส่ปากอย่างไม่สนใจใคร ๆ รอบตัว

ทุกคนต่างเงียบกริบในทันที สีหน้าบ่งบอกความคิดที่ต่างกันออกไป
ดูเหมือนจะมีเพียงธันวาเท่านั้นที่หัวเราะเป็นจริงเป็นจังอยู่คนเดียว
จนน้องสาวเดินกลับมาสบทบมองหน้าแต่ละคนด้วยความข้องใจ

“เมื่อกี้มีตลกแสดงเหรอ... พี่ธันว์ถึงขำได้ขนาดนี้...แต่ไหงขำอยู่คนเดียวล่ะ!! เอ๊ะ!! ฉันพลาดอะไรไปหรือเปล่านี่”

"พี่กำลังคิดว่าเห็นโลกน่าปวดหัว วุ่นวายมาก ๆ อย่างนี้แล้ว จะเลือกเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลดี หรือจะเป็นตาฤาษีอย่างเธอว่าดี"

ธันวาตอบกึ่งเล่นกึ่งจริง หน้าเก็กอย่างไว้ฟอร์ม แต่แฝงไว้ด้วยความหมาย แม้จะเปรยตาไปทางน้องชาย และสองสาวตรงหน้า เขาก็ยังหัวเราะขบขันต่ออยู่คนเดียว จนเภตราอดหัวเราะตามเบา ๆ ไม่ได้

มันเป็นเสียงหัวเราะอย่างภาคภูมิใจกับฝีปากทนายสาวคนข้าง ๆ
แม้จะเป็นทนายด้านการเงินก็ตามที
แต่เภตราก็ต้านศึกครั้งนี้ไว้ได้อย่างงดงาม...



...โปรดติดตามตอนต่อไป...





***
The Name of the Game เพลงเพราะ ๆ สนุก ๆ แบบนี้ เสียงของ Abba
แน่นอน วงดนตรีสวีดิชของสองหนุ่มสาวที่โด่งดังไปทั่วโลก ตั้งแต่ปี 72 ถึง 82 นับเนื่องเป็นเวลายาวนาน แต่ยังคงความโด่งดังมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มที่ชื่อ The Album เมื่อปี 1977 ขึ้นถึงอันดับ 12 ของ Billboard ฝั่งอเมริกา และประกอบในภาพยนตร์ เรื่อง ABBA: The Movie.

ทั้งเพลง และประวัติของ Abba มียาวเหยียด คงไม่ต้องเล่าเยอะหรอกนะคะ เพราะเล่าคงไม่จบแน่ ๆ

ช่วงนี้กำลังเห่อ Mama Mia ค่ะ อยากดูสะเหลือเกิน คุณเพียรซ์เล่น เพลงก็เพราะมากมายขนาดนี้ บอร์ดเวย์ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ดูเมื่อไหร่
อิอิ ขอดูหนังแทนแล้วกัน

เพลงนี้เข้าวินมาโดด ๆ ไม่อยากเลือกหาเพลงไหนอีกแล้ว...
ไม่เศร้า ไม่บู๊ ไม่สนุกสนานเกินไป และจังหวะดนตรีกำลังดี
เนื้อเพลง ความหมายใช่เลย ทุกอย่างลงตัว
เพลงนี้แน่นอน...



Create Date : 27 กรกฎาคม 2551
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 9:49:46 น. 44 comments
Counter : 608 Pageviews.

 
The name of the game : ABBA

I've seen you twice, in a short time
Only a week since we started
It seems to me, for every time
I'm getting more open-hearted

I was an impossible case
No-one ever could reach me
But I think I can see in your face
There's a lot you can teach me
So I wanna know

What's the name of the game
Does it mean anything to you
What's the name of the game
Can you feel it the way I do

Tell me please, 'cause I have to know
I'm a bashful child, beginning to grow

And you make me talk
And you make me feel
And you make me show
What I'm trying to conceal

If I trust in you, would you let me down
Would you laugh at me
If I said I care for you
Could you feel the same way too
I wanna know

The name of the game

I have no friends, no-one to see
And I am never invited
Now I am here, talking to you
No wonder I get excited

Your smile, and the sound of your voice
And the way you see through me
Got a feeling, you give me no choice
But it means a lot to me
So I wanna know

What's the name of the game
(Your smile and the sound of your voice)
Does it mean anything to you
(Got a feeling you give me no choice)
But it means a lot,

what's the name of the game
(Your smile and the sound of your voice)
Can you feel it the way I do

Tell me please, 'cause I have to know
I'm a bashful child, beginning to grow

And you make me talk
And you make me feel
And you make me show
What I'm trying to conceal
If I trust in you, would you let me down
Would you laugh at me, if I said I care for you
Could you feel the same way too
I wanna know
Oh yes I wanna know

The name of the game
(I was an impossible case)
Does it mean anything to you
(But I think I can see in your face)
That it means a lot
What's the name of the game
(Your smile and the sound of your voice)
Can you feel it the way I do
(Got a feeling you give me no choice)
But it means a lot,

what's the name of the game
(I was an impossible case)
Does it mean anything to you
(But I think I can see in your face)
That it means a lot


โดย: พรายทราย วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:58:42 น.  

 
บทนี้คงจะยาวเป็นที่ถูกใจของคนที่ชอบอ่านยาว ๆ อย่างแน่นอน

อ่านอย่างมีความสุขนะคะ
แม้ว่าบทนี้จะเศร้า ๆ ไปหน่อยสำหรับเภตราก็เถอะนะ
แต่มีลุงธันว์นั่งข้าง ๆ สะอย่าง
แถมลุงธันว์คงได้ใจใครอีกมากมายเหมือนเดิม

สุขสันต์เย็นวันอาทิตย์ค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:03:04 น.  

 


โดย: teansri วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:14:50 น.  

 
อิอิ ว่าไปพรายทรายก็อยากลืมนะคะ
หือ หือ อยากหนีเที่ยวใจจะขาดแย้ววว
แต่ลืมไม่ได้อ่ะ
เพราะไงก็คงโดนตาม จิก รุม ทึ้ง แน่ ๆ แหะ แหะ

แต่ไงก็ขอบคุณคุณเทียนสีนะคะ
มีความสุขวันอาทิตย์เช่นกันค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:51:44 น.  

 
"หนูบัวรับสละลอยเเก้วค่ะลุงธันว์... อ้าว ตายจริง
หนูเภรับไปเเล้ว เเง้วๆๆๆ เเล้วนี่จะเหลือไรถึงหนูบัวมั่งคะนี่"
ว่าพลางส่งสายตาค้อนขวับๆไปที่สาวลูกครึ่ง

อะกึ๋ยยย ลืมตัวววว หนูบัวอินกะไออุ่นที่เเผ่ซ่าน
มาจากลุงธันว์มากเกินไปหน่อยอะค่า อิๆๆๆๆ
หวังว่าพี่พรายคงไม่ขว้างค้อนวงใหญ่ลงกะบาลหนูนะ

ตอนนี้งานหลวงเสร็จเเล้ว หนูบัวเลยมีเเรงส่งเสียงเเซว
เอ๊ย เชียร์ลุงธันว์ได้เต็มเรี่ยวเต็มเเรงขึ้นมาอีกหน่อย
เเถมตอนนี้เทพีเเห่งความรักกำลังขึ้นสมอง

เทพีเจ้าขา... ช่วยเปิดม่านที่บังตาให้หัวใจที่มีรักเเท้
ทั้ง 2 ดวง ได้พบเจอกันเสียทีเถอะ
ลุงธันว์ของหนูจะได้มีคู่กะเค้าซะที เพี้ยง!


โดย: ใยบัว.. อารมณ์เพี้ยนนนน IP: 203.132.67.85 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:06:34 น.  

 
แหมมม !!! หนูใยบัว..
ยังมีทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
มะม่วงน้ำปลาหวาน อีกน้า ไม่ชิมหรือคะ
สละลอยแก้ว เดี๋ยวให้ลุงธันว์ตักเพิ่มนะคะ

5555 เสิร์ฟขนมแต่เช้าเลย

ชักอยากอ่านเทพีแห่งความรักของหนูบัวสะแล้ว

แต่รีบให้ลุงธันว์มีคู่แบบนี้ เรื่องก็จบเร็วสิคะ
หนูบัวจะได้ชื่นชม อิงไออุ่นลุงธันว์ได้ไปอีกนาน ๆ เนอะ


โดย: พรายทราย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:22:42 น.  

 
อ้อ!! ประกาศ ประกาศ

ถ้าคุณเทียนสี หรือหนูใยบัวแวะมาอีกที
หรือท่านอื่นที่แอบอ่านไปแล้ว
รบกวนอ่านเพิ่มตอนจบอีกทีนะคะ

แหะ แหะ โดยเฉพาะแฟนคลับลุงธันว์
ช่อครามปรับช่วงจบเล็กน้อย
ไม่งั้นลุงธันว์หัวเราะปากค้าง
ดูเสียบุคลิกไปอีกอาทิตย์หนึ่งแน่ ๆ



โดย: พรายทราย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:26:07 น.  

 
จะค่อยๆทยอยอ่านนะคะ อ่านไปสองบทแล้วล่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:35:20 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านครับ แวะมาอ่านที่พี่อ้อคุยบทที่แล้วก่อน เจอ "หัวเราะปากค้าง" กร๊าก ไม่เอานะ ลุงธันว์ของผมหมดเท่เลย ฮ่าๆๆ

ทักทายคุณจุฬาภิันันท์ด้วยคร้าบ (ขโมยพื้นที่เฉยเลย เอิ๊ก)


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:01:14 น.  

 

บทนี้ยาวและสนุกเข้มข้นดีจริงๆ ค่ะ

ตอนแรกสงสารหนูเภจัง ที่โดนสองสาวรุม
จนเกือบซวนเซ รวมทั้งถ้อยคำเสียดสีเหน็บแนม
จากนายเมษด้วยสิ

แต่กองเชียร์ก็ดีใจที่หนูเภตั้งหลักและตีตื้น
กลับมาได้ในช่วงหล้ง
ที่สำคัญลุงธันว์ก็แอบเชียร์อยู่เหมือนกัน




โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:35:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ Chulapinan
ชื่อเพราะจัง พรายทรายคงอ่านไม่ออกแน่
หากคุณพีทไม่ทักทายให้เห็น

ยินดีที่รู้จัก และยินดีต้อนรับสู่สตูดิโอริมหาดค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน
ดีใจจัง มีคนอ่านเพิ่ม
หากอ่านทันแล้ว รบกวนช่วยวิจารณ์ติชมด้วยนะคะ

แล้วแวะมาอีกนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:02:01 น.  

 
คือตอนแรกมันจบห้วนไปหน่อย แหะ แหะ
ไม่กล้าใจร้ายกับแฟนคลับลุงธันว์
วันไหนนอนไม่หลับค่อยแวะมาหาลุงธันว์นะคะ

ว่าแต่ว่าตาหายเจ็บหรือยังนี่


โดย: พรายทราย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:06:40 น.  

 
ธุป้าติ๋วค่ะ...

บทนี้ข้นมากค่ะ ถ้าเป็นแกงคงโดนเคี่ยวจนข้นคลั่น
ถูกแก้หลายหนมาก ๆ มันเลยยาวได้ใจค่ะ

หากเป็นหนังคงกระหน่ำหลายเทค
หมดฟิล์มไปอื้อซ่าแน่ ๆ
แถมยังเทคกันข้ามหลายเดือนเลย
หนูเภตรายับเยินหลายรูปแบบมาก
กว่าจะลงตัว ...

ก่อนหนูเภตราจะมาลุกออกมาจากหลุม
แล้วสาดกลับด้วยพลังแสงเลเซอร์ แหะ แหะ
(พยายามนึกภาพคล้าย ๆ ดราก้อนบอลนะคะ)


งานนี้แฟนคลับคงเทใจให้นายธันวาอีกตามเคย
เฮ้ออ!! ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้น่ารักชมัด

คิดดูแล้วกันค่ะขนาดจบบทแบบเห่ย ๆ
คนเขียนยังทนไม่ได้ ต้องกลับมาแก้อีกหน
เพราะขนาดยังไม่ได้อ่าน แค่ผ่าน ๆ ตา
แฟนคลับหมายเลขหนึ่งยังทนไม่ได้เลย แหะ แหะ
น่าปลื้มใจแทนนายธันวาสะจริง ๆ ...


โดย: พรายทราย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:16:45 น.  

 
พี่อ้อไปตอบคุณพีทบทที่แล้วต่อแล้วนะคะ
อิอิ แสดงว่าคงอยากรู้อายุลุงธันว์จริง ๆ

ใจจริงอยากให้อายุขึ้นเลขสี่แล้วเหมือนกัน
แต่ก็นะ จะกลายเป็นตาเฒ่าหลอกเด็ก
เพราะยายเภตราเพิ่ง 25 หรือ 24 หว่า
ประมาณแถว ๆ นี้
ห่างกัน 10 ปีนี่ก็โขอยู่แล้วนะคะ
ไม่งั้นความคิดความอ่านคงเข้ากันยาก

แถมมีสิทธิ์ต้องสงสัยว่าเป็นพระฤาษี
หรือว่าผู้จัดการทีมฟุตบอลหนุ่ม ๆ กันแน่
ถึงอยู่เดียวดายมานานไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสะที

แค่นี้ก็อุ่นจนละลายได้เหลือเกินแล้ว
ขืนให้เป็นหนุ่มใหญ่เลขสี่นี่
55555 เดี๋ยวพี่อ้อขอแอบหม่ำ
ให้เป็นเอ็มแอนด์เอ็มละลายในปากแทน
อุอุอุ



โดย: พรายทราย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:27:14 น.  

 
อ๊ากกกกกก นายเมษ นายเลวมาก นายพูดอย่างงั้นออกมาได้ไง โห ใจร้ายจริงๆ เป็นไงล่า สม โดนซะ สามสาวเลย สะใจ กร๊าก

อิๆๆ สามสิบฝ่าๆ ก็กำลังน่าหม่ำครับ ไม่เกี่ยง เอาไว้เรื่องไหน มีพระเอกสี่สิบฝ่าๆ มั่ง แล้วจะขอตามไปกรี๊ดแบบลืมตาย ฮ่าๆๆ

จริงๆ แล้ว อยากให้มีนางเอกแบบสามสิบกว่าๆ สี่สิบมั่งจังเลย ไม่รู้คนไทยเขาอ่านกันมั้ยน้า เฮ้อ...


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:42:02 น.  

 
พี่พรายคงรู้เเล้ว ว่าทำไมหนูบัวจงใจจะเเย่งสละลอยเเก้ว
จากหนูเภ 55555 ไม่ได้ ไม่ได้ หวานเย็นได้ใจขนาดนี้
จะปล่อยให้หนูเภรับไปหมดคนเดียวได้งายยยย

ตอนจบที่พี่พรายเเก้ไข หนูบัวอ่านเเล้วนะคะ
ดีเหมือนกันที่อย่างน้อยลุงธันว์ของหนู
ก็ไม่ต้องเสียหล่อกรามค้างรอไปอีกอาทิตย์ อิอิอิ

ปล. วันนี้วิ่งออกไปช่วยเด็กรับลูกค้าได้เเป๊บเดียว
เดี้ยงกลับมาสู่สภาพเยินอีกเเล้ว คงต้องไปหาคุณหมอ
อีกรอบจริงๆเเล้วค่ะพี่พราย

นี่เเอบมิ้เเวะเข้าสตูนะ หากมิ้รู้บ่นยาวเเน่
เพราะโดนสั่งห้ามลุก ให้นอนบนเตียงอย่างเดียว
หากหนูหายไป โปรดทราบว่าหนีคุณเเม่โผล่มามิได้
นะขอรับ T_T


โดย: ใยบัว... กรอบบบ IP: 203.132.67.85 วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:54:00 น.  

 
มาเยี่ยมคร้า ^^


โดย: กระเฉดน้อย IP: 203.146.104.31 วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:31:18 น.  

 
Noo Pe su su na ja


โดย: Banana State IP: 203.146.6.28 วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:41:42 น.  

 

ณ ปลายฟ้าคือเธอเหรอ
อิมม์
นึกว่า
ณ ปลายฟ้าคือโจว์ซะอีก
ฮี่ๆๆๆ


โดย: GTW (GTW ) วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:4:59:31 น.  

 
พรายทรายสะบักสะบอมเสียสองวัน
ไม่ได้เข้าบล็อก แป๊บ ๆ จะวันอาทิตย์อีกแล้วเนอะ

สวัสดีเดือนสิงหาคมค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:14:50:04 น.  

 
คุณพีทคะ
ฤทธ์เดชนายเมษนี่ยังเหมาะ ๆ
เพิ่งบทที่ 12 เอง ค่าตัวออกแพง
ผู้กำกับอย่างพี่อ้อต้องให้อยู่นาน ๆ อิอิ

5555 เดี๋ยวรอคิวให้จบอีกเรื่องนะคะ
พี่อ้อเซ็ทคาแร็คเตอร์ วางพล็อต ได้ต้นแบบมาแล้ว

รับรอง สี่สิบต้น ๆ เพื่อให้คุณพีทมากรี้ด ๆ
ละลายแข่งกับพี่อ้อเลย อิอิ
แต่ต้องแข็งใจรอนิดนะ ....

พระเอกอายุเยอะนี่ไม่เท่าไร
แต่นางเอกนี่ เขาไม่ค่อยยอมกันเลยอ่ะ
ไม่เข้าใจเหมือนกัน เหอะ เหอะ

พี่อ้อเป็นผู้ชายจะหาสาว ๆ อายุเยอะหน่อย
ไม่ต้องปวดหัว เป็นแมงง๊องแง๊ง 55555
แถมไม่ต้องเอาใจ ไม่ต้องเรื่องมากอีกต่างหาก
555555 (เข้าข้างตัวเองไง ๆ ชอบกล) 5555555


โดย: พรายทราย วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:18:06:47 น.  

 
น้องใยบัว

ต้องพักผ่อนมาก ๆ นะคะ มันช่วยได้เยอะ
เขาว่ายิ่งเครียดทำงาน ยิ่งทำให้ปวดมากขึ้น

555555 ว่าไปนั่งเล่นเน็ตนาน ๆ ก็ไม่ดีนะ
นอนค่ะ นอนพักเหยียดยาวดีที่สุด

ด้วยความห่วงใยจากคุณธันวาเป็นพิเศษ


โดย: พรายทราย วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:18:26:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ
โอ้...น้องนักเขียนคนดัง "กระเฉดน้อย" มาเยี่ยม
ดีใจจังเลยค่ะ
ว่าง ๆ แล้วแวะมาเที่ยวสตูดิโอริมหาดอีกนะคะ
ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:6:57:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ Banana State

เชียร์หนูเภนี่เอ...
กำลังใจเพียบแบบนี้
ยายหนูคงสู้ตายแน่ ๆ

ว่าแต่ว่า เธอจะสู้ หรือเธอจะสละนี่สิ
เลือกสละลอยแก้วแบบนี้...
อึมม์สไตล์ เจ้าแม่ใบ้ ๆ ซ่อน ๆ อย่างช่อคราม
แอบชอบทำร้ายจิตใจคนอ่าน
ก็น่าคิดอยู่นะคะ...

คงต้องอดใจรอ ร๊อ รอ กันต่อไป


โดย: พรายทราย วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:7:02:38 น.  

 
โอ้...ท่านจานจี กลับมาแย้ว...
โอ้ เย้ โอ้ เย้ ...

ณ ปลายฟ้ามะช่ายโจว์น่ะ

เฮ้อออ!! พรายทรายมิมีคำแก้ตัวแต่อย่างใด
ขอเป็นว่าจะพยายาม พยายามไปเรื่อย ๆ นะคะ
พร้อมเมื่อไหร่ โจว์ไปหาท่านจานจีถึงหน้าจอแน่นอนค่ะ

แต่ที่แน่ ๆ สัญญาว่าต้องเขียนต่อแน่นอนเจ้าค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:7:05:51 น.  

 
ลองไม่เขียนต่อสิ
จะเขียนต่อให้เอง
เอาให้เปลี่ยนแนวสยองเลย
ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: GTW (GTW ) วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:8:21:25 น.  

 
55555 ว่าแล้วจานจีต้องกลับมาดูลาดเลา

ว่าไปหากไม่เขียน
จะได้เห็นโจว์เวอชั่นท่านจานจี
ฉบับเลือดกระจาย
แวมไพร์เจ้าชายรัตติกาล
(5555 เลยไปป้ายนั้นจนได้)
เอ แบบนี้มันน่าลองนะคะ อุอุอ
อยากอ่าน ๆ

แต่ก็นั่นแหละ รับปากแล้ว
ยังไงก็เขียนแน่นอนค่ะ




โดย: พรายทราย วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:8:56:14 น.  

 



H A P P Y : : D A Y
แฟนคลับลุงธันว์ป้าเภตรึม
คุณพรายคงจบเรื่องได้ยากหน่อยเพราะแฟนคลับติดตัวละครซะแล้ว
จบไม่ถูกใจอาจโดน..

บ้านหลังเก่ากับบ้านหลังใหม่สดใสต่างกันมากมาย
ตะกี้ป้าย้อนไปเปิดกรุมาจ๊ะ

รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับวันดีๆทุกทุกวันนะจ๊ะ

ป้าอัพแล้วจ๊ะ



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:18:12:59 น.  

 
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6854071/W6854071-10.jpg

เอาความคิดถึงมาส่งค่ะ อุ๊บส์ ลืมล็อคอิน


โดย: teansri IP: 88.106.44.193 วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:19:43:55 น.  

 


โอ้....รูปข้างบนไม่ขึ้นค่ะ ขอโทษค่ะ คุณพรายขา


โดย: teansri วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:19:50:03 น.  

 
อยากอ่านแบบนางเอกวัยผู้ใหญ่มั่งจังเล้ย อิๆ


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:21:19:56 น.  

 
หนูได้หยุดพักอยู่บ้านมา 3 วันเเล้วค่ะ พี่พรายขา..
ดีใจกะหนูมั้ย อิๆๆ

ไม่ได้เเปลว่าหายนะ เเต่อย่างน้อยคือลดความทรมาณ
จากการต้องไปเดินเเละยืนอยู่ทุกวัน
กะยืดเวลาในการต้องไปผ่าตัดออกไปอีกสักนิดก็ยังดี

โชคดีที่น้องชายกลับจากไปเกาหลีเเล้ว
เลยได้ฤกษ์ส่งไม้ให้น้องรับเอาไปเขวี้ยงเด็กต่อ
อ่ะ.. ล้อเล่นนนน ใครเค้าจะทำยังงั้นกั๊นนน


เมื่อกี๊หนูบัวเดินเปะปะออกจากสตู
หลงทางไปจนเจอบ้านสวนเเสนสวยของคุณเทียนสี
เผลอหลบพักหลับตาพริ้มฟังเพลงเเสนเพราะ
ตอนนี้เลยจะส่งตัวเองเข้านอนด้วยเพลงหวานจากบ้านสวน

คืนนี้หนูบัวคงหลับฝันดี เเถมต้องเป็นฝันเเสนหวานด้วย
ให้ออกมาเป็นฉากโรม้านซ์ใน Destined to Be... เลย

ฝันดีกันทุกคนนะคะ ^_^


โดย: ใยบัว... ภาคฝัน IP: 203.132.83.189 วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:1:59:42 น.  

 

ยินดีต้อนรับหนูใยบัว ทุกเวลานะคะ


https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=blueteardrop&month=03-08-2008&group=2&gblog=11

คุณพรายขา...รบกวนไปรับข้อความตามลิ้งค์ด้วยนะคะ


โดย: teansri วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:4:58:15 น.  

 
Mama Mia

จำได้ว่าเคยได้ยินเสียงดีเจท่านหนึ่งอ่านออกเสียงชัดแจ๋วทางวิทยุ
ว่า
มามามีอ้า....(แดเน้นเสียงพยางค์หลังหนักเป็นพิเศษ)
ทำเอางงอยู่จนทุกวันนี้ครับ


โดย: GTW (GTW ) วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:11:32:14 น.  

 
เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นมากค่ะ ป้ากุ๊กไก่
หือ หือ พรายทรายอยากหนีเที่ยวมากมาย

ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาบอก
เดี๋ยวพรายทรายแวะไปค่ะ

นั่นสิคะ จบยากแน่ ๆ เลย
แถมจบเร็วคงขัดใจใครอีกหลายคน
แหะ แหะ

ช่อครามสู้ ๆ สงสัยต้องเชียร์คนเขียน
ให้กำลังใจอย่างหนักแทนสะแล้ว


โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:12:11:07 น.  

 
ไปรับมาแล้วค่ะ คุณเทียนสี
ยิ้มหวานกลับมาเลย
ตุ๊กตาตรงนี้ก็น่ารักอีกต่างหาก
ขอบคุณความหวานเย็นมากมายที่ให้มานะคะ
และขอส่งกลับไปให้อีกหลายเท่าเช่นกันค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:12:14:42 น.  

 
ป่านนี้ตื่นแล้วหรือยังนะคะหนูใยบัว
หรือยังหลับฝันหวาน ยิ้มแก้มปริอยู่
ดีใจด้วยค่ะ ที่ได้พักหลายวัน
แล้วต้องพักจริง ๆ นะคะ

ท่าทางจะขยันเขียนเรื่องแบบนี้
พรายทรายคงได้อ่านเร็ว ๆ นี้สิคะ

ยังคงร๊อ ร้อ รอ

เชื่อค่ะว่าบ้านสวยหลังน้อย สดใสเพลงเพราะ
เหมาะกับการพักผ่อน พี่อ้อยังแว่บแอบไปบ่อย ๆ เลยค่ะ

อิอิ อยู่ใกล้หมอใกล้พยาบาลอุ่นใจ
สำหรับอย่างเราสองคนนะคะ อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:12:17:28 น.  

 
555555
ดีเจเพี้ยน ๆ ตลกไม่เข้าท่าแบบนั้น
ยังมีอยู่เยอะมาถึงปัจจุบันนะคะท่านจานจี
มีแต่พวกหยาบคาย ตลกลามก แหกปาก
ตะเบ็งเสียงคุยกัน พูดมากอย่างไร้สาระ
ฟังแล้วต้องเปลี่ยนช่องหนีทันที ...

จะหาดีเจเสียงใส พูดคุยเป็นเพื่อนแบบสบาย ๆ
เปิดเพลงเย็น ๆ เพลิดเพลินใจ พร้อมให้ความรู้
แทบจะหายหมดหน้าปัดวิทยุแล้ว

หือ หือ อยากฟังดีเจแบบเก่า ๆ อีกจังเลย







โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:12:21:55 น.  

 
จ๊ากกกกก ขออภัยค่ะคุณพีท
ว่าเห็นแว่บ ๆ ก่อนหน้านี้
พอตอบคนอื่น แล้วเลยลากผ่านไป
ไม่ใช่กระโดดข้ามไม่ตอบหรอกนะคะ

เหอะ เหอะ เขียนเรื่องผู้ใหญ่ ๆ
ให้นางเอกเป็นสาวใหญ่นี่
สมัยนี้จะกลายเป็นว่าเหลือคุณพีท
แค่คนเดียวที่จะอ่านหรือเปล่าคะ

แหะ แหะ กลัวใจสำนักพิมพ์อีกต่างหากค่ะ
แหะ แหะ แค่นี้ก็แช่อิ่มดองไว้ในไหอยู่นานเกินพอแย้ว
เหอะ เหอะ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:12:24:02 น.  

 
เดี๋ยวพรายทรายแว่บไปทานมื้อกลางวันก่อนนะคะ
ยังไม่รู้จะทานข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวดี ...

ท้องส่งเสียงร้องเรียกเตือนมาหลายรอบแล้ว

กลับมาแล้วค่อยเตรียมตงแต่ง ตัดต่อ
ลงเพลง ลงฉากพื้นหลัง
ให้บทที่ 13 ...

บทที่ 13 แล้ว ช่างรวดเร็วเหลือเกิน

เย็นนี้ได้อ่านแน่นอนค่ะ

ทานกลางวันให้อร่อยกันทุก ๆ ท่านนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:12:27:18 น.  

 
มาตั้งแถวรอตั้งกะสี่โมงเย็นครับ โฮ่ๆๆ เด๋วค่ำๆ มาใหม่


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:16:28:34 น.  

 
ขออภัยอย่างรุนแรง
ลืมไปว่าคุณพีทชอบอ่านก่อนนอน
แถมบทนี้มีขวัญใจคุณพีทแสดงด้วย

หือ หือ มัวแต่เลือกฉากหลัง ดอกกุหลาบเพลิน

ป่านนี้ดึกแล้ว คงหลับไปแล้วแน่ ๆ เลย
แหง แหง รู้สึกผิดมาก ๆ ที่ให้ใคร ๆ รอ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:20:17:21 น.  

 
โดนสกัดดาวรุ่งไปซะแร้ววว....
แถมสองสาวยังผนึกกำลัง
แท็คทีมมาเล่นงานเจ๊เภฯ
แถมๆๆ... เมษายังพูดแบบนั้นอีก

อ๋า... น้อกกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว หุหุ

(ขะใจ๋ๆ ไปอ่านบทต่อไปดีกว่า...)



โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:57:43 น.  

 
คุณรักดี


หากคุณรักดีมาเร็วกว่านี้ จะขอ วริสา ไปช่วยอีกแรง
รายนั้นก็ขาลุยไม่แพ้เหมือนกัน


โดย: พรายทราย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:39:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.