ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
1 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 4... "ช่อคราม"








บทที่ 4

...เมื่อคุณเปิดประตูบ้านให้หญิงสาวเข้ามา
ก็เหมือนกับว่า
คุณกำลังเปิดประตูหัวใจให้เธอก้าวเข้ามาแล้วเช่นกัน...


วันนี้วันเสาร์!!! …

...วันเสาร์วันหยุดที่แสนสบาย วันเสาร์ที่ไม่มีงานมากวนใจ วันเสาร์ที่เขาปิดมือถือได้ครึ่งค่อนวัน วันเสาร์ที่เขาจะตื่นสายกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงได้ถึงสิบเอ็ดโมง เหยียดยาวดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมไปได้ถึงบ่าย หรืออาจจะเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไปถึงเย็น ก่อนจะสั่งอาหารค่ำ ข้าวโพดคั่ว กับเบียร์เย็นเจี๊ยบดูหนังรอบมิดไนท์ และพร้อมจะหลับให้เต็มเปี่ยมอย่างมีความสุข...

แต่!! แต่มันกลับไม่ใช่วันเสาร์นี้!!!...
วันเสาร์ที่เขาต้องกึ่งนั่งกึ่งนอนลืมตาโพล่งอยู่บนโซฟา จ้องรายการทีวีอยู่แบบนี้ เขาตาค้างมาตั้งแต่กี่โมงแล้วนี่ พยายามไม่ขยับเขยื้อน สายตามองไปที่นาฬิกาลิบ ๆ ที่ฝาห้องด้านโน้น ธันวาพยายามหลับตาอย่างยากเย็น หูแว่วว่าจะมีเสียงอะไรเข้ามาอีกหรือไม่...

ชายหนุ่มข่มตาหลับอีกครั้ง ร่างกายเหมือนหมดเรี่ยวแรง สมองอ่อนล้าแต่ก็ยังพยายามเรียกภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นระยะ ๆ มันเข้ามาเป็นช่วง ๆ เหมือนภาพกระตุก ๆ ธันวาจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเขาได้กลับมาเข้าห้องนอนตัวเองกี่โมง

แต่ที่จำได้แน่ ๆ คือ เกือบตีสอง ตีสาม หรือตีสี่ที่เขากลับมาถึงบ้าน ทั้ง ๆ ที่ที่พักของเขาอยู่ใกล้ที่ทำงาน ขึ้นรถไฟฟ้าไม่กี่ป้าย หรือแม้จะออกกำลังกายก็เดินกลับมาได้ง่าย ๆ ด้วยซ้ำไป

แต่ผู้หญิงคนนั้น จู่ ๆ เธอก็บอกหิวขึ้นมาหน้าตาเฉย ขณะกำลังออกจากตึก จนเขาต้องแวะพาไปกินร้านข้าวต้มรอบดึก ดูเหมือนเธอจะเพลิดเพลินเป็นอย่างดีกับอาหารง่าย ๆ เบา ๆ ตื่นตาตื่นใจไปกับวิวบนถนนสุขุมวิท เธอตระเวนเดินดูสินค้าตลาดกลางคืนริมถนน แลกเงิน รูดบัตร จ่ายของในซุปเปอร์มาเก็ต 24 ชั่วโมง อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

ธันวาได้แต่เดินหาวตามต้อย ๆ เอะใจอยู่แล้วกับคุณหนูไฮโซ มีหรือที่จะอดใจไหวกับถนนสุขุมวิทยามค่ำคืน

“สนุกจังเลยค่ะ กรุงเทพตอนกลางคืนสนุกกว่าที่เขาร่ำลือกันเสียอีก” ดวงหน้าใส ๆ นั้นบอกถึงความสนุกราวกับเด็กเล็ก ๆ เหมือนเธอไม่เคยสนุกกับอะไรแบบนี้...

สนุกแบบที่มีผู้ชายเดินตามถือของต้อย ๆ ธันวาจะไม่มีวันลืมใบหน้านั้นเลยตลอดชั่วชีวิตของเขา....

แต่นั่นแหละ... ความจริงเขาก็ไม่ได้เดินถนนสุขุมวิทยามค่ำคืนมานาน แต่มันไม่ควรเป็นเมื่อคืนนี้ วันที่เขาเพลีย และเหนื่อยกับเธอมาครึ่งค่อนบ่าย ไหลเรื่อยมาครึ่งค่อนคืน จนเกือบครึ่งค่อนเช้า ธันวาไม่เคยเดินไกลมากขนาดนี้

...เขามั่นใจว่าขณะนี้สองขาของเขายังอยู่ในสภาพดี...เฮ้อ! เขาควรยอมรับความจริงว่าเขาห่างเหินการออกกำลังกาย และเริ่มจะชราภาพเต็มที...

ผู้หญิงอะไร!! ช่างมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ แค่ได้หลับไปไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่เธอคงต้องกินยาม้า หรือโด๊ปยาอะไรมาสักอย่าง....



กว่าจะกลับไปเอาสัมภาระเก่าของเธอที่ตึกทำงาน รวมสัมภาระใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อ ธันวาจำไม่ได้กี่เที่ยวที่เขาขนลงมาจากรถแท็กซี่ และเอาขึ้นบ้าน และเมื่อเข้ามาในบ้าน เธอก็ตรวจสอบห้องโน้นห้องนี้ ถามโน้นถามนี่จนเขาตาชักปิด

เขาถูกทรมานให้นั่งทำงานจนเกือบห้าทุ่ม อีกสามสี่ชั่วโมงเตร็ดเตร่บนท้องถนนยังไม่สาแก่ใจ นี่เขาไปทำบาปทำกรรมกับเธอไว้แต่ปางไหน ทำไมเธอต้องมาเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา ทำไมเธอต้องเลือกมาสาขาเมืองไทย...


แต่ก็นั่นแหละ กรรมของเขามันเพิ่งเริ่มต้นชดใช้หรืออย่างไร... เขาเพิ่งเข้าใจว่าเธอซื้ออาหารมาจากซุปเปอร์ทำไมมากมาย ราวกับบ้านเขาอยู่ในที่กันดารบนดอยสูง หรือชายแดนห่างไกลความเจริญ

แต่อย่างน้อยที่สุดก็เหมือนเป็นสิ่งดีสิ่งเดียวที่เขารู้สึกในหลายชั่วโมงที่ผ่านมา...

“แม่เคยพูดถึงเรื่องตักบาตรตอนเช้า ดิฉันอยากเห็นน่ะค่ะ รบกวนคุณธันวา พาไปตรงที่ ๆ พระเดินถนนมายาว ๆ ด้วยนะคะ…มาเมืองไทยวันแรกได้ตักบาตรคงดี”

ทำบุญเป็นสิ่งดี ธันวาปลอบตัวเอง เขาเองก็ไม่ได้ตักบาตรมานานแสนนาน ความรู้สึกดี ๆ เริ่มบังเกิดขึ้น ขณะที่เขาอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินผ่านมองเตียงนอนไปอย่างเสียดาย

นี่เป็นคืนแรกในรอบหลาย ๆ ๆ ปีตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ที่เขาออกไปตะลอนอยู่ข้างนอก โดยไม่ได้กลับมานอน อย่างมากก็แค่ทำงานอยู่จนเช้า แต่ก็ยังกลับมานอนต่ออยู่ดี...

“งั้นดิฉันจะไปเตรียมของ...ขออนุญาตใช้ห้องครัวนะคะ” หลายครั้งที่เขาอยากฟาดเธอแบบเด็ก ๆ แม้นิสัยส่วนตัวบางเรื่องจะป่วนเต็มทีก็เหอะ

แต่หลายครั้งเขาก็ประทับใจ ทั้งวิธีการทำงาน มรรยาท นี่หากเธอพูดภาษาไทยได้เป็นเรื่องเป็นราว หรือเธออาจพูดได้แต่ไม่อยากพูด แต่ก็นั่นแหละเขาเริ่มเชื่อสนิทใจแล้วว่าเธอคงเป็นผู้หญิงไทยที่น่ารักมากกว่าเด็กสาวอีกหลาย ๆ คนที่เป็นคนไทยแท้ ๆ ด้วยซ้ำไป

อดขำเล็ก ๆ ไม่ได้ ทีแรกนึกว่าเธอจะเข้าครัวทำกับข้าวเอง นี่หากแม่ของเขามาเห็นคงตกใจแย่ที่เธอเอาอาหารแช่แข็งใส่บาตร แต่ว่าไปแล้วก็ง่ายดีทั้งของคาวของหวาน เอาใส่ไมโครเวฟ

ชั่วไม่นานนักก็กลายเป็นอาหารตักบาตรร้อน ๆ ที่แพ็คไว้อย่างเรียบร้อย ไม่ต้องเสียเวลาทำ ตักใส่ถ้วย ใส่ถุง ทำไมเขาไม่เคยคิดเรื่องง่าย ๆ แบบนี้บ้างนะ

แต่ก็นั่นแหละ หากเขาตื่นเช้าก็ต้องตะหลีตะเหลือกไปทำงาน และเมื่ออยู่บ้านเขาก็ตื่นสายตะวันโด่งอยู่แล้ว

ทำบุญเป็นสิ่งดีแต่ไม่ใช่ไม่ได้นอนแบบนี้...และไม่ใช่ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นอย่างแต่ก่อน ที่คะนองเที่ยวกลางคืนจนเช้า แล้วเมาแอ๋รอตักบาตรพระก่อนกลับเข้าบ้าน....


ธันวาไม่แน่ใจว่าเขางีบไปเล็ก ๆ หรือเปล่า ณ ตอนนั้น ขณะที่รอให้สว่าง และรอให้เธออุ่นอาหารกล่องคาวหวานทั้ง 36 กล่องเสร็จ เตรียมพร้อมใส่ถุง และออกไปนอกถนนใหญ่ ใกล้ ๆ ตลาดอโศกเขาเหมือนเคยเห็นมีพระมารับบาตร แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าพระจะมากี่โมง

เขาเลยตัดสินใจไปรออยู่ตั้งแต่ยังไม่หกโมง ระหว่างรอเขาสัปหงกไปหลายรอบกว่าจะได้ตักบาตรเรียบร้อย ช่วงเวลาที่ใส่บาตรกับเภตรา ชีวิตเหมือนเลือนรางอยู่ในฝัน

บางทีเขาคงละเมอ...หรือว่าทั้งหมดอยู่ในฝัน...เขาฝันไปเอง!!...


“เคยไปตักบาตรวัดไทยกับแม่ แต่ไม่เหมือนแบบนี้ รู้สึกดีจังเลย ขอบคุณมากนะคะที่พามา”

บรรยากาศช่วงเช้ามืดของถนนสุขุมวิทเงียบปราศจากรถรา เหมือนอยู่อีกมิติหนึ่ง แม้จะมีผู้คนบ้างที่ตลาด ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านด้วยกัน ธันวาลอบมองด้านข้างของหญิงสาวเนิ่นนาน ทำให้เขาอีกด้านหนึ่งของเธอ อดเผลอยิ้มตามไปอย่างมีความสุข

สาวน้อยหน้าใส ๆ ที่ปราศจากเครื่องสำอาง กางเกงยีนส์เสื้อยืดง่าย ๆ ดูต่างจากชุดกางเกงกึ่งสูททั้งชุดเมื่อวาน แม้ผมจะรวบเป็นหางม้าเหมือนเคยก็ตาม ตุ้มหูเม็ดคริสตัลวาว ๆ สีฟ้าใส ๆ ยังเป็นคู่เดิม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้เวลาตลอดค่ำคืนจนเช้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เมืองไทย

ผู้หญิงแปลกหน้าที่จู่ ๆ เข้ามาในชีวิตของเขา...ผู้หญิงที่บินมาจากที่แสนไกล...

ธันวายอมรับว่าเขาเคยประทับใจผู้หญิงมามากมาย ทั้งไทย ทั้งต่างชาติ ทั้งคบเป็นเพื่อน เป็นแฟน ออกเดทกันระยะหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาได้ประทับใจได้มากมาย จนรู้สึกเหมือนว่าเขาพร้อม มากพอที่จะใช้ชีวิตกับใครสักคน หรือแค่แม้แต่ใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันตลอดเวลา...

“ไม่รีบหาแฟน อีกหน่อยต้องอยู่คนเดียว หรือไม่ก็จะโดนเกย์เด็ก ๆ มาขอพึ่งพิง” ธันวาหัวเราะเบา ๆ เมื่อนึกไปถึงคำพูดของน้องสาว...

แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็เปิดประตูรับผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา...
ผู้หญิงแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จัก...ที่ยังไม่ได้สนิทสนม
ผู้หญิงที่ยังไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอมากมาย แค่เพียงเพื่อนร่วมงาน 1 วันเท่านั้น
ผู้หญิงที่ทำให้เขาปวดหัวได้ตั้งแต่แรกรู้จัก ทั้งอดหลับอดนอนอยู่ในสภาพแบบนี้
และดูเหมือนจะต้องปวดหัว หรืออดหลับอดนอนไปแบบนี้ไปตลอด 2 ปี หรือเปล่าก็ไม่รู้ …



เภตรากับการได้ตักบาตรในเช้าวันนี้ทำให้เธอรู้สึกดีเอามาก ๆ เหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้นึกย้อนไปถึงความรู้สึกสมัยเด็ก ที่แม่เคยพาเธอไปตักบาตรที่วัดไทยอยู่หลายครั้ง แต่พอโตขึ้นมาแล้วเธอก็ไม่มีโอกาสได้ไปอีกเลย การได้เตรียมของ ได้ตักบาตรทำให้จิตใจสบาย นิ่งสงบ ข้อสำคัญไม่ฟุ้งซ่านบ้าเอาแต่กดโทรศัพท์หาเมษาไปได้หลายชั่วโมง...

น่าแปลกที่เธอติดต่อเขาไม่ได้ และดูเหมือนว่าเขาก็ไม่โทรหาเธอเสียด้วย นับรวม ๆ น่าจะร่วมอาทิตย์แล้วที่เขาหายเงียบไป....

เภตราถอนใจ มองโทรศัพท์ในมือที่ยังติดต่อไม่ได้ ก่อนยัดใส่กระเป๋ากางเกงถอนหายใจ ออกจากห้องครัวเดินขึ้นบันไดมาเงียบ ๆ ธันวาคงหลับไปแล้ว นี่เขากลัวเธอทำยุ่งกับบ้านของเขาหรือเปล่านะ ถึงทนมานั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ หน้าทีวีอยู่ที่ชั้นลอยแบบนี้ ไม่ยอมขึ้นไปนอนที่ห้อง ตั้งแต่กลับเข้ามา เธอชวนเขาทานแซนด์วิช แต่เขาก็ปฏิเสธ ได้แต่ดื่มกาแฟเป็นถ้วยที่ 3 แล้วละมั้ง …

เธอถอยเท้าออกจากชั้นลอย เดินสำรวจรอบบ้านใหม่อีกรอบ ทาวน์เฮาส์ที่เขาอยู่ หรือจะเรียกว่าแมนชั่นอย่างที่เขาเรียก เป็นทาวน์เฮาส์สไตล์ยุโรป ดูเป็นสัดส่วน ส่วนตัว และเงียบกว่าอพาร์ตเมนต์ที่มีหลายห้องพัก ห้องข้างในก็กว้างขวางดูโอ่โถง เพดานสูง พื้นหินอ่อนทำให้บ้านทั้งหลังเย็นสบาย

จากประตูเข้าด้านหน้า มีมุมรับแขก โถงโล่ง ๆ บันได ถัดไปเป็นห้องน้ำ ก่อนถึงโต๊ะทานข้าวขนาดสี่คน ห้องครัวขนาดใหญ่ ห้องซักผ้าแยกไปอยู่ด้านในที่มีทางออกไประเบียงตากผ้าด้านหลัง

ชั้นลอยแบ่งเป็นสองส่วนเล่นต่างระดับ ด้านซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยทีวี เครื่องเสียง เครื่องเล่นเกม ส่วนด้านขวาเป็นห้องทำงาน ที่มีชั้นหนังสือเต็มไปทั้งห้อง จนน่าจะเรียกว่าห้องสมุดมากกว่า

ส่วนชั้นสองเป็นห้องนอนใหญ่สองห้อง ห้องน้ำ และยังมีห้องเก็บของอยู่ใต้หลังคา ที่นี่น่าอยู่ดูอบอุ่นสำหรับเธอ แต่หากที่พักที่เตรียมไว้ให้เหมือนกับแบบนี้ มันดูจะเป็นบ้านหลังใหญ่สำหรับเธอ

หากจะต้องอยู่คนเดียว มันเหมาะที่จะมีรูมเมทสำหรับสองหรือสามคนมากกว่า แต่ก็ยังต้องถือว่าเล็กกะทัดรัดกว่าบ้านที่เยอรมันอยู่ดี...

เธอนึกไปถึงคฤหาสน์หลังโตที่แฟรงก์เฟิร์ต ตั้งแต่จำความได้ส่วนใหญ่เธอจะอยู่ลำพังกับพี่เลี้ยง พ่อบ้าน แม่บ้าน และคนรับใช้

พ่อชอบสรรหาสิ่งที่ดี ๆ สะสมให้ครอบครัวเหมือนปู่ของเธอ บ้านหลังใหญ่แต่พ่อกับแม่มักไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าใดนัก ดูเหมือนการเดินทางหาตลาดใหม่ ๆ ลูกค้าใหม่ ๆ ให้บริษัทของปู่ ได้พบปะผู้คน ได้ท่องเที่ยว ผจญภัยย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์จะเป็นความสุขของทั้งสองคนตั้งแต่ไหนแต่ไรมา

จนเมื่อเธอไปเรียนต่อที่อังกฤษ แม่กับพ่อก็ย้ายไปใช้ชีวิตอย่างถาวรอยู่บนเรือใบลำหรู จะกลับบ้านก็เพียงแค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น

บางครั้งเธอก็เหมือนเข้าใจว่าพ่อจะหนีจากระบบของปู่ หนีจากการต้องเป็นผู้สืบทอด รับผิดชอบดูแลกับกิจการอันมากมายของตระกูล แต่ก็ยังผสมผสานสไตล์ของตัวเองไว้โดยการยังคงทำงานทำเงินให้กับปู่เป็นระยะ ๆ ได้เดินทางไปกับแม่ตลอดเวลา คิด ๆ ไปให้เธอใช้ชีวิตอย่างพ่อกับแม่เธอก็ไม่ต้องการเหมือนกัน เธอเองก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง...

ไม่ทั้งแบบปู่ย่า ไม่ทั้งแบบพ่อแม่....เป็นแบบเภตรา โดโรธี ดเรสเนอร์ เป็นแบบที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้นั่นเอง และปู่เธอก็ยังพอใจที่เธอช่วยดูแลตัวเลข คอยนับเงิน ๆ ทอง ๆ ให้ท่าน ทั้งยังดูแลเรื่องกฎหมาย และก็หาลูกค้าใหม่ ๆ ให้ไม่น้อยไปกว่าพ่อสักเท่าไร ได้ทั้งงานของตระกูลดเรสเนอร์ และก็ได้งานให้กับโทมัสแอนด์เจมส์ ทำงานอยู่กับที่แบบนี้ สนุกกว่าเดินทางหาลูกค้า หรือไปขุดโน้นขุดนี่เป็นไหน ๆ ...

“เจ้าเล่ห์สมองเป็นเงินเป็นทองเหมือนปู่นั่นแหละ บวกกับนิสัยพ่อเข้าไปอีก เราน่ะเลยถึงเป็นแบบนี้” ไม่รู้ว่าย่าของเธอชม หรือประชดกันแน่

แม้เธอจะเหมือนปู่ เหมือนพ่อในบางเรื่อง ต่างจากแม่ในอีกหลาย ๆ เรื่อง แต่ที่เธอชอบอยู่กับที่ใช้แต่สมองทำงาน สรุปแล้วน่าจะเหมือนย่านั่นเอง...



เสียงกริ่งหน้าประตูทำให้เธอชะงักเท้าก่อนขึ้นบันไดไปห้องที่เขายกให้เธอ หญิงสาวชะโงกหน้ามองผ่านราวบันไดไปมองเจ้าของบ้านก็ท่าทางจะหลับไปเรียบร้อย เสียงกริ่งดังขนาดนี้ยังไม่เห็นลุกออกมา ท่าทางจะหมดลานนานยาวแน่ ๆ เภตราตัดสินใจวิ่งลงบันไดต่อไปเปิดประตู

“ลุงธันว์!! ลุงธันว์!! ไปย่างกุ้ง ไปย่างกุ้ง” เสียงเย้ว ๆ ของเด็กผู้ชายสองคนที่วิ่งพรวดพราดเข้ามาทันทีที่ประตูเปิด ทั้งเธอและเด็กสองคนต่างหยุดชะงัก ต่างตกใจที่เห็นหน้ากันและกัน

“ผิดบ้านปะนี่?” เด็กผู้ชายทั้งคู่ที่อายุไม่เกิน 4 -5 ขวบ มองหน้าและพูดกันเอง

“ขอโทษนะคับ...สงสายจาเข้าบ้านผิด” เด็กสองคนถอยหลังกลับแบบเก้ ๆ กัง ๆ ยังบ่นอะไรต่อกันงึมงำ

“ทำไมไม่เข้าไปกัน ออกมาอีกทำไม...ให้แม่ไปจอดรถดี ๆ ก่อน” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังกลับมา ท่าทางเธอเหมือนเพิ่งลงจากบันไดหน้าบ้าน ก่อนกลับไปขยับรถที่จอดไว้กลางถนนให้ชิดเข้าที่

“แม่....แม่ ผิดบ้านง่ะ...” คนเล็กยังยืนอยู่หน้าบันได พร้อมกับตะโกนบอกผู้เป็นแม่

“ผิดได้ไง...บ้านหลังที่สองขวามือนี่อ่ะบ้านลุงธันว์...มาไม่รู้กี่รอบแล้ว...” หญิงสาวตะโกนกลับไปขณะกำลังล็อกรถ

“บ้านไม่มีลุงธันว์ มีคนอื่น...มีผู้หญิงคับ” คนโตกว่ารายงานพร้อมกับวิ่งตึง ๆ ลงบันไดหน้าบ้านไปหยุดที่ประตูรั้วเหล็กดัดเตี้ย ๆ หันหลังย้อนกลับมามองหน้าบ้านใหม่อีกที ทำหน้างุนงงอยู่ไม่น้อยก่อนมั่นใจว่าใช่บ้านของลุงตัวเอง

เภตราค่อย ๆ ชะโงกหน้าออกไปพูดกับเด็กชายตัวเล็กที่ยังคงยืนกลัว ๆ กล้า ๆ อยู่หน้าประตูบ้านด้านนอก

“หลานลุงธันว์หรือคะ?” เภตราเอ่ยเป็นภาษาไทยเบา ๆ เด็กชายพยักหน้าหงึก ๆ มองหน้าเภตราด้วยเครื่องหมายคำถามหลายร้อยอัน ก่อนวิ่งโร่ลงไปหาเด็กชายอีกคนที่กำลังตั้งท่าขึ้นไปยืนบนด้านล่างของขอบประตูรั้ว
แสตนเลสเตี้ย ๆ หน้าบ้าน

“ให้เค้าเล่นด้วย...” เด็กชายตัวเล็กกว่าปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนขอบแนวรั้วเตี้ย ๆ อย่างรวดเร็ว ทำท่าราวกำลังขี่ม้าเล่น ส่วนเด็กชายคนที่ยืนเกาะประตูรั้วพร้อมเหวี่ยงตัวเองและรั้วเหล็กดัดไปมาให้เปิดเข้าเปิดออกอย่างเป็นที่สนุกสนาน

“เฮ้ย!! เฮ้ย!! ปีนรั้วเล่นแบบนี้กันอีกแล้ว...เดี๋ยวหัวแตกให้ลุงแกพาไปเย็บนะ แล้วถ้ารั้วเขาพังอีก แม่ก็ไม่มีตังค์ซ่อมแล้วนะเฟ้ย” หญิงสาวผู้เป็นแม่เอ็ดตะโรเสียงดัง พยายามแงะอุ้มคนเล็กกว่าลงมาจากรั้ว

“แม่ ๆ บ้านลุงธันว์มีผู้หญิงอ่ะ...ฝรั่งด้วย” คนโตชี้มือไปที่หน้าประตูบ้าน แต่ยังยืนเหวี่ยงตัวอยู่บนด้านล่างของประตูรั้วเหมือนเดิม

“สวยด้วย...” คนเล็กช่วยเสริม หญิงสาวมองไปที่ประตูขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ไม่ต่างจากลูก ๆ ของเธอ

“ลงมาได้แล้วเด็กชายวศิน นี่มันรั้วบ้านไม่ใช่ที่เล่น…บอกกี่หนแล้ว” เสียงเรียกชื่อเต็มยศ ทำให้เด็กชายคนโตค่อย ๆ ก้าวลงมาจากขอบด้านล่างของประตูรั้ว

“ก็บ้านเราไม่มีรั้วปีนเล่นแบบนี้นี่นา... “ เสียงเด็ก ๆ ยังบ่นพึมพำ ก่อนเดินหน้ามุ่ยตามแม่ของตัวเองขึ้นบันไดไป

“คุณธันวาหลับค่ะ... ดิฉันเภตราเป็นเพื่อนร่วมงาน เพิ่งมาจากสาขาเยอรมัน เลยมาอาศัยพักที่นี่ก่อน” เภตรารายงานตัว เลือกสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษน่าจะง่ายกว่า

“สวัสดีค่ะ กันยาค่ะเป็นน้องสาว นี่ลูก ๆ ... คนโตนี่ชื่อบอล คนเล็กชื่อ
บาส...มาสวัสดีสวย ๆ คุณน้าเขาก่อน” หญิงสาวยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร ความงุนงงจางหายไป พยายามดึงลูกชายของตัวเองให้มาสวัสดี แต่ทั้งคู่ก็ยกมือแผล็บเดียว ก่อนวิ่งแน่บขึ้นไปด้านบน

“พอดีจะมารับพี่ชายไปทานข้าวที่บ้านคุณแม่น่ะค่ะ ”

เภตรายิ้มอดคิดไม่ได้ว่า เมษาจะเป็นน้องชายของธันวาด้วยหรือเปล่า เมื่อธันวามีน้องสาวแบบนี้ แต่ชื่อกันยาที่น่าจะหมายถึงเดือนก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าน่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน น่าแปลกอย่างเหลือเชื่อที่จู่ ๆ เธอก็ได้รู้จักครอบครัวของเมษา โดยที่เมษาไม่ได้บอกหรือแนะนำเลย

“ทำไมมาวันนี้?” เสียงอู้อึ้ของธันวาดังออกมาจากชั้นลอย ก่อนถูกหลานชายทั้งสองลากตัวลงมาข้างล่าง ผู้เป็นลุงนั่งแปะบนโซฟา สภาพยังไม่ฟื้นดีเท่าไร หลานชายทั้งคู่วิ่งแน่บปีนบันไดกลับขึ้นไปดูทีวีบนชั้นลอยแทน

“ก็ครูสอนพิเศษนายบอลเขาขอสลับไปสอนวันอาทิตย์ เลยต้องมาวันนี้แทน” กันยามองสภาพพี่ชายตัวเองแล้วไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอมาถูกวันหรือเปล่า

“บอล! บาส! ห้ามรื้อเกมอะไรออกมาเล่นนะ...วันนี้ให้ไปถล่มบ้านคุณยายไม่ใช่บ้านคุณลุง แม่ขี้เกียจขึ้นไปเก็บ” หญิงสาวเดินไปใกล้ ๆ บันไดก่อนตะโกนขึ้นไปบอกเด็ก ๆ

“ไปอาบน้ำ จะได้รีบไป...” กันยาหันมาสั่งพี่ชายราวกับเป็นลูกชายอีกคน จนเภตราอดยิ้มไม่ได้ หากเป็นพี่น้องกันจริง ระหว่างกันยากับเมษาจะเห็นเค้าความคล้ายคลึงกันมากกว่า ธันวาแทบต่างไปจากคนอื่น หรือว่าแค่เป็นญาติกัน

“เดี๋ยวไปทานข้าวด้วยกันนะคะ คุณเภตราจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เมื่อกี้บอกว่าเพิ่งมาถึงเมืองไทยด้วย” ธันวาเบิกตาโต นี่สองคนไปสนิทสนมกันเมื่อไหร่ น่าแปลกเสียจริงผู้หญิงคนนี้ ช่างสนิทกับใครได้รวดเร็วเหลือเกิน

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไปกันเถอะค่ะ ทานกันแบบครอบครัวอย่างนี้คงไม่เหมาะ” เภตราพยายามปฏิเสธตั้งท่าจะขอตัวแยกกลับไปห้องตัวเอง เมื่อเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของธันวา

“ไม่หรอกค่ะ ไปได้ ไม่ได้พิเศษอะไร ทานกันหน้าเดิม ๆ ปกติน่าเบื่อจะตาย” กันยายังยืนยันหนักแน่น

“ให้คุณเภตราไปด้วยนะ มีแขกเพิ่มน่าจะสนุกกว่า”
ธันวาลุกจากโซฟาอย่างเหนือย ๆ ตรงไปที่บันได ปวดหัวที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าที่เขาต้องพาเธอไปหาที่กินข้าวมื้อเย็น ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีทัวร์กลางคืนต่อซ้ำรอยเดิมอีกด้วยหรือเปล่า

“ตามใจ พี่ไงก็ได้อยู่แล้ว ดี! ไม่ต้องไปหาที่เสียตังค์กินข้าวเย็น...ขับมาส่งบ้านด้วยแล้วกัน” แววตาตื่นเต้นของเภตรา ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธ และปล่อยให้เธออยู่คนเดียวได้ มันอาจทำให้เขาปวดหัวน้อยกว่าถ้าเห็นเธออยู่ในสายตา

“งั้นขอตัวไปเอากระเป๋านะคะ” เภตราเดินเลี่ยงขึ้นบันไดไปอย่างช้า ๆ

“เปลี่ยนวันแบบนี้ แล้วนายเมษไปหรือเปล่า? ไม่ได้เจอนานแล้ว” คำถามของธันวาสะดุดหูเภตราทันที ลมหายใจเหมือนจะติดขัด หัวใจเต้นแรง เผลอชะงักเท้าหยุดก้าวอย่างลืมตัว จนธันวาที่กำลังก้าวขึ้นบันไดตามหลังมาชนเข้าอย่างจัง ทำเอาหญิงสาวคะมำไปข้างหน้า ดีที่เขาคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน...

“เสียใจ...นายเมษน้องเราไปนิวยอร์กกับคุณลุง...กว่าจะกลับน่าจะต้นเดือนหน้าโน่นเลย” กันยาตอบขณะเดินไปรินน้ำจากตู้เย็นมาให้เด็ก ๆ และตัวเอง

เภตราเม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงไออุ่นจากคนข้างหลัง แต่เหมือนเธอไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะตกบันไดเสียด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้หัวใจของเธอพองโตจนเหมือนลอยได้เสียมากกว่า

คำถามที่เธอสงสัยมานานมีคำตอบโดยที่ไม่ต้องถามใคร เมษาอยู่ใกล้จนเหลือเชื่อ พรหมลิขิตเป็นแบบนี้นี่เอง...

“เล่นรถไฟกันเหยอ...บาสเล่นด้วยจิ” เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ชะโงกหน้าออกมาถามจากห้องนั่งเล่นชั้นลอย ธันวายีผมหลานชายแก้เก้อ กลิ่นหอมจากเรือนผมของเธอยังติดปลายจมูกของเขา...

ขณะเดียวกันกับที่เภตราอมยิ้มแก้มปริ ก่อนวิ่งจี๋ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ธันวาได้แค่ส่ายหัวมองตามไปอย่างงง ๆ



...โปรดติดตามตอนต่อไป...





***
“Different Worlds” เสียงใส ๆ หวาน ๆ ของ Maureen McGovern เคยเป็นเพลงประกอบ TV series เรื่อง Angie เมื่อปลายปี ’70 จะมีใครจำได้บ้างหนอ เรื่องราวตามสูตรซินเดอเรลล่า ของสาวเสิร์ฟกับคุณหมอเศรษฐีหนุ่มที่มาร่วมชีวิตกัน และ เพลงนี้ยังขึ้นไปถึงอันดับที่ 18 ในชาร์ตบิลบอร์ดเมื่อปี 1979






Create Date : 01 มิถุนายน 2551
Last Update : 1 มิถุนายน 2551 21:02:58 น. 20 comments
Counter : 410 Pageviews.

 
อาทิตย์อาทิตย์หนึ่งนี่มันเร็วจริง ๆ นะคะ
พรายทรายรู้สึกเหมือนเพิ่งอัพตอนที่ 3 ไปไม่นานมานี่เอง
แป๊บ ๆ พรายทรายต้องมาทำบทที่ 4 แล้ว

นี่ขนาดเตรียมอะไรไว้เยอะแยะ
ไม่ต้องดีไซน์ออกแบบคิดไรมาก
พรายทรายยังใช้เวลาเยอะแยะเลย
แต่อย่างไรก็ต้องมาให้ทัน
เดี๋ยวพรายทรายจะอู้จนเคยตัว

หวังว่าคงอ่านอย่างมีความสุข
และสนุกกับบทนี้นะคะ...



โดย: พรายทราย วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:19:49:25 น.  

 
แอบย่องมาดู ในที่สุดบทที่ 4 ก็มาแล้ว ลั้นลา...

พอดีวันนี้มีงานค้าง ต้องเร่งให้เสร็จก่อนนอน เลยมาป๊ะชื่อไว้ก่อน แล้วจะกลับมาอ่านครับ (ลั้นลาอีกที)


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:20:26:06 น.  

 
โหห ...
มีแอบย่องมาดูบ้านคุณธันวาด้วย อิอิ
แค่เห็นชื่อก็ดีใจแล้ว...

เอาใจช่วยให้ทำงานให้เสร็จเร็ว ๆ นะคะคุณพีทคุง
บทที่ 4 บ้านนายธันวาเปิดประตูคอยอยู่ตลอดเวลาแล้วค่ะ
อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:20:41:22 น.  

 
เย้...เเต่งวดนี้หนูบัวไม่ต้องปักเเต่ป้ายชื่อเเล้วฮะ
ฝากรอยเท้าเอาไว้เต็มบ้านคุณธันว์เลย
เป็นการโชว์ว่า 'อ่านเเล้วค๊าบ' อิอิ

ชักเริ่มรู้สึก ว่าหากสาวเภตรามัวเเต่สนใจหนุ่มเมษ
งั้นยกหนุ่มธนูให้ใยบัวดีกว่าเนาะๆๆ


โดย: ใยบัว..ปันใจให้หนุ่มธันว์ IP: 203.132.66.38 วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:18:14:43 น.  

 
อิอิ โถน้องใยบัวจะทนหนุ่มธันว์ไหวหรือคะ
ตาแก่ขี้บ่น ทำแต่งาน เชย ๆ ความรู้สึกช้าแบบนี้

อิอิ จองไว้ก่อนก็ดีค่ะ หนุ่มธันว์ยังหัวใจว่างเปล่าอยู่นะตอนนี้ อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:20:00:27 น.  

 
งานเสร็จแล้วเลยรีบปรี่มาบ้านลุงธันว์...

อิๆ สงสัยลุงธันว์จะแฟนคลับตึมซะแล้วนะครับ

นายบอลกับนายบาส น่ารักและท่าทางจะน่าปวดหัวไม่น้อยนะเนี่ย หรือคุณพีทจะหันมาเหล่เด็กห้าขวบแทนดีหว่า ฮ่าๆๆ

เภตราอยากตักบาตรรับเ้ช้าวันแรกในเมืองไทย น่ารักดีนะครับเนี่ย ช่างคิดช่างทำดีเหลือเกิน แต่แอบสงสารนายธันว์นิดหน่อย เล่นเอาโทรมไปเลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ สงสัยจะชราภาพแล้วจริงๆ กร๊าก

โอ๊ะโอ... ชื่อนายเมษโผล่มาแล้ว เอาล่ะสิทีนี้ เภตราเอ๋ย จะได้เจอคนที่ข้ามฟ้ามาหาซะทีนะ (ส่วนลุงธันว์ก็แบ่งๆ แฟนคลับปาย โฮะๆๆ)

อาทิตย์นึงไม่เร็วหรอกครับ รออยู่ตั้งนานนะบทนี้ งืด...


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:20:26:26 น.  

 
อ้าว คุณพีทคุงแอบมาบ้านคุณธันว์เมื่อไหร่นี่

แอบหาภารกิจให้หนูเภตราค่ะ
ไม่งั้นเข้าไปอยู่บ้านชายหนุ่ม
วันแรกคงเคอะ ๆ เขิน ๆ เหมือนกัน
ไหน ๆ ก็ให้คุณธันว์ปวดหัวแล้ว
ก็ให้ปวดหัวสะทุกเรื่องจะได้จดจำได้แม่น ๆ

บอกแย้วว่าคุณธันว์เธอน่ะ
เป็นตาแก่ขี้บ่น ทำแต่งาน เชย ๆ ความรู้สึกช้าแบบนี้
ชราภาพจริง ๆ


เลี้ยงต้อยนายบาสนายบอลนี่คงนานเลยนะ
แต่ก็สบายใจได้หน่อยเนอะ
ปวดหัวแบบน่าเอ็นดูแบบนี้ อิอิ


อาทิตย์หนึ่งเร็วเวลาทำของตัวเอง
5555 แต่รออ่านบ่ายวันอังคาร กับพี่แพนนายโต๊ะ
นี่ยาวนานมากกว่าเอิ๊กกกกกกกกกกก


โดย: พรายทราย วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:21:40:43 น.  

 
ตาแก่ขี้บ่น ทำแต่งาน เชย แล้วยังความรู้สึกช้าอีก... ทำไมช่างน่ารักถูกใจอย่างเนี้ยยยยย ฮ่าๆๆ

ไม่ได้ๆๆ ไม่แย่งเภตราก็ได้ ขอยืนเกาะรั้วทำตาละห้อยมองอยู่ไกลๆ ก็พอครับ (แล้วไปเล่นประตูกับสองหนุ่มน้อยคอยมันโต โฮ่ๆๆ)

โม่นิยายอยู่หลายวัน คิดถึงเลยแวะมาฝากร่องรอยเยี่ยมเยียนครับ พรุ่งนี้เช้าต้องลงบทที่ 2 ของนายโต๊ะแล้ว ยังไ่ม่ได้จัดหน้าเลย เดี๋ยวเข้านอนก่อนแล้วค่อยตื่นมาจัด (ประมาณว่าขี้เกียจแล้ว เอิ๊ก)


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:20:22:40 น.  

 
แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เช้าวันเสาร์
แต่กว่าจะได้อ่านก็เย็นมืดค่ำ ดึก
ช้าเหมือนนายธันว์จริง ๆ

แพล็บเดียววันอาทิตย์แล้ว
ช่างรวดเร็วสะจริง ๆ

หมดสต็อกเมื่อไหร่มีหวังต้องเป็นมูลิเน็กซ์
แข่งกับคุณพีทแน่ ๆ เลย


พรุ่งนี้เจอกับคุณธันวาแน่นอนค่ะ ....


โดย: พรายทราย วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:20:03:57 น.  

 
ผู้หญิงแปลกหน้าที่จู่ ๆ เข้ามาในชีวิตของเขา...
ผู้หญิงที่บินมาจากที่แสนไกล...




อ่านถึงตรงนี้แล้วก็นั่งยิ้มอยู่คนเดียว
คนอ่านคนนี้แอบฝันว่าได้เป็นผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้
แล้วล่ะค่ะ^^







โดย: ระเบียงดอกไม้ วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:20:33:22 น.  

 
อุอุ คุณระเบียงดอกไม้แว่บมาเมื่อไหร่คะ

มีคนสมัครใจเป็นสาวแปลกหน้าคุณธันว์อีกคนแย้ว
เย้ เย้ ต้องเต้นระบำดีใจสะแล้ว

พรุ่งนี้แวะมาอ่านต่อนะคะ
ดูสาวแปลกหน้าคนนี้จะแปลกใจแค่ไหน
เมื่อไปถึงบ้านของคนที่เธอรัก และดั้นด้นบินมา...


โดย: พรายทราย วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:20:43:12 น.  

 
วันนี้ทำงานเหนื่อยมาก ร้านก็ยุ่ง
เเถมยังทดลองงานเด็กใหม่เข้าไปอีก
เด็กอะไรไหนบอกว่ามีประสบการณ์
ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเเท้ๆ โอ - มาย - กอด
เหนื่อยทั้งใจเเละกาย คนนี้คงต้องขอผ่านเลย -_-"

ยังไงซะ ก็ยังพกพาเอาร่างกายอันสุดเเสนจะเพลีย
มาโผล่หน้าเกาะขอบรั้วบ้านลุงธันว์
ลอบมองอย่างใจจดจ่อ

ตอนต่อไปจะมาให้หายเหนื่อยเเล้ว เห้ออออ


โดย: ใยบัว... หมดพลัง IP: 203.132.82.104 วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:21:34:46 น.  

 
โถ น้องใยยัว พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ
หมดแรง เหนื่อยมาก ยังอุตส่าห์แวะมาเกาะรั้วบ้านลุงธันว์อีกคน

อิอิ สงสัยรั้วบ้านนี้คงเล่นแล้วสนุกจริง ๆ
มีคนมาเกาะรั้วเล่นกันหลายคน อิอิ

เอาล่ะค่ะ ก่อนน้องใยบัวเล่นแอบมองจนหมดแรง
รีบขึ้นตอนที่ 5 ดีกว่านะ

ไปทานกุ้ง เสริมพลัง แล้วอย่าลืมพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ

ด้วยความเป็นห่วงค่ะ
อิอิ อยากให้ถึงบทที่ 10 เร็ว ๆ จังเลย น้องใยบัวจะได้แข็งแรง อิอิ (ไว้รอลุ้นบทนั้นนะคะ)


โดย: พรายทราย วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:18:52:13 น.  

 

วางพล็อตได้น่าสนใจ และน่าลุ้นมากค่ะ
ตอนนี้กำลังใจจดจ่อรอลุ้นว่าเมษา
จะมีบุคลิกลักษณะนิสัยเป็นยังไงนะ และ
คุณ "ช่อคราม" จะมี favor หรือ bias ในการ
วาง character ของตัวละครตัวหนึ่งตัวใด
มากเป็นพิเศษด้วยหรือเปล่าน้า ..

ตอนนี้สมัครเป็นแฟนคลับของสาวน้อยเภตรา
ก่อนนะคะ .. น่ารักมากๆ เลย



โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:15:31:09 น.  

 
อิอิ หนูเภตรามีแฟนคลับกับเขาสะที
ไม่งั้นเทใจให้ลุงธันว์กันหมด อิอิ

ตอนหน้าเริ่มเห็นข้างหลังภาพนายเมษาแล้วล่ะค่ะ
และคงเห็นไปเรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าตัวจะออกมา

แหะ แหะ ช่อคราม มะมี favor หรือ bias
ตัวละครตัวหนึ่งตัวใดแน่ ๆ ค่ะ
รักหมดทุกตัวเลยค่ะ
เพราะทุกตัวถูกกำหนดมาให้ทำตามหน้าที่
ตามคาแร็คเตอร์ของตัวเอง
ซึ่งถูกวางมาพร้อม ๆ กับพล็อตเรื่องเลยค่ะ

รับรองไม่มีการแต่งเติมเพิ่มเอาใจ หรือมีอคติตัวไหน ๆ
แน่นอนค่ะ

ช่อครามแค่ผู้กำกับเรื่องให้ดำเนินไปเอง แหะ แหะ


เนี่ยะตอนนี้ก็กำลังออดอ้อนอ้อนวอน
ตัวละครให้ออกมาเล่นสะที
เล่นตัวอู้กันมาหลายเดือนแย้ว
ไม่ยอมแสดงสักที หือ หือ



โดย: พรายทราย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:23:16:00 น.  

 
ชอบเมโลดี้ และความหมายของเพลงนี้มาก ๆ
เพลงนี้บอกอะไรมากมาย
ความแตกต่างในความรู้สึกโลกใหม่ของยายหนูเภตรา
อิอิ หรือแม้แต่ความแตกต่างอย่างที่ลุงธันว์ไม่เคยเจอมาก่อนในผู้หญิงคนไหน แหะ แหะ

ตอนหาเพลงนี้นึกภาพหนูเภตราชอปปิ้งอย่างมีความสุข
มีซากลุงธันว์ตามต้อย ๆ
แล้วเพลงนี้ก็กระหึ่มขึ้นมา.....

แล้วก็ดังอีกขึ้นตอน...
หนูเภตราเล่นรถไฟตรงบันไดกับลุงธันว์ อิอิ
เธอคงปิติจนหูอื้อไปเลย....

"Different Worlds"
:Maureen McGovern


CHORUS:
Let the time flow
Let the love grow
Let the rain shower
Let the rose flower
Love it seeks, love it finds
Love it conquers, love it binds

We come to each other from
different worlds,
Drawn to each other by the
love inside of us
We give to each other our different worlds
As long as we can do it,
Life is gonna breeze right through it

Let the time flow
Let the love grow
Let the rain shower
Let the rose flower
Love it seeks, love it finds
Love it conquers, love it binds

We reach for each other
from different worlds
With love for each other
that will stand the test
of time
We're up to the challenge
of different worlds
With this love inside us,
There is nothing can divide us


Let the time flow
Let the love grow
Let the rain shower
Let the rose flower
Love it seeks, love it finds
Love it conquers, love it binds

Love it seeks and love it finds
(Love it seeks, love it finds)
Love it conquers, love it binds
Ahhhhhhh, ahhhhhhh

Love it seeks, love it finds
Love it conquers, love it binds


โดย: พรายทราย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:23:29:04 น.  

 
อ่านะ... คุณแม่เจ๊เภตราบอกไม่หมดอีกข้อนะนี่

ทำบุญร่วมขัน ชาติหน้าต้องเกิดมาเจอกันอีกนะ ฮ่าๆ

.....ตอนต่อไปโล่ด.....

+++++++++++++++


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:37:16 น.  

 
อิอิ คุณรักดี มันมีนัยยะซ่อนอยู่ไงคะ อิอิ

ตอนต่อไปโล่ดเลยค่ะ เขาทำบุญร่วมกันเยอะนะ อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:17:23 น.  

 
ding..ding..wow, small world..small world and round and round..hehehe, umm what love triangles? well not yet.. not yet, Patra will deal with big family, uh this is oriental style, big family get together on week..I don't know if can deal with big in law family hehehe..However, will see Kn. Or..I am jumping to chapter 5..lah lah lah.."happy Saturday night"......:)


โดย: PiCorn (Camille) IP: 71.81.178.101 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:22:35:47 น.  

 
คุณคามิลคะ

คนเอเชียชอบรวมญาติกันวันอาทิตย์น่ะคะ

ช่วงนี้เปรียบเทียบหน่อย ครอบครัวของเภตราน่าจะใหญ่กว่าของธันวา แต่เธอกลับไม่เคยได้รับความอบอุ่น ญาติไม่ค่อยได้อยู่พร้อมหน้า

ผิดกับธันวา ที่ดูจะอบอุ่นอย่างมากๆ ปมใหญ่ของเธอเช่นกัน

คุณคามิลคงต้องตามลุ้นเภตรานะคะ ว่าเธอจะรับมือกับโลกที่แตกต่างนี้ได้อย่างไร

สุขสันต์คืนวันเสาร์ค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:6:54:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.