ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
1 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
บทที่ 10. "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย...ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ "ช่อคราม"









ทุกวันอาทิตย์ - อังคาร และ วันเสาร์ พบกับนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ขม ๆ ของ“ช่อคราม” ”เจ้าหญิง...องก์สุดท้าย ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์”

และ

ทุกวัน พุธ – ศุกร์ พบกันนิยายตื่นเต้น ระทึก ๆ ของ... “ริมหาด”
“เงาเพลิง”

*********************************

เรื่องยาวจบบริบูรณ์...ของ "ช่อคราม"
”ณ ปลายฟ้า...คือเธอ”


*********************************


เรื่องสั้น...ของ "ช่อคราม (นักเขียนรับเชิญ บล็อกลายปากกา)"
”ถนนพระจันทร์...ทางเดินแห่งหัวใจ”


*********************************


คอลัมน์พูดคุย ตอบปัญหาเกี่ยวกับการเขียนนิยาย ของ "พรายทราย"
”คุย คิด ถาม เขียน”


*********************************







"เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย... ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์
(Last Act of Princess...Love songs forever)
"ช่อคราม"



บทที่ 10


“ทานอะไรดีครับ” อธิศขยับแขนเสื้อเชิ้ต ขณะนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกสีแดง ตรงข้ามหญิงสาวที่เลือกนั่งโต๊ะกลางร้าน เด็กในร้านกุลีกุจอมารอจดรายการอาหาร

ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ เขาเคยขับผ่านร้านนี้บ่อย ๆ แต่ไม่เคยแวะมา พี่แก้วมักจะซื้อติดมือมาฝากให้ทานกัน หรือไม่ตอนหัวค่ำเวลาหิวจะใช้ให้นายอ้วนไปซื้อมาทาน

ร้านธรรมดาเล็ก ๆ สองคูหามีเวิ้งที่จอดรถสะดวกด้านหน้า ไม่ได้ตกแต่งสวยงาม ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน

“เส้นใหญ่ราดหน้าทะเลแล้วกันค่ะ” วัศนิหันไปบอกเด็กในร้าน หลังจากอ่านเมนูที่เป็นแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติก

ความตื่นเต้นตกใจเมื่อครู่นี้ ที่ได้ยินเขาจู่ ๆ ชวนทานข้าวเย็น ยังไม่หายไปง่าย ๆ มันกลายเป็นความประหม่าจน ก่อนหน้านี้วัศนิแทบจะเดินลงจากรถไม่เป็น

รวมทั้งประโยคเด็ดของเขาประโยคนั้น ที่น็อคเธอให้เงียบสนิทมาได้ตลอดทาง จริง ๆ มันก็ทำให้เธออิ่มตื้อ กร่อยจนไม่อยากกินอะไรด้วยซ้ำ...

เขาคงไม่ชอบใครโกหก…

แน่ละไม่มีใครชอบ แต่ในสถานการณ์อย่างเธอ มันไหลเรื่อยออกทะเลไป ใช่ว่าเธอจะตั้งใจโกหกเขาเล่นเพื่อความสนุก ทำให้เขาเสียหายเสียที่ไหน

เธอตัดสินใจเงียบหุบปากไว้ทุก ๆ เรื่อง ไม่ต่อความยาวให้บรรยากาศแบบนี้ต้องหมดท่าไปเสียก่อน

การได้มานั่งทานอาหารอยู่แบบนี้ แม้จะไม่ใช่ร้านหรูที่เธอคุ้นชินก็ตาม และไม่ได้เป็นร้านสวยบรรยากาศชวนฝัน แต่ถ้าหากมันสามารถยืดเวลาอยู่ใกล้เขาแบบตัวเป็น ๆ ได้แบบนี้ เธอก็คงไม่อยากเกี่ยงงอนเป็นแม่สาวเรื่องมาก หรือโกรธเพราะโดนจี้ใจจนแค้นฝังหุ่นแน่ ๆ

และการได้นั่งเผชิญหน้ากับเขาอยู่แบบนี้
แบบที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ด้วย
ไม่มีคุณย่า ไม่มีคุณคำรณ ไม่มีรินยา และไม่มีผู้พัน...


มีเพียงแค่เขากับเธอ แม้เขาจะ เย็นชาเฉยเป็นภูเขาน้ำแข็ง หากพูดเจื้อยก็เหมือนหุ่นยนต์ตั้งโปรแกรม ผิดจากอธิศดีเจเสียงแจ้วที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาลิบลับ

แค่คิด สบตาเขาอยู่อย่างนี้ ความรู้สึกร้อนวูบวาบเริ่มมากกว่าที่ผ่านมา อาจเพราะอากาศอ้าว ๆ พัดลมบนเพดาน และสูทผ้าไหมที่เธอใส่อยู่ด้วย

“ผมขอเส้นใหญ่ราดหน้าเต้าซี่ปลากะพงทอด” อธิศเอ่ยสั้น ๆ เธอสั่งเครื่องดื่มต่อ เป็นน้ำอัดลมเหมือนอย่างที่เขาชอบ อย่างน้อยเธอก็เลือกเครื่องดื่มรสซ่าส์ มากกว่าน้ำสั้ม น้ำปั่น เหมือนผู้หญิงจำกัดแคลอรี่ทั่วไป

เขาคาดคะเนความคิดหญิงสาวตรงหน้าไม่ถูก ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าผู้หญิงผมสั้นคนนี้จะพอใจหรือไม่

เธออาจจะกลับไปบ่นกับคุณหญิงที่ดูเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ว่าเขาพาเธอมาทานร้านธรรมดาสามัญ และมีสิทธิ์ให้คุณคำรณกลับมาบ่นต่อ

เขาไม่ได้คิดจะแกล้ง หรือทดสอบเธอ ดูไปก็น่าสงสาร หญิงสาวในสูทผ้าไหมสีเขียว เริ่มมีเหงื่อซึมบนกรอบวงหน้านวลนั้น

คนที่เขาอยากแกล้งน่าจะเป็น...

เด็กป่วนคนนั้น แซ็กโซโฟน...

สิ่งเดียวที่เขาอยากให้เธอเป็น คือเป็นใครก็ได้ คนที่เขาเคยรู้จัก เพื่อนร่วมงานในบริษัทจัดรายการวิทยุ คนที่โตแล้ว จะเพื่อล้อเล่น หรือไม่ล้อเล่นก็ตาม

แต่ต้องไม่ควรเป็นเด็กสาวที่กำลังเรียนหนังสือ และป่านนี้เธอคงกลับบ้านนั่งง่วนทำการบ้าน หรือจะนั่งคุยหน้าคอมพิวเตอร์กับคนอื่น ๆ ท่องเน็ตล็อกอินขอเพลง...

เด็กสาวสมัยนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ เขาเคยเห็นเด็กมัธยมกลุ่มใหญ่ที่ชอบกรี้ดวิ่งตามนักร้อง นักดนตรี ดารา หรือแม้แต่ดีเจ วีเจ ทั้งหลาย แล้วทำตัวเหมือนสาวรุ่นเกินตัว

เขาไม่อยากให้ แซ็กโซโฟนเป็นเหมือนเด็กสาวเหล่านั้นเลย เขาคงคิดถึงเธอได้สนิทใจมากกว่านี้....

แต่ถ้าเป็นเด็กเรียนจริง คงไม่รู้เรื่องเพลงมากมายอย่างนี้ และคงไม่มาเสียเวลาอยู่ในคอมพิวเตอร์ ดึกดื่นค่ำคืนไม่ยอมนอนแบบนี้...

ความอยากรู้ว่าเด็กสาวคนนั้นเป็นใครหวนลกลับเข้ามาในความคิด วิ่งวนเวียนไปมาสับสน จนเขาเริ่มอ่อนใจกับตัวเอง ที่เป็นเอามากได้ขนาดนี้…

อธิศพยายามเปลี่ยนความคิดสลัดออก...พยายามสนใจกับผู้หญิงตรงหน้าที่หน้ามันกำลังได้ที่ จนเขาต้องส่งกระดาษเช็ดปากบนโต๊ะให้

“เหงื่อคุณเต็มหน้าแล้ว…ถึงร้อนไปหน่อย แต่รับรองว่าราดหน้าอร่อย จนคุณต้องมากลับมาทานอีกแน่ ๆ ”

“อ่ะ... ขอบคุณค่ะ” วัศนิรับกระดาษมาซับหน้าอย่างเก้อ ๆ ดูเหมือนจะมีเพียงแค่ความใส่ใจ ที่อธิศทั้งสองภาคจะเหมือนกัน

“ชื่อคุณออกเสียงยังไงแน่ครับ เมื่อวันนั้นคุณรินยาแนะนำ ฟังไม่ค่อยชัด” อธิศเอ่ยปากถามอีกครั้ง ในระหว่างรออาหาร

“วัด- สะ-นิ ค่ะ แต่ออกเสียงตัวสอเสือให้เร็ว ๆ ให้อยู่กับวัดน่ะค่ะ”

“แปลกดี แปลว่าอะไรหรือครับ”

“บริวารของดาวเสาร์ค่ะ..หมายถึงพระจันทร์ จริง ๆ แม่ชอบแค่ ศนิ แต่พ่อบอกว่าแข็งไป เลยกลายเป็นวัศนินี่แหละค่ะ” เธอไม่ได้อธิบายอะไรหมายนัก ดูท่าเขาก็แค่พยักหน้ารับรู้

“หากเรียกยากก็เรียกโน้ตเหมือนคนอื่น ๆ ก็ได้ค่ะ...แล้วขื่ออธิศละคะ... ใช่...ผู้เป็นใหญ่หรือเปล่า”

“ไม่ทราบสิครับ ผมไม่เคยถาม และไม่มีใครเคยบอกเสียด้วย” พอพูดจบ อธิศถึงได้รู้ตัวว่ามันช่างเป็นประโยคหยุดการสนทนาจริง ๆ เขาพยายามกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะ

โชคดีที่ราดหน้าของเธอ และเขาใช้เวลาทำไม่นาน...

อธิศอยากรักษามารยาทคุยกับเธอให้มากกว่านี้ แต่เขาก็ไม่รู้จะคุยกับเธอด้วยเรื่องอะไรดี ดูเธอสูงศักดิ์ งามสง่า ไกลกว่าที่เขาจะสนทนาหาประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากเรื่องงาน...

“ตอนนี้งานคืบหน้าไปแค่ไหนแล้วครับ”

“ก็เลือกเรื่องได้แล้วค่ะ ฉันคงต้องทำบทละคร ละครแบบเทพนิยายสั้น ๆ น่ะค่ะ ฉันดูแลส่วนตรงนี้ ส่วนเรื่องร้องเพลงของบรรดาผู้ใหญ่ เรื่องวงดนตรี ก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้พันบดินทร์ไป...งานการแสดงบนเวทีคงมีเท่านี้ ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะรีบส่งเอกสารรายละเอียดของงานมาให้”

“ทำตามกำหนดการของคุณเถอะครับ แค่บอกมาว่าจะต้องใช้เงินเมื่อไหร่ หรือให้ทางเรามีส่วนร่วมตรงไหนบ้าง ก็เท่านั้นเอง ผมว่าส่วนใหญ่ผมคงเข้าไปช่วยเรื่องประชาสัมพันธ์ เรื่องงานแถลงข่าว”

ราดหน้าอร่อยจริงอย่างที่เขาว่า และเขาก็เหมือนจะคุยอยู่แต่แค่นี้จริง ๆ หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเธอถึงสนิทกับเขาได้ง่ายดาย ผ่านวิทยุ ผ่านเสียงเพลง ผ่านแป้นพิมพ์ และหน้าจอ

แต่อยู่ใกล้ ๆ เธอต่ออะไรกับเขาไม่ค่อยติดเลย แม้แต่จะหาเรื่องคุยไปเรื่องอื่น ทั้ง ๆ ที่โอกาสดีแบบนี้คงไม่มีได้บ่อยนัก

สมองเธอเองก็ตื้อตันขึ้นมาซะอย่างนั้น ไม่เหมือนตอนกลางคืน หรือว่าไม่มีเสียงเพลงช่วยเชื่อม หญิงสาวเริ่มขุ่นใจกับตัวเอง....

“ทำไมคุณต้องทำงานสองจ๊อบละคะ ทั้ง ๆ ที่งานกลางวันก็ดูจะมั่นคงดี…ดูเหนื่อยแย่เลย”

“เพราะงานประจำมั่นคงดีนั่นแหละครับผมเลยต้องอยู่สภาพแบบนี้ แต่อยู่กับดนตรีเป็นสิ่งที่ผมชอบ เวลาทำอะไรที่ชอบ เราก็มีความสุข ไม่เหนื่อยหรอกครับ”

“งั้นหมายความว่าคุณไม่มีความสุขกับงานภาคกลางวัน”

“คนเรามีความสุขในทุกเรื่องคงไม่ได้....” อธิศถอนใจ เขาทำลายการสนทนาอีกแล้ว บางครั้งการเป็นตัวของตัวเอง ช่างผิดที่ผิดทางเสียจริง ๆ แต่คำถามนั้นของเธอก็จี้โดนใจเขาอย่างแรง

“อิ่มแล้วยังครับ...หรืออยากทานอะไรอีก”

“ไม่ค่ะ...จานใหญ่ขนาดนี้ อิ่มไปถึงเช้าเลย อร่อยมากจริง ๆ ค่ะ ” เธอตอบแค่นั้น ดูท่าเขาจะไม่มีความสุขจริง ๆ มันทำให้เธอรู้สึกกร่อยขึ้นมาทันที

นอกจากจะเฉยเมยแล้ว ดูเขาก็จะหงุดหงิด อารมณ์ขุ่นได้ง่ายเสียยิ่งกว่าตัวเธอ

แต่ว่าไปแล้วเขากับเธอเหมือนจะมีอะไรที่คล้ายกันอยู่มากมาย....

ความสุข กับสิ่งที่ต้องทำ...
มันช่างสวนทางกันจริง ๆ เธอเองก็อยากกลับบ้านไปใช้ชีวิตภาคกลางคืนอยู่กับงานที่เป็นความสุขของเธอเหมือนกัน...


ท่าทางแซ็กโซโฟนคงจะทำให้เขามีความสุขได้มากกว่า การเป็นวัศนิที่ไม่สามารถทำให้เขาพูดคุย สนุก หรือมีความสุขขึ้นมาได้เลย...




“ขอบคุณที่คุณอธิศสละเวลาให้ ขับรถกลับดี ๆ นะคะ” วัศนิเลือกยกมือไหว้แทนการขอบคุณที่เขาพาเธอไปหารินยา เลี้ยงราดหน้าและมาส่งเธอถึงบ้าน

“วันศุกร์คงได้เจอกันอีกนะครับ” ชายหนุ่มรับไหว้ แล้วเอ่ยลาสั้น ๆ ก่อนขับรถออกไป

ทันทีที่รถของอธิศแล่นจากไป วัศนิเดินเข้าบ้านอย่างหงอย ๆ เหมือนว่าทั้งแซ็กโซโฟน และวัศนิจะมีเหตุจุดประกายให้เขาหงุดหงิด ไม่ชอบใจ

เสียดายเวลาเธอควรทำให้ทั้งเขาและเธอสนุกสนาน และมีความสุขมากกว่านี้...

แต่นั่นแหละเวลาระหว่างเขากับเธอคงมีอีกมากมาย เธอจะไม่เร่งรีบอีกแล้ว สักวันวัศนิคงทำให้อธิศภาคกลางวันมีความสุขได้มากกว่าวันนี้

แต่...
คืนนี้แซ็กโซโฟนจะหาเรื่องอะไรให้เขาเล่นดี....
อย่างน้อยก็ขอแก้ตัว ถึงไม่รู้ว่าเหตุใดทำให้เขาเฉยชาไป หรือเพราะใกล้เช้า ใกล้เวลาที่เขาจะแปลงร่าง....

วัศนิครุ่นคิดถึงแผนการสำหรับค่ำคืนนี้ อยากให้ถนนทอดเข้าบ้านอีกยาวไกลแต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก สายตาพลันเห็นชุดไทยสามชุดในหุ่นที่ตั้งอยู่ในโถงห้องนั่งเล่น หน้าบันได ก็เล่นเอาเธอแทบหมดแรงกองอยู่ตรงนั้น

ช่วงเวลาเล่นตุ๊กตาบาร์บี้แสนสนุกของคุณย่ามาถึงอีกแล้ว....

“คุณอรอุษารอให้หล่อนมาลองชุดที่จะใส่ไปงานคุณคำรณ...นึกว่าจะกลับมืดซะแล้ว มาลองสิ ว่าชุดไหนเหมาะ” น้ำเสียงคุณย่าดูจะมีความสุขอย่างที่เธอคาดไว้ ไม่มีเสียงเขียว ๆ ตาดุเหมือนเคย ๆ

วัศนิแอบถอนใจ เอาเถอะเรื่องเสื้อผ้ากับคุณย่า แบบเดิม ๆ เธอยอมแล้ว ขอแต่อย่าเสียงเขียว รื้อฟื้นเรื่องในอดีตของเธอ หรือพาเธอไปให้ใครดูตัวถี่อีกก็แล้วกัน...





“ฮ่า ฮ่า ลองชุดตั้งสองชั่วโมงเชียวเหรอ...อยากเห็นหน้าเธอจริง ๆ บอกแล้วเสียเวลาไปร้านศยามล” รินยาหัวเราะอย่างขบขัน

หลังจากที่ตัวเองทำหน้าที่เจ้าหญิงพูดคุยกับน้อง ๆ ในห้องคุยเว็บนิตยสาร ดูรายละเอียดในเว็บมหาวิทยาลัยภาควิชาเรียนของเธอเสร็จเรียบร้อย

วัศนิโทรหารินยาทันที รายงานเวลาอันยาวนานของการเป็นตุ๊กตาลองเสื้อ

เธอตั้งใจจะคุยกับรินยาฆ่าเวลาให้ผ่านเที่ยงคืนไปเร็ว ๆ สลับกับอ่านไฟล์วิชาที่โหลดมาคอยไว้ และเตรียมทำของขวัญไว้ให้อธิศแปลกใจ

“แต่โน้ตก็อยากให้คุณมลทำเสื้อให้อยู่ดี พี่รินมีไอเดียทำให้ชุดไทยศิวาลัย หรูหราอลังการน้อยลงมั้ยคะ”

“ชุดไทยศิวาลัย ก๊ากกก!!….” รินยาหัวเราะเสียงลั่น เมื่อนึกถึงยายโน้ตในชุดไทยที่หรูหราแบบนั้น

“ขำมากเลยนะพี่ริน” วัศนิรีบโต้กลับด้วยเสียงบูด ๆ

“นึกท่าเธอน่ะ สง่าดีออก คุณหญิงย่าก็ช่างเลือก นี่ไง...ได้ชุดเจ้าหญิง ชุดแต่งงานสมใจเธอแล้วไง”

“ไม่อ่ะ ไม่ใช่อย่างนี้สิ แบบนี้มันอลังการเกินไป ไม่ใช่โน้ตเลย แล้วใส่ชุดนี้ออกงาน เฮ้ออออ....ตอนเด็ก ๆ ยังไม่เห็นสรรหาอะไรที่หรูหราแบบนี้เลย...โหยย พี่รินต้องมาเห็น ชุดน่ะ มีทั้งจีบหน้านาง มีทั้งสไบ ไม่ใช่งานลอยกระทง สงกรานต์นะคะ....งานเลี้ยงเต้นรำไม่ใช่เหรอ....โอ๊ยยย โน้ตไม่อยากคิด...” วัศนินึกไปถึงแผนการของคุณย่า

“พี่รินไม่รู้ คุณย่าเตรียมแผนเอาโน้ตใส่พานถวายคุณคำรณ” หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ เมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกไป

“เฮ้ยยย!! ไม่หรอก ไม่มีทาง คุณคำรณน่ะรุ่นพ่อเธอนะ...คิดมากไปแล้วยายโน้ต”

“จริง ๆ นะคะ จะว่าโน้ตระแวงก็เหอะ แต่โน้ตรู้สึกเลยวันนี้ ไม่รู้คุณย่าคุยอะไรต่ออะไรไว้ แต่พี่รินต้องเห็นสายตาคุณย่า” วัศนิเอ่ยต่อด้วยเสียงจริงจัง เธอรู้สึกเบื่อโลกขึ้นมาทันที

“ว่าไปคุณคำรณก็มั่นคงดีนะ เลือกหาพระราชาแทนเจ้าชาย เธอจะได้เป็นราชินีสบายไปตลอดชาติ ดีกว่าเป็นเจ้าหญิงเป็นไหน ๆ " รินยาพูดไปขำไป เล่นเอาวัศนิอึ้งเงียบ ได้แต่ถอนหายใจ จนรินยาต้องรีบเปลี่ยนน้ำเสียงพูดต่อทันที

"แต่พี่ว่าไม่ใช่หรอก ต่อให้คุณหญิงย่าวางแผน คุณคำรณก็ไม่มาสนใจเด็กอย่างเธอ”

“ไม่รู้ล่ะ วันศุกร์ พี่รินต้องมาช่วยโน้ตแปลงเสื้อผ้าด้วยล่ะ”

“มันเกี่ยวอะไรด้วยหว่า อะ อะ เดี๋ยวพี่ช่วยฟอร์ม หอบของฝากจากเชียงใหม่ไปให้คุณหญิงย่าเอง…แต่ชุดไทยน่ะเหมาะกับเธอจริง ๆ นะ”

“โน้ตไม่อยากเป็นตัวตลก ไม่เอา โน้ตคงเด่นเป็นตัวประหลาดอยู่คนเดียวแหละ” วัศนิเริ่มหงุดหงิดขัดใจ เธอเริ่มรู้สึกรินยาเหมือนอยู่คนละพวกกับเธอ จะเพราะความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับอธิศหรือเปล่า

“เออ...พี่ลืมบอก บทความของเธอโอเคแล้วน่ะ พี่ไม่ต้องแก้อะไรเลย ส่งห้องอาร์ต ขึ้นแท่นพิมพ์ไปตั้งแต่วันที่บินมาเชียงใหม่ วันศุกร์คงเสร็จล่ะ จะได้ถือไปให้คุณคำรณด้วย”

“ค่อยยังชั่วหน่อย...ลุ้นอยู่เหมือนกัน...ดีจังเลย อยากเห็นคอลัมน์ตัวเองเร็ว ๆ จัง...เอ่อ...พี่รินคะ...เอ่อ..” วัศนิเกือบตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรินยากับอธิศ แต่เธอก็เปลี่ยนใจ เธอไม่อยากได้ยินคำตอบจะเป็นจริงอย่างที่เธอกลัว

“มีอะไรอีกหรือเปล่า...พี่คงคุยไม่ได้นานนะ นี่ก็แวบออกจากงานเลี้ยงมารับโทรศัพท์ ไว้ค่อยไปคุยกันต่อที่บ้านเธอวันศุกร์แล้วกัน”

“แค่จะบอกว่าโน้ตเริ่มเรียนอาทิตย์หน้าแล้วค่ะ รอตำรามาด้วย บางวิชาตอนนี้เริ่มโหลดออกมาแล้ว เล็กเชอร์แบบอินเตอร์แอททีพอย่างเท่ อ้อ! มีปฐมนิเทศออนไลน์ด้วยนะคะ…รายงาน”

“ช่างไฮเทคดีจังวุ้ย... ฟังแล้วชักอยากเรียนบ้างล่ะ เล็กเชอร์ไม่ทัน สงสัยให้โหลดนอนไปฟังไปได้แน่ ๆ เลย... ดี ๆ ไว้คุยกันอีกนะ พี่ต้องกลับเข้าไปล่ะ แล้วเจอกันวันศุกร์ พี่คงไปซักบ่าย ๆ ล่ะ ขอเข้าที่ทำงานก่อน”

“อ่าค่ะ...กวนพี่รินจนได้ ยังไงโน้ตก็ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ทุกเรื่องเลย เจอกันวันศุกร์ค่ะ”

วันศุกร์อีกแล้ว...
วัศนิเริ่มรู้สึกสังหรณ์ว่าวันศุกร์ที่กำลังมาถึงคงจะต้องมีอะไรแน่ ๆ ยิ่งหากว่าต้องใส่ชุดไทยหรูหราที่เธอกำลังมองอยู่...

ตัวเสื้อเข้ารูป คอตั้ง แขนยาวทรงกระบอก ผ้าไหมสีเขียวอ่อน ๆ เล่นไฟเป็นมันวาว ถึงแม้มันจะดูสวยหวานดึงดูดใจ แต่ผ้านุ่งยาว จีบหน้านาง ชายพก สีเขียวเข้มยกทอง รวมทั้งสไบปักฉลุสีเขียวเข้มเดินทองยาวจรดพื้น

เธอไม่สามารถมองเห็นเป็นตัวเองได้เลย....



อธิศกลับมาที่ออฟฟิศจัดรายการตอนทุ่มกว่า ก่อนตรงขึ้นเตียงหลับยาว คงเพราะฤทธิ์ความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน จนอ้วนต้องเข้ามาปลุกก่อนพี่แก้วจบรายการไม่กี่นาที

ทันทีที่เข้ารายการอธิศเห็นแซ็กโซโฟนขอเพลงไว้เป็นตับเหมือนเคย แถมยังเตือนให้อ่านจดหมายในเมลของเขาด้วย

เขาพยายามแข็งใจ ฝืนใจไม่อ่านจดหมายในช่วงทำรายการ สมาธิเขาคงเตลิดเปิดเปิงไปอีก

ทั้ง ๆ ที่เขารู้สึกตื่นเต้นมากมาย...

ไม่...วันนี้เขาจะใจแข็ง ไม่เล่นกับเธอจนเกินไป...อย่างน้อยก็ไม่ต้องให้เธออดหลับอดนอน ขนาดตัวเขายังรู้สึกเหมือนตัวเองที่ชิน ๆ กับการอดหลับอดนอน ยังเผลอนอนยาวเลย

บางทีการผ่อนให้ความสัมพันธ์ยืนยาวออกไปน่าจะช่วยให้ทั้งเขาและเธอไม่รวดเร็วจนเกิดไป ไม่ว่าความสัมพันธ์จะออกมาในรูปใด ๆ ก็ตาม...

และไม่ว่าเธอจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ ใครที่เขารู้จักหรือไม่ เขาจะไม่หวั่นไหวปล่อยใจไปให้ไกลจนยากเกินควบคุม

แต่น่าแปลกที่ตลอดรายการเธอไม่ส่งข้อความเข้ามาคุยเหมือนวันก่อน ๆ เหมือนเธอเงียบหายไปจนเกือบจบรายการ

นี่เธอจะฟังรายการของเขาอยู่หรือเปล่า
หรือว่าเธอนอนหลับไปนานแล้ว
หรือว่าเธอแก้แค้นที่เมื่อคืนเขาตัดจบเกมสั้น ๆ ดื้อ ๆ

พอเอาเข้าจริง เขาเองนั่นแหละที่รู้สึกแปลก ๆ ชอบกล มันร้อนรุ่ม หงุดหงิดได้อย่างประหลาด มากเสียกว่าเมื่อคืนก่อน...

เขาเปิดเมลอย่างหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ ...

เขาแค่อยากรู้เธอกำลังทำอะไรอยู่ หรือที่เงียบหายไปเพราะเธอไม่สบาย เพราะการเล่นเกมดึกดื่น อดหลับอดนอน

บางความรู้สึกเหมือนร้อนรนหาเหตุผลเป็นตุเป็นตะที่จะเปิดเมลของเธอ

“ยังไม่ให้อ่านเมล ทำงานก่อนสิ แต่ก็นะ.. ไปคลิกเปิดการ์ดก่อน แล้วค่อยไปอ่านเมลฉบับที่สาม”

อธิศส่ายหน้า เธอช่างมีอะไรประหลาดใจมาให้เล่น มันเตะใจให้ชีวิตของเขามีสีสัน มีชีวิตชีวาขึ้นมาจริง ๆ แม้จะนึกขำ แต่เขาก็คลิกเปิดอีการ์ดไปอย่างว่าง่าย

ภาพการ์ตูนตัวเล็ก ๆ น่ารักกระโดดไปมา จากพื้นหญ้า ก่อนขึ้นไปนั่งบนจันทร์เสี้ยว แล้วเอนตัวนอนหลับอย่างมีความสุข เพลงกล่อมสำหรับเด็กน่ารัก ๆ ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

มีข้อความสั้น ๆ มากับการ์ด...

“อย่าหักโหมทำงานหนัก พักผ่อนนอนหลับหลังจากจัดรายการเสร็จนะคะ แต่ต้องอ่านเมลก่อนไปนอนนะ” ...แซ็กโซโฟน

อธิศส่ายหน้าอย่างขำ ๆ อย่างน้อยการ์ดใบนี้ก็ทำให้ความเพลีย ความเหนื่อยของเขาหายไปจนหมดสิ้น...เขาพยายามแข็งใจ ละสายตาจากเมลอีกฉบับ

เขาจะรออ่านก่อนนอน...

“สุดท้ายของค่ำคืนนี้ เพลงจาก Phil Collins พิเศษสำหรับคุณเหมือนเคย บางครั้งการเร่งรีบทำอะไรเกินไปอาจมีผลเสียมากกว่าผลดี.... ค่อย ๆ เริ่มทำทุกสิ่งทีละก้าว เหมือนการปลูกต้นไม้ ค่อย ๆ เห็นมันเติบโต แล้วคุณจะภูมิใจกับสิ่งที่รอคอย...ผมเชื่อในการรอคอย และหวังว่าคุณเองก็เช่นกัน...

ขอให้ฝันดีหลับอย่างมีความสุขกับเพลงนี้ You Can’t Hurry Love ส่วนใครที่ยังทำงานอยู่ขอให้มีความสุขกับการทำงานเช่นกัน ราตรีสวัสดิ์ พบกันใหม่คืนพรุ่งนี้ครับ”


บางทีเขาคงกำลังบอกตัวเองด้วยเช่นกัน...


จบรายการแล้ว ไม่มีข้อความใด ๆ มาจากเธอ เขาเองก็ไม่ได้ล็อกอินเข้าไปเขียนอะไรไว้ มีเพียงคนอื่น ๆ เข้ามาขอเพลงในกล่องฝากเพลงส่วนกลางของรายการ

เขาหวังว่าเธอคงหลับไปแล้ว ไม่ได้ป่วยไข้ไม่สบาย ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ส่งการ์ด ส่งอีเมลหลายฉบับมาเล่นกับเขาอย่างนี้...

แล้วเขาก็อดไม่ได้จริง ๆ ...

ไม่ว่าแซ็กโซโฟนจะเป็นใครก็ตาม แต่เธอช่างเต็มไปด้วยเวทย์มนตร์เหมือนเสียงของท่วงทำนองดนตรี ที่มีพลังให้เขาทำอะไรต่ออะไรได้อย่างไม่ยากเย็น

อธิศเปลี่ยนหน้าต่างเปิดจดหมายอิเล็กโทรนิก เขาปราดตาผ่าน ๆ เห็นแต่ข้อความยาว ๆ แต่เขาไม่ได้อ่าน กลับเลือกเซฟเข้าไว้ในแฮนดี้ไดรฟ์แทน

เสร็จงานก่อนแล้วเขาจะอ่าน...

อธิศยิ้มกับตัวเอง ก่อนเตรียมเพลงสามชั่วโมงสุดท้ายอย่างตั้งใจ...และเต็มไปด้วยความสุข



...โปรดติดตามตอนต่อไป...










**" You Can’t Hurry Love" เสียงร้องของศิลปินมากความสามารถชาวอังกฤษคนนี้ Phil Collins อดีตวง Genesis ไม่ว่าเสียงทุ้มนุ่ม เล่นกลอง แทมบูรีนในเพลงนี้ แล้วยังเล่นคีย์บอร์ด เบส กีตาร์ เป็นนักแต่งเพลง นักแสดง และยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้ใครต่อใครอีก

เพลงนี้เป็นของ The Supremes เมื่อปี 1966 ผลงานการเขียนเพลงของ ทีมMotown... Holland–Dozier–Holland สมัยเสียงร้องของ Diana Ross ขึ้นอันดับ 1 ในฝั่งอเมริกา และอันดับ 3 ในอังกฤษ

ส่วนเวอร์ชั่นของ Collins เองก็ขึ้นถึงอันดับ 1 ในประเทศอังกฤษนานถึงสองสัปดาห์ และอันดับ 10 ในสหรัฐฯ เมื่อปี 1983 จากอัลบั้ม Hello, I Must Be Going!

เพราะทำนอง ดนตรี เสียงร้องและความหมาย เพลงนี้จึงเพลงรักอมตะชั่วนิรันดร์กาลอีกหนึ่งเพลงของคนเขียน...






Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 23:12:05 น. 32 comments
Counter : 416 Pageviews.

 
You Can't hurry love : Phil Collins

I need love, love
Ooh, ease my mind
And I need to find time
Someone to call mine;

My mama said
You can't hurry love
No, you'll just have to wait
She said love don't come easy
But its a game of give and take
You can't hurry love
No, you'll just have to wait
Just trust in a good time
No matter how long it takes

How many heartaches must I stand
Before I find the love to let me live again
Right now the only thing that keeps me hanging on
When I feel my strength, ooh, its almost gone

I remember mama said
You can't hurry love
No you'll just have to wait
She said love don't come easy
It's a game of give and take
How long must I wait
How much more must I take
Before loneliness
Will cause my heart, heart to break

No, I can't bear to live my life alone
I grow impatient for a love to call my own
But when I feel that i, I can't go on
Well these precious words keep me hanging on

I remember mama said
You can't hurry love
No, youll just have to wait
She said love don't come easy
Well, its a game of give and take
You can't hurry love
No, you'll just have to wait
Just trust in a good time
No matter how long it takes, now break!

Now love, love don't come easy
But I keep on waiting
Anticipating for that soft voice
To talk to me at night
For some tender arms
Hold me tight
I keep waiting
Ooh, till that day
But it ain't easy (love don't come easy)
No, you know it ain't easy

My mama said
You cant hurry love
No, you'll just have to wait
She said love don't come easy
It's a game of give and take...



โดย: พรายทราย วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:50:05 น.  

 
ตอนที่เขียนบทนี้ ยังไม่มีเพลงไหน ๆ เลยในขมองอิ่ม ได้แต่ฟังเพลงเซ็ทใหญ่ของบทเล่นต่อเพลง

จู่ ๆ ดนตรีของเพลงนี้ลอยมาจากซอกในของขมองอิ่มก็ไม่รู้ เท่านั้นแหละ หาเพลงนี้ให้จ้าละหวั่น...

ขอฟังให้ชัด ๆ กรี้ดด-ด-ด-ด เนื้อเพลงช่างตรงกับอารมณ์อธิศ และวัศนิจริง ๆ ...

แถมยังตอบเพลง What Can I do ของบทที่แล้วได้อีก

แล้วบทนี้ก็ได้เพลงนี้ ชอบเนื้อ และจังหวะของเพลงมากมาย

ฟังกี่ที ๆ ก็ต้องโยกตัวตาม แถมยังโดดลุกขึ้นมาเต้นแก้ง่วงอีกต่างหาก อิอิ

อ่านเรื่อง ฟังเพลง ร้องและขยับตัว หรือเต้นตามอย่างมีความสุขนะคะ...



ขอเปิดโหมดอัตโนมัติเลย ตาชักปรือได้ที่ 555 เต้นมากไปหน่อย ขอไปงีบสักหนึ่งอึดใจ...

มีความสุขกับเดือนกุมภาพันธ์ ทุก ๆ ท่านนะคะ ขอให้ความรักอยู่รอบ ๆ ตัวอย่างมีความสุขค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:58:25 น.  

 
สวัสดีครับพี่อ้อ

แวะเข้ามาดูความกดดัน ทำไมนางเอกไม่บอกไปเลยอ่ะครับ จะได้รู้ดำรู้แดง ใครหมู่ใครจ่าเดี๋ยวก็รู้

วัศนิบอกไปเลยสิ บอกเลย! บอกเลย! บอกเลย!

แบบว่าวัยรุ่นใจร้อนอ่ะครับ


เอิ๊ก เชียร์สะใจจริงๆ กลับเข้าป่าดีกว่า...


โดย: วรบรรณ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:44:55 น.  

 
คุณวรบรรณ

ให้รีบบอกเดี๋ยวจบเร็วสิคะ

ทำไมรีบไล่ให้จบซะแย้วววว เอ หรือเบื่อเรื่องนี้แล้วละนี่...

เรื่องยังไม่ไปไหนไกลเลย เดี๋ยวรอคนช่างวางแผนอย่างน้องโน้ต ที่ยังจะฝืนไหลลงคลอง ออกแม่น้ำ ไปอ่าวไทย ออกมหาสมุทร ทำให้มันยุ่งเข้าไปอีกค่ะ

ไม่งั้น ไม่องก์สุดท้าย สิค่ะ อิอิ นี่เพิ่งจบองก์แรกเองหงะ

เชียร์ซะอย่างกะแข่งแบต ชิงจิ้มจุ่ม เชียร์กินราดหน้าดีกว่านะคะ

เดินทางดี ๆ นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:44:28 น.  

 
แวะมาอ่านต่อค่ะพี่อ้อ อืมมม อยากรู้ต่อแล้วสิคะว่าความสัมพันธ์ของคนแปลกหน้าทางตัวอักษร ระหว่างคน 2 คน จะมีผลกระทบอะไรบ้างหาก อธิศรู้ความจริงขึ้นมาว่าคนที่เขากำลังคุยด้วยเป็นใคร ..

อืมม บางทีการคุยกันโดยไม่ต้องรู้จักหน้าค่าตา ก็ให้ความรู้สึกที่ดีๆได้มากทีเดียวนะคะ ...


โดย: teansri วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:56:48 น.  

 
ชอบตรงที่กินราดหน้า เอ๊ย ตอนที่กินราดหน้าเสร็จจังครับ ตอนที่วัศนินึกเปรียบเทียบตัวเองกับอธิศ ความสุข กับสิ่งที่ต้องทำ ชีวิตภาคกลางวันกับกลางคืน

โอ้ เจ๋งอะ เพียงไม่กี่บท พี่อ้อทำให้คนสองคนสอดคล้องกันขึ้นมาจนถึงขนาดนี้ นี่ท้ายองก์แรกแล้วใช่มั้ยครับ รู้สึกประเด็นเริ่มรุมเร้า หลังจากปูตรงนั้นตรงนี้มาจนเพียบพร้อมแล้ว

ตอนที่แล้วหงุดหงิดตาอธิศเหมือนกันนะครับ ที่แกแข็งๆ บทนี้เริ่มเข้าใจแกแล้ว ว่าแกมอง "เจ้าหญิง" ยังไง และถึงจะอบอุ่นลื่นไหลหน้าไมค์ แต่การเจอหน้าเจอตากัน มันก็เป็นทักษะคนละอย่าง และรู้สึกคนละอย่างด้วย สงสารตาอธิศเรื่องหนูแซ็กฯ นะเนี่ย แกกลัวเป็นโลลิฯ ซะขนาดนี้ พี่อ้อจะแกล้งแกไปถึงมะไหร่อะ

ชุดไทยศิวาลัย ทาทางสวยเชียว แต่ถ้าเป็นคนเดียวในงาน มันจะเด่นไปมั้ยน้อ คุณย่าคิดอะไรหว่า

คุณคำรณไม่สนเด็กๆ อย่างวัศนิเหรอครับ คุณพีทตาโตขึ้นมาทันที ห้าสิบกว่าๆ ใช่มะ ซ้วบ

วันนี้ได้ฟังเพลงแล้ว เย้ ไม่เคยได้ยินเลยครับเพลงนี้ ชอบประโยคนี้จัง

She said love don't come easy
Well, its a game of give and take

(พี่อ้อบีบไฟล์ได้เล็กดีจังเลยครับ เพลงตั้งหลายนาที ไม่ถึงเม็กเอง)


โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:34:59 น.  

 
คุณเทียนสี

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

กว่าอธิศจะรู้คงกลาง ๆ ค่อนไปท้าย ๆ องก์ที่สอง หรือต้น ๆ องก์ที่สาม นั่นแหละค่ะ

ขืนรู้เร็วก็ไม่เป็นเรื่องแน่ ๆ ค่ะ อดใจไว้นิดนะคะ อย่าเพิ่งรีบร้อนอิอิ ตามต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ

บางทีค่ะในตอนเริ่มต้น แต่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่รวมกัน อินเตอร์เน็ตเป็นแค่เครื่องมือสื่อสารอีกชนิดหนึ่ง เหมือนโทรศัพท์

ยังไงคนเราก็ต้องเจอหน้ากันค่ะ ความรู้สึกเชื่อมต่อของคนเรา มันไม่ได้มีแค่ เสียงและตัวอักษรเท่านั้นนะคะ
ไม่งั้นมันไม่มีวันสมบูรณ์ไปได้ค่ะ

คุณเทียนเคยเล่นเกมซิมมั้ยคะ หากเล่นจะเข้าใจว่าการติดต่อกันแค่โทรศัพท์ หรือคุยกันทางอินเตอร์เน็ต ความสัมพันธ์ของคนเรา ไม่ว่ารูปแบบไหน มันไม่มีวันสมบูรณ์ค่ะ ...

นอกจากบางคนที่ต้องการเพียงแค่นั้นอ่ะ...


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:15:59 น.  

 
คุณพีทคุง

5555 เนื่องจากคนเขียนอยากกินราดหน้า ถึงเนรมิตรร้านนี้มา จะหาได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

ปมของเรื่องนี้ประมาณนี้แหละคะ สิ่งที่ชอบต้องหลบซ่อนทำ (หรือทำตอนกลางคืน) กับสิ่งที่ไม่ชอบต้องทำอย่างเปิดเผย

คนเรามีความสุขไปไม่ได้ทุกเรื่อง สิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ต้องทำเดินสวนกัน

ประมาณนี้แล...

นั่งอยู่ตรงหน้า ใกล้กันแค่นี้แท้ ๆ แต่วัศนิก็พูดออกไปไม่ได้ อธิศเองในใจก็คิดถึงแต่แซ็ก ทั้ง ๆ ที่เขาก็อยู่ตรงนี้

อย่างคุณพีทว่าแหละค่ะ บางคนหน้าจอคุยกันจ้อ พอเจอตัวจริงคุยกันไม่ค่อยออก
การสื่อสารต่อหน้าต่อตากันนี่เรียกว่าไม่ง่ายนะคะ...

55555 เคยได้ยินมั้ยคะ ว่าอยู่หน้าจอจี๋จ๋ากันหวานชื่นน่าดู แต่พอมาเจอหน้ากันกลับไม่ชอบกัน เหมือนไม่เคยจี๋จ๋ากันมาซะงั้น 55555

อธิศจัดวัศนิไว้อีกส่วนหนึ่ง เขาเลยไม่ค่อยสนใจอะไรมาก
ผิดกับแซ็กฯ นี่ เธอมาแบบกระแทกใจเขาตั้งแต่แรก ความรู้สึกมันเลยต่างกันอย่างที่คุณพีทว่าแหละล่ะค่ะ

กับแซ็กโซโฟน อธิศค่อนข้างเป็นคนคิดมากเหมือนกัน การเป็นสื่อฯ ถึงแม้ไม่ดังมากมาย ค่อนข้างวางตัวลำบาก

บางคนไม่สนใจ แต่คงไม่ใช่อธิศ โลลิฯ นี่นากลัวนะคะ จริง ๆ ช่องว่างมันเยอะอีกต่างหาก เผลอ ๆ ติดคุกง่าย ๆ นะเมืองไทยนี่
เอ แต่เมืองไหน ๆ ก็เหมือนกันนิ หากเด็กโวยวายขึ้นมา เรื่องมันโอละพ่อง่าย ๆ มีข่าวให้เห็นอยู่บ่อย ๆ


จบองก์แรกแล้วค่ะ ปูปัญหามาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงตอนเคี่ยวแล้ว บทต่อ ๆ ไป คงเริ่มชุลมุนอุตลุด แล้วล่ะค่ะ


ชุดไทยศิวาลัย สวยค่ะ ส่วนใหญ่เจ้าสาวมักจะใส่กันตอนงานเลี้ยงกลางคืน หรือออกงานสโมสรดูอลังการอย่างยายโน้ตว่า
คุณหญิงย่าอยากให้เด่น สะดุดตา การกลับมาของเธอต้องอลังการ
แต่คุณหญิงลืมไปข้อหนึ่ง.........รออ่านฉากงานเลี้ยงแล้วกันค่ะ อิอิ


บอกแล้วคุณคำรณเก็บไว้ให้คุณพีทอยู่แล้วล่ะ อิอิ รออ่านฉากงานเลี้ยงนะคะ คงปลื้มคุณคำรณไปอีกแน่ ๆ


เพลงนี้ดังนะคะ แต่หาฟังยากไปซะแล้ว กลุ้มใจจริง ๆ รายการวิทยุไม่ค่อยมีเพลงสากลแล้ว น้อยจริง ๆ
เพลงนี้ความหมายดีค่ะ ดีใจที่คุณพีทชอบนะคะ


พี่อ้อใช้ windows movie maker แปลงเพลงจาก mp 3 จากเพลงในซีดี ตอนรวมเพลงเยอะ ๆ บทก่อนหน้านั้นด้วยค่ะ
มันย่อไฟล์เพลงให้เองค่ะ แล้วแต่เราจะเลือกคุณภาพเสียงประมาณไหน จริง ๆ ย่อได้อีกเยอะเลยนะคะ แต่เสียงจะดรอปไปเยอะเลย

ดีใจที่คุณพีททั้งอ่านทั้งฟัง สมความตั้งใจของพี่อ้อเลย


โดย: พรายทราย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:42:38 น.  

 



สุ ข ภ า พ ดี === ใ จ มี สุ ข จ๊ ะ

แวะมาตอนดึกๆ หลับหรือยังเอ่ย
ป้ายังอยู่อีกนาน ยังไปไม่ครบบ้านเลยจ๊าาาาาาา

อยู่กับใจที่อิ่มเย็นและดูแลสุขภาพนะจ๊ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:51:31 น.  

 
เข้ามาอย่างแรกที่สะดุดก็คือเสียงของท่าน Phil Collins
เคยฟังงานของแกตั้งแต่สมัยอยู่กับวง genesis ในมาดของวงโปรเกรสซีฟ จนอัตตาแก่กล้าออกมาตั้งวงเอง

มาฟังเพลงรักของแกก็แปลกไปอีกแบบครับ



โดย: GTW IP: 58.8.155.164 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:51:47 น.  

 
เชื่อไหมไม่รู้ แต่อ่านหมดแล้วต้งแต่ 1-10 ค่ะ...รวดเดียว

เขียนเก่งจังค่ะพี่!

มีแรงจะเขียนของตัวเองต่อๆไปแล้วค่ะ!!

หนูชื่อซินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: สาวน้อยแมนัวร์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:49:08 น.  

 
ธุป้ากุ๊ก ร่มไม้เย็นค่ะ

ตอนป้ากุ๊กมา หนูหลับไปแล้ว เพลียจัดไปหน่อย แหะ แหะ ขอบคุณป้ากุ๊กมาส่งเข้านอนพร้อมด้วยภาพสวย ๆ

ป้ากุ๊กอย่านอนดึกมากนักนะคะ ท่าทางจะเดินสายเยี่ยมชาวบล็อก อย่าหักโหม รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

จะห้าโมงเย็นแล้ว ป้ากุ๊กทานข้าวเย็นหรือยังคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:55:12 น.  

 
ธุจานจี GTW

แหะ แหะ ท่าทางจะมาคุมเข้มหานายโจว์ ดีใจจังจารย์จีแวะมาเยี่ยมเจ้าหญิงบ่อย ๆ

ชอบเพลงหรือเปล่า ฟังแล้วสดใสดีนะคะ ความจริงย้อนไปบทที่ 8 ไม่รูจารย์ได้ฟังเพลงมั้ย มีบัลลาดร็อคหลายเพลงน่าจะถูกใจจารย์

หากไม่มีอะไรผลิกโผ โจว์มาแน่ ๆ ค่ะ อาจเช้ามืดวันพรุ่งนี้ ก่อนหนูเดินสายอีกแระ

ไม่อยากแกล้งแฟนนายโจว์ อิอิ

แล้วมาฟังเพลงอีกนะคะ เรื่องนี้รับรองมีเพลงถูกใจจารย์จีแน่ ๆ เลย


โดย: พรายทราย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:58:49 น.  

 
คุณสาวน้อยแมนัวร์

สวัสดีค่ะคุณสาวน้อยแมนัวร์ น้องซิน โอ้ ! อ่านรวดเดียวเลยหรือคะ

อ่านแล้วชอบหรือเปล่าคะ ยังไงตามติดไปเรื่อย ๆ นะคะ
ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ

ยินดีค่ะ หากเป็นกำลังใจได้ ด้วยความยินดีเลย แวะมาพูดคุยได้บ่อย ๆ เลยค่ะ
เอาใจช่วยให้เขียนเรื่องต่อได้นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:02:14 น.  

 


โดย: ปณาลี วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:47:53 น.  

 
ยิ่งอ่านยิ่งหวาน... อิอิ ...เเอบโดนกับความคิดของพ่อหนุ่มดีเจ... เวลาที่คิดถึงเเม่สาวเเซ็คฯ... หวานๆกุ๊กกิ๊กๆ... น่ารักดีจังเลยค่ะ...พี่พรายขา


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:01:21 น.  

 
น้องตูน ปณาลี

มายิ้มหวาน พี่อ้อยิ้มตอบก่อนนะคะ วันนี้เดินสายยาวเลยค่ะ

กลับมาแล้วจะแวะไปหาที่บล็อกนะคะ (อยากไปที่ทำงานยังหาเวลาไม่ได้ซักที)

ยังไงก็คิดถึงเสมอนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:51:23 น.  

 
คุณอมิธิสท์ น้องบัว หรือน้องพลอย (ชักไม่แน่ใจ)

เรื่องยังไม่ค่อยพาไปหวานเลยล่ะ สองอารมณ์สองคนยังขม ๆ อยู่นะคะนี่

อยากให้อธิศกับวัศนิหวานกับมากกว่า แต่ก็ไม่รู้จะหวานได้ซักแค่ไหน กลัวตัวเองเลี่ยนไปซะก่อน แหะ แหะ


โดย: พรายทราย วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:55:16 น.  

 
วันนี้เดินสายค่อนข้างยาวอีกแล้วค่ะ จะพยายามกลับมาตกแต่งโจว์ให้ได้ อดใจหน่อยนะคะ

ขอให้มีความสุขกับวันพุธ เดือนแห่งความรักทุก ๆ คนนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:56:54 น.  

 
อูยยย ได้ยินเเล้วยิ่งดีใจ จะได้เห็นหวานกว่านี้อีก... อิอิอิ ของชอบบบบ


โดย: หนูบัวเองค่ะ... (อมิธีสท์ ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:19:11 น.  

 


พุ ท ธ ส วั ส ดี จ๊ ะ

ประเดี๋ยวว่าจะไปขยับแข้งขยับขาซะหน่อย
หาข้ออ้างขี้เกียจมาหลายวันจนอืดดดดดดดดดดแล้ว
ไปด้วยกันมั๊ยจ๊ะ

คมคำ : ร้อยปีฝัน ไม่เท่าหนึ่งวันทำจริง




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:26:58 น.  

 
เดินสายหรือครับ
อืมม์
กลับมาหรือยังหนอ
มารอโจว์และหาเพลงเพราะๆฟังจากตอนเก่าๆครับ


โดย: GTW IP: 58.8.162.54 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:38:42 น.  

 
หนูใยบัว อมิธีสท์

จะพยายามอ่ะค่ะ ไม่รู้จะได้หวานแค่ไหน อย่างที่บอกอ่ะค่ะหวานมากคนเขียนเลี่ยนเองนะสิ เฮ้อออ...


โดย: พรายทราย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:23:29 น.  

 
ธุป้ากุ๊ก ร่มไม้เย็น

ป้ากุ๊กพาไปขยับแข้งขาที่ไหนหรือคะ เดี๋ยวหนูตามไปที่บล็อก เพิ่งกลับมาค่ะ ขาแข็งหนูแทบจะขยับไม่ออก เมื่อยจริง ๆ ค่ะ

อย่านอนดึกนักนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:26:24 น.  

 
ธุจานจี GTW ค่ะ

เพิ่งกลับมาจากเดินสายทำงานที่ศรีราชา ถึงเมื่อทุ่มนี้เองค่ะ สองวันเดินทาง เหนื่อยจริง ๆ ...

ไม่ผลัดวันละคะ หนูผิดนัดกะโจว์จังเลยเนอะ จะพยายามไม่ผิดล่ะ แต่ขอไปนอนก่อน ตื่นมาแล้วจัดการโจว์ให้เป็นที่เรียบร้อย ก่อนจารย์จะหายไป


โดย: พรายทราย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:29:28 น.  

 
ไม่ค่อยได้ทักทายคุยเลย พอมาถึงก็เปิดโหมดอัตโนมัติทุกที

ช่วงนี้ตะลอนเดินสายใกล้ ๆ เหมือนไกลทุกที ไว้เหตุการณ์สู่ภาวะปกติ คงได้คุยกันเหมือนเคย ๆ นะคะ

แฟน ๆ โจว์ พรุ่งนี้เช้าได้อ่านแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้ขอลาไปเติมพลังก่อนนะคะ

ฝันดี และมีความสุขกับวันพฤหัสบดีค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:32:12 น.  

 
หวัดดีวันศุกร์ค่ะ พี่อ้อ

มาบอกรักพี่อ้อช่วงเย็นๆ ค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:06:28 น.  

 
น้องตูน ปณาลี

ว๊าวว!! แจกจ่ายความรักเร็วจัง ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ขอมอบความรักกลับคืนให้น้องตูนด้วยนะคะ

มีความสุขกับค่ำคืนวันศุกร์ค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:57:57 น.  

 
น่าอิจฉาคนไปเที่ยวเอ้ย..ไปทำงานศรีราชา
คงได้บรรยากาศของการทำงานไปอีกแบบนะครับ
กับคุณพรายทรายผมว่าสบายอยู่แล้ว
ประสบการณ์ทำงานมากมายคงทำให้สนุกกับงาน

^__^...


โดย: GTW IP: 58.8.158.140 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:31:10 น.  

 
จานจีเจ้าขา

ไปทำงานค่ะ ไปเที่ยวก็ดีละสิ สนุก็สนุกค่ะ แต่เหนื่อยตอนเดินทางจริง ๆ ...
เอาลุยต่อไปกว่าจะเสร็จ ต้องขอโทษจารย์ด้วยนะคะ ที่ปล่อยให้รอร๊อรอ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าไม่ให้พลาดอีกค่ะ

ขอบคุณนะคะที่จารย์แวะมาหน้านี้ด้วย


โดย: พรายทราย วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:43:53 น.  

 

ไม่เป็นไรครับ
ยกโทษให้ครับ

(โห....พูดหน้าตาเฉย)
^___^.........

รอได้ครับ


โดย: GTW IP: 58.8.234.222 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:56:39 น.  

 
ธุจานจี GTW

ขอบคุณจานจีค่ะ จะพยายามนะคะ ไม่ให้ต้องรอนานอีกแระ

อิอิ คราวนี้แฟนคลับวัศนิต้องรอตอนใหม่เหมือนกัน
ไม่น้อยหน้าเลยยยย



โดย: พรายทราย วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:52:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.