ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
บทที่ 12. "เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย...ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์ "ช่อคราม"









ทุกวันอาทิตย์ - อังคาร และ วันเสาร์ พบกับนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ขม ๆ ของ“ช่อคราม” ”เจ้าหญิง...องก์สุดท้าย ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์”

และ

ทุกวัน พุธ – ศุกร์ พบกันนิยายตื่นเต้น ระทึก ๆ ของ... “ริมหาด”
“เงาเพลิง”

*********************************

เรื่องยาวจบบริบูรณ์...ของ "ช่อคราม"
”ณ ปลายฟ้า...คือเธอ”


*********************************


เรื่องสั้น...ของ "ช่อคราม (นักเขียนรับเชิญ บล็อกลายปากกา)"
”ถนนพระจันทร์...ทางเดินแห่งหัวใจ”


*********************************


คอลัมน์พูดคุย ตอบปัญหาเกี่ยวกับการเขียนนิยาย ของ "พรายทราย"
”คุย คิด ถาม เขียน”


*********************************







"เจ้าหญิง" องก์สุดท้าย... ให้เพลงนี้บอกรักชั่วนิรันดร์
(Last Act of Princess...Love songs forever)
"ช่อคราม"



บทที่ 12

เพลงยังคงบรรเลงหวานแว่ว วัศนิซึบซาบกับบรรยากาศตรงนี้เนิ่นนาน หัวใจของเธอเต้นไปพร้อมกับจังหวะเพลง สองขาเลื่อนพลิ้วไปตามจังหวะที่เขานำ

เธอพยายามสบสายตาคนตรงหน้า อยากมองลึกเข้าไปให้ถึงความรู้สึกของเขา...

หากความรู้สึกของเขากับเธอสัมผัสกันได้เหมือนแซ็กโซโฟน เหมือนทุกค่ำคืนที่สนทนา โต้ตอบเพลง

เพราะอะไรเขาถึงไม่มีความรู้สึกสะดุดอะไรสักนิดกับเธอตรงหน้า
เธอรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ …

มันว่างเปล่า...มีเพียงมิตรภาพธรรมดาที่ส่งมาจากสายตาคู่นั้น
ก็แค่รอยยิ้มธรรมดา สายตาธรรมดา ยิ่งใกล้กับเขาความรู้สึกนี้ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ๆ


สุดท้าย...หรือบางทีเธอเองอาจเป็นคนที่คิดฟุ้งซ่านไปเอง ก็แค่เขาเอาใจแฟนรายการซักคน...มันไม่ได้มีอะไรหวือหวา อะไรซักหน่อย

รอยหม่น ๆ เริ่มเกิดขึ้นในความรู้สึก ส่งออกมายังใบหน้า และสายตาในทันที จนอธิศสังเกตเห็น

“เมื่อยหรือเปล่าครับ อยากพักมั้ย ดูหน้าคุณวัศนิไม่ค่อยดี”

“เปล่าค่ะ...เพียงแค่สงสัยว่าคุณอธิศเองไม่เหนื่อยหรือคะ ทำงานทั้งกลางวันกลางคืนไม่มีวันหยุด แล้วนี่ต้องไปจัดอีกมั้ยคะ” วัศนิปรับอารมณ์ตัวเองเปลี่ยนความคิดให้ห่างจากแซ็กโซโฟน

“จัดสิครับ เพียงแต่ว่า หากมีงานแบบนี้ก็อาจไม่ได้พักแต่ผมนอนมาเต็มอิ่มแล้วเมื่อเช้า อีกอย่างวันเสาร์อาทิตย์ผมก็นอนได้เต็มที่ “

เป็นครั้งแรกที่อธิศได้มองดวงหน้าเต็ม ๆ เธอไม่ได้แต่งเครื่องสำอางจัดจนเกินเหตุ ไม่ได้ติดแผงขนตาหนาตามแฟชั่น กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้

บางความรู้สึกส่องเป็นประกายผ่านมาในดวงตาคู่นั้น แต่เป็นเพียงความรู้สึกบางเบาไหววูบที่อธิศไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่มันก็ดึงดูดให้เขาสัมผัสกับความรู้สึกนั้น

คล้ายบางความรู้สึกที่เขาโหยหา เป็นความรู้สึกคุ้นเคย อบอุ่น นุ่มนวล และอ่อนโยน...

อาจเพราะท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงหรืออย่างไร อธิศยังคงไม่แน่ใจเหมือนเดิม แต่เขาค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นมิตรภาพที่ดูจริงใจมากกว่ามีสิ่งใดแอบซ่อนอยู่...

“คุณวัศนิชอบฟังเพลงแบบไหนหรือครับ” บางคำถามผุดขึ้นมาเองด้วยที่อธิศเองก็ไม่รู้สึกตัว

แต่ยังไม่ทันที่วัศนิจะตอบอะไร เสียงกระแอมข้าง ๆ ก็ดังขัดขึ้นเบา ๆ

“ผมว่าเราสลับคู่กันอยู่นะครับ” พันเอกบดินทร์ขยับรินยาคู่ของตัวมาทางอธิศ วัศนิรู้สึกขุ่นใจกับคำพูดและท่าทีนั้น เสี้ยววินาทีนั้นเธอรู้สึกถึงอธิศบีบมือของเธอไว้แน่นราวกับว่าเขาไม่อยากปล่อยมือเธอไป

หรือว่าเธอคิดไปเอง...

“มาค่ะ ขอคืนให้ผู้พันเขาไปเถอะนะคะ ก่อนที่เขาจะลงแดงขาดใจตาย ที่เห็นคุณอธิศเต้นอยู่กับเจ้าหญิงที่เขาหมายปอง”

รินยากระซิบกับอธิศ ทำให้ชายหนุ่มต้องเปลี่ยนคู่เต้น พร้อมค้อมศีรษะให้วัศนิตามมรรยาท ก่อนปล่อยมือของหญิงสาว

“เอาละยืนนิ่งแบบนี้มันตลกไปนะ เต้นกับผู้พันเขาซักเพลง ใช่ว่าพี่อยากออกมาซะที่ไหน” รินยาหันมากระซิบวัศนิก่อนที่หญิงสาวจะขยับตัวเข้าไปเต้นรำกับผู้พันแทน

บรรยากาศเซ็ง เพลงน่าเบื่อขึ้นมาทันที แต่อย่างน้อยคงจะเป็นปลื้มกับคุณย่าของเธอ

เธอพยายามฝีนทนแสร้งมรรยาทไปชั่วแวบ สายตายังคงจับจ้องที่คู่ของอธิศ แต่ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อทั้งคู่เดินกลับเข้าไปที่โต๊ะ

ค่ำคืนนี้ทำไมอีตานายพันยังตามมาหลอกมาหลอนเธอให้เสียอารมณ์ เสียบรรยากาศแบบนี้

“น้องโน้ตเป็นไงบ้างจ๊ะ ไม่ได้เจอกันหลายวัน นี่เสร็จจากราชการก็บึ่งมาเลย พอดีที่เจ้านายของพี่มีธุระมางานนี้ไม่งั้นคงไม่ได้มาด้วย ดีใจจริง ๆ ที่ได้เห็นน้องโน้ตที่นี่”

ความรู้สึกในอ้อมแขนของผู้พันต่างไปจากอธิศ อย่างที่เธอรู้สึกได้ในทันที

“โน้ตว่าโน้ตชักเวียนหัวน่ะค่ะ คงจะหิว... ยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่กลางวัน ขอกลับไปที่โต๊ะดีกว่า ขอโทษนะคะเต้นไม่ไหวจริง ๆ ล่ะ”

หญิงสาวไม่ได้สนใจสีหน้าของผู้พันหนุ่มจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับเธอคิดว่า เธอรักษามรรยาทเท่านี้จะดีกว่า ที่จะต้องฝืนแล้วให้อารมณ์เสียมากขึ้น

ตอนนี้ให้เธอต้องทนคุณย่า หรือคุณคำรณยังดีกว่าที่จะต้องเจอผู้พันจ๊ะจ๋า ที่เธอทั้งไม่ชอบขี้หน้า และการกระทำแต่อย่างใดเลย

ความคิดใหม่ ๆ แวบขึ้นมาในสมอง...
หากเธอสามารถทำให้ผู้พันคนนี้ไม่เป็นที่ปลาบปลื้มใจของคุณย่าได้ ผู้พันจ๊ะจ๋าก็คงตกจากบัญชีเจ้าชายของเธอได้

อย่างน้อยที่สุดไอเดียที่ผุดขึ้นมาก็ทำให้อารมณ์เธอดีขึ้นทันควัน แต่เธอจะทำอย่างไร เพราะดูเหมือนนายพันหนุ่มแห่งกองทัพบกดูจะยังตามเอาใจเธอไม่ได้ห่าง

“น้องโน้ตว่ายังไม่ได้ทาน พี่เลยตักอาหารมาให้หลายอย่างนะจ๊ะ น่าจะเป็นของชอบของน้องโน้ต กับคุณย่านะครับ”

“ตะกี้ทานเยอะแล้ว ช่างเอาใจจริง ๆ ทานตามสบายเถอะผู้พัน” คุณหญิงรัชนีหัวเราะอย่างอารมณ์ดีถูกใจ

ผู้หญิงหลายคนอาจชอบความเอาอกเอาใจแบบนี้ เธอไม่แปลกใจหรอกหากจะมีผู้หญิงหลายคนประทับผู้พันอย่างนี้

แต่คงไม่ใช่เธอ...

สำหรับวัศนิผู้ชายบางคนไม่ต้องทำอะไรมากมายก็ดูดี ดูโรแมนติกมากกว่าการตั้งใจทำอะไรมากมาย โดยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของฝ่ายหญิงแบบนี้


วัศนิกล่าวขอบคุณ ตักอาหารทานพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาอธิศเหมือนเคย ค่อนข้างผิดคาดที่เธอเห็นเพียงรินยาที่เดินคีบแก้วไวน์ คุยกับใครต่อใครไปเรื่อย ๆ ตามลำพัง

เขาหายไปไหนอีกแล้ว...

“น้องโน้ตสวยมากนะ แต่น่าเสียดายคืนนี้พี่คงไม่ได้นั่งนาน ต้องกลับกับท่านนายพล เดี๋ยวไว้เสาร์อาทิตย์วันไหนว่างแล้วพี่จะรีบไปหานะจ๊ะ”

ผู้พันยังคงเจื้อยหวาน วัศนิทานอาหารตรงหน้าอย่างรับไมตรี แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรมากมายกับสิ่งที่ผู้ชายข้าง ๆ พูดคุย แม้แต่ตอนที่เขาลาคุณย่าก่อนลุกออกไปก็ตาม



เวลาผ่านไปนาน ผู้พันไม่ได้กลับมาให้เธออารมณ์ป่วนแต่อย่างใด รินยากลับมานั่งที่โต๊ะเมื่อเธอรู้สึกเมื่อยขาเต็มที่แล้ว คุณหญิงรัชนีดูจะมีความสุขกับการได้ฟังเพลงบรรเลงเพราะ ๆ

“เดี๋ยวหล่อนตามเช็คนักดนตรีวงนี้ด้วยนะ อยากให้เขาไปเล่นในงานน้ำชา”

“ค่ะ” วัศนิตอบรับคำสั้น ๆ เวลาคุณย่าของเธออารมณ์ดีไม่วุ่นวายกับเธอมาก ก็ทำให้อารมณ์ของเธอสดใสตามไปด้วย เธอเริ่มสนทนากับบรรดาคุณหญิงร่วมโต๊ะอย่างไม่รู้สึกอึดอัด

ไม่ได้รู้สึกแม้สักนิดว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน

“ดึกแล้วเดี๋ยวเราเตรียมกลับกันเลยแล้วกัน....ท่าทางแม่รินยาคงจะยังไม่กลับซะละมั้ง หรือยังไง ลองไปถามสิ ไหน ๆ ก็มาด้วยกัน” คุณหญิงรัชนีเอ่ย เมื่อบรรดาคุณหญิงร่วมโต๊ะต่างกลับกันไปแล้ว

วัศนิรับคำสั่งมาง่าย ๆ เธอมองหารินยาอยู่พักใหญ่ แต่ยังไม่ทันลุกไปไหน คุณคำรณก็กลับมาที่โต๊ะพอดี

“ดึกแล้ว เห็นทีต้องกลับ ไว้เจอกันที่งานน้ำชา ต้องมานะคุณคำรณ”

“ผมไปอยู่แล้วครับงานเลี้ยงน้ำชาของคุณหญิง แต่เด็ก ๆ ผมว่าให้เขาอยู่กันต่อดีมั้ย งานก็ยังดึกไม่มาก คุณหญิงไม่ต้องห่วง สบายใจนะครับ เดี๋ยวให้อธิศไปส่งเอง” เสียงหนักแน่นราวกับพระราชาของคุณคำรณ ทำให้วัศนิลุ้นระทึกอยู่ในใจ

“นั่นสินะ แต่งตัวสวยควรจะอยู่ในงานนาน ๆ แต่คนแก่ ๆ ชักไม่ไหว”

“คุณหญิงกลับไปพักผ่อนก็ดีครับ จะได้ไม่หักโหมมาก นั่งนาน ๆ แบบนี้ก็เมื่อย ไม่ยอมยืดเส้นยืดสายเหมือนปีก่อน ๆ เลย เห็นทีเลี้ยงคราวหน้าผมคงต้องเลี้ยงน้ำชาแบบคุณหญิงบ้างแล้ว” เสียงคุณคำรณหัวเราะร่าด้วยอารมณ์ดี

“งั้นผมออกไปส่ง”

วัศนิขยับตัวลุกตาม แต่คุณคำรณกลับทำสัญญาณให้นั่งอยู่ และประคองคุณหญิงรัชนีออกไปแทน วัศนิถอนหายใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง



งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ บนฟลอร์เต้นรำยังมีคนออกไปเต้นอย่างต่อเนื่อง แม้แขกผู้ใหญ่จะกลับไปจนดูบางตาก็ตาม เสียงดนตรีเริ่มเปลี่ยนจังหวะเป็นเพลงเร็วตามสมัย แม้จะยังเต็มไปด้วยความหวานมากมาย

“อ้าว! คุณย่ากลับไปเมื่อไหร่นี่”ไม่ว่าดึกแค่ไหน เดินรอบงานขนาดไหน รินยาก็ดูไม่เหน็ดเหนื่อยเอาเสียเลย

ช่างเป็นผู้หญิงที่เหมาะกับงานเลี้ยงเสียจริง ๆ

“สักพักแล้วค่ะ ...ท่าทางจะไปพร้อมคุณคำรณ ไม่เห็นกลับมาเลย ทั้ง ๆ ที่...” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดไรจบ เสียงคุ้น ๆ ก็ดังมาจากเบื้องหลังรินยา

“สาว ๆ เบื่ออยากกลับเมื่อไหร่ส่งสัญญาณมาได้เลยนะครับ ผมได้รับคำสั่งให้เป็นคนส่งสองสาวให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย....อธิศทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ที่ว่าง ก่อนล้วงหยิบกุญแจรถออกมาวางบนโต๊ะ แล้วเลื่อนมาไว้ตรงหน้ารินยา

“ผมต้องรับแขกแทนคุณคำรณด้วย...เอานี่ไว้เป็นประกันนะครับ ถ้าเซ็งจริง ๆ แล้วเบื่อขี้เกียจรอ อยากจะขับกลับกันเองก็ได้เลย”

เขาพยายามทดสอบพวงกุญแจหน้าตาแปลก ๆ กับใครหลายคนที่มาร่วมงาน และเขาคาดเดาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย เขามองหน้ารินยาอย่างชั่งใจ แต่ก็ดูเหมือนไร้ความหมาย

ไฟในห้องไม่ได้มืดจนไม่เห็นว่าการ์ดเคลือบพลาสติกรองกุญแจรถนั้นเป็นอะไร แต่ดูเหมือนรินยาจะไม่ได้ใส่ใจ

เขาควรจะมั่นใจได้เสียทีว่า แซ็กโซโฟนไม่ใช่รินยา ความรู้สึกของเขาที่คุ้นเคยกับเพื่อนหญิงคนนี้ตอกย้ำอย่างชัดเจน

รินยาไม่ใช่ผู้หญิงโรแมนติก ใส่ใจในรายละเอียด เธอมองภาพวงกว้าง
สโคปใหญ่ ๆ เป็นหลัก อีกทั้งเธอไม่ใช่คนที่เอาเวลามาทำอะไรต่ออะไรเหมือนดูไร้สาระในยามค่ำคืนอย่างขอเพลง คิดหาเกมแน่ ๆ แม้ว่ารินยาจะเป็นผู้หญิงสนุกสนาน อารมณ์ดีแค่ไหนก็ตาม

อธิศแอบถอนใจเบา ๆ อย่างโล่งอกสบายใจ ก่อนขอตัวลุกจากไป

“อ้าว! แล้วไม่บอกว่าจอดรถไว้ตรงไหน แล้วจะหาได้ไงหว่า” รินยาบ่นไล่หลังตามนิสัย

“พวงกุญแจหวานแวว ประหลาดดีแหะ” รินยาหัวเราะเบา ๆ ขณะที่วัศนินั่งนิ่ง เธอพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง

เธอพยายามไม่เอื้อมมือไปสัมผัสการ์ดใบนั้น ขณะที่หัวใจระรัวสั่นยิ่งกว่าตอนที่เต้นรำกับเขา

เนื้อจดหมายของเธอมันกลายสภาพไปเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร นี่หมายความว่าเขาเก็บมันดีพิเศษใกล้ตัวขนาดนี้เชียวหรือ

หากอธิศยังนั่งนานอีกสักนิด คงได้เห็นหน้าเธอแดงซ่าน เธอไม่รู้จะเก็บความรู้สึกตื่นเต้นไว้อย่างไร หากรินยาไม่อยู่ด้วยตรงนี้

บางความรู้สึกอยากวิ่งกลับไปบอกเขาเหลือเกินว่า
แซ็กโซโฟนอยู่ตรงนี้อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ว่าเขาจะรับได้แค่ไหน แม้เธอจะดีใจ และมั่นใจว่า เขาแคร์และให้ความสำคัญกับแซ็กโซโฟนจริง ๆ


แต่หากบอกเขาในสภาพนี้ สายตาเย็นชาเฉย ๆ ยังคงนิ่งติดอยู่ในความรู้สึก สภาพความรู้สึกตรงนี้คงยากที่เธอจะยอมรับ

ขณะเดียวกันเธอก็ไม่แน่ใจว่าจะอยู่กับสภาพความรู้สึกเก็บซ่อน ปิดบังไปได้อีกนานแค่ไหน ....

บางทีเธออาจต้องทำอะไรลงไป เพื่อไม่ให้ความรู้สึกตกอยู่ในวังวนแบบนี้
แต่เธอจะทำอย่างไร...





อธิศมาถึงห้องจัดรายการห้าทุ่มกว่า ๆ เขาออกจากงานเมื่อเคลียร์ดูแลส่งแขกเรียบร้อย และเลยต่อไปส่งสองสาวเมื่อสี่ทุ่มกว่า ๆ ยามดึกใช้เวลาไม่นานนัก

บททดสอบถูกมาใช้แม้แต่พี่ก้อย หรือนายอ้วนก็ไม่เห็นมีใครสนใจ หรือแปลกใจกับพวงกุญแจจนเป็นที่ต้องสงสัย หรือบางทีเขาใช้แบบทดสอบผิดประเภทไป

บางทีเขาก็อยากถามทุกคนที่ต้องสงสัยไปเสียตรง ๆ ….

อย่างน้อยเขาก็รู้สึกสบายใจเล็ก ๆ ว่าคนใกล้ตัว คงไม่มีใครมาล้อเล่น คนใกล้ตัวส่วนใหญ่เป็นคนทำงานมากกว่า

อีกอย่างคงไม่มีใครมาอดหลับอดนอนนั่งเล่นแบบนี้ และหากเป็นผู้ใหญ่ น่าจะใช้เวลาตรงนี้ไปพักผ่อนมากกว่าเช่นกัน

หากเป็นเช่นนั้น แซ็กโซโฟนก็คงเป็นทฤษฎีเด็กสาวไกลตัวอยู่เหมือนเคย...
ทันทีที่เขาเปิดเครื่อง เปิดเว็บรายการ ข้อความของเธอก็เข้ามาคอยอยู่ก่อนแล้ว

แซ็กโซโฟน : วันศุกร์คุณคงเพลียมากสินะ ไม่อยากกวนใจ แต่ก็อยากแวะมาทักทาย คืนนี้ขออยู่เป็นเพื่อนเงียบ ๆ ช่วยเลือกเพลงให้เหมือนเคย แล้วกันนะ


ข้อความสั้น ๆ ส่งผ่านเข้ามาทางโปรแกรมสนทนา ตามที่อยู่อีเมลที่เธอแอดเขาเข้ามา การคุยในโปรแกรมสนทนา ทำให้รู้สึกค่อนข้างส่วนตัวมากขึ้นกับข้อความในกล่องขอเพลง

การมีเธอพูดคุยด้วย ทำให้ความเหนื่อยล้าจางหายไป เธอไม่ได้โหมกระหน่ำขอเพลงเหมือนเคย แต่ขอเพลงมาเป็นระยะ ๆ และฝากไว้ในกล่องข้อความ ดูเธอจะจัดเป็นสัดส่วนได้เป็นเรื่องเป็นราว

อธิศ : ไม่ง่วงหรือไร ไม่อยากให้ต้องอดนอนแบบนี้

อธิศส่งข้อความกลับไปทักทายเป็นระยะ ๆ ตลอดช่วงจัดรายการ เหมือนมีเพื่อนนั่งทำงานอยู่ด้วย บางช่วงข้อความของเธอก็เงียบหายจนรู้สึกเหมือนว่าเธอเผลอหลับไปเสียด้วยซ้ำ

แซ็กโซโฟน : เรื่องนอนเรื่องเล็ก ง่วงก็คงหลับ แต่อยากเป็นเพื่อนไม่ดีเหรอ …นี่ก็อ่านหนังสือไปด้วย ไม่ต้องห่วงหรอกนะ

อธิศอมยิ้ม เขาพยายามไม่สนทนากับเธอมากนัก เสหยิบนิตยสารของรินยาฉบับล่าสุดมาพลิกฆ่าเวลาที่ไม่ต้องพูดอะไรในรายการ

ความจริงเขาไม่ได้สนใจเนื้อหาในนิตยสารเท่าใด แต่บางครั้งคอลัมน์ผู้หญิง ๆ ก็ช่วยให้เขามีเรื่องราวพูดคุยในรายการมากขึ้น

Dear Princess คอลัมน์ตอบปัญหาวัยรุ่นสะดุดตา จนเขาต้องตั้งใจอ่านบทความนั้นอย่างจริงจัง

อดคิดตามไม่ได้ว่าแซ็กโซโฟนทำไมต้องใช้เวลาอยู่ในเน็ตแบบนี้ เพราะเธอเหงา ไม่มีเพื่อนหรืออย่างไร

เวลาที่เขาไม่ได้อยู่ในเน็ต เธอจะยังคุยกับคนอื่นแบบนี้ ตามสมัยนิยมของเด็กยุคนี้ ที่หลาย ๆ คนมักใช้เวลาว่างท่องเที่ยว พูดคุยสนทนา หาเพื่อนอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต

...ต้องพยายามหาเพื่อนสนิทไว้หลาย ๆ คนหน่อย หาเพื่อนนะคะ ไม่ใช่หาแฟน

ความเป็นเพื่อน มิตรภาพเป็นยาวิเศษแสนจะมหัศจรรย์ เอ! ความจริงแล้วทำไมเขาไม่จัดนับให้ความเป็นเพื่อนไปรวมอยู่ในปัจจัยสี่เสียเลย

การคบเพื่อนไม่ใช่เรื่องยาก และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก คงต้องอยู่กับบุคคล ทำตัวเองให้สดชื่น สดใส รู้จักให้ เสียสละ แบ่งปัน และช่วยเหลือ



เส้นพรมแดนความเป็นเพื่อนบนโลกออนไลน์ช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เขามองออกไปนอกประตูกระจก อย่างนายอ้วนนั่นประไร ที่มาปรึกษาเขาอยู่บ่อย ๆ กับเพื่อนสาวมากมายจากโลกอินเตอร์เน็ต หรือไม่ใช่ในเน็ตก็ตาม

เขาเองก็ไม่เข้าใจนัก อาจเพราะความประทับใจของคนในเน็ตมักจะรวดเร็ว และประทับใจได้อย่างง่ายดาย ตัวอักษรการพูดคุยในช่วงเวลาสั้น ๆ

เขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรู้สึกที่เขามีต่อแซ็กโซโฟนมันเริ่มต้นเกิดจากความเหงานั่นเอง แล้วจะมีวิธีรักษาความสัมพันธ์ตรงนี้ ไม่ให้มากไปน้อยไปได้อย่างไร

บนความสบายใจเขาก็ปวดหัวอยู่ไม่น้อย จะเข้าใกล้ หรือจะถอยห่างเหมือนอย่างเคย

ทำอย่างไรจะให้ความสัมพันธ์เหล่านี้เหมือนปกติ ไม่ใช่ล่องลอยไปมาเหมือนล่องลอยอยู่ในโลกไซเบอร์สเปซแบบนี้

อธิศ : ทำการบ้านอะไรอยู่ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยแนะนำ

ข้อความทางแซ็กโซโฟน พิมพ์แล้วลบทิ้งหายไปอยู่หลายครั้ง ราวกับเธอไม่อยากบอกความจริง บางทีเขาคงเข้าใกล้เธอมากเกินไป

บางความรู้สึกเขาอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้ เหมือนเวลาจะเดินไปช้าเสียเหลือเกิน เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าจะทำตัวต่ออย่างไร แต่ที่แน่ ๆ เขาก็ไม่อยากสูญเสียความรู้สึกดี ๆ ตรงนี้ไป

ความคิดเหมือนวิ่งวุ่นวายตีกันอย่างสับสน

ไม่ว่ามิตรภาพระหว่างเขากับแซ็กโซโฟนจะเป็นอะไรก็ตาม
บางความรู้สึกก็โหวงขึ้นมาทันที หากเขาอาจจะต้องหยุดมันไว้เพียงแค่นี้...

อธิศเริ่มละล้าละลังจะทำอย่างไรกับการสื่อสารในรูปแบบนี้ ราวกับปัญหาใหม่จะมาซ้อนทับกับความสงสัยที่เธออาจเป็นเพียงแค่เด็กมัธยม

แต่ความรู้สึกเหล่านี้ก็ดีจนเกินกว่าจะเพิกเฉย หรือถอยหนีไปได้เหมือนอย่างก่อนหน้านั้น

เขาจะหยุดมันได้จริง ๆ หรือเปล่า ชายหนุ่มถอนใจ....
บางทีเธอคือคนที่ควบคุมความสัมพันธ์ ไม่ใช่เขาจริง ๆ


แซ็กโซโฟน : ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่ไม่อยากรบกวน แค่นี้คุณก็เหนื่อยแย่แล้ว

วัศนิเริ่มมั่นใจว่าอธิศคงอยากรู้ความเป็นตัวตนของแซ็กโซโฟนมากขึ้น เธอทำหน้ากร่อยใส่หน้าจอโน้ตบุ้ค

เธออยากเป็นแซ็กโซโฟนต่อ แต่ก็ไม่อยากให้เขามารู้ความจริงทีหลัง หรือเธอจะต้องลดบทบาทแซ็กโซโฟนไม่ให้เขาเข้ามาใกล้มากขึ้น จนเธอไม่อาจกลับตัวออกจากสิ่งที่แอบซ่อนเหล่านี้ได้

หญิงสาวอยากเอาหัวตัวเองโขกบนโต๊ะ สมองเริ่มเหนื่อยล้ามากยิ่งกว่าสองขาของตัวเองเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

เธอจะทำอย่างไรดีกับบทบาทของแซ็กโซโฟน...
เธอจะทำอย่างไรกับความรู้สึกตรงนี้ของตัวเองดี




...โปรดติดตามตอนต่อไป...










**" Fast Ball กับเพลงสบาย ๆ แต่ชวนปวดหัวของตัวละคร “Out of My Head” นาน ๆ จะได้หยิบเพลงของร็อคฝั่งอเมริกามาใส่ในนิยายซักที
จากอัลบั้มเมื่อปี 1998 All the Pain Money Can Buy เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 3 ใน US Adult Top 40 และอันดับ 20 ใน US Hot 100 และยังเป็นหนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Loser เมื่อปี 2000

เพราะทำนอง ความหมายของเพลง เวลารักใครสักคนแล้วช่างปวดหัววุ่นวายใจ ต้องยกให้เพลงนี้ ถึงเป็นเพลงรักอมตะชั่วนิรันดร์อีกหนึ่งเพลงของคนเขียน...




Create Date : 01 มีนาคม 2552
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2560 23:12:54 น. 19 comments
Counter : 552 Pageviews.

 
ฝันดีนะคะ

ขอบคุณคำอวยพรวันเกิดนะคะ

มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: prncess วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:23:55:01 น.  

 
Out of My Head : Fastball

Sometimes I feel
Like I am drunk behind the wheel
The wheel of prosperity
However it may roll

Give it a spin
See if you can somehow factor in
You know there's always more than one way
To say exactly what you mean to say


Was I out of my head? Was I out of my mind?
How could I have ever been so blind?
I was waiting for an indication
It was hard to find

Don't matter what I say only what I do
I never mean to do bad things to you
So quiet but I finally woke up
If you're sad then it's time you spoke up too

Was I out of my head? Was I out of my mind?
How could I have ever been so blind?
I was waiting for an indication
It was hard to find

Don't matter what I say only what I do
I never mean to do bad things to you
So quiet but I finally woke up
If you're sad then it's time you spoke up too


โดย: พรายทราย วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:23:56:16 น.  

 
มาแล้วนะคะ งานยังตึงอยู่เหมือนเคย อภิมหาโปรโจกต์ยาวนานนี้เสร็จสิ้น คงได้กลับมาเหมือนปกติเร็ววันนี้

ลุ้นต่อ ๆ ไปนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อจนหนีหายไปไหนนะคะ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่รอคอย และให้กำลังใจคนเขียนบทนี้มาอย่างยาวนานค่ะ

แหะ แหะ ได้ฤกษ์ซักที พยายามอย่างเต็มที่ จัดเวลากลับมาให้เหมือนปกติอย่างกระท่อนกระแท่นเต็มที เกือบเลทไปวันจันทร์จนได้สิคะ

อ่านอย่างมีความสุขนะคะ




โดย: พรายทราย วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:0:01:05 น.  

 
คุณเจ้าหญิง prncess

แวะมาเป็นคนแรกอย่างนี้ ช่างเป็นฤกษ์ดีจริง ๆ ค่ะ
คุณเจ้าหญิงสบายดีนะคะ เงียบหายไปนานเลย คิดถึงมากมายค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:0:02:47 น.  

 
เพลงเพราะจังค่ะ... ชอบจังหวะ เนื้อ เเละความหมาย... ไม่ได้ยินนานเเล้วด้วยค่ะพี่พราย...


สงสารเจ้าชายนายดีเจของเรา... มากขึ้นไปทุกที ๆ ๆ ๆ... เห้อออ เมื่อไรเจ้าหญิงยอมยุ่งของเราจะยอมเผยตัว (เเละหัวใจ) ออกมาเสียทีหนอ... จะได้จบเรื่องไปเสียที เอ๊ย ไม่ใช่... จบเร็วเดี๋ยวอดอ่าน เหะเหะ... ว้า อย่างนี้กองเชียร์อย่างเราสองเเฝด... ก็ต้องตามลุ้น ๆ ๆ ๆ กันต่อไปสิเนาะ... อิอิอิ


ปล... คิดถึงเจ้าของสตูฯนะคะ... ไม่ได้คุยกันหลายเดือนเเล้วกระมัง... ดูเเลสุขภาพด้วยนะคะ... พี่สาวขา


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:0:29:53 น.  

 
มาลงชื่อค่ะ
แสกนคร่าวๆ แล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านแบบละเอียดอีกที
คิดถึงพี่อ้อจังค่ะ
สบายดีหรือเปล่าคะ?


โดย: ธาร IP: 202.149.25.225 วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:8:39:17 น.  

 
หนูบัว หนูพลอย อมีธีสท์

บทนี้เลือกเพลงอยู่นานมากค่ะ กว่าสองอาทิตย์เลยทีเดียว อิอิ หากรู้ว่าเพลงที่เข้าชิงกับ fastball เป็นเพลงอะไร หนูบัวคงส่ายหัวดิก เพราะคงยังไม่เกิดแน่ ๆ

ดีใจค่ะที่ชอบ...

โอ้... ใคร ๆ ก็พูดแบบนี้จริง ๆ อิอิ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างตัดสินใจแล้วค่ะ

มีคำสั่งให้เรื่องนี้จบเร็วขึ้นจากเดิมที่เคยวางไว้ 20 กว่าตอน คงหดสั้นให้เหลืออีกไม่กี่ตอน ให้เหลือไม่ถึง 10 ตอน แหะ แหะ ตามใจคนอ่านสุดฤทธิ์

ด้วยเหตุผลเนื่องจากคนเขียนยุ่งดีนัก ทำให้คิวเรื่องอื่นเลื่อนออกไปอีก แถมทำให้คนอ่านเบื่อลุ้น เบื่อรอกัน

คราวนี้หนูบัวหนูพลอยและคนอ่านท่านอื่น ๆ จะได้ไม่ต้องรอลุ้นคุณดีเจกับเจ้าหญิงนานแล้วค่ะ

หนูบัวหนูพลอยก็รักษาสุขภาพเช่นกันนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:10:33:52 น.  

 
น้องธาร

ขอบคุณที่แวะมานะคะ ว่างเมื่อไหร่ค่อยอ่านค่ะ ทำโทษคนเขียนให้เข็ดนะคะ

พี่อ้อคิดถึงทุก ๆ คนเช่นกันค่ะ งานในมือจางหายไปกับตาเมื่อไหร่ คงโล่งขมองอิ่มขึ้นเยอะ ต่อมจินตนาการจะได้พองฟูซะที

สบายดีค่ะ แข็งแรงเกินพิกัด เสียแต่ต่อมจินตนาการมันฟีบไปหน่อยแค่นั้น อิอิ ว่าไปพุงฟีบดีกว่านะคะนี่


โดย: พรายทราย วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:10:37:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่อ้อ

ท่าทางจะต้องยุ่งมากแน่เลยๆ
อีกสักพักตูนก็จะยุ่งเหมือนกันค่ะ

สู้ๆ นะคะ


โดย: ปณาลี วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:22:13:48 น.  

 
เเวะมาขอบคุณค่ะพี่สาวขา... ข้อมือหินสีม่วง สวยยยย มากกกก ชอบบบบ สุดดดด ...อิอิ อยากได้ขึ้นมาจริงๆเเล้วสิคะนี่ จะไปหาที่ไหนเนี่ย 5555


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:2:02:07 น.  

 

เรื่องราวกำลังสนุกมากๆ เลยค่ะ คุณอ้อ
รออ่านเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่นี้
ในตอนต่อๆ ไปด้วยใจจดจ่อนะคะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:1:34:39 น.  

 
แวะมาอ่านทวนเจ้าหญิงโน๊ตค่ะ
อยากรู้จังว่าเธอจะทำยังไงต่อไปดี
ในเมื่อสารภาพความจริงก็ไม่ได้
แต่จะหลอกอธิศต่อไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดก็คือเธอเองที่ต้องเจ็บ
หวังว่าน้องโน๊ตคงจะพบทางออกดีๆ โดยเร็วค่ะ

ขอบคุณพี่อ้อ
สำหรับกำลังใจที่ไปส่งให้ที่บล็อกแต่เช้าด้วยนะคะ
ส่วนเรื่องคำถามถึงจะตอบช้าก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ธารเข้าใจว่า...พี่อ้องานยุ่ง
และไม่ว่าจะตอบช้าหรือเร็วก็เป็นคำแนะนำนั้นก็มีประโยชน์สำหรับธารมากค่ะ

สารภาพตามตรงนะคะว่าถึงตอนนี้ธารก็ยังกังวลใจอยู่ดี
อาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องราวต่างๆ ดำเนินมาจนใกล้จะถึงตอบจบเข้าไปทุกที
ทำให้ธารกังวลว่าตัวเองจะทำสำเร็จไหม?
จะคลี่คลายปมทั้งหมดที่ผูกไว้ได้ดีหรือเปล่า?
เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกธารก็อยากจะทำให้ดีไว้เป็นบรรทัดฐานน่ะค่ะ
ไม่รู้ว่านักเขียนท่านอื่นๆ จะมีอาการแบบนี้กันบ้างหรือเปล่า
แต่ก็ไม่ท้อนะคะ ธารเชื่อว่าธารจะผ่านตรงนี้ไปได้(ช้าหรือเร็วเท่านั้นเองค่ะ)

ไปๆ มาๆ กลายมาเป็นใช้พื้นที่บ้านพี่อ้อพล่ามเรื่องตัวเองซะงั้น
อิอิ

ปล. ช่วงที่พี่อ้อไม่อยู่ ธารคิดถึงพี่อ้อมากเลยล่ะค่ะ
^^



โดย: ธาร นาวา วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:14:35:41 น.  

 
น้องตูน ปณาลี

พอพี่อ้อหายยุ่ง น้องตูนคงยุ่งหัวปัดแน่ (เหมือนที่ปัดน้ำฝนหน้ากระจกรถ) อิอิ

เอาใจช่วยสุดกำลังค่ะ ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมเยียนตลอดเลย


โดย: พรายทราย วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:18:15:29 น.  

 
หนูพลอย อมิธีสท์

กว่าจะได้ตอบแหะ แหะ นานเกือบเดือนเลยนะนี่
ดีใจค่ะที่ชอบของขวัญ พี่อ้อคงให้เป็นแบบภาพสวยๆ แหะ แหะ ของจริงเห็นราคาแล้วหลายตังค์ไม่เบาเหมือนกัน คงต้องหยอดปุกอีกยาวเรย

มีความสุขตลอดทั้งปีนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:18:17:29 น.  

 
ธุป้าติ๋วค่ะ

พรุ่งนี้ค่ะ พรุ่งนี้ได้อ่านตอนต่อไปแน่นอน ยืนยันนอนยันค่ะ

ขอบคุณป้าติ๋วที่ยังไม่หนีหาย อุตส่าห์แวะมาเยี่ยมเยียนอ่านความเคลื่อนไหวของคุณดีเจและเจ้าหญิง

คิดถึงป้าติ๋ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:18:19:33 น.  

 
น้องธาร นาวา

ขอบคุณนะคะที่ยังตามอ่านน้องโน้ตอยู่ พรุ่งนี้คงได้อ่านแน่ๆ ค่ะ ว่าคู่นี้จะหาทางออกกันอย่างไร

บางครั้งคนเขียนก็เครียด กังวล พี่อ้อเข้าใจค่ะ ยังไงทำใจให้สบายๆ เขียนออกมาก่อน แล้วค่อยมาปรับดูกันอีกทีนะคะ

พี่อ้อเองยังไม่ได้อ่านเป็นเรื่องเป็นราว สงสัยต้องรอน้องธารเขียนเสร็จก่อนแล้วล่ะ

ยินดีนะคะจะมาบ่นที่หน้านี้ หรือหน้าคุยถามฯ ก็ได้ พี่อ้อยินดีรับฟัง และช่วยเต็มที่ แต่อาจตอบช้าไปบ้างนะคะ เอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลาค่ะ

ตอนนี้พี่อ้อเสร็จภารกิจไปสองสามชิ้นแล้ว คงมีโอกาสได้คุยกันเหมือนก่อนเร็วๆ นี้ค่ะ

คิดถึงเช่นกันค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:18:23:25 น.  

 
มาเปิดหน้านี้เพื่อเป็นการยืนยันอีกรอบนะคะ เจ้าหญิงฯ ตอนใหม่มาพรุ่งนี้หัวค่ำเหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ เรื่องโจว์ก็เช่นกันนะคะ

คราวนี้รับรองมาตรงเวลาทุกอาทิตย์ และวันพุธ
เปิดสตูฯคุยทักทายกันเหมือนปกติ รวมทั้งแวะเวียนไปคุยกับเพื่อนบล็อกได้ซะที

คงไม่ลืมเลือนหนีหายไปกันซะก่อนนะคะ คิดถึงทุกๆ คนมากมายค่ะ


มีความสุขกับค่ำคืนวันเสาร์นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:18:26:29 น.  

 
เเวะมาสงสารเจ้าชายนายดีเจอธิศค่ะ... เหะเหะ กลืนก็ไม่ได้ คายก็ไม่อยากเนาะ...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:22:09:53 น.  

 
หนูอมิธีสท์

ไม่ต้องสงสารคุณเจ้าชายดีเจแล้วละค่ะ เหล่าองครักษ์อัศวินเพียบเลยบทหน้า อ่านหรือยังคะ

อิอิ อย่าอ่านแล้วใจแตกเหมือนคนเขียนนะคะ อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:22:29:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.