1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 1 ... "ช่อคราม"
บทที่ 1
...เมื่อความรักบังเกิดขึ้น และเมื่อหัวใจโลดลิ่วโบกบินไป ก็ยากจะมีสิ่งใดทัดทาน.... เสียงสัญญาณไฟเบื้องหน้าเตือนให้รัดเข็มขัด เภตรากัดริมฝีปากตัวเองหลับตาแน่นรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองเต้นดังไปตามเสียงสัญญาณ... ไม่เอาน่า...เธอตัดสินใจแล้ว จนมานั่งอยู่บนเครื่องบินแล้วนี่นา แค่อีกเพียงไม่กี่อึดใจของอีกหลายชั่วโมงข้างหน้านี้ เธอก็จะได้พบผู้ชายอันเป็นที่รัก ผู้ชายที่เธอมอบความรู้สึก ความรัก และหัวใจของเธอไป ความรักแบบที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะบังเกิดขึ้นกับตัวเธอ
เมษ...จะตื่นเต้นอย่างที่เราตื่นเต้นแบบนี้มั้ยหนอ หญิงสาวพยายามคิดไปถึงคนที่อยู่ปลายฟ้าอีกฟากหนึ่ง คนที่เธอกำลังจะบินไปให้ประหลาดใจ แต่แล้วจู่ ๆ เสียงของอันย่าเพื่อนสนิทที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ของเธอโวยลั่นแทรกผ่านความรู้สึกอันสวยงาม... หา!!!
อะไรนะเธอทำเรื่องขอย้ายไปสาขาเมืองไทยเหรอ? อย่าบอกนะเพราะหนุ่มไทยคนนั้น...เภตราถามจริง ๆ นี่เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า!!?? แล้วเธอบ้าหรือเปล่าละนี่!!??... เภตราพยายามตั้งคำถามกับตัวเอง แต่เหตุการณ์เมื่อเดือนก่อนที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เธอไม่เคยมีความรักมาก่อน สมัยเรียนตอนเด็กเธอก็เคยมีคนรักนี่นาไม่ว่า อีริค หรือโจนาธาน แต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็ช่างแตกต่างกับความรู้สึกที่มีต่อเมษา มันเบาบาง หวือหวาด้วยอารมณ์ของเด็ก ๆ และจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่หนักแน่น จริงจัง รุนแรง และเต็มไปด้วยความปรารถนาที่แผดเผาเธอมาตลอด 1 เดือนตั้งแต่เมษากลับไป... ถ้าผมมีโอกาส ผมต้องบินกลับไปหาคุณแน่นอน ผมอยากให้คุณรู้ว่า ผมคิดถึงมากแค่ไหน เมษามักลงท้ายแบบนี้ทุกครั้งที่ได้คุยโทรศัพท์ทางไกลกัน หรือลงท้ายอีเมล ให้เธอต้องคลุ้มคลั่งอ่านมันแล้วอ่านมันอีก จนจำได้ขึ้นใจ ราวกับเขามาพูดต่อหน้าเธอ... เธอนี่เป็นเอามากนะเภตรา เธอเจอหมอนั่นแค่ไม่กี่อาทิตย์ รู้จักเขาดีแค่ไหนกัน ดูเหมือนเธอจะตกหลุมรักเขาหัวปักหัวปำ ใช้สมองอันชาญฉลาดของเธอคิด คิด...คิดแบบทนายหน่อยสิ! เฮ้อ!! คำพูดของอันย่ายังตามแทรกมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะใช้สมองซีกซ้าย หรือซีกขวา ให้เธอใช้เหตุผล เอาข้อมูลมากมายมากองตรงหน้า เธอก็มั่นใจว่า เมษาต้องเป็นเนื้อคู่ของเธอ ไม่เช่นนั้นคนที่อยู่ห่างไกลกันคนละฟากฟ้าคงจะไม่มาได้พบ ได้ใกล้ชิด ได้สนิทสนมกันรวดเร็วอย่างนี้... มันน่าจะเป็นความรักจริงจัง รักแท้แน่นอน เภตราบอกตัวเอง อย่างน้อยมันก็ต่างจากความรักสมัยเด็ก ๆ มากมาย เธอไม่เห็นจะรู้สึกเหมือนอย่างที่รู้สึกกับเมษาแม้แต่น้อย จะว่าไปแล้วมันเริ่มต้นและหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอยังไม่ค่อยแน่ใจเสียด้วยซ้ำ... บางทีความรักแบบนี้ อาจเป็นรักแท้ก็ได้นะ.... รักแท้แรกพบมันมีจริง ๆ นะ... เธออยากตะโกนให้ก้องเครื่องบิน เภตรารู้ตัวดีว่า เธอผูกพันกับเมษาตั้งแต่วันที่สบตากันครั้งแรก วันที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาเป็นเอเชีย ขาวใส กับชายสูงอายุสองคนเดินเข้ามา ขณะที่เธอ และจัสตินเพื่อนร่วมงานนั่งรอพร้อมกับลูกความอยู่ในห้องประชุม และเมื่อได้จับมือทักทายกัน โลกทั้งโลกก็เหมือนวิ่งผ่านไปรอบ ๆ ตัวเธอด้วยความรวดเร็ว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเหมือนคนที่จากกันไปนานแสนนานที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง... ไนน์ ไนน์!!...ไม่มีทางเภตรา ฉันพนันได้ ขอยืนยันในฐานะผู้ชาย มันไม่มีหรอกไอ้วูบวาบ หวือหวาขนาดนี้แล้วจะกลายเป็นรักแท้จริงจัง เสียงของสเตฟานเพื่อนสนิทตั้งแต่เล็กอีกคนหนึ่งของเธอแทรกความทรงจำอันสวยงามของเธอ
สเตฟานเอ๋ย....ทำเป็นผู้เชี่ยวชาญความรัก อย่างกับนายรู้จักสัมผัสเจอรักแท้มาแล้วอย่างนั้นแหละ!! แล้วรักแท้เป็นอย่างไร!!?? ต้องค่อย ๆ ผูก ค่อย ๆ พัน รอดูใจกันเป็นสิบ ๆ ปี อย่างนั้นหรือ เภตราจำได้ว่าโต้กลับสเตฟานไปแบบนั้น นั่นสินะ! ความรักมันไม่ได้มีรูปแบบเหมือนกันไปทุกคนทุกคู่เสียที่ไหน ใครจะรู้ดีว่าความรักเป็นอย่างไร นอกจากตัวของเราที่รู้สึกได้เอง... แต่ก็นั่นแหละ ความรักแท้จริง ๆ มันเป็นอย่างนี้หรือเปล่าหนอ..... อย่าง 3 อาทิตย์ที่เมษาอยู่ในแฟรงก์เฟิร์ตเพื่อถ่ายทำโฆษณา และประชุมรวมกิจการเข้ากับ ออตโตไฮน์เอเย่นซี่ บริษัทโฆษณาที่เธอเป็นตัวแทนดูแลการควบกิจการในขณะนี้ มันก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนวิเศษไม่ว่าการเดินทางท่องเที่ยวรอบ ๆ เมือง ในช่วงเวลาที่เขาว่างจากงาน ปิกนิกมื้อกลางวันที่แสนมหัศจรรย์ หรือดินเนอร์ทุกค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติก ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเมษา และเมษามีให้กับเธอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตรงนี้ต่างหากที่ผูกพัน และหลอมหลวมดวงใจให้เขาและเธอเป็นหนึ่งเดียวกัน... คุณเป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์ที่สุด... ไม่ใช่แค่สวย ร่าเริง สดใส แต่เก่งทั้งเรื่องงาน และยังสามารถเอาหัวใจของผมไปได้อย่างง่ายดาย ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกรู้จักเลยทีเดียว...ผมอยากบอกว่าผมรักคุณเข้าแล้ว เภตรายังจำคำสารภาพรักของเมษา พร้อมด้วยจุมพิตที่หวานละมุน ขณะที่เธอมาส่งเขาที่โรงแรมของค่ำคืนอันแสนโรแมนติกก่อนวันที่เขาจะเดินทางกลับ มันเหมือนช่วงเวลาที่แสนสั้น แต่ผมก็รู้สึกว่าเหมือนมันนานนับปี และเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเขา... โปรดเก็บรักษาหัวใจของผมให้ดีเท่าที่ผมจะดูแลรักษาหัวใจของคุณ... แล้วผมจะกลับมา และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่สนามบิน ขณะที่หัวใจของเธอโบยบินไปพร้อมกับเขาเรียบร้อย... แค่คิดถึงวันและคืนที่ผ่านมากับเมษาก็ทำให้หน้าของเธอแดงซ่าน อิ่มเอิบในหัวใจ จนแทบลืมไปว่าเครื่องบินเริ่มรักษาระดับบนท้องฟ้าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน... อีกเดี๋ยวนะหัวใจ อีกเดี๋ยวเธอก็จะได้เจอเขาแล้ว เภตรายิ้มอย่างมีความสุข ด้วยดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยความรัก คิดแค่นี้ก็ทำให้หัวใจพองโตราวกับลูกบอลลูนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ผ่านเหล่าก้อนเมฆสีขาวอันแสนนุ่มนวลที่เธอเห็นอยู่เบื้องหน้า... ไม่ได้หรอก...ทนายมือเก่ง ๆ ด้านการเงินทางนี้มีน้อย คุณก็รู้ ... เอาเป็นว่าให้คุณไปดูงานทางโน้น 2 ปีแล้วกันนะ...อย่างน้อยผมก็เชื่อว่ายังไงคุณก็ยังทำงานข้ามทวีปได้อยู่ดี เภตราสะดุ้งตื่นหลังจากเผลองีบไป เสียงคุ้น ๆ ของเจ้านายเหมือนยังดังก้องอยู่ น่าเสียดายที่แฮร์โรแบร์อนุญาตให้เธอย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองไทย 2 ปี โดยไม่ยอมให้เธอขอลาออกและย้ายไปอยู่เมืองไทยถาวรก็ตาม แต่เอาเถอะ สองปีก็ยังดี ก็มากพอที่เธอจะสานสัมพันธ์กับเมษา คิด ๆ ไป หากเมษาขอเธอแต่งงาน แฮร์โรแบร์ก็ต้องอนุญาตให้เธอประจำอยู่ที่เมืองไทยอย่างถาวร แล้วเรื่องงานบินไปบินมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และเธอก็เชื่อว่า แฮร์โรแบร์คงไม่ปล่อยให้ฝ่ายกฎหมายธุรกิจการเงินของ โทมัสแอนด์เจมส์ ลอว์เฟิร์ม สำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ สาขาแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมัน ต้องขาดทนายมือดีไปแน่ ๆ ตัวเขาหรือสำนักงานใหญ่ที่อเมริกาก็คงต้องหา หรือส่งทนายใหม่ ๆ เข้ามาประจำสำนักงานอย่างแน่นอน แต่อีกอย่างหากเธอเพ้อฝันลากยาวไปไกลว่า...เมษาอยากให้เธอเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเฉย ๆ เลี้ยงลูกล่ะ แฮร์โรแบร์ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้ว... นั่นล่ะ 2 ปีก็ยังดีกว่าไม่ได้มาเลย เธอไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองต้องระทมตรอมใจด้วยความคิดถึงอย่าง 1 เดือนที่ผ่านมาอีกแล้ว ให้ตายเถอะ!! 1 เดือนที่ผ่านมานับจากที่เมษาจากไป ช่างไม่ต่างกับนรกที่เธอไม่เคยสัมผัส เธอไม่เคยคิดถึงใครทุรนทุรายทุกลมหายใจเข้าออก มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ต่างจากความคิดถึงเมื่อมีความรักครั้งเก่า ๆ หรือแม้ว่าพ่อกับแม่ก็เถอะ แม้จะโทรศัพท์คุยกันทุกคืน จนบิลค่าโทรศัพท์ยาวเหยียด มันมากกว่าเธอโทรไปหาพ่อกับแม่ในเรือ หรือคุณปู่คุณย่าที่อิตาลีก็ตาม ทั้งสมาธิในการทำงานของเธอก็ถดถอยลง จนเธอรู้ตัวดีว่า หากเธอปล่อยให้ความรักของเธอเป็นความสัมพันธ์แบบทางไกลอยู่อย่างนี้ คงทำให้เธอต้องเสียทั้งงาน เสียทั้งสติอย่างแน่นอน... เมื่อสมองทำงาน สิ่งที่เธอกำลังหาคือหลักฐาน และข้อพิสูจน์ จะมีอะไรดีเท่ากับการหาเรื่องย้ายไปอยู่เมืองไทย ได้ใกล้ชิดกับเขา เพื่อได้เห็นนิสัยใจคอเมษามากขึ้น... คิดใหม่อีกทีมั้ย? เภตรา... อันย่ายังคงพยายามโน้มน้าวใจเธออีกครั้ง แม้จะนาทีสุดท้ายก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่องก็ตาม ใช่! อีกครั้งที่ไม่รวมกับอีกหลาย ๆ ครั้ง และแทบทุก ๆ ครึ่งวัน นับตั้งแต่เมื่ออันย่ารู้ว่าเธอตั้งใจจะเดินทางไปเมืองไทย อันย่า... เธออยากเห็นฉันเสียสติ เป็นบ้าไปจริง ๆ หรือ
แค่นี้ฉันก็เกือบทำงานพลาดไปหลายสัญญาแล้วนะ
มันเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม และมีความสุขมากกว่าเดิม ฉันไม่เคยเห็นเธอรักใครเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้นี่นา ถึงเธอจะเหมือนรักใครได้ง่าย ๆ แต่นั่นก็เล่น ๆ วูบวาบตอนเด็ก แต่นี่เธอจริงจังมากจนน่ากลัว... และฉันก็ไม่เคยเห็นเธอมีความรักกับใครมานานมากแล้ว...ไม่แม้ตอนเธอไปเรียนต่อที่อังกฤษ เธอก็ไม่เป็นแบบนี้...พวกเราเป็นห่วงเธอนะ ใช่มั้ยสเตฟาน?...นิ่งอยู่นั่นแหละ พูดให้เภตราเปลี่ยนใจหน่อยสิ เสียงเศร้า ๆ ของอันย่าเกือบทำให้เภตราใจอ่อนอยู่เหมือนกัน เฮ้อ!!! ฉันไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วล่ะ พูดมาเกือบเดือน อันย่า... ฉันว่าเรามายอมรับความจริงว่า เราแค่ไม่อยากให้เภตราจากไปมากกว่า... สวรรค์เท่านั้นที่รู้!! ...มันอาจเป็นรักแท้ เป็นพรหมลิขิตอันยิ่งใหญ่ของเภตราจริง ๆ ก็ได้... น่า
เมืองไทยก็แค่นี้เอง วันไหนเธอว่างจากเดินซื้อของที่ฝรั่งเศส หรือเปลี่ยนพักร้อนจากเมืองคานส์มาเป็นเมืองไทยก็แค่นั้น... ขอบใจนะสเตฟานที่เข้าใจ เภตราร่ำไห้อดไม่ได้ต้องเสียน้ำตากับการร่ำลาเพื่อนสนิททั้งสองคนที่มาส่งเธอที่สนามบิน เธอควรบอกเขาให้เขามารับที่สนามบิน สเตฟานเอ่ยต่อ ขณะที่อันย่าเริ่มสะอึกสะอื้นเสียงดังขึ้น ไม่ล่ะ...ฉันอยากให้เขาประหลาดใจ และเหมือนกับที่เธอสองคนว่า ฉันจะได้รู้ ได้เห็น ได้รู้จักชีวิต ตัวตนของเขาที่ฉันยังไม่เคยเห็นด้วยไง อย่างน้อยมันก็ทำให้อันย่ายิ้มออกมาได้บ้าง แน่ล่ะ! อันย่าจะได้รู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ไม่โง่งี่เง่า หลงรักแบบหน้ามืดตามัว พระเจ้าคุ้มครอง... เธอต้องระวังตัว ดูแลตัวเองนะเภตรา โทรมาทันทีที่ถึงเมืองไทยนะ มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ....คิดถึงพวกเราอย่างที่คิดถึงผู้ชายของเธอนะ
อันย่ายังอดห่วงเธอไม่ได้อีกตามเคย เภตรารู้สึกประหลาดใจ สมัยที่เธอแยกไปเรียนที่อังกฤษ อันย่าก็ไม่ฟูมฟายมากเท่านี้ บางความรู้สึกเตือนให้รู้ว่า ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์กำลังแปรเปลี่ยนไป... ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยคิดจะเดินทางไปประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่เป็นเมืองเกิดของแม่ แถมไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าการผจญภัยครั้งแรกนอกทวีปยุโรปของเธอจะเป็นการออกเดินทางเพื่อความรักอันยิ่งใหญ่ เภตราเป็นคนชอบอยู่กับที่ ไม่เหมือนกับพ่อแม่ของเธอที่เป็นนักประวัติศาสตร์ที่ชอบเดินทาง ชอบตื่นตาตื่นใจกับการผจญภัยใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา... เอาเถอะ! การผจญภัยในเมืองไทย การเดินทางของหัวใจของเธอในครั้งนี้จะสั้นหรือยาวนานจนไม่มีโอกาสได้กลับไปเดินเล่น ซื้อของ ดูหนัง ฟังเพลง จิบกาแฟ กินไส้กรอกแกล้มเบียร์กับเพื่อนทั้งสองอีกต่อไปแล้วก็ตาม ก็อย่างที่สเตฟานว่านั่นแหละ กรุงเทพ ฯ กับแฟรงก์เฟิร์ตก็ไม่ได้ห่าง ไม่ได้ไกลกันสักแค่ไหน... ใครจะไปรู้ อันย่าอาจเปลี่ยนใจมาทำสปา ทำเล็บที่เมืองไทยทุกอาทิตย์ก็เป็นได้ หรือเธออาจหาสาวไทยน่ารัก ๆ สักคนให้เป็นเจ้าสาวของสเตฟานในอนาคตก็ได้อีกเช่นกัน... คิดได้แค่นี้เภตราก็อมยิ้มจนเผลอหัวเราะออกมาเบา ๆ ความรู้สึกเศร้า ๆ ที่ต้องจากเพื่อน จากแผ่นดินเกิดค่อย ๆ จางหายไป แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้มีโอกาสคิดถึงเพื่อนทั้งสองตลอดเวลาเหมือนอย่างที่คิดถึงเมษา แต่เธอก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสองที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจนปาเข้าไปเกือบ 25 ปีนั้นจะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจของเธอ...แม้ว่าจะไกลกันแค่ไหนก็ตาม... ส่งข่าวมาเรื่อย ๆ นะ สเตฟานยังคงพูดสั้น ๆ เหมือนเดิมโชคดีกับความรักของเธอนะ...เภตรา และเธอต้องให้สัญญา! ห้ามหนีแอบแต่งงานโดยไม่มีฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวโดยเด็ดขาดนะบอกให้รู้! ...โปรดติดตามตอนต่อไป...** "*เพลง Lay Lady Lay ประพันธ์โดย Bob Dylan เมื่อปี 1969 มีนักร้องหลายคนนำมาร้องใหม่ แต่ version นี้เป็นของ Magnet feat. Gemma Hayes ปี 2003 อัลบั้ม On Your Side
Create Date : 10 พฤษภาคม 2551
23 comments
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 20:06:01 น.
Counter : 533 Pageviews.
โดย: อสิตา IP: 124.121.214.249 10 พฤษภาคม 2551 21:47:09 น.
โดย: พรายทราย 10 พฤษภาคม 2551 21:50:05 น.
โดย: พรายทราย 10 พฤษภาคม 2551 21:56:23 น.
โดย: ศล 11 พฤษภาคม 2551 11:31:50 น.
โดย: Magic of Azure IP: 58.136.206.220 11 พฤษภาคม 2551 20:47:13 น.
โดย: ป้ามด 12 พฤษภาคม 2551 9:08:22 น.
โดย: ใยบัว IP: 203.132.83.39 12 พฤษภาคม 2551 18:26:33 น.
โดย: พรายทราย 12 พฤษภาคม 2551 19:29:18 น.
โดย: พรายทราย 12 พฤษภาคม 2551 19:30:50 น.
โดย: พรายทราย 12 พฤษภาคม 2551 19:34:01 น.
โดย: พรายทราย 12 พฤษภาคม 2551 19:43:05 น.
โดย: ป้ามด 13 พฤษภาคม 2551 15:38:11 น.
โดย: พรายทราย 13 พฤษภาคม 2551 21:06:05 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 25 พฤษภาคม 2551 12:53:26 น.
โดย: พรายทราย 25 พฤษภาคม 2551 17:12:40 น.
โดย: พรายทราย 12 มิถุนายน 2551 21:22:39 น.
โดย: พรายทราย 12 มิถุนายน 2551 21:57:39 น.
โดย: พรายทราย 12 มิถุนายน 2551 22:07:34 น.
โดย: รักดี (ploy666 ) 3 พฤศจิกายน 2551 15:34:50 น.
โดย: พรายทราย 5 พฤศจิกายน 2551 19:12:13 น.
โดย: PiCorn (Camille) IP: 71.81.178.101 19 มิถุนายน 2553 8:44:23 น.
โดย: พรายทราย 20 มิถุนายน 2553 6:44:11 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา... ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ... **สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ** คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ... ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้ แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว.. ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร... **และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย ****************************** Friends' Blogs นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก
อิอิ จองที่ไว้ก่อน หลังจากนี้สักหน่อยจะมาอ่านค่ะ ตอนนี้งานสุมหัวและพอกหางหนูแป้ง