สวัสดีครับ

เรียกได้ว่าช่วงนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเพื่องฟูนะครับโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมใหม่ๆผุดขึ้นกันเป็นดอกเห็ดให้เราได้เลือกซื้อกันเลยทีเดียว ซึ่งการที่มีตัวเลือกใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะในตลาดนี่แหละที่ทำให้การแข่งขันมันเข้มข้นบริษัทเจ้าของโครงการบ้านต่างๆ จึงต้องงัดอาวุธกันออกมาสู้เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดกันและแน่นอนครับว่ายิ่งการแข่งขันในตลาดเข้มข้นเท่าไร ลูกค้าอย่างเราๆก็ยิ่งได้ประโยชน์ โดยเฉพาะในส่วนของราคาที่ดูจะคุ้มค่าขึ้นเรื่อยๆแต่กระนั้นเห็นบ้านสวยๆ โปรโมชั่นดีๆ ราคาโดนๆกันแล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจกันนะครับเพราะมีหลายอย่างที่เราควรใส่ใจในรายละเอียดก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังและวันนี้ผมก็มี 5 ข้อควรพิจารณามากระตุกในชวนคิดกันก่อนซื้อบ้านครับ

1. บ้านต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

แน่นอนว่าบ้านจะเป็นที่ๆเราและครอบครัวจะใช้ชีวิตไปอีกนานดังนั้นบ้านที่เราจะซื้อต้องตอบสนองกับรูปแบบการใช้ชีวิตของเราอย่างดีที่สุดไม่ว่าจะเป็น...

1.1 ลักษณะบ้านและขนาดบ้าน จะเลือกบ้านเดี่ยวทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดฯ ก็ควรต้องดูขนาดครอบครัวเป็นหลัก เช่นถ้าเป็นครอบครัวใหญ่หรือมีแผนขยายครอบครัวก็ควรเลือกบ้านเดี่ยวที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้างขวางถ้าเป็นครอบครัวเล็ก 3-4 คน ก็อาจเลือกเป็นทาวน์เฮ้าส์ หรือถ้าโสดก็อาจเลือกเป็นคอนโดฯ ครับจะได้ไม่เหนื่อยกับการบำรุงรักษาและการทำความสะอาดมากนัก

1.2การแบ่งพื้นที่ในบ้าน ว่าต้องการห้องนอนและห้องน้ำกี่ห้องหรือแต่ละห้องภายในบ้านมีขนาดได้สัดส่วนที่ต้องการใช้งานหรือไม่

1.3สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะส่วนสาธารณะ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ฯลฯ

1.4 ความปลอดภัย เช่นมีผู้รักษาความปลอดภัยตรวจรถเข้า-ออกอย่างเข้มงวดและควรมีระบบเตือนภัยภายในบ้าน/ห้องคอนโดฯ

1.5สถานที่ตั้งของบ้าน ควรอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานจนเกินไปหรือหากใครมีลูกก็อาจเลือกให้ใกล้โรงเรียนของลูกก็ได้ครับ และถ้าหากอยู่ใกล้ชุมชนได้ก็จะยิ่งดีครับจะได้หาของกินได้ไม่ยาก

2. ตรวจเช็คคุณภาพการก่อสร้าง

            ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะช่วยทำให้ราคาบ้านมีความคุ้มค่ายิ่งขึ้นแต่นั่นก็ส่งผลให้หลายๆ บริษัทต้องแอบลดคุณภาพของวัสดุก่อสร้างลงเพื่อลดต้นทุนดังนั้นก่อนซื้อบ้านสักหลังเราควรตรวจเช็คคุณภาพของบ้านให้ดีครับ ดูว่าวัสดุต่างๆ ได้คุณภาพไหมและการก่อสร้างมีการเก็บงานที่เนี๊ยบเรียบร้อยหรือไม่โดยอาจขอข้อมูลหรือปรึกษากับเพื่อนผู้รู้เรื่องการก่อสร้างดูครับทั้งนี้ก็เพื่อให้อาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัยและสบายใจครับ

3.ดูแนวโน้มดอกเบี้ย

หากอัตรดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้นก็ควรเลือกสินเชื่อบ้านแบบที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่เพื่อจะได้อัตราดอกเบี้ยเดิมไปตลอดแม้อัตราดอกเบี้ยในตลาดจะเพิ่มขึ้นหากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาลง ควรเลือกอัตราลอยตัว เพื่อให้ดอกเบี้ยจ่ายของเราปรับลดลงตามอัตราดอกบี้ยในตลาดครับ

4.สำรวจความพร้อมทางการเงินของตัวเอง

บ้านคือสิ่งที่เราซื้อมาพร้อมกับภาระก้อนโตที่จะอยู่กับเราไปอีก 10-30 ปีเลยนะครับดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านอยากให้สำรวจตัวเองก่อนว่ามีความพร้อมรับภาระหนี้หรือไม่ ซึ่งทั่วไปแล้วให้ดูจากภาระหนี้ที่มีอยู่โดยเราควรมีหนี้ไม่เกิน 40%ของรายได้ครับ ซึ่ง 40% ที่ว่านี้นั้นรวมถึงภาระการผ่อนชำระต่างๆ ด้วยนะครับ เช่น รายได้ 100,000 บาทก็ควรจะมีภาระผ่อนชำระทุกอย่างรวมกันแล้วไม่เกิน 40,000 บาทนั่นเองครับ

หากสำรวจแล้วพบว่ามีภาระเกิน40% ของรายได้ก็ยังไม่ควรซื้อบ้านครับ นอกจากเราจะสามรถหาแหล่งรายได้ที่มั่นคงแหล่งใหม่ได้ครับ

5.ควรเตรียมเงินดาวน์ไว้อย่างน้อย 20%

ถ้าทำได้เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็อยากมีเงินพอที่จะซื้อบ้านด้วยเงินสด ไม่ต้องดาวน์ไม่ต้องผ่อนเพราะไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยก้อนโตที่เรียกได้ว่า “แพงพอๆ กับค่าบ้าน” เลยทีเดียว แต่ถ้าจะให้เก็บเงินเพื่อซื้อบ้านด้วยเงินสดก็นับนิ้วไม่ถูกเลยว่าต้องเก็บกี่เดือนกี่ปีแถมยังไม่แน่ใจอีกว่าเมื่อถึงวันที่เก็บเงินได้ครบแล้วราคาบ้านที่ต้องการนั้นจะขยับเพิ่มขึ้นไปกี่หมื่นแสนแล้ว ดังนั้น ทางออกที่ดีและไวที่สุดสำหรับคนเดินดินตาดำๆทั่วไปอย่างเราก็คือ การเก็บเงินให้พอที่จะดาวน์บ้านสักหลังซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็มักจะเก็บกันอยู่ที่ 20% ของราคาบ้านนั่นเองเช่น บ้านราคา 3 ล้านบาท เราก็ควรเตรียมเงินสดไว้อย่างน้อย 6แสนบาทเพื่อจ่ายดาวน์นั่นเองครับ

และนี่ก็เป็น 5ข้อกระตุกชวนคิดให้เพื่อนผู้อ่านไว้พิจารณาก่อนจะซื้อบ้านนะครับหวังว่าจะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อนผู้อ่านซื้อบ้านในฝันได้อย่างคุ้มค่าที่สุดนะครับทั้งนี้หากใครมี้อสงสัยเรื่องการวางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้านหรือเรื่องการเงินอื่นๆ สามารถปรึกษา K-Expert ได้ฟรี ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ครับ

Email ปรึกษาทุกเรื่องการเงินอย่างเป็นส่วนตัว: k-expert@kasikornbank.com

Website รวมบทความและเครื่องมือคำนวณทางการเงิน: www.askkbank.com/k-expert

Twitter @KBank_Expert: //twitter.com/KBank_Expert

credit: ภาพประกอบจาก Homedec.in.th