สวัสดีครับ
เมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 22เมษายน 2556) รายการ The Expert ปรากฏการณ์ปลุกฝัน ได้นำเสนอเรื่องของคู่รักต่างฐานะซึ่งฝ่ายชายเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาที่ต้องพิสูจน์ให้กับครอบครัวฝ่ายหญิงมั่นใจว่าเขาจะสามารถดูแลลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนได้อย่างดีที่สุดซึ่งนอกจากจะได้ลุ้นไปกับคู่รักคู่นี้แล้วว่าสุดท้ายจะลงเอยกันตามฝันกันได้หรือไม่แล้วยังได้รับเกร็ดความรู้เรื่องการแต่งงานมามากมายครับทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และเรื่องทั่วๆไปจากทั้งมุมมองของคนที่มีประสบการณ์แต่งงานมายาวนานและมุมมองของคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันและวันนี้ผมก็เลยอยากสรุปทิปเรื่องการเตรียมพร้อมก่อนแต่งงานมาให้เพื่อนผู้อ่านที่สนใจและกำลังหาข้อมูลแต่งงานครับ
1.เตรียมงบงานแต่ง
แน่นอนว่าการแต่งงานไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะคนสองคนแต่มันรวมไปถึงคนในครอบครัวและหมู่มิตรของคู่แต่งงานด้วย ไม่ใช่ว่าจะแต่งกันเงียบๆ2 คนได้ซะที่ไหน ต้องมีการเฉลิมฉลองที่ให้ญาติมิตรของคู่รักมาเป็นสักขีพยานอีกทั้งเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิงเขาด้วยดังนั้นการแต่งงานจึงมีค่าใช้จ่ายมากมายที่คู่รักต้องเตรียมให้พร้อม ถ้าให้ไล่เรียงคร่าวๆก็พอจะบอกได้ดังนี้ครับ (จำนวนแขกที่ 300 คน)
- ค่าการ์ดเชิญและของชำร่วย 90,000 - 130,000 บาท
- ค่าแพ็คเกจถ่ายรูป pre wedding และวันงาน20,000 - 40,000 บาท
- คอร์สเจ้าบ่าว-เจ้าสาว 10,000 - 30,000 บาท
- ค่าชุดแต่งงาน 10,000 30,000 บาท
- แหวนหมั้น 20,000 200,000 บาท
- ค่าโรงแรมและอาหาร 150,000 450,000 บาท
หรือเฉลี่ยแล้วก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ500,000 600,000 บาทครับ และนี่ยังไม่รวมค่าสินสอดอีกนะครับ ดังนั้นหากตกลงปลงใจกันแล้วก็ควรรีบหาข้อมูลแต่เนิ่นๆ จะได้มีเวลาเตรียมตัวนานๆ ครับโดยเฉพาะในส่วนของการเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่าย
2.แบ่งกันรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
เมื่อกำหนดงบประมาณได้แล้วคู่รักควรตกลงกันให้เคลียร์นะครับว่าใครจะรับผิดชอบรายจ่ายในส่วนใดบ้างทั้งนี้ก็เพื่อช่วยกันแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ หากเป็นไปได้ก็อาจเริ่มด้วยการเปิดบัญชีร่วมกับเพื่อสะสมเงินไว้จัดงานแต่งโดยให้เริ่มออมร่วมกันสัก 6-12 เดือนก่อนจัดงานครับเพื่อที่จะได้มีเวลาทยอยออมเงิน
3.ตรวจสุขภาพก่อนแต่ง
ก่อนแต่งงาน คู่รักควรพากันไปตรวจสุขภาพเพื่อความสบายใจของทั้งคู่นะครับทั้งนี้ไม่ได้ดูเพียงว่ามีเชื้อ HIV หรือไม่เท่านั้นแต่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือดูโรคเลือดต่างๆ ด้วยเช่น โรคธาลัสซีเมียหรือโรคทางพันธุกรรมทางเลือดอื่นๆที่จะมีผลต่อกระทบต่อคู่รักหรือลูกหลานในอนาคตเองครับนอกจากนี้ยังควรดูในส่วนของโอกาสการมีบุตรด้วยครับจะได้ดูว่าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไว้มากน้อยแค่ไหน
4.ตกลงกันเรื่องที่อยู่หลังแต่งงาน
เป็นอีกเรื่องที่หลายๆ คู่มองข้ามไปเมื่อคิดเรื่องแต่งงานแต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็เป็นประเด็นที่ควรต้องคุยกันให้เคลียร์ก่อนนะครับว่าเมื่อแต่งกันไปแล้วจะไปอยู่บ้านเธอ บ้านฉัน หรือไปซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ด้วยกันเลยที่ต้องย้ำว่าอยากให้คุยกันให้เคลียร์นี่ก็เพราะว่าหลายๆครั้งที่ฝ่ายหญิงก็อยากอยู่บ้านเดิมกับครอบครัว และฝ่ายชายก็ไม่อยากย้ายออกดังนั้นจึงต้องคุยกันให้เคลียร์ก่อนครับว่าแต่งแล้วจะไปอยู่ที่ไหนกัน
5. งานแต่ง DIY
โดยทั่วไป หากไม่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณบานปลายก็สามารถจ้างบริษัท organizerจัดงานแต่งได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะธีมอะไรก็ทำได้ ง่าย สะดวก สบายแต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูง แต่ถ้าอยากประหยัดงบก็ทำได้ครับ คือจัดงานแต่งแบบ DIYโดยระดมญาติมิตรที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ มาช่วยกัน เช่นช่วยกันทำของชำร่วยและออกแบบการ์ดเชิญ ช่วยกันจัดสถานที่ ช่วยกันเล่นดนตรีหรือแม้กระทั่งช่วยกันถ่ายภาพและวิดิโองานแต่งงาน เป็นต้น ซึ่งต้องขอยืนยันอย่างมั่นใจจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการไปร่วมงานแต่งDIY มาหลายๆ งานที่ผ่านมานี้ว่า งานแต่ง DIY ทำจริงได้ และหลายๆ ครั้งก็ออกมาดีไม่แพ้บริษัทจัดงานแต่งเลยล่ะครับซึ่งนอกจากจะประหยัดแล้วยังเป็นการทำให้คู่แต่งงานและญาติมิตรได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน และมีประสบการณ์ร่วมกันอีกด้วยครับ
และนี่ก็คือทิปเรื่องการเตรียมงานแต่งงานที่นำมาฝากกันในวันนี้ครับหากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายของตนเอง เช่น แต่งงานไปเที่ยว วางแผนการศึกษาบุตร วางแผนเกษียณ หรือเรื่องการเงินอื่นๆ สามารถปรึกษา K-Expert ได้ตามช่องทางต่อไปนี้ครับ
Email ปรึกษาทุกเรื่องการเงินอย่างเป็นส่วนตัว: k-expert@kasikornbank.com
Website รวมบทความและเครื่องมือคำนวณทางการเงิน: www.askkbank.com/k-expert
Twitter @KBank_Expert: //twitter.com/KBank_Expert