สวัสดีครับ

“รักษาวินัยใฝ่ความรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน” คือคำขวัญวันเด็กปี2556 จากท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งเน้นย้ำให้เด็กไทยมีวินัยและใฝ่รู้เพื่อให้เกิดปัญญาที่นำมาพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าโดยสิ่งสำคัญอยู่ตรงที่ “วินัย” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในด้านอื่นๆในอนาคตของเด็กๆ

ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่สามารถปลูกฝังวินัยให้เด็กได้โดยการเริ่มจากสิ่งง่ายๆที่เรียกว่า“การออม” ครับ โดยเริ่มต้นจากสอนและสนับสนุนให้เด็กๆ “หยอดกระปุกออมสิน” ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ดูโบราณ แต่ก็เป็นวิธีที่ง่ายและสามารถปลูกฝังวินัยได้อย่างเห็นผล

โดยทั่วไป เด็กๆมักจะหยอดกระปุกด้วยเงินค่าขนมที่เหลือในแต่ละวัน โดยส่วนตัวผมมองว่าหากเด็กๆเหลือเงินกลับมาน้อยหรือบางวันไม่เหลือเลยก็ยังไม่เป็นปัญหาแต่ถ้าไม่เหลือเงินกลับมาอยู่บ่อยๆ ผู้ปกครองควรต้องหาทางแก้ไขครับโดยผมขอแนะนำวิธีง่ายๆ คือ

1.ให้เงินค่าขนมเป็นเหรียญแทนแบงก์หรือให้ผสมกับแบงก์ เช่น ถ้าค่าขนมวันละยี่สิบบาทก็อาจจะเป็นเหรียญห้าบาท 4 เหรียญ แทนที่จะให้แบงก์ยี่สิบ ถ้าค่าขนมวันละ 40 บาทก็เปลี่ยนเป็นแบงก์ยี่สิบผสมกับเหรียญสิบ 1 เหรียญและเหรียญห้า 2 เหรียญ เป็นต้น

2.สอนให้ลูกหยอดกระปุกในตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนทุกวันแทนการให้เหลือกลับมาแล้วค่อยหยอด ซึ่งเป็นหลักการออมที่ถูกต้อง นั่นคือ “ออมก่อนใช้”

3. เมื่อลูกออมไปได้ระยะหนึ่งจนคุ้นชินหากลูกต้องการออมเพิ่ม ควรสอนลูกให้ลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้สามารถออมได้มากขึ้นถ้าทำได้ก็จะเห็นว่า แม้จะได้เงินเท่าเดิม แต่ถ้าใช้จ่ายน้อยลงจะทำให้มีเงินออมมากขึ้น

หลังจากนั้นเมื่อลูกหยอดกระปุกจนเต็มคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปเปิดบัญชีออมทรัพย์เพื่อรับดอกเบี้ย และเป็นการสะสมเงินก้อนณ จุดนี้คุณพ่อคุณแม่อาจสร้างแรงจูงใจในการออมด้วยการตั้งรางวัลให้เมื่อลูกสามารถออมได้ตามเป้าหมายที่ตกลงกันซึ่งรางวัลที่ดีที่สุดที่อยากแนะนำก็คือการเพิ่มเงินสมทบเข้าบัญชีออมทรัพย์ให้ลูกเพราะเป็นการเพิ่มเงินออมให้ลูกแทนที่จะให้นำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และเมื่อลูกเห็นยอดบัญชีของตัวเองโตขึ้นก็จะรู้สึกมีกำลังใจและภูมิใจในตัวเองครับ

ขั้นต่อไปเมื่อลูกคุ้นเคยกับการออมและออมจนเป็นนิสัยแล้ว ผมแนะนำว่าให้ตั้งเป้าการออมเป็นเดือนในจุดนี้ การเปิดบัญชีฝากประจำแบบเท่าๆกันทุกเดือนจะสามารถเป็นกรอบการออมและช่วยกระตุ้นวินัยได้เป็นอย่างดี

ส่วนหลักฐานในการเปิดบัญชีกับธนาคารถ้าลูกยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้ทะเบียนบ้านและสูติบัตรแลต้องเปิดบัญชีเงินฝากประเภท “เพื่อ” (...ชื่อผู้ปกครอง...เพื่อ...ชื่อเด็ก...)หรือบัญชีเงินฝากประเภท “โดย”(...ชื่อเด็ก...โดย...ชื่อผู้ปกครอง) ส่วนในกรณีที่ลูกมีบัตรประชาชนแล้วก็สามารถเปิดบัญชีเงินออมได้เองเลยครับ

และนี่ก็คือคำแนะนำในการปลูกฝังวินัยการออมให้กับเด็กๆที่นำมาบอกเล่ากันในวันนี้ ซึ่งจะมีผลดีต่ออนาคตของพวกเขานะครับ ท้ายนี้สำหรับคนที่กำลังวางแผนการเงินเพื่ออนาคตลูก สามารถปรึกษา K-Expert ได้ที่อีเมล k-expert@kasikornbank.com หรือเข้าไปอ่านบทความและใช้เครื่องมือคำนวณเพื่อวางแผนการเงินด้วยตัวเองได้ที่เว็บไซต์www.askkbank.com/k-expert ครับ และสำหรับใครที่ชื่นชอบการรับข้อมูลทาง Twitter สามารถ follow @KBank_Expert เพื่อรับข่าวสารทางการเงิน/การลงทุนได้ทุกวันครับ

Credit: ภาพประกอบจาก Askmissa.com

Create Date : 09 มกราคม 2556
Last Update : 9 มกราคม 2556 17:34:54 น.		0 comments
Counter : 2174 Pageviews.
Share Tweet