ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 189 "ระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙"
ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 189
"ระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙"
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
ฉันเกิดในสมัยรัชกาลที่ 9
พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
ที่โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี
ครองราชย์ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 รวม 70 ปี 126 วัน เป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย
เมื่อวันพฤหัสบดี ที่13 ตุลาคม 2559 มีประกาศจากสำนักพระราชวัง
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
"สวรรคต"
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2557
ตามที่ สำนักพระราชวังได้แถลลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น
แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ
ถึงวันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช
ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี
สำนักพระราชวัง
คนไทยหัวใจสลาย เมื่อได้ทราบข่าว ในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต
๑๙.๐๐ น. นายกฯ แถลงผ่านโทรทัศน์ ถือเป็นวันวิปโยคครั้งใหญ่ของชาวไทย
ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ จะมีการเคลื่อนพระศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกจากโรงพยาบาลศิริราช ในช่วงเวลา ๑๓:๐๐ นาฬิกา เป็นต้นไป
โดยมีขบวนพระศพฯ จะเคลื่อนออกจากประตู ๘ เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่สะพานอรุณอมรินทร์ ผ่านสะพานพระปิ่นเกล้า มุ่งหน้าไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
สำนักนายกฯ ประกาศลดธงครึ่งเสา ๓๐ วัน ให้ข้าราชการ ไว้ทุกข์ ๑ ปี เริ่ม ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
๐๘.๓๐ น. ประชาชนหลั่งไหลถวายน้ำสรงพระบรมศพ
ประชาชนจำนวนมากเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม
ในพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ในแววตาของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความอาลัยให้กับองค์พระประมุขที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
๑๐.๐๐ น. ถนนทุกสายคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งสองฟากฝั่งเส้นทางเคลื่อนพระบรมศพ
ตลอดเส้นทางที่ขบวนอัญเชิญพระบรมศพจะต้องเคลื่อนผ่าน นับตั้งแต่โรงพยาบาลศิริราชไปยังพระบรมมหาราชวัง
ต่างมีประชาชนมาจับจองที่นั่งเต็มทั้งสองฟากฝั่ง เพื่อเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพ
แม้อากาศจะร้อนแต่ใจของทุกคนนั้นกลับมุ่งมั่นไม่ท้อถอย ขอเพียงให้ได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด
๑๕.๕๖ น. เริ่มเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระบรมศพ
ขบวนอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ออกจากโรงพยาบาลศิริราช สู่พระบรมมหาราชวัง
โดยรถตู้ทะเบียน ๑ด๐๙๒๙ ซึ่งรถของสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร นำขบวนอัญเชิญพระบรมศพฯ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จตามพระบรมศพ
ตลอดเส้นทาง มีกำลังพล เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวน ๒,๒๐๖ นาย ถวายการรักษาความปลอดภัย
สองข้างทางมีพสกนิกรที่มาเฝ้าสองข้างทางนับแสนคน หมอบกราบลงกับพื้น ตลอดเส้นทางของการเคลื่อนพระบรมศพออกจาก รพ.ศิริราช
เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง เสียงสะอื้นไห้ดังระงมไปพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย บ่งบอกถึงความอาลัยจากทุกดวงใจแด่ ธ ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
มีเรื่องที่ฉันอยากจะบันทึกไว้มากมาย แต่บรรยายไม่หมดจริงๆค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ที่ฉันได้เห็นภาพ คนไทยทั้งประเทศ
ร่วมมือร่วมใจกันทำทุกอย่างเพื่อ พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ผู้คนมากมายที่ท้องสนามหลวง พากันไปกราบพระบรมศพ
ยอดสักการะพระบรมศพ 337 วันรวมทั้งสิ้น 12.7 ล้านคน
ผู้คนที่ไปแจกของ แจกข้าว แจกน้ำ รับย้อมผ้าสีดำ วินมอไซด์จิตอาสา ทำดอกไม้จันทร์ ฯลฯ
ฉันเองดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้ไปกราบพระบรมศพ 1 ครั้ง ทั้งๆที่อยากไปอีกหลายๆครั้ง แต่ก็มีโอกาสเพียงเท่านี้
ฉันไปถึงประมาณ 10 โมง ช่วงก่อนเข้าวัง จะได้พักนานประมาณ 3 ชั่วโมง
ถ้าจะออกไปข้างนอก ต้องปั๊มตรา เข้าออก
จนมาถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2560
วันที่คนไทยร่ำไห้ทั่วทั้งแผ่นดินไทย ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
เพราะวันนี้เป็นวัน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รัฐบาลจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง 85 แห่งทั่วประเทศ โดยออกแบบอย่างสมพระเกียรติเช่นเดียวกับพระเมรุมาศจริง
พร้อมจัดซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ในสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ
เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ถวายดอกไม้จันทน์อย่างทั่วถึง
พระเมรุมาศจำลอง จังหวัดชลบุรี
พระเมรุมาศจำลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
ฉันตั้งใจที่จะไปถวายดอกไม้จันทร์ตั้งแต่เช้า เพราะรู้ว่าวันนี้คนต้องเยอะมากแน่นอน
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ การบริหารการจัดการยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
จุดคัดกรอง ไม่ตรวจอะไรมาก ตรวจแค่กระเป๋า
แถวค่อนข้างมั่วๆ ฉันใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ได้ขึ้นไปถวายดอกไม้จันทร์
วันนี้มีคนมาแจกรูปอีก
มีคนได้เป็นหนังสือด้วย แต่คงมีน้อย ฉันได้เป็นแผ่นพับ
ออกมาแล้วก็มารับอาหารน้ำ และแล้วฉันก็เจแตกวันนี้เอง
หน่วยบริการอาหารและน้ำ แจกกันทั้งวัน
พี่วินมอไซด์ บริการฟรี เต็มที่ทั้งวัน
รูปเมื่อปีที่แล้ว มีคนมาแจกภาพ และมีมาสกรีนเสื้อด้วย ไม่ได้ถ่ายไว้
ตอนบ่ายมีฝนตกลงมาอย่างหนัก พักใหญ่ ผู้คนพากันเปียกไปตามๆกัน
รวมทั้งหลานฉัน ทั้งสองคนเลย น้ำท่วมหน่อยๆ
ได้ข่าวว่า กรุงเทพฯฝนก็ตกเหมือนกัน
ผู้คนต่างหาที่หลบฝน มาหลบกันในวัด รวมทั้งฉันด้วย
คนที่ต่อแถวก็ยืนตากฝนกันไป ไม่สามารถออกมาหลบฝนได้
VIDEO
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก https://news.sanook.com
:อ่านแล้วซึ้งมาก :
จดหมายจากในหลวงถึงพระเทพฯ
ลูกพ่อ
ในพื้นแผ่นดินนี้ ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่ว
ถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้ว ทุกคนปรารถนาความสว่าง ปรารถนาความดีด้วยกันทุกคน
แต่ความปรารถนานั้น จักสำเร็จลงได้ จักตัองมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่างหรือความดีนั้น
ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดี นั้นก็คือ รักผู้อื่น เพราะความรักผู้อื่น สามารถแก้ปัญหาได้ทุกปัญหา
ถ้าให้โลกมีแต่ความสุขและเกิดสันติภาพ ความรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้
พ่อขอบอกลูกดังนี้….
1. ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่าเป็นเพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตาย ด้วยกัน ทั้งหมด ทั้งสิ้น ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
2. มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น ควรมองโลกจากความเป็นจริง อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
3. มีความสันโดษ คือ มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้ คือ ได้อย่างไรก็เอาอย่างนั้น ไม่ยึดติด
ขอให้คิดว่า มีก็ดี ไม่มีก็ได้ พอใจตามกำลัง คือ มีน้อยก็พอใจตามที่ได้น้อย
– ไม่เป็นอึ่งอ่างพองลม จะเกิดความเดือดร้อนในภายหลัง
– พอใจตามสมควรคือทำงาน
ให้มีความพอใจ เหมาะสมแก่งาน
– ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน
4. มีความมั่นคงแห่งจิต คือ ให้มองเห็นโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียร
และเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปราถนา ให้ภาวนาว่า มีลาภมียศ สุขทุกข์ปรากฎ สรรเสริญนินทา เสื่อมลาภเสื่อมยศ เป็นกฎธรรมดา
อย่ามัวโศกา นึกว่า”ชั่งมัน”
พ่อ ๖/๑๐/๒๕๔๗
.....................................
สมเด็จ พระเทพ รัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชปรารถทิ้งท้าย
"ฉันหวังว่า คำสอนพ่อที่ฉันได้ประมวลมานี้ จะเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน ที่ได้พบเห็น และลูกอันเป็นที่รักของพ่อทุกคน"
ฉันรัก พ่อ ฉันจัง
สิรินธร
..................................
"พระราชหัตถเลขาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ทรงมีไปถึงสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
.
เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
และสมเด็จ พระเทพ รัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำมาเผยแพร่
.
fr : Mahidol University
...............................................
Create Date : 29 ตุลาคม 2560
Last Update : 24 ธันวาคม 2566 18:08:36 น.
56 comments
Counter : 929 Pageviews.
ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์