|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
อาทิตย์ส่องจันทร์ By กนกวลี พจนปกรณ์
อาทิตย์ส่องจันทร์ By กนกวลี พจนปกรณ์
ชื่อเรื่องหวาน โปรยปกหลังยิ่งหวาน แต่พออ่านแล้ว อะโห...ดราม่าสุดๆ ค่ะ "อาทิตย์ส่องจันทร์" มาจากชื่อของพระเอก คือ "รวีวัน" กับนางเอก "ศิตางศุ์" ซึ่งแปลว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์ แน่ล่ะมันคือเรื่องของเขากับเธอ
ซึ่งเจ้าแก้วรู้สึกว่าผิดความคาดหมายไปบ้าง เพราะตอนที่ซื้อมาคนขายบอกว่า เป็นเรื่องรักหวานๆ พออ่านจริงดราม่าเข้มข้นมากค่ะ เหมาะกับคนอยากเสพดราม่า ชีวิตของตัวละครในเรื่องนี้สมจริงสมจัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงานอาชีพ จำลองมาจากชีวิตจริงของคนในอาชีพเหล่านั้นได้เลยค่ะ ตรงนี้เป็นความละเอียด ของผู้เขียนที่ข้อมูลแน่นปึ้ก ทั้งที่นางเอกทำอาชีพแอร์โฮสเตส ซึ่งในความรู้สึก คนทั่วไปแอร์ฯ ก็คือนางฟ้าแสนสวยบนเครื่องบิน ออกแนวหรูเริ่ดโปรไฟล์ดี
แต่ในเรื่องนี้ดึงเอาแง่มุมของคนในอาชีพแอร์โฮสเตสออกมา ได้เหนื่อยมาก แม้จะมีรายได้ดีแต่งานหนักไม่ใช่น้อย ต้องรับมือผู้โดยสารสารพัดรูปแบบ กินนอนไม่เป็นเวลา ต้องฝึกฝนตนให้ใจเย็นรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ลาก่อน...ภาพนางฟ้าแสนสวย ไม่มีในเรื่องนะคะ เหลือแต่สวยๆ เฉยๆ ไม่ได้เป็นนางฟ้า แต่เป็นคนทำงานบริการที่หนักเอาเรื่อง
ชีวิตนักฟุตบอลอาชีพของ "รวีวัน" ก็เช่นกัน ฝึกซ้อม กดดัน บาดเจ็บ มีปัญหากับนายทุนเจ้าของทีม มีเรื่องโมโหชกต่อยจนโดนใบเหลือง ถูกแฟนบอลที่บอลแพ้คนไม่แพ้รุมเอาก็มี หนำซ้ำยังเกือบถูกฆ่า เพราะธุรกิจฟุตบอล โอ้..นักฟุตรูปหล่อคนเท่ในนิยายพาฝันกลายเป็นเรื่องลมๆ แล้งๆ ไปเลยค่ะ
นอกจากพระ-นางแล้ว ชีวิตที่ไม่มีทางเลือกมาก หาเช้ากินค่ำ ของคนอีกคู่อย่าง "พร่างรพี" กับ "แก้วไพลิน" ก็เช่นกันค่ะ ผู้เขียนบรรยายพื้นเพที่แตกต่างของสองครอบครัว แต่เมื่อเขาและเธอรักกันมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันปัญหาที่มาจากพื้นเพบางครั้งก็แทบทำให้ความรักไปไม่รอด เมื่อคนหนึ่งอยู่ในครอบครัวที่มีความละเอียดอ่อน มีความเป็นผู้ดีในการคิดอ่านมากกว่า กับคนที่มาจากครอบครัวที่ไม่คิดอะไรเกินกว่าวันพรุ่งนี้ คิดแต่ว่าใครมีเงินมากคนนั้นต้องจ่าย ไม่จ่ายคือเห็นแก่ตัว แต่เรื่องศักดิ์ศรีไม่เคยอยู่ในความคิดของพวกเขา
เมื่อแต่งงานจึงไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนอีกต่อไป พร่างรพีกับแก้วไพลิน ต้องปรับเปลี่ยนและเติบโตไปด้วยกัน จนช่วงหนึ่งที่เจ้าแก้วนึกดูแคลนแก้วไพลินและครอบครัวของเธอไปเลยล่ะค่ะว่าช่างหยาบกระด้างชะมัด แต่คนทุกคนก็ปรับได้ ถ้าอยู่ในแวดล้อมของคนดี คนที่รู้จักการให้ มากกว่าการรับ แก้วไพลินก็เช่นกันเธอได้เรียนรู้จากแม่ของรวีวัน
เจ้าแก้วชอบตรงนี้แหละค่ะ และเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้เขียนสื่อมา คุณกนกวลีซ่อนความคมไว้ในคำพูดของตัวละคร ว่าถ้าเขามีตัวอย่างของคนที่รู้จักแบ่งปัน เขาจะเรียนรู้และปรับปรุงตัวไปเอง คนเราถ้าไม่ได้แย่จนเกินไปสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกอย่างที่จะสอนประสบการณ์ชีวิต และขัดเกลาคนเราให้เติบโตขึ้นค่ะ
ว่าเรื่องตัวละครไปแล้ว มาดูเนื้อเรื่องกันบ้างดีกว่า ศิตางศุ์กับพร่างรพีนั้นต้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เพราะความใจร้อนของผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้อารมณ์ตัดสินทุกอย่างทำให้ท่านทั้งสองต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ศิตางศุ์ที่มองเห็นเหตุการณ์นี้ต่อหน้าต่อตา ฝังใจกับภาพพ่อแม่นอนจมกองเลือดมาก แม้เวลาจะผ่านไปเท่าไรเธอก็ไม่อาจลบภาพ อันน่าสยดสยองนี้ไปจากใจได้เสียที ยิ่งเวลาเธอเครียดๆ ภาพน่ากลัวเหล่านี้จะกลับมาหลอกหลอนอยู่เสมอจนทุกคนเป็นห่วงเธอ
แต่ที่ศิตางศุ์ห่วงมากกว่าตัวเองคือพร่างรพี น้องชายวัยรุ่นที่เริ่มชีวิตคู่แบบง่ายๆ แบบคู่หนุ่มสาวที่ไม่ได้วางแผนชีวิตนัก น้องชายที่แต่งงานแล้วกลับไม่พ้นอกยังต้องพึ่งพาอาศัยเงินของเธอ แล้วยังพาน้องสะใภ้มาเป็นภาระเพิ่มขึ้นอีก
ชีวิตส่วนตัวนั้นก็เหนื่อยยากอยู่แล้ว แม้ว่าความสวยและอาชีพของเธอจะดูโก้หรูในสายตาคนอื่นก็ตามที แต่ศิตางศุ์มีใครสักคนเข้ามาดูแลหัวใจเหมือนกัน เดิมทีเธอมีหนุ่มต่างชาติแขกขาวรูปหล่อชาวตะวันออกกลางคบหาดูใจกันอยู่ แต่ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม
ทำให้เธอไม่มั่นใจในความรักนัก แล้วเหมือนฟ้าก็ส่งรวีวันเข้ามาในชีวิตเธออีกคน ชายหนุ่มหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ แต่อุปสรรคของเขามีตั้งแต่ผู้ชายอีกคนที่เป็นคู่แข่งภาระทางใจที่ศิตางศุ์แบกไว้ และเขาอาสาช่วยแบ่งปันทั้งเรื่องน้องชาย ทั้งเรื่องปมฝังใจของเธอ รวีวันทำทุกวิถีทางเพื่อให้ศิตางศุ์มองเห็นน้ำใสใจจริงของเขา แต่เมื่อเธอเริ่มมีใจ ชีวิตของรวีวันก็แขวนอยู่บนความเสี่ยง เมื่ออาชีพของเขานำพาไปสู่อันตรายได้อย่างคิดไม่ถึง
เรื่องของพวกเขาจึงวุ่นวาย พันเกลียวกันหลายซับหลายซ้อน เกิดเป็นมิติให้ตัวละครสมจริง โลกของเขาและเธอไม่ห่างไกลไปจากโลกของพวกเราเลยค่ะ ไม่ใช่แค่โลกในนิยาย มันเหมือนกับว่าเราได้รับรู้ชีวิตของใครสักคนที่เรารู้จักอยู่ห่างๆ และพยายามเอาใจช่วยเขาและเธอให้หลุดพ้นจากมรสุมชีวิต รวมทั้งปลดปล่อยตัวเองออกจากความเคียดแค้นอีกด้วยค่ะ
จะบอกว่าเป็นนิยายสะท้อนสังคม ที่มีความสมจริงสูงและ..มีความเครียดในเรื่องสูงไม่เหมาะกับผู้ที่หวังจะบริโภคน้ำตาล เรื่องนี้ไม่ใช่ขนมหวานค่ะ แต่เป็นนิยายประเภทมีสารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายสูงมากกว่าออกแนวชีวจิตค่ะ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้เขียนอยากบอกเล่า สอนคนอ่าน แต่มารูปแบบของคำพูดดีๆ ที่เพื่อนและคนรอบข้างซึ่งหวังดีต่อกันมีให้กันและกัน เห็นด้วยกับ บก.ที่เขียนว่า สอนคนอ่านโดยไม่รู้สึกว่า ยัดเยียดสอนอยู่ เพราะมาในเวลาที่เหมาะสมกับบริบทของเรื่องค่ะ
นิยายเรื่องนี้ค่อนข้างหนัก อ่านแล้วโอ้..เครียด แต่กระนั้นก็ยังกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของเจ้าแก้ว ทำให้อ่านรวดเดียวจบ แล้วฉากที่สรุปลงก็ทำให้น้ำตาคลอเมื่อสิตางศุ์เรียนรู้การได้รับจากการให้เป็นฝ่ายให้อภัยก่อน มันอิ่มค่ะ แบบว่าถอนหายใจ เฮ้อ..ในที่สุดน้า..โล่งสักที เหมือนส่งตัวละครขึ้นฝั่งสำเร็จอะไรอย่างนี้น่ะค่ะ
ถ้าเบื่อเรื่องหวานแหวว อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านเรื่องมีสาระแบบหนักๆ สักเรื่อง ลองอ่านเรื่องนี้ดูไหมล่ะคะ?
Create Date : 21 เมษายน 2555 |
|
5 comments |
Last Update : 3 มกราคม 2558 23:26:18 น. |
Counter : 1402 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กัลปังหา IP: 115.67.230.237 21 พฤศจิกายน 2555 21:33:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เบื่อนิยายที่พระเอกประกอบอาชีพนักธุรกิจจะแย่อยู่แล้ว