จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
15 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

เจ้าบ้านเจ้าเรือน By แก้วเก้า



เจ้าบ้านเจ้าเรือน
By แก้วเก้า



เล่มนี้เป็นผลงานชิ้นล่าสุดของแก้วเก้าค่ะ และแน่นอนหนาปึ้ก(ไม่เคยเห็นไม่หนา)
เชียร์กันแต่ต้นเลยว่าเรื่องนี้สนุกมาก อันว่านิยายสนุกกับนิยายไม่สนุกนั้นมันต่างกันขนาดไหน
นิยายสนุกอ่านแล้วอิ่มเอม ชื่นมื่น ชื่นชม อยากอ่านอีก นิยายไม่สนุกช่างเปลืองพลังงาน
ยิ่งถ้าทำท่าจะดีแล้วแป้กทีหลัง ระดับความหวังของคนอ่านจะดิ่งลงพร้อมจิต อ่านเสร็จ
จิตบู้บี้..เซ็งเป็ด



แต่เล่มนี้รับประกันเลยค่ะว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ตัวละครอาจจะไม่ใช่วัยรุ่น
แต่เพราะการเขียนให้เห็นโลก สิ่งรอบตัว ความนึกคิด ความแตกต่าง ไปจนถึง
การบรรลุสิ่ง ที่แม้ตัวละครเองก็ไม่คิดว่าจะเข้าใจมาก่อน เหล่านี้ทำให้เรื่องนี้
ผสมกลมกลืนอย่างเร้าใจ กระตุ้นให้คนอ่านอยากรู้อยากเห็นจนต้องอ่านไปเรื่อยๆ
แม้ขึ้นต้นเนิบๆ ตามสไตล์ผู้เขียนแต่ค่อยๆ เพิ่มความอยากรู้ให้ผู้อ่านขึ้นทุกขณะ
จนวางไม่ลง เล่มนี้เจ้าแก้วอ่านก่อนนอนกะว่าจะอ่านสักสองบท ค่าที่มันหนา
ค่อยๆ ทยอยอ่านแล้วกัน ผลปรากฏว่าดันอ่านรวดเดียวจบไม่ได้หลับได้นอน...
คนเขียนผิดนะคะ ดันเขียนสนุกเกิน



เกริ่นกันมาขนาดนี้ คาดว่าคงอยากรู้เรื่องย่อๆ ว่าเป็นยังไงนะคะ บางคนเวลารีวิว
จะไม่ชอบให้เขียนเรื่องย่อเพราะกลัวอ่านแล้วไม่ตื่นเต้น ก็นานาจิตตังค์นะคะ
แต่สำหรับเจ้าแก้ว ถ้ามีเรื่องย่อบ้าง จะทำให้เพิ่มความอยากง่ายขึ้น
และตัดสินใจได้ว่าถูกจริตเราหรือเปล่า แม้ตอนอ่านแล้วเราอาจจะคิดไม่เหมือน
บล็อคเกอร์ผู้รีวิวท่านอื่นก็ได้ค่ะ



เรื่องมันอยู่ว่า... "แพรขาว" สาววัย 29 ปี "ต้องหอบ "หนูชมพู" ลูกสาวตัวน้อย
ออกจากบ้านมาเช่าบ้านเพื่อนที่ทำงานเดียวกันอยู่ เพราะสามีลูกชายเศรษฐีนี
ของเธอเอาเด็กนั่งดริ๊งค์เข้าบ้านมาเป็นผู้ช่วยภรรยาอีกคน หนำซ้ำเธอคนนั้น
ยังอุ้มท้องมาอีกด้วย ความโกรธไม่เท่าความเสียใจ แม้ว่าหัวใจสลายแต่ความทรนง
และศักดิ์ศรีของเธอยังมีอยู่ครบถ้วน



บ้านใหม่ที่แพรขาวมาอาศัย เป็นบ้านสวนริมคลองบางกรวย ตัวบ้านนั้นยกมาจาก
บ้านเก่ากลางเขตพระนคร แล้วแยกเป็นสองเรือน เรือนใหญ่นั้นเจ้าของบ้านอยู่
ส่วนเรือนเล็กแพรขาวเช่าอยู่กับลูก แม้จะไม่ชินกับบ้านในสวนมันช่างต่างกับ
คฤหาสน์หรูของสามียิ่งนัก มิหนำซ้ำลูกสาวตัวน้อยยังทำท่าไปทักทาย "ใคร"
ที่เธอมองไม่เห็นตัวอีกด้วย แย่กว่านั้นแพรขาวถูกต้อนรับตั้งแต่คืนแรกๆ ที่มาถึง
ด้วยกลุ่มคนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามบ้าน เธอเกือบลงเรือข้ามฝั่งไปกลางดึกตามคำเชื้อเชิญ
เสียแล้ว ถ้าหากไม่มีเสียงของ "เขา" มาห้ามไว้ แพรขาวถึงมองเห็นความจริง
ว่าคนอีกฝั่งไม่ใช่คนเสียแล้ว



แล้ว "เขา" ที่หนูชมพูเรียกว่า "คุณยุง"(เด็กเรียกไม่ชัดค่ะ) เป็นใครกัน "เจ้าบ้านเจ้าเรือน"
คำตอบง่ายๆ จากเจ้าของบ้านว่า..ท่านมาดี แต่ด้วยความอยากรู้แพรขาวอัญเชิญเขา
ให้ปรากฏตัวแล้วเธอก็ได้รู้ชื่อของเขาวิญญาณท่านเจ้าบ้านชื่อ "คุณวิน"
คุณวินมิได้มาปรากฏตัวเพียงเพื่อสนองความอยากรู้ของเธอเท่านั้น แต่คุณวินต้องการ
ใครสักคนที่จะช่วยปลดปล่อยเขาออกจากบ้านหลังนี้ จากนั้นแพรขาวและคุณวิน
จึงต้องเรียนรู้ชีวิตของกันและกันอย่างลึกซึ้ง



ในขณะเดียวกันเมื่อปราศจากสามี แพรขาวยิ่งต้องทำงานพิเศษหาเงินเพิ่มขึ้น
เพื่อเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยของเธอ แล้วงานใหม่ที่เธอได้นั้นก็คือสปาที่เพิ่งก่อสร้างขึ้น
บนที่ดินร้างที่เธอเพิ่งประสบเหตุถูกกลุ่มวิญญาณล่อลวงให้ไปอยู่ด้วย แต่ "ลลิต"
เจ้าของใหม่ไม่เชื่อเรื่องผีใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่เขาเชื่อมากที่สุดคือตัวเอง และลูกปัดอาถรรพ์
ของตัวเอง ทั้งผีทั้งลูกปัดอาถรรพ์เลยวนเวียนอยู่รอบตัวแพรขาว จนยากที่หลุดพ้น
ภยันอันตรายรายล้อมเธออยู่



หางานหาเงินก็ยุ่งยากแล้ว ยังถูกอดีตสามีตามรังควานเพราะเขาและเธอยังไม่ได้หย่ากัน
อย่างเป็นทางการ ยังดีที่ "สาโรจน์" ทนายความของเขายังมีใจเป็นคุณธรรม และมองเธอ
ในแง่ดีคอยช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้เธอเป็นอย่างดี รวมไปถึงให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ
ในด้านอื่นๆ อีกด้วย สาโรจน์นั้นชื่นชมความเป็นหญิงมีศักดิ์ศรีของเธอ จนมองข้ามความเป็น
แม่ม่ายไปเสียด้วยซ้ำ แต่ในใจของแพรขาวยังไม่พร้อมเปิดรับให้ใคร และเวลานี้
คนที่เธอเปิดใจให้มากที่สุดกลับกลายเป็น "คุณวิน" ท่านเจ้าบ้านเจ้าเรือนไปเสียอีก



แพรขาวไม่แน่ใจว่าเธอมองคุณวินอย่างไร ในฐานะผู้มีพระคุณแน่นอนเขามีบุญคุณกับเธอ
และลูกนักหากไม่มีเขาเธออาจจะตายไปแล้ว แต่ในฐานะผู้ชายหลังจากฟังประวัติคุณวินแล้ว
ก็ต้องส่ายหน้าทำไปได้อย่างไร เจ้าชู้สาหัสสากันมีภรรยาพร้อมกันสามบ้าน สับหลีกเป็นรางรถไฟ
แน่ล่ะแพรขาวตำหนิเขา จนคุณวินถามว่าจะฟังต่อไหม นั่นแหละแพรขาวถึงได้รู้ตัวว่า
เธอมีความอยากรู้อยากเห็นในชีวิตของเขา จนลืมเลือนความทุกข์ของตัวเองไปเลยด้วยซ้ำ



ในยามมีชีวิตอยู่คุณวินเป็นหนุ่มรูปงามและเปี่ยมเสน่ห์อย่างร้ายกาจ จนเป็นที่หมายปอง
ของหญิงทั่วพระนคร แต่มีทั้งด้านดีแสนดีและด้านใจร้ายอย่างคาดไม่ถึง เมื่อเขาแสดงความกตัญญู
ต่อมารดาทุกอย่างแม้กระทั่งยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนเองไม่ได้รัก จึงต้องหาทางออกด้วยการ
มีหญิงอื่นทั้งหญิงด้อยฐานะที่ช่างเอาใจ แบบที่ผู้ชายนิยมอย่าง"บัวน้อย" หรือหญิงที่เขาหลงเสน่ห์
"มาลาตี" หญิงสาวที่มีปัญหาเรื่องมรดกกับพี่สาวซึ่งเป็นลูกเมียเอก ด้วยความสงสารจึงกลายเป็น
ความรักเข้า และยิ่งรักมาลาตีก็ยิ่งเมินเฉยเย็นชากับ "สีนวล" เมียแต่งเท่านั้น



เรื่องนี้ตีแผ่นสันดานผู้ชายก็ว่าได้ค่ะ จะว่าในแง่มุมของจิตวิทยาหน่อยๆ ก็ว่าได้ค่ะ
คุณวินเองมีพ่อเจ้าชู้และทอดทิ้งแม่ไปมียกย่องน้าสาวขึ้นออกหน้าออกตา เหล่านี้
ทำให้คุณวินสาบานกับตนเองว่าจะไม่ทำให้แม่เสียใจเป็นอันขาด เมื่อแม่อยากให้แต่งงาน
เขาก็แต่ง เมื่อแม่อยากให้มีลูกเขาก็มี โดยที่มองข้ามหัวจิตหัวใจภรรยาไปเสียหมด
หญิงเดียวที่คุณวินยกย่องคงมีแต่แม่เท่านั้นล่ะค่ะ นอกนั้นเขามองไม่เห็นหัวใจใคร
แล้วก็โดนผู้หญิงอีกหลายคนมองเห็นแต่การเอาตัวรอด เมื่อคุณวินห่างเหินเธอเหล่านั้น
ก็มองเห็นแต่เงินของเขา



คุณวินนอกจากเย็นชาแล้วแทบจะไม่ได้อยู่กับภรรยาเลย ข้างสีนวลก็อดทนหวังว่า
เขาจะมองเห็นความดีของเธอ กลับกลายเป็นว่าอึดอัดกันเข้าไปใหญ่ เมื่อหย่ากันแล้ว
คุณวินยกสมบัติทั้งหมดให้สีนวลเป็นการขอโทษ แต่ทว่า...มีอีกหลายเรื่องที่คุณวินไม่รู้
เมื่อสีนวลถูกภรรยาอีกคนของคุณวินหลอกเอาเงินไปจนเธอไม่เหลืออะไร นั่นยิ่งทำให้
สีนวลเจ็บแค้นตายตาไม่หลับ เธอจึงสาปแช่งคุณวินให้ติดอยู่ในบ้านหลังนี้นั่นเองค่ะ



ในส่วนของคุณวินผู้เขียนพูดถึงการปรับตัวเมื่อหลังแต่งงาน ไม่ใช่มีแต่ความดีอย่างทื่อๆ
ไร้การปรุงแต่งความหวานระหว่างกัน รวมทั้งความรู้สึกที่มีกิเลสเป็นตัวตั้งอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้
และยากที่จะแก้ไขอีกด้วยค่ะ ในเรื่องเล่าของคุณวินไม่ได้บรรจุไว้แค่ชีวิตรักของชายเจ้าอยู่
หากเพิ่มเติมเข้าไปด้วยมารยาหญิงหลายรูปแบบ ผู้ชายที่ว่าฉลาดนักหนาเสียท่าเอาง่ายๆ
ก็ด้วยจริตมารยาหญิงนี่ล่ะค่ะแล้วการหักเหลี่ยมเฉือนคมทางกฏหมาย การปะทะคารมณ์
ระหว่างผู้หญิงซึ่งได้ชื่อว่ามีสามีคนเดียวกัน



สรุปว่าอ่านแล้วหลากหลายอารมณ์มาก เข้มข้นเร่งเร้า โครงเรื่องใหญ่ละเอียดมีมิติ
เชื่อมเข้าหากันอย่างกลมกลืน เรียกว่าเอาเรื่องสองเรื่องสองยุคสมัยมารวมกันอยู่ในเรื่องเดียว
แล้วทำให้กลืนกันได้เสียด้วยสิคะ เพราะผู้เขียนคุมโทนเรื่องอยู่อย่างนักเขียนฝีมือเจนจัด
มากประสบการณ์ หาไม่งั้นแล้วอารมณ์อาจจะแตกเป็นสองอารมณ์แล้วทำคนอ่านมู๊ดดี้
เพราะเรื่องมันไม่กลืนกันได้



สรุปสั้นๆ ง่ายๆ ค่ะ เรื่องนี้สนุกมากกก..ก ตัวละครมีทั้งด้านดีด้านเลว แต่สุดท้าย
เขาและเธอก็เลือกด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้ผู้อ่านเอาใจช่วยได้สมกับเป็นตัวเอก
นางเอกก็สมเป็นนางเอกมีเสน่ห์ในตัวเอง ไม่ใช่แรงเรี่ยราดไร้กาลเทศะด้วยนะคะ
เธอเป็นตัวของตัวเองดีมีทั้งด้านอ่อนด้านแข็ง แบบนี้แหละที่ทำให้หนุ่มพัวพันหลายนาย
ทั้งสามีเก่า ทั้งเจ้านาย ทั้งทนาย ทั้งผี ชื่นชมเธอทั้งนั้น แถมตอนจบ...จบแบบเอาใจ
คนอ่านด้วยนะคะ (ไม่บอกค่ะสปอล์ยไม่ได้) อิ อิ ทั้งที่จริงไม่ต้องจบแบบนี้ก็ได้
แต่เพื่อให้สมอารมณ์นวนิยายกระมังคะ ระดับความดราม่าเท่านิยายชีวิตในนามปากกา
ว.วินิจฉัยกุล และคงความแฟนตาซีตามสไตล์นิยายลึกลับแนวแก้วเก้า ทำให้โทนเรื่อง
ทันสมัยค่ะ



ถ้าจะให้ติ...ไม่เชิงตินะคะ แต่อยากให้เพิ่มเติมมากกว่า เพราะบทมาลาตีสามารถเขียนให้
น่าตบกว่านี้ได้ค่ะ อารมณ์ปะทะกันระหว่างผู้หญิง เลยไม่น่าหมั่นไส้เท่าเรื่องมาลัยสามชาย
(ผู้เขียนเดียวกัน) ระหว่างลอออรกับทองไพรำค่ะ



เขียนมาตั้งยาว...สรุปว่าต้องอ่านเองค่ะ เล่าแค่นี้ก็เรื่องเยอะแล้ว เชื่อเถอะว่าไม่เสียเวลาเปล่า
อาจจะเป็นอีกเล่มของแก้วเก้าที่อยู่ในใจคุณค่ะ







 

Create Date : 15 เมษายน 2555
11 comments
Last Update : 3 มกราคม 2558 23:26:05 น.
Counter : 940 Pageviews.

 

ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ชื่นชอบคุณไรวินท์เท่าไหร่ เห็นตัวอย่างแม่ว่าช้ำใจแค่ไหน ยังเอาอย่างพ่ออีก สงสารสีนวลมากน่ะ

เรื่องมาลาตี ก็กรรมสนองคุณไรวินท์นั่นแหละ

ชอบผลงานของคุณหญิงและติดตาม สอยมาสะสมอยู่ เรื่องนี้ชอบมากกว่าช่อมะลิลานิดนึงค่ะ

ตอนนี้รอเรื่องสื่อสองโลกที่ลงในสกุลไทย ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะต้องรอถึงงานหนังสือปีหน้าหรือเปล่า

 

โดย: ข้าวปั้น IP: 122.111.3.193 15 เมษายน 2555 4:40:31 น.  

 

กำลังตั้งหน้าตั้งตาคอยเพื่อนซื้อเรื่องนี้มาให้จากเมืองไทยค่ะ ตอนนี้แทบลงแดงแล้ว ยิ่งมาอ่านเรื่องย่อของคุณแก้วอาการยิ่งหนักเข้าไปทุกที

 

โดย: กุลธิดา IP: 74.248.224.207 15 เมษายน 2555 10:11:59 น.  

 

รอคิวยืมที่หอสมุดกลางครับ อิอิ
อยากอ่านเหมือนกัน

 

โดย: Boyne Byron 15 เมษายน 2555 12:54:31 น.  

 

อยากอ่าน แต่ยังไม่ได้อ่านเลย

 

โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ 15 เมษายน 2555 14:06:39 น.  

 

อ่านแล้วสงสัยค่ะ ด.ช. ท้อป (ลูกชายของดิว) หายไปไหนคะ

 

โดย: นางซิน IP: 1.46.222.154 15 เมษายน 2555 16:13:20 น.  

 

ข้าวปั้น : อาจารย์ขยันนะคะ เขียนเร็ว มีวินัย แถมสนุกด้วย

กุลธิดา : รอคุณไก่อ่านจบแล้วมาเม้าท์กันดีกว่า

Boyne Byron : คงคิวยาวล่ะค่ะเรื่องนี้

พุดน้ำบุศย์ : เชียร์ให้อ่านค่ะคุณพุด

นางซิน : นั่นสิคะ ไม่ได้กล่าวถึงอีกเลย แต่คิดว่าคุณย่าคงไม่เอาแหงๆ เลยตัดบทไป แอบอยากรู้เหมือนกันค่ะ

 

โดย: แก้วกังไส 17 เมษายน 2555 2:41:13 น.  

 

ของแก้วเก้าเนี่ย
ว่าจะซื้อ ว่าจะซื้อหลายทีแระ
แต่ก็ไม่ได้ซื้อซะที

 

โดย: หัวใจสีชมพู 17 เมษายน 2555 8:27:23 น.  

 

รีวิวซะอยากอ่านเลยค่ะ น่าสนใจๆ แต่ช่วงนี้แพ้ความหนานะสิคะ รู้สึกว่าความเร็วในการอ่านลดลง

 

โดย: หมูย้อมสี 17 เมษายน 2555 10:53:21 น.  

 

เพิ่งอ่านช่อมะลิลาจบไปค่ะ เล่มนี้คงเป็นคิวต่อ ๆ ไป

คุณเจ้าแก้วรีวิวซะอยากจะไปหามาอ่านเดี๋ยวนี้เลย หุหุ

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานของนักเขียนท่านนี้ รับรองไม่พลาดแน่นอนค่ะ

 

โดย: แม่ไก่ 17 เมษายน 2555 11:31:27 น.  

 

เคยอ่านเมื่อครั้งลงเป็นตอน ๆ ในสกุลไทยอะค่ะ แต่...ไม่ได้ติดตามจนจบ ตอนนี้กำลังเก็บเงินเพื่อคว้ามาครอบครองอยู่ค่ะ

 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา 17 เมษายน 2555 16:23:27 น.  

 

หัวใจสีชมพู : ลองอ่านดูนะคะ น่าจะชอบ

หมูย้อมสี : หนาจริงๆ นั่นแหละค่ะ แต่อ่านแป๊บเดียวจบ เพลิน

แม่ไก่ : นักเขียนมีประสบการณ์ เลยเขียนได้มีมิติ อ่านแล้วไม่ผิดหวัง

หวานเย็นผสมโซดา : ไม่ควรพลาดเล่มนี้ขอบอก

 

โดย: แก้วกังไส 19 เมษายน 2555 2:00:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.