จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
มายาไฟในดวงตา/มนตรามุกจันทรา/ม่านธาราเร้นดาว



นิยายชุด มนตราอัญมณี

นิยายยุคนี้นิยมทำเป็นชุด สิ่งหนึ่งที่นิยายชุดดึงดูดใจก็คือความสววยงามเข้ากันของปกค่ะ
มันจะพิเศษกว่าเล่มอื่นๆ ปกสวยวางเรียงก็ดึงดูดคน
เจ้าแก้วเองก็เป็นพวกแพ้แพ็คเกตเช่นกันค่ะ ไปหลงรักปกชุด "มนตราอัญมณี"
ปกสวยมาก ถ้าออกนิยายก็อยากได้ปกแบบนี้เหมือนกัน(ดิ้นๆ)
งั้นขอให้เครดิตคนทำปกก่อนะคะ "ดวงหทัย มิตตอุทิศชัยกุล" (มีชื่ออยู่หลังปกด้วย)
ขอชมไว้ตรงนี้เลยนะคะ สวยมากค่ะ Smiley



ชื่นชมปกเสร็จแล้ว กลับมาสู่เนื้อหานิยายกันบ้าง นิยายชุดนี้แต่ละเรื่องชื่อยาวมากค่ะ
งั้นเวลาเล่าจะขอเรียกย่อๆ นะคะ 3 เรื่องประกอบด้วย มายาไฟในดวงตา โดย อสิตา,
มนตรามุกจันทรา โดย ริญจน์ธร และ เล่มสุดท้าย ม่านธาราเร้นดาว โดย บุลินทร
ทั้งสามเรื่องนี้มีโครงหลักร่วมกัน โดยสามสาวพี่น้อง มัชฌิตา มุกดา และ มาริณ
เชื่อมกันที่อัญมณีที่ได้รับมาเป็นมรดก เปลี่ยนวิถีชีวิตของแต่ละคน และแน่นอน
ว่านำพาไปสู่คู่ชีวิตอันแท้จริงอีกด้วย


แล้วผู้ที่มอบอัญมณีให้ก็คือ "อมินตา" คุณย่าของสามสาวนั่นเอง ให้ไว้เป็นมรดก
หลังเสียชีวิต อมินตาเป็นสาวยิปซีที่ได้มาแต่งงานกับหนุ่มไทยคือคุณปู่ คุณย่า
มีอาชีพหมอดู เรียกได้ว่าทำนายแม่นเหมือนจับวางชนิดค่าดูเป็นล้านเลยค่ะ
และยังสะสมอัญมณีอีกหลายชนิด สำหรับคุณย่าอัญมณีไม่ใช่แค่ของสวยงาม
แต่อัญมณีแต่ละชิ้นมีพลัง


แล้วอมินตารู้ล่วงหน้าว่าตัวเองจะตายเมื่อไร จึงสั่งเสียหลานสาวเอาไว้ ที่น่าแปลกคือ
การเสียชีวิตของเธอ ซึ่งแค่นอนหลับไปเฉยๆแต่ไม่มีลมหายใจ แถมยังไม่เน่าไม่เปื่อย
คุณย่าสั่งไว้ว่าห้ามนำศพเธอออกนอกบ้านเด็ดขาด ไม่ต้องทำพิธีอะไรทั้งนั้น เก็บไว้ใน
ห้องนอนอย่างเดิมก็พอ เมื่อดังนั้นหลานสาวก็ทำตาม แล้วพากันแยกย้ายไปตามทาง
ในชีวิตของตัวเอง



มายาไฟในดวงตา
By อสิตา


"มัชฌิตา หรือ มิ้งค์" หลานสาวคนโต เธอเป็นคนที่มีใบหน้าเหมือนย่าอมินตาตอนสาวๆ
ที่สุด และเป็นคนที่มีพลังในรับรู้มากกว่าใคร แต่มัชฌิตาไม่ถูกกับย่า เธอฝังใจเรื่อง
คุณย่ารังเกียจสะใภ้แถมพรากพ่อไปจากเธอ จนหลายปีต่อมาพ่อเสียชีวิตโดยไม่มี
โอกาสได้พบกันอีก ต่อมาเมื่อแม่ตายคุณย่าจึงรับหลานทั้งสามคนไปอุปการะ
มัชฌิตาเก็บความขมขื่นนี้ไว้ เกิดเป็นอคติต่อคุณย่า


ดังนั้นเมื่อได้รับมรดกเป็นแหวนหัวพลอย 3 วง ด้วยจิตสัมผัสเธอรู้ว่าพลอยทั้งสามเม็ด
มีพลัง และจะนำความยุ่งยากมาสู่พวกเธอ 3 พี่น้อง จึงวางแผนเอาพลอยของตนเอง
และน้องสาวไปหาที่เก็บมันไว้ชั่วนิรันดร์ แต่เธอหลอกเอาแหวนมูนสโตนจากน้องสาว
คนกลางมาไม่ได้ จึงได้แต่นำแหวนอะความารีนของน้องคนเล็กไปขาย(เพราะเธอไม่ใช่
เจ้าของจึงนำพลอยไปไม่ได้ไกลบวกกับกระเป๋าสตางค์หาย เลยตัดสินใจขายทิ้งน่ะค่ะ)
และนำพลอยตาเสือที่บรรจุพลังอำนาจแห่งไฟเดินทางไปสู่ดงพญาไฟ



อ่านเสร็จแล้วก็ลองหาแหวนในเรื่องมาดูค่ะ ว่าแล้วก็แปะประกอบรีวิวด้วยเลยแล้วกันเนอะ


ระหว่างเดินทางมัชฌิตา พบกับ "ชามัล เมห์ฮรา" ชายหนุ่มรูปงามผู้สืบเชื้อสายมาจาก
ตระกูลเก่าแก่ทางอินเดีย ชามัลมีพลอยตาเสือชนิดเดียวกับที่มัชฌิตาถือครอง
พลอยของเขาเรียกมันว่า "พลอยราชัน" ส่วนพลอยของเธอ คือ "พลอยราชินี"
ซึ่งเป็นคู่กัน ชามัลต้องการครอบครองพลอยทั้งสองเม็ด รวมไปถึงสาวสวย
เจ้าของมันด้วย


มัชฌิตาเกือบจะหลงรักชามัลอยู่แล้ว ถ้าหากเธอไม่พบพญาสมิงในพลอยราชันเสียก่อน
พญาสมิง "อัคนิวรา" ผู้ดุดันเกรี้ยวกราดและทรงพลังถูกกักขังอยู่ในพลอยราชัน
จำใจต้องรับใช้ผู้ถือพลอย อัคนิวราถูกใช้ให้ไปทำลายหญิงสาว แต่เขาพบว่า
รสจูบของเธอมอบลมปราณที่จะขจัดความหิวโหยของเขาได้ ตั้งแต่นั้นพญาสมิงเลย
กลายเป็นแมวตัวใหญ่ของมัชฌิมา เจ้าแก้วรู้สึว่าผู้เขียนชอบตอนที่อัคนิวราเป็นเสือ
มากกว่าเป็นคนเสียอีกค่ะ เดี๋ยวก็เหมียวๆ ขยำหน่อย นึกภาพผู้ชายตัวโตเซ็กซี่สูง 2 เมตร
ถูกเรียกเหมียวๆ สิคะ Smiley


แล้วการผจญภัยของมัชฌิตาก็เริ่มขึ้น มีทั้งศัตรูที่ชวนให้เสน่หา ทั้งคนที่ปองร้าย
หมายชิงพลอยราชินีไปจากเธอ ใครจะรอด ใครเป็นพระเอก ใครจะกินตับใคร(!?)
ต้องอ่านเองนะคะ


เล่มนี้เป็นแฟนตาซี ผจญภัย บู๊หน่อย แต่ไม่ได้ถึงขนาดบู๊แบบนิยายผู้ชาย
มีบทอีโรติกบ้าง ออกแนวหนังฝรั่งค่ะ แต่อ่อนหวานไปหน่อย ระหว่างรู้สึกว่า
ขาดน้ำตาล และนางเอกขาดจริตค่ะ ถึงจะบรรยายว่าเธอเป็นคนสวยมาก
แต่เธอไม่ได้ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเธอสวย เหมือนสาวห้าวที่ตรงไปตรงมากกว่าน่ะค่ะ
ยกตัวอย่างเช่นตอนที่มัชฌิตา โทรไปหาชามัล แล้วถามว่า "คุณเหมือนจะชอบฉัน?"
สาวสวยมักหลงตัวเองค่ะ ไม่ต้องถามเผื่อหน้าแตกหรอกค่ะ มันทำให้รู้สึกว่า
เธอไม่ค่อยมีคนมาจีบน่ะค่ะ หรืออาจจะเพราะความห้าวของเธอ


จุดติอีกหน่อยคือขาดการบรรยายความรู้สึกของตัวละคร บางทีเลยงงอย่างเช่น
ตัวละครชื่อชนะทัศน์ อยู่ดีๆ ก็ช่วยนางเอก ถ้าเพิ่มคำบรรยายสักประโยคสองประโยค
ประเภทว่านัยน์ตาที่เขามองเธอมีแววประหลาด บ่งบอกเจ้าของดวงตากำลังคิด
บางสิ่ง แล้วค่อยช่วยมันจะเชื่อมอารมณ์ได้มากกว่าน่ะค่ะ จุดนี้มีปุบปับแบบนี้
หลายที่อ่านแล้วเลยรู้สึกไปเร็วไปหน่อยค่ะ


แล้วก็...ทั้งเล่ม มีคำว่า ณ ที่นั่นที่นี่ เยอะ ประมาณ 8 ที่ อดคิดว่าบรรยายไปเลย
ดีกว่าไหม มันจะ ณ อะไรเยอะแยะ


จุดน่ารักมากๆ...ตอนนางเอกเล่นกับเสือนั่นแหละค่ะ อุ๊งอิ๊งน่าดู ยิ่งตอนที่ไปง้อพระเอก
พระเอกก็โฮกกกกกกกกกกกกกก ด่าๆๆๆๆๆ โฮกกกกกกกกกก มัชฌิตาก็...
เหมียวๆ หันมาหน่อยสิ นะๆๆ เดี๋ยวเกาหูให้ อะไรแบบนี้น่ะค่ะ มันขำ น่าเอ็นดู
แล้วเวลาที่นางเอกง้อพระเอกนี่ทุ่มสุดตัวเลยค่ะ


สำหรับผู้เขียนเจ้าแก้วไม่ค่อยคิดมากในการจะอ่านเรื่องนี้ เพราะว่าติดใจมาจาก "มายากรแห่งรัก"
เลยพอจะเดาได้ว่าต้องเป็นแฟนตาซี แล้วก็ใช่ค่ะแต่มันออกแนวผจญภัยมากกว่า
กับนางเอกแสนสวยแต่ห้าวและบ้าดีเดือด เล่มนี้มีบทรัก มีบทอีโรติก
แต่ฟิลอารมณ์จะเป็นร้อนแรงไม่อ่อนหวาน เคยดูสารคดีเสือรักกันไหมคะ มันจะเริ่มด้วย
ตีกันก่อนจะจูบุ๊จูบุ๊กัน  Smiley ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ สาวดุกับหนุ่มดุกว่า


จุดเด่นอยู่ที่พล็อตเรื่อง และคาแรคเตอร์แม้จะมีตัวละครหลักแค่ไม่กี่ตัว
แต่ตัวละครทรงพลังยืนพื้นได้ด้วยตัวเอง มีความชัดเจนในคาแรคเตอร์
ไม่แบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาค่ะต้นเรื่องอย่างท้ายเรื่องอย่างเหมือนบางเรื่อง
เอาเป็นว่า ถ้าชอบแฟนตาซี ผจญภัย ที่เป็นผจญภัยจริงๆ ไม่ใช่แค่แบ็คกกราวด์
อันเลือนราง ให้พระเอกนางเอกได้รักกัน ประเภทเจองูหนึ่งตัวกระโดดเข้ากอดกัน
ถ้าเบื่อนิยาย(จุ๋ม)จิ๋ม แนะนำเล่มนี้ค่ะ


Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley



มนตรามุกจันทรา
By ริญจน์ธร

เล่มต่อมา "มนตรามุกจันทรา" เล่มนี้เป็นของหลานสาวคนกลาง "มุกดา หรือ มูน"
สาวหวาน ใส และเรียบร้อยที่สามพี่น้องค่ะ มุกดาได้รับแหวนมูนสโตน
เป็นมรดก แหวนวงนี้ไม่ใช่แหวนโบราณเก่าแก่เหมือนที่พี่สาวได้รับ แต่เป็นแหวน
ที่ย่าอมินตาเรียกเป็นค่าดูหมอจากลูกค้ารายหนึ่ง มุกดาไม่ใช่คนมีเซ้นต์แรง
อย่างพี่สาว ชีวิตจึงไม่โลดโผนเท่า แต่ก็มีเหตุลึกลับเข้ามาจนได้




ตั้งแต่ได้รับแหวนวงนี้มา มุกดาได้ยินเสียงของวิญญาณ ยิ่งถ้าดวงจันทร์เต็มดวง
มูนสโตนที่สวมใส่จะยิ่งมีพลังมากขึ้นทำให้เธอมองเห็นวิญญาณได้ แล้วด้วยความ
เป็นคนขี้สงสาร เลยเผลอเก็บผีเด็กมาเลี้ยง "สิตางคุ์" เป็นวิญญาณความจำเสื่อม
จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงตาย จำได้เพียงชื่อตัวเองเท่านั้น


พอหลังจากเก็บผีเด็กมาได้หนึ่งตน สิตางศุ์ก็ไปพาผีเพื่อนมาวิ่งเล่นในบ้าน
ชื่อกะทิ ผีกะทิก็ไปเก็บป้าชื่อมณีศรมาอีกคน ผีเริ่มล้นบ้าน Smiley


ระหว่างนั้นนางเอกก็ทำกิจการรับทำพล็อบงานแต่งงาน โดยขายงานทางอินเตอร์เน็ต
ทีนี้พ่อพระเอกเรา "วาริท" ซึ่งเคยเจอกันโดยบังเอิญที่วัด คราวนั้นต่างคนได้แต่มองกัน
เงียบๆ เพราะไม่รู้จักกัน พอมาเจอกันอีกทีหัวใจก็พองโต พอดีน้องสาวของวาริท กำลัง
จะแต่งงาน พ่อคุณเลยสบโอกาสจ้างมุกดาทำพล็อบแทนออแกนไนซ์เจ้าเก่า
ที่ทำแล้วไม่ถูกใจคู่บ่าว


ตรงนี้เจ้าแก้วแปลกใจเพราะว่าครอบครัวพระเอกรวยระดับมหาเศรษฐี
ถ้าจะแต่งงานออแกนไนซ์ที่จ้างมา กลับไม่มีความเป็นมืออาชีพ ปกติน่าจะครบวงจร
คือเป็นแพลนเนอร์วางแผนจัดงานแต่ง ตกแต่งสถานที่ เตรียมช่างกล้องและทุกอย่างให้
เบ็ดเสร็จ แต่นี่ไม่มีให้กระทั่งช่างแต่งหน้าต้องให้นางเอกเป็นคนแนะนำให้ ส่วนงาน
ที่บ่าวสาวไม่ชอบก็ไม่ได้ขอโอกาสทำใหม่ และคนจ้างก็ไม่ได้ให้นางเอกคอนแทกซ์
กับออแกนไนซ์ด้วย ปกติถ้าจ้างเป็นส่วนๆ ก็ต้องดิวงานกัน มันเลยรู้สึกว่าไม่ค่อย
สมฐานะตัวละครเท่าไร


จากนั้นก็เข้าพัวพันกับการตามหาคนให้ผี จนเกือบเน่าไปสองรอบ ซึ่งเธอค่อนข้างจะ..
ขาดความรอบครอบ เสี่ยงเกือบซวยไปรอบหนึ่งรอบสองก็ยัง ไปคนเดียวให้ซวยซ้ำ
ซวยซ้อน ไม่สมเป็นน้องมัชฌิตาเลยรายนั้นขี้ระแวง ส่วนมุกดานั้นโลกสวยไม่ระแวง
อะไรเลย โชคดีที่รอดได้และมีพระเอกคอยดูแล


เนื้อเรื่องเล่มนี้ไม่ค่อยซับซ้อนค่ะ พระเอกนางเอกหลงรักกันแต่แรกไม่ต้องลุ้น
ตัวร้ายก็คือตัวร้ายไม่ปิดบัง ก็พยายามแย่งพระเอกตามสูตรแต่ว่าพระเอกเราไม่เล่นด้วย
ส่วนนางเอกแม้ขี้งอนแต่ไม่หูเบา


ทางด้านพล็อตเรื่องเจ้าแก้วชอบนะคะ มีโครงสร้างที่ดีแต่...อารมณ์มันไม่พีค
สำหรับเรื่องลึกลับความตื่นเต้นสำคัญ มีฉากที่ลุ้นอยู่หลายฉาก แต่สถานการณ์
คลี่คลายง่ายไปหน่อยก็เลยไม่ลุ้น อย่างฉากที่พระเอกต้องถอดจิตไปตามหานางเอก
พอทำสองรอบมันก็เลยไม่ตื่นเต้นน่ะค่ะ ถ้าบิ้วท์ซีนที่ตื่นเต้นหน่อยก็ดีค่ะ
ปมของเรื่องที่ควรซับซ้อนก็เลยคลายง่ายกว่าที่คิด


ถ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องลึกลับไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ เป็นเรื่องรักที่ไม่ใช่โทนไม่ได้หวาน
แต่ผู้เขียนเล่าได้หวาน โดยมีความลึกลับเป็นแบ็คกราวด์


แต่สำหรับจุดเด่นของเรื่องนี้คือสำนวนเล่าเรื่องของผู้เขียน บอกตรงๆไม่เคยอ่านนิยาย
ที่ไม่ได้มีฉากหวานอะไร แต่ผู้เขียนสามารถทำให้รู้สึกว่าหวานละมุนได้แบบนี้เลยค่ะ
เป็นความสามารถพิเศษที่เลียนแบบกันไม่ได้ จุดเด่นอันนี้เป็นสิ่งดีที่ผู้เขียนควรรักษาไว้
แต่ถ้าเพิ่มอารมณ์ เร่งเร้า ขึ้นได้ แม้ปมเล็กๆ มันก็จะซับซ้อนขึ้นเองค่ะ


หลังอ่านจบเกิดอยากเอาเล่มแรกกับเล่มนี้มาเขย่ารวมกัน มันคงพอดีเพราะมีสิ่ง
ที่แต่ละฝ่ายขาด ถ้ารวมกันได้เลิศแน่ค่ะ


สรุป ถ้าอยากอ่านอะไรหวานๆ เบาๆ ชิลๆ สบายใจไปกับสำนวนนุ่มนวล ภาษาสละสลวย
ไม่ขัดหูขัดตา ก็เล่มนี้เลยค่ะ


ปล.หลังอ่านนึกอยากให้ผู้เขียน ลองเขียนเรื่องรักหวานๆ แบบนิยายย้อนยุค
พล็อตน้ำเน่านางเอกโดนรังแกเยอะ แต่ฉันก็สู้คนนะ อะไรแบบนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
บางทีอาจจะได้เห็น เหลี่ยมน้ำตาล ลายน้ำเชื่อม คงฟินเหมือนตอน
ได้กินไอศครีมหน้าร้อนก็เป็นได้ค่ะ


ปล2.คนรับใช้ที่นางเอกเพิ่งจ้างมาจิตแข็งมาก มีศพอยู่ในบ้านไม่กลัวด้วย
เป็นคนใช้บ้านอื่นหนีไปตั้งแต่สามวันแรกแล้วค่ะ Smiley


Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley



ม่านธาราเร้นดาว
By บุลินทร


เล่มสุดท้าย "ม่านธาราเร้นดาว" เป็นเล่มที่มีการอินโทรที่มาที่ไปของเรื่อง
ได้เป็นมิตรกับคนที่ยังไม่เคยอ่านสองเรื่องก่อนหน้านี้มากที่สุดค่ะ ในขณะที่สองเล่มบน
บอกกันนิดๆ หน่อยๆ เลยให้คะแนนอินโทรเล่มนี้มากกว่าเล่มอื่นค่ะ





เล่มนี้เป็นของน้องนุชสุดท้องในสามพี่น้อง"มาริณ หรือ มีน" ค่ะ มาริณได้แหวนอะความารีน
เป็นมรดก แต่มรดกของเธอกลับถูกมัชฌิตาพี่สาวขายต่อไปก่อนจะถึงมือเธอ
มิหน้ำซ้ำยังถูกตามทวงอัญมณีชิ้นนี้คืนจากผู้ชายกวนประสาทอย่าง "ชลธิศ"
ซึ่งอ้างว่าแหวนวงนี้ไม่ใช่ของตระกูลหล่อน มาริณไม่ถูกชะตากับเขา ออกจะรำคาญ
ด้วยซ้ำแม้ว่าเขาจะหล่อก็เถอะ แถมไม่ว่าเธอไปที่ไหนก็มักจะเจอตานี่อยู่เรื่อย


จนกระทั่งมาริณไปเห็นว่าอะความารีนที่ควรจะเป็นของเธอ ไปอยู่กับนางแบบชื่อ
"ภัคกัญญา" ซึ่งเป็นแฟนของนักออกแบบเครื่องประดับมือทอง "ภพธร" มาริณ
เป็นแฟนผลงานของภพธรมานาน จึงพยายามขอสัมภาษณ์ในฐานะนักข่าว
ซึ่งปกติแล้วภพธรมักทำตัวลึกลับ ไม่ให้สัมภาษณ์ง่ายๆ แต่กลับมาริณเขาอนุญาต
หนำซ้ำยังชวนเธอไปพักที่สวนกล้วยไม้ของเขา เพื่อจะให้สัมภาษณ์อีกด้วย
มาริณแสนจะดีใจรีบตอบรับทันที โดยไม่รู้ว่าภพธรก็ต้องการบางสิ่งจากเธอเช่นกัน
ในเมื่อเขาไม่สามารถดึงพลังจากจากอะความารีณเม็ดนั้นได้ด้วยตัวเอง เพราะมัน
ไม่ยอมรับเขาเป็นเจ้าของ


ระหว่างที่พักอยู่ที่ไร่กล้วยไม้เจอเรื่องประหลาดคนงานตายไร้สาเหตุ จนเล่าลือกันว่า
ที่นี่เจ้าที่ดุมักจะเอาคนบ่อยๆ แล้วในวันเดียวกันนั้นก็มีคนงานใหม่เข้ามาสมัครงาน
มาริณว่าคุ้นๆตาอยู่ ในที่สุดก็รู้ว่าเป็นคู่อริของเธอนั่นเอง


ความลับของภพธรในไร่กล้วยไม้ ค่อยๆ เปิดเผยขึ้นทุกขณะ ในขณะที่มาริณตกอยู่
ห้วงของภยันตราย แต่ยังจิกกัดกับชลธิศไม่เลิก เจ้าแก้วชอบพล็อตนะคะ พล็อตเรื่อง
ดึงดูดความสนใจได้มาก วิธีการนำเสนออ่านไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนดูละครโทรทัศน์
เพราะดำเนินไปค่อนข้างเร็ว พระเอกนางเอกเถียงกันจิ๊กจั๊กไปตลอดเรื่อง ก่อนจะตกอยู่ใน
สถานการณ์ร่วมกันนำไปสู่ความความเห็นอกเห็นใจ และกลายเป็นความรักไปในที่สุด


ส่วนหลังของเรื่องเป็นส่วนที่ไม่ควรสปอยล์ค่ะ ดังนั้นขอข้ามไม่เล่านะคะ...Smiley


แต่นางเอกเรื่องนี้เป็นน้องสาวมัชฌิตาจริงๆ ด้วยค่ะ เธอมีดวงผจญภัย
แม้พี่สาวจะพยายามขจัดแหวนวงนั้นไปจากเธอ แต่มาริณก็ยังต้องมาข้องเกี่ยวจนได้
ตรงนี้ผู้เขียนเก็บปมที่สร้างได้หมด เจ้าแก้วชอบในไอเดียค่ะ ช่วงต้นของนิยาย
ดำเนินไปด้วยการถกเถียงไปสร้างความสัมพันธ์ไป ระหว่างพระเอกนางเอก
พอช่วงหลังๆ ปูมต่างๆ ค่อยผูกเข้ามาหากันมากขึ้น ความตื่นเต้นจะเริ่มงอกขึ้นมา
ให้เจ้าแก้วลุ้น มันจะมีอะไรต่อ จะไปยังไง ตรงนั้นแหละค่ะที่น่าสนใจ


ค่อนข้างชอบเล่มนี้ค่ะ แม้จะไม่ค่อยแนวพระเอกนางเอกเถียงกันไม่ถูกกันต้นเรื่อง
ปลายเรื่องค่อยรักก็เถอะ นางเอกวอนอะไรงี้บ้าง แต่มุมมองอื่นๆ ชวนให้ตื่นเต้น
และอยากติดตามต่อไป รู้สึกว่าเล่มนี้พอดีไม่อ่อนหวาน หรือลึกลับน้อยไป


จุดจับผิด...ซึ่งไม่ได้มีผลกับการผลักดันเนื้อเรื่อง แต่อยากบอก
ตอนต้นนางเอกรถดับเพราะแบตหมด มาริณโทรเรียกอู่มาลากรถไปเปลี่ยนแบต
มาริณจ๋า...ลงทุนไปไหม? เสียค่าลากอีก 3,000 พันเชียวนะคะ แบตอีกสามพันกว่า
มันมีวิธีแก้ไขหลายแบบจ้ะ ซึ่งลากรถไปอู่ไม่ทำให้หรอก กรณีที่ต้องลากคือรถง่อยแล้ว
แค่แบตหมดชิลๆ ค่ะไม่ต้องลากหรอก


โดยปกติแล้วถ้ามีปัญหาและมีอู่ประจำ บอกเล่าอาการอู่ก็รู้แล้วค่ะว่าแบตหมด
สิ่งที่เขาจะทำคือซิ่งมอเตอร์ไซค์มาหา แล้วชาร์ตแบตให้ จากนั้นก็ให้เจ้าของรถ
ขับตามไปที่อู่หรือร้านเปลี่ยนแบต  จริงๆ ชาร์ตแล้วก็ยังไม่เปลี่ยนแบตก็ยังได้
จนกว่าแบตมันจะตายอีกรอบ ค่อยเปลี่ยนก็ยังไม่สาย


หรือโทรไป 3K แบตเตอร์รี่ก็ได้จ้ะ เขารับเปลี่ยนแบตให้ 24 ชม.แบบเดลิเวอร์รี่ด้วย


หรือวิธียอดฮิต คือจอดข้างทางเปิดกระโปรงหน้ารถไว้ โทรหา จส.100 ขอความช่วยเหลือ
แท็กซี่หรือผู้ร่วมเส้นทางสัญจรมักจะมีน้ำใจ ช่วยพ่วงชาร์ตแบตกับรถตัวเองให้ค่ะ


เช็คจุดย่อยๆ แบบนี้หน่อยก็ดีนะคะ...ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องก็จริงค่ะ
แต่ระวังนิดหนึ่ง  เพราะมันเป็นเรื่องทั่วไปที่คนใช้รถประจำรู้ค่ะ Smiley





3 เรื่อง 3 รสค่ะ ใครชอบแนวไหนก็เลือกเล่มนั้น ไม่อ่านต่อกันก็รู้เรื่องค่ะ



Create Date : 03 เมษายน 2556
Last Update : 3 มกราคม 2558 23:28:03 น. 12 comments
Counter : 2369 Pageviews.

 
รีวิวได้ยาวและละเอียดมากค่ะ ปกติเดินผ่านร้านหนังสือก็ไม่เคยสนใจ 3 เรื่องนี้ สงสัยต้องกลับไปเปิดดูใหม่แล้ว


โดย: คุณหนูฤดูร้อน วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:18:12:16 น.  

 
ปกสวยค่ะชุดนี้ แต่แนวนี้ยังไม่อยู่ในอารมณ์อยากอ่าน---โชคดีไป

ฮาเจ้าของบ้าน แนะนำวิธีเมื่อแบตหมด---นางเอกนิยายเรื่องนั้น ทำอะไรไม่ปรึกษาก่อน


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:18:32:47 น.  

 
ขอบคุณสำหรับรีวิวคะ กำลังเล็งชุดนี้อยู่พอดี


โดย: กล้ายางสีขาว IP: 223.205.236.60 วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:20:10:10 น.  

 
รีวิวได้ยาวน่าสนใจดีค่ะ...แต่ที่ดองไว้และอยู่ในลิสต์ยังอีกเยอะคงต้องขอผ่านชุดนี้ไปก่อน...


โดย: Aneem วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:21:36:00 น.  

 
เดี๋ยวนี้นิยมทำเป็นชุดจังเลย
จะผลิตเงินยังไงไหวนะคะเนี่ย
น่าอ่านไปหมด ^^




โดย: lovereason วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:23:57:13 น.  

 
คุณหนูฤดูร้อน : ลองอ่านดูนะคะ อาจจะถูกจริตก็ได้
พุดน้ำบุศย์ : ถ้าชอบหวานๆ นะคะ เล่มกลางเลยค่ะแฟนตาซีน้อยที่สุดค่ะ
กล้ายางสีขาว : ถ้ารีวิวก็เรียกไปอ่านด้วยนะคะ
Aneem : มีกองที่ซื้อไว้ถมที่ยังไม่ได้อ่านเยอะเหมือนกันค่ะ
lovereason : นิยายชุดนี่ฮิตจริงค่ะ ทำกันแทบทุกค่อย


โดย: แก้วกังไส วันที่: 4 เมษายน 2556 เวลา:0:06:15 น.  

 
ปกของอมรินทร์ทำสวยมากเลยครับดูลึกลับผสมแฟนตาซี ชอบการตั้งชื่อชุดให้คล้องจองกัน
ปกอีกสไตล์ที่ชอบคือชุดนิยายวิทยาศาสตร์ เดือนช่วงดวงเด่นฟ้าฯ ของคุณวินทร์ ครับ 4 เล่มเรียงต่อกันเป็นภาพเดียว


โดย: สามปอยหลวง วันที่: 4 เมษายน 2556 เวลา:8:15:26 น.  

 
หน้าปกสวยจริงๆค่ะ ไม่เคยอ่านของนักเขียนสามคนนี้เลย แต่อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจมากๆๆๆ สงสัยงานนี้มีได้เสีย(ตังค์)


โดย: หมูย้อมสี (หมูย้อมสี ) วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:11:13:37 น.  

 
สามปอยหลวง : ปกของคุณวินทร์ ชุดนั้นสวยจริงๆ ค่ะ ชื่อแต่ละเรื่องก็ไพเราะมาก

หมูย้อมสี : ลองอ่านดูสิคะเผื่อชอบ



โดย: แก้วกังไส วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:16:53:12 น.  

 
อ่านมายาไฟในดวงตาไปเล่มเดียวเองค่ะ สนุก ไม่ผิดหวัง มีอะไรให้ตื่นเต้น ชวนลุ้นอยู่ตลอด ทั้งพระเอกทั้งตัวร้ายน่าเก็บเธอไว้ทั้งสองคน :)


โดย: nanaspace วันที่: 6 เมษายน 2556 เวลา:23:46:28 น.  

 
เล็งอยู่เหมือนกันค่ะชุดนี้ แวะมาอ่านรีวิวคุณแก้วแล้วขำดีค่ะ ไม่ใช่แค่รีวิวธรรมดานะคะ แต่แนะนำวิธีแก้ปัญหาให้ด้วย ถูกใจจริง ๆ ค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:1:37:07 น.  

 
nanaspace : อ่านทีแรกนึกว่าชามัล เป็นพระเอกค่ะ


หวานเย็นผสมโซดา : เคยเจอเหตุการณ์แบบในเรื่องน่ะค่ะ แบตหมดรถตายไรงี้ เลยแนะนำได้ 555


โดย: แก้วกังไส วันที่: 19 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:16:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.