กาลกระซิบ By กนกวลี พจนปกรณ์
กาลกระซิบ กนกวลี พจนปกรณ์
จะเขียนยังไงไม่ให้เป็นการสปอยล์ดี ยากนะนี่..หุ หุ เอาเป็นว่านี่เป็นนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีชาติภพเข้ามาเกี่ยวค่ะ แต่เรื่องไม่ค่อยออกแนวเพ้อฝัน เหมือนนิยายรักหวานๆ เรื่องอื่นๆ อาจเพราะผู้เขียนเป็นผู้ใหญ่แล้ว และมีความเชื่อทางพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยว ที่เรียกว่ากรรมของใคร กรรมของมัน บางครั้งสัญญาเก่า(ความจำเก่า) ในชาติภพก่อน ก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ ในเวลาที่เหมาะสม เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเองก็ไม่รู้ค่ะ
"แก้วกรพินธุ์" ย้ายมาทำงานโรงแรมเปิดใหม่ที่น่าน เธอมีเพื่อนสนิทที่อยู่จังหวัดนี้คือ "สไบทิพย์" มาถึงแล้วก็ชวนกันไปดูวัดดังประจำจังหวัด ที่มีภาพเขียนปู่ม่านย่าม่านกระซิบกระซาบกัน ภาพๆ นี้เรียกว่าภาพกระซิบ เป็นภาพที่แสดงความรักต่อกัน ฝีมือของหนานบัวผัน สล่า(ช่าง)โบราณ ที่เขียนภาพนี้ไว้ ที่นี่เธอบังเอิญได้พบชายหนุ่มชื่อ "พันแสง" เพื่อนของสไบทิพย์
พันแสงเห็นหน้าแก้วกรพินธุ์ก็รู้สึกว่าเธอเหมือนคนในภาพคนหนึ่งก็ชักชวนกันไปดู แต่ภาพนั้นจางมาก ก็เลยมองไม่เห็นกัน แล้วตั้งแต่นั้นแก้วกรพินธุ์ พันแสง ก็เริ่มมีความจำและคนอดีตชาติเข้ามาเยี่ยมเยือน ปะติดปะต่อเป็นเรื่องราว แก้วกรพินธุ์พบว่าเธอคือ "เจ้านางแก้วก๊อ" ซึ่งแก้วก๊อแปลว่าทับทิมเช่นเดียวกับ ชื่อปัจจุบันของเธอ นอกจากทั้งสองคนแล้ว ยังมี "คุณนีรา" เพื่อนของมารดา อยากจะมาเที่ยวที่นี่ แก้วกรพินธุ์ก็เลยให้สไบทิพย์ซึ่งทำงานไกด์ไปรับรองและพานำเที่ยว ปรากฏว่าพอเหยียบเข้าเมืองน่าน คุณนีราผู้เจ้ายศเจ้าอย่างก็มีแรงดึงดูดอย่างแรง พร้อมทั้งความจำบางอย่างเข้ามาในความฝัน คุณนีราติดใจมากเพราะสัญญาณเรียกรุนแรง ทำให้เธอต้องกลับมาอีกครั้ง หนนี้เธอซื้อเรือนไม้โบราณ หลังหนึ่งที่รู้สึกผูกพัน และตั้งใจจะดัดแปลงเป็นเกสเฮาท์ แล้วด้วยความบังเอิญคุณนีราก็ได้พบกับ "อมรินทร์" สถาปนิกหนุ่มที่เดินทางมาเที่ยวน่าน ทั้งสองรู้สึกผูกพันกันอย่างประหลาด จึงรับออกแบบตกแต่ง เรือนโบราณนั้นให้คุณนีรา
แต่ยิ่งอยู่ที่นี่คุณนีรายิ่งถูกความจำของ "เจ้าดาราคำ" เข้าครอบงำ ทำให้เธอทำทุกอย่างที่เจ้าดาราคำ เคยทำมาก่อน นั่นคือพยายามจับคู่ให้เจ้าแก้วก๊อกับเจ้าหนานอินต๊ะ หรือแก้วกรพินธุ์กับอมรินทร์ โดยไม่สนใจว่าอมรินทร์มีภรรยาอยู่แล้ว! นอกจากนั้นยังถูกผีสาวที่อยู่ในเรือนตามอาฆาตหลอกหลอนเอาด้วย
เรื่องราวในอดีตของคนกลุ่มนี้ ค่อยๆ เรียงร้องผูกเข้าด้วยกัน ปะติดปะต่อเรื่องราวเรียงกันได้ สร้างความขนลุกให้กับทุกคน บางคนเลือกที่จะเลี่ยงอดีตชาติ บางคนเลือกที่จะพุ่งเข้าไปหา ทั้งนี้ก็แล้วแต่นิสัยและความอยากรู้ของแต่ละบุคคล ซึ่งในจุดนี้ค่อนข้างจะจริงถ้าเทียบกับคนทั่วไป ที่มีชีวิตอยู่นอกนิยาย เจอเรื่องแบบนี้ก็ย่อมเกิดความสับสนแล้วตัดสินใจว่าจะทำยังไงดี ทำเมินดีไหม หรือค้นหามันดี ซึ่งบางครั้งการค้นหาก็คือการสานต่อเวรกรรม ยิ่งจำได้ยิ่งทุกข์ ยิ่งเรียกหาเจ้ากรรมนายเวรของตัวเอง บางคนก็รับรู้เพื่อไม่เดินซ้ำทางเดิม เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับคนในอดีตแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ จริงๆ แล้ว การพบเห็นอดีตชาติไม่ใช่เรื่องสนุกตื่นเต้นอย่างในนิยายพาฝันสักเท่าไร "กาลกระซิบ" สะท้อน ความจริงในแง่นั้นออกมาค่ะ แต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นนิยาย พอมันจริงไปสักหน่อยเรื่องก็เลยไม่หวาน ไม่ค่อยลุ้นนัก เหมือนกับต้องการให้คนอ่านเรียนรู้มากกว่าค่ะ แล้วก็เจ้าแก้วรู้สึกว่าคนเขียนค่อนข้างจะ กังวลไม่ค่อยก้าวล่วงประวัติศาสตร์จึงเขียนแบบด้วยความระวังและไม่ระบุตัวตนนัก ในความเกร็งนี้เอง รสชาติของนิยายในแบบเร่งเร้าแต่งเติมให้คนอ่านระทึกถ้าเทียบกับกาษานาคา นิยายเรื่องเอกของผู้แต่ง
แต่นักเขียนรุ่นใหญ่ก็ยังคงไว้ลายค่ะ คืออ่านไปแล้วทำให้คนอ่านรู้สึกอยากรู้ และอยากรู้ๆๆๆ แล้วไงต่อ... ทำให้อ่านไปเรื่อยๆ อย่างราบรื่นรวดเดียวจบค่ะ ส่วนที่เจ้าแก้วชอบที่สุดเห็นจะเป็น ส่วนของคุณนีรา ในตอนที่เธอตามหาความจำเก่า มันดึงดูดมากเลยค่ะ เรียกว่าเป็นเสน่ห์ในการเล่าเรื่อง เฉพาะตัวของคนเขียนเลยค่ะ แต่ในใจคิดว่าถ้ามีเรื่องชิงรักหักสวาทอะไรมากกว่านี้ก็คงตื่นเต้นค่ะ พอดีเรื่องมันจริงแบบมนุษย์มนาไปหน่อย ชาตินี้ทุกคนก็เลยมีสิทธิเลือกที่จะเดินทับรอยเดิม หรือไม่ ที่จะอโหสิกรรม หรือแม้แต่จะไม่มีความจำใดๆ มาเตือนเลย
นิยายเรื่องนี้...ไม่หวาน มีเหตุผล และไม่เพ้อค่ะ เหมาะสำหรับคนอ่านที่อยากได้ความราบรื่นทางภาษา ไม่สะดุดแบบนิยายรุ่นเล็ก แล้วก็มีกลิ่นหอมหวานของคำเมือง และการเตือนใจบางประการ ซึ่งถ้าเรื่องนี้ได้เป็นละครมั่นใจว่าการดัดแปลงจะเกิดขึ้นบานตะเกียงค่ะ และตัวละครมีสติสตังมากแบบถ้าเป็นคนก็น่าคบหา แต่พอเป็นนิยายก็เลยแบบไม่ค่อยก่อเรื่อง ให้คนอ่านวุ่นวายใจ เนื่องจากยังไม่มีใครตบกัน
ในฐานะแฟนนิยายคุณอากนกวลี เรื่องหน้าขอเผ็ดร้อนนะคะ เรื่องนี้แค่อุ่นๆ ค่ะ
Create Date : 06 กันยายน 2557 |
Last Update : 3 มกราคม 2558 23:28:57 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1575 Pageviews. |
|
|