จะได้เป็นคุณแม่แล้ว --- ข้ออ้างในการนอน
พอรู้ตัวว่ามีน้อง เราก็พยายามปรับปรุงลักษณะนิสัย จากที่นอนวันละ 6-7 ชั่วโมง ก็ปรับมาเป็น 8 ชั่วโมงเป็นต้นไป เรื่องนอนที่ปรับง่ายมาก นั่นคือเลื่อนเวลาตื่นนอนให้สายขึ้น และเพิ่มงีบหลับตอนกลางวัน แต่เรื่องกิน... ยากมาก ปกติมื้อเข้าเป็นกาแฟและอะไรอีกนิดหน่อยรองท้อง ไปหนักเต็มๆก็ตอน 10-11 โมง แล้วก็ปิดท้ายวันด้วยมื้อที่หนักที่สุดตอนทุ่มสองทุ่ม บางทีก็ลากยาวไปถึงเที่ยงคืน แต่จะเป็นแม่แล้วเนี่ย ต้องกินยาบำรุงตอนเช้าหลังอาหาร แถมเริ่มมีอาการมวนๆท้องแล้วด้วย ทำให้ไม่อยากกินอะไรเข้าไปเลย นึกหาอาหารที่อยากกินก็นึกไม่ค่อยจะออก โชคดีหน่อยที่ฤดูนี้มีมะม่วงเปรี้ยวสดๆอร่อยๆราคาไม่แพงออกมาสู่ตลาด ทำให้เรารอดตายได้ด้วยมะม่วงเปรี้ยวคลุกน้ำตาลน้ำปลา แต่ก็มีสารอาหารไม่ครบถ้วนเท่าไหร่ จากที่ผ่านมาสองวันนี้ตื่นมากินไข่ต้มกะขนมปังโฮลวีท 2 แผ่น ก็พอทำให้ไม่พะอืดพะอมสักเท่าไหร่ และต้องงดกาแฟไปโดยปริยายเพราะกินแล้วพะอืดพะอมเหลือหลาย อาการทั่วๆไปก็เรอได้ตลอดทั้งวัน พอถึงเวลาเที่ยงปุ๊ปท้องก็จะร้องเตือนทันที เย็นมา 5 โมงกว่าๆก็เอาอีก แต่มันติดตรงที่ไม่อยากกินอะไรเลย บางทีนึกถึงก็พะอืดพะอมแล้ว ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ แต่คิดแล้วก็หมดความอยากไปอย่างงั้นแหละ ถึงว่าในตำราเค้าถึงบอกให้กินมื้อเล็กๆบ่อยๆ เพราะว่าที่คุณแม่หิวง่ายนี้เอง แถมบอกว่าถ้าปล่อยให้หิวจัดจะยิ่งมวนท้องซะอีก
เอาใจยากจริงๆคุณแม่เนี่ย หวังว่าอาการพวกนี้จะอยู่ด้วยกันไม่นาน และอย่ามีอาการหนักไปกว่านี้เลย ไม่งั้นคงเที่ยวสิงคโปรไม่สนุกแน่ๆ