สิงหาคม 2556

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
Flame - Towngas Avenue ร้านอาหารตะวันตกในย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง


ชื่อร้าน : Flame - Towngas Avenue
รายการอาหาร : Western Cuisine
ที่ตั้งร้าน : Shop 1, Promenade Level, Tower 1,
China Hong Kong City, 33 Canton Road, Tsim Sha Tsui, Hong Kong
พิกัด GPS : 22° 17' 57.95" N 114° 10' 7.16" E




เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมาเครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำบ้านอิชั้นเสียค่ะ ช่วงนั้นฮ่องกงยังอากาศเย็นอยู่ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส ไม่มีน้ำอุ่นอาบนี่ "นรกชัด ๆ !!"

เราเลยโทรศัพท์เรียกบริษัท Towngas ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแก๊สในฮ่องกง (ที่ฮ่องกงเนี่ยแก๊สจะมาตามท่อที่อาคารติดตั้งเอาไว้) ให้มาตรวจเช็คเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีปัญหาให้ด้วย

พนักงานมาตรวจเช็คให้ตามนัดในวันที่อิชั้นทำงานอยู่บ้าน บอกอิชั้นว่า "เครื่องมันเก่ามากแล้วยู ซ่อมไม่ได้แล้วต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่" ว่าแล้วก็งัดเอาแคตตาล็อกมาให้อิชั้นดูว่าบ้านยูควรใช้เครื่องนี้ นี้ นี้ (มีให้เลือกหลายรุ่นหลายแบบ) เครื่องทำน้ำร้อนดังกล่าวราคาประมาณเจ็ดพันกว่าเหรียญ ซึ่งก่อนหน้านี้อิชั้นกับคุณพ่อบ้านไปเดินดูราคาที่ร้านมาเรียบร้อย ราคาพอ ๆ กันกับของ Towngas นี่แหละค่ะ แต่ว่ามีค่าติดตั้งอีกต่างหาก ขณะที่ Towngas เค้าติดตั้งให้ด้วย

อิชั้นเห็นดังนั้นเลยใช้สิทธิแม่บ้านที่อาบน้ำเย็นเจี๊ยบมาหลายวันแล้ว บอกพนักงานไปว่า "โอเค เอาอันนี้แหละ เมื่อไหร่จะมาติดตั้งได้ล่ะ ขอเร็วหน่อยนะ" พนักงานก็นัดว่าอีก 2 วันละกัน หลังจากนั้นเธอก็ขอตรวจมิเตอร์แก๊สซะเลย ซักพักเธอก็ตะโกนบอกอิชั้น "ตอนนี้บ้านยูไม่ได้ใช้แก๊สนี่ ทำไมมิเตอร์มันเดินล่ะ" เอาล่ะสิ !!

พนักงานคว้ากระเป๋าที่หิ้วมาด้วย ควักอุปกรณ์เป็นกล่องเล็ก ๆ มาแนบตามแนวผนังห้องอยู่ 2-3 นาที ก็บอกอิชั้นว่า "ท่อส่งแก๊สมันรั่วนะยู หลายที่เลย ตึกนี้มันเก่าแล้ว" (สามีอิชั้นซื้อไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว แต่ตึกหลังนี้มันเก่าแก่กว่า 20 ปีแล้วล่ะค่ะ)

ซวยล่ะสิ !! อิชั้นถามไปว่าราคาประเมินประมาณเท่าไหร่ พนักงานบวกลบคูณหาร รวมค่าเครื่องทำน้ำร้อนด้วย เป็นเงินทั้งสิ้น 18,000 เหรียญ แว๊กกกกกกกกกกกกกก

แต่มันผัดผ่อนไม่ได้อ่ะนะ แก๊สรั่วนี่มันอันตรายถึงชีวิตทั้งของเราและของเพื่อนบ้าน ก็เลยอ่ะ ใช้สิทธิแม่บ้านอีกที นัดพนักงานให้เข้ามาทำในวันเดียวกันเสียเลย ตกเย็นก็บอกคุณพ่อบ้าน ซึ่งเห็นด้วยว่าขืนปล่อยให้ช้ากว่านี้คงไม่ดีแน่ ไหน ๆ จะเสียเงินแล้ว ก็ทำให้เสร็จเร็วที่สุดดีกว่า

เช้าวันนัด ก็มีช่าง 2 คนมาทำการติดตั้งนั่งร้านไม้ไผ่นอกหน้าต่างห้องครัวยาวไปจนถึงห้องนอน (ซึ่งก็คือแนวของท่อแก๊ส) โดยใช้เวลาในช่วงเช้าประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นในช่วงบ่ายพนักงาน Towngas ก็เข้ามาเปลี่ยนท่อแก๊สให้โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จกิจ รุ่งเช้าอีกวันช่างที่มาติดตั้งนั่งร้านก็เข้ามาเก็บนั่งร้านดังกล่าวออกไป

พล่ามมาตั้งนาน หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับบล็อกรีวิวร้านอาหารวะคะ ?? แหม อิชั้นก็อยากจะเล่าประสบการณ์เสียเงินดังกล่าวเก็บไว้ เผื่อคนไทยที่อยู่ในฮ่องกงท่านไหนซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่นี่ แล้วเกิดปัญหาเดียวกัน จะได้มีไอเดียคร่าว ๆ ว่าค่าใช้จ่ายมันจะซักเท่าไหร่ และใช้เวลานานมั้ย

และเรื่องที่เล่ามาเนี่ยมันเกี่ยวกับร้านอาหารร้านนี้แน่ ๆ ค่ะ เพราะหลังจากที่พนักงาน Towngas มาเปลี่ยนท่อแก๊สและติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนให้เสร็จ ก็วางบิลไว้ให้เราไปจ่ายเงินในรอบบิลหน้า แล้วก็มอบบัตรกำนัลในการใช้บริการที่ร้านอาหารในเครือ Towngas ให้อิชั้นมาเป็นมูลค่า HKD 300 ค่ะ





บัตรกำนัลดังกล่าวหมดอายุในอีก 5 เดือนถัดมา ซึ่งอิชั้นก็ไปใช้บริการกันในวันสุดท้ายก่อนหมดอายุน่ะแหละค่ะ ร้านอาหารร้านนี้มีชื่อว่า Flame






อิชั้นโทรศัพท์ไปจองที่ในตอนสาย แจ้งว่าจะไปใช้บริการตอนเที่ยง ทางร้านบอกว่า "โต๊ะด้านในเต็มแล้ว มีที่นั่งข้างนอกร้าน ร้อนหน่อย โอเคมั้ย" โอเคสิคะ บัตรกำนัลมันหมดอายุวันนี้นี่






ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารแบบกึ่งบุฟเฟต์นะคะ คือมีสลัดและของหวานวางไว้ในไลน์ให้ตักกันได้ไม่อั้น ส่วนที่อั้นคือ ขนมปัง 1 ที่ ซุป 1 ที่ จานหลัก 1 ที่ และเครื่องดื่ม (ชาหรือกาแฟ) 1 ที่






ประเดิมด้วยขนมปังที่มากันร้อน ๆ กรอบนอกนุ่มใน ติดใจมากค่ะ







ไม่ใช่เนยกะโหลกกะลา เป็นเนยผสมเครื่องเทศหอมมัน








ซุปประจำวันที่รวมในบุฟเฟต์เป็น borsch soup พนักงานบอกว่าเพิ่มเงินนิดหน่อย (จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่) สามารถเปลี่ยนเป็น truffle soup (ซุปข้นเห็ดทรัฟเฟิล) หรือ lobster bisque (ซุปข้นล็อบสเตอร์) ก็เอาเลยค่ะทั้งคู่ เพิ่มเงินเปลี่ยนซุปกัน คุณสามีสั่งซุปเห็ดทรัฟเฟิลถ้วยนี้บอกว่า "อร่อยมาก ยูต้องลอง ยูต้องลอง"





ของอิชั้นสั่งซุปล็อบสเตอร์ จ้วงไปช้อนนึงก็ร้องลั่น "ยูต้องลอง ยูต้องลอง" เหมือนกันเด๊ะ คุณสามีลองแล้วบอกว่า "โอเค แต่ของชั้นอร่อยกว่า" แน่ะ !!






ช้อนให้ดูเนื้อลูกกุ้งล็อบสเตอร์ ฮ่าฮ่า เข้าใจว่าเค้าใช้กุ้งที่ฝรั่งเรียกว่า crayfish อ่ะนะคะ







ระหว่างนั้นสองเราก็ไปตักสลัดจากในไลน์ แต่ลืมถ่ายรูปมาซะนี่ มาถึงอาหารจานหลักเค้ามีให้เลือก 3 อย่าง ราคาก็ต่างกันนะ แพงสุดคือ สเต็กเนื้อจานนี้ รองลงมาคือซี่โครงแกะย่าง ถูกสุดคือ egg benedict






คุณพ่อบ้านชิงสั่งสเต็กไปเสียก่อน เนื้อนุ่มดีค่ะ ซอสรสชาติใช้ได้ ที่รู้เพราะอิชั้นจ้วงไปหลายคำอยู่







จะสั่งสเต็กเนื้ออีกจานก็กระไร รูปก็จะเหมือนกันอีกเนอะ ไม่ได้กิน egg benedict มาหลายเดือนแล้ว เอาซะหน่อยค่ะ แต่เมนูนี้ไม่ผ่านนะขอบอก อิชั้นทำอร่อยกว่าอ่ะ






มาถึงของหวาน พุงเริ่มปลิ้นแล้วค่ะ แต่ไปตักมาหน่อย จะได้ถ่ายรูปเนอะ ชีสเค้กธรรมดาสามัญ ผลไม้สามัญเหมือนกันค่ะ






คุณพ่อบ้านตบท้ายด้วยกาแฟหอม ๆ ของ Lavazza ส่วนอิชั้นนั้น ร้อน ๆ แบบนี้ต้องต่งเหลงฉ่า หรือชามะนาวค่ะ ตอนเรียกเก็บเงิน เรามีบัตรกำนัล 300 เหรียญ จ่ายเพิ่มไปอีกประมาณสองร้อยเหรียญ ถือว่าไม่แพงค่ะกับอาหารที่นี่


ร้าน Flame ก็ตั้งอยู่ที่ตึก China Hong Kong City ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Outlet ของร้านค้าชั้นนำหลายร้าน รวมถึงท่าเรือเฟอร์รี่ไปมาเก๊ากับอีกหลายเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่ค่ะ

ลูกค้าที่มาอุดหนุนกันเต็มร้าน ส่วนใหญ่ถือบัตรกำนัลอย่างที่อิชั้นใช้กันเป็นล่ำเป็นสัน เนื่องจาก Towngas เค้าทำธุรกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะให้บริการแก๊ส ร้านอาหาร รับจัดเลี้ยง โรงเรียนสอนทำอาหาร และร้านจำหน่ายเครื่องครัวต่าง ๆ ค่ะ


พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ





Create Date : 31 สิงหาคม 2556
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 12:42:45 น.
Counter : 3474 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ