กันยายน 2557

 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
5 กันยายน 2557
All Blog
Chicha, the taste of Peru in Hong Kong

ชื่อร้าน : Chicha Hong Kong
รายการอาหาร : Peruvian Cuisine
ที่ตั้งร้าน : 26 Peel Street, Central, Hong Kong
พิกัด GPS : 22° 17' 1.50" N 114° 9' 13.47" E




วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน Restaurant Week Hong Kong 2014 เจ้าภาพของงานคือ Dining City Hong Kong ซึ่งเป็นเว็บไซต์แนะนำบริการอาหารและโปรโมชั่นของร้านอาหารต่าง ๆ ทั่วฮ่องกง รวมถึงรับจองออนไลน์ด้วย

ซึ่งในปีนี้ก็มีร้านอาหารฮิป ๆ ในย่านต่าง ๆ ทั่วฮ่องกงหลายร้านเข้าร่วมรายการ และ 1 ใน 8 ของร้านอาหารที่ได้รับการโหวตแนะนำจากผู้ใช้บริการมากที่สุดในรายการนี้ ก็คือร้านอาหารเปรู Chicha ซึ่งตั้งอยู่ย่านโซโหร้านนี้ค่ะ





อิชั้นนั้นไม่เคยลองอาหารเปรูมาก่อนเลย เห็นเมนูร้านนี้แล้วก็รู้สึกสนใจ เพราะมีผักหญ้า มีเนื้อสัตว์ ไม่เน้นแป้ง ตรงกับความต้องการของคุณพ่อบ้านซึ่งตอนนี้ดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างมาก เพราะมีปัญหาสุขภาพนิดหน่อย









หลังจากดูเมนูที่ทางร้านจัดไว้สำหรับ Restaurant Week แล้ว อิชั้นก็ทำการจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ไป ตั้งใจจะไปกันในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานอย่างที่ได้เกริ่นไปแล้ว








ร้านนี้หาค่อนข้างยาก ทั้งที่เราก็ดูแผนที่ไปอย่างดีแล้วนะ คือตั้งอยู่บนถนน Peel Street ซึ่งเราก็เคยไปร้านอาหารเวียดนาม Chôm Chôm ที่ตั้งอยู่บนถนนเดียวกันไปแล้ว ดูแผนที่ก็ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ แต่พอไปจริง ๆ ก็งงเล็กน้อย สำหรับผู้ที่อ่านรีวิวนี้แล้วอยากจะไป ขอให้ไปเริ่มจากแยกที่ตัดกันระหว่าง Hollywood Road กับ Peel Street แล้วเดินขึ้นไปอีกหน่อยจะเจอเลย อย่าไปถึง Soho แล้วเดินย้อนกลับมาเหมือนอิชั้น เดินขึ้นเดินลงเขา เหงื่อตกเลยค่ะกว่าจะถึงร้าน









ไปถึงร้าน พนักงานก็พาไปนั่งหลบมุมหน้าห้องน้ำ (555) ซึ่งถ้าเราเป็นคู่หนุ่มสาว เราก็คงจะชอบใจอยู่นะ เพราะเป็นมุมสงบโรแมนติก คนไม่พลุกพล่าน แถมมืดตึ้ดตื๋อเลย (ในร้านมีทั้งส่วนที่มืดกับส่วนที่สว่าง) แต่เอาน่ะ จะได้ฝึกปรับค่ากล้องไปด้วย และไม่ต้องมานั่งเขินใครเวลาถ่ายรูปด้วย









เมนูอาหารเซ็ตมื้อกลางวันสำหรับ Restaurant Week นี้ จะรวมอาหารเรียกน้ำย่อยคนละ 1 ที่ อาหารจานหลักคนละ 1 ที่ และของหวานคนละ 1 ที่ ในราคา HKD 158 + 10% Service Charge ซึ่งถือว่าถูกค่ะ








เวลาเราไปกินเซ็ตมื้อกลางวันแบบนี้ ถ้าเขามีรายการอาหารให้เราเลือกอีกที เรามักจะเลือกสั่งให้ต่างกัน เพื่อที่จะได้ลองหลาย ๆ อย่าง และเพื่อที่จะได้มีอาหารต่าง ๆ กันให้อิชั้นถ่ายรูป (อย่างหลังนี่สำคัญ)

อย่างร้านนี้เขามีอาหารเรียกน้ำย่อยให้เลือกคนละ 1 ที่โดยมีตัวเลือกให้ 3 อย่าง เราเลือก Peruvian Choclo Salad: Choclo, broad beans, celery, red onion and queso fresco in aji amari

จานนี้ถูกใจเรามาก ผักของเขาสดกรอบดี รสชาติเปรี้ยวแหลมเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่านี่เป็นรสชาติแท้ ๆ ของอาหารเปรูหรือเปล่า แต่เราชอบนะ พยายามจะลดเค็ม ลดหวานกันอยู่ค่ะ









อาหารเรียกน้ำย่อยอีกอย่างที่เลือกสั่งไปคือ Ceviche Nikkei: Seabass, prawn, scallop marinated in Nikkei leche de tigre ซึ่งเมนูนี้เนี่ย ถ้าสั่งเป็น a-la-carte จะราคา HKD 148 แล้วค่ะ คุ้มมาก !!









มีหอมทอดกรอบโรยหน้าบนไข่แดงบด ด้านล่างจะเป็นเนื้อปลากะพง หอยเชลล์ และกุ้งลวก ซึ่งทุกอย่างหวานสด มีน้ำขลุกขลิกซึ่งออกรสเปรี้ยวแหลมอีกแล้ว แหลมซะจน เราสองคนต้องมานั่งถกเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศของเปรูกันเลยว่า มันอยู่ใกล้กับทะเล ใกล้ป่า ทำนา ทำไร่มะนาวกันเองหรือเปล่าเนี่ย อาหารถึงได้เปรี้ยวนำแบบนี้








เรียกน้ำย่อยจนหยดติ๋ง ๆ กันไปแล้ว จบคอร์สแรกด้วยความปลื้มปิติที่วันนี้ได้มากินอาหารแปลกใหม่รสเลิศในบรรยากาศคล้าย ๆ จะโรแมนติก พนักงานชาวต่างชาติก็เริ่มนำอาหารจานหลักมาเสิร์ฟให้ค่ะ ระยะหลัง ๆ ถ้าไปร้านอาหารที่หรู ๆ หน่อยแถวโซโห จะพบว่าร้านพวกนี้ชอบจ้างพนักงานชนกลุ่มน้อยในฮ่องกงที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี ที่เจอบ่อยคือ พวกเนปาลค่ะ ร้านนี้ก็มีเนปาลหลายคนเลย (ฟังจากสำเนียงอ่ะนะคะ)









พนักงานสาวชาวเนปาลที่ท้องได้ประมาณ 5-6 เดือนเห็นจะได้ นำอาหารจานหลักของอิชั้นจานนี้มาเสิร์ฟ แล้วก็อธิบายคร่าว ๆ ว่ามันคล้าย ๆ กับริซอตโต โปะหน้าด้วยปลาและอาหารทะเลพร้อมราดซอสรสจัด ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ Tacu Tacu de Marisco: Seafood with bell pepper, red onion, cilantro and aji rocoto

เขามีมะนาวมาให้เสี้ยวนึงด้วย แต่ด้วยความที่กลัวเปรี้ยวเกิน เพราะทุกจานที่ลองมาเปรี้ยวนำหมด เลยสะบัดบ๊อบใส่มะนาวกันไป จานนี้มีปลากะพง หอยเชลล์ และกุ้งเช่นเดียวกันกับจานเรียกน้ำย่อมข้างบน หวานสดเช่นเดียวกัน มีข้าวรองด้านล่างรสชาติเหมือนริซอตโตจริง ๆ น่ะแหละ แต่น้ำราดที่ราดมานั้นรสมันจัดมาก จัดจนคนไทยที่ไม่กินเผ็ดอย่างอิชั้นครางเลยทีเดียว









จานหลักของคุณพ่อบ้านมาเสิร์ฟบ้าง เป็นสเต็กเนื้อซึ่งสั่งไปว่าขอ Medium-Well Done คือเราไม่ชอบกินเนื้อเลือดโชก ๆ แต่ไม่ชอบเนื้อที่กริลล์จนแห้งเหมือนกัน สั่งแบบนี้ทุกที แล้วเวิร์กค่ะ









สเต็กนี่เราไม่แน่ใจว่ามันเปรูตรงไหนหว่า แต่เครื่องเคียงที่มาด้วยนี่สิ นอกจากจะเป็นมันฝรั่งทอดแล้ว ก็ยังมีถั่วหมักโปะมาด้วย อร่อยแปลก ๆ ดีค่ะ อาหารหลายจานของร้านนี้มีกลิ่นอายของอาหารญี่ปุ่นสูงเลยนะ อาหารในเมนู a-la-carte บางจาน อิชั้นเห็นมี Udon (อุด้ง) ด้วย Tamako (ไข่) ด้วย ไอ้ถั่วหมักที่โปะมากับสเต็กจานนีั้มันอาจจะเป็นนัตโตะแบบไม่เหนียวก็เป็นได้นะ

เมื่อวานเข้าออฟฟิศ ก็เอารูปที่ถ่ายมาจากร้านนี้ให้เพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นดู แล้วก็ถามเพื่อนว่าเปรูนี่เป็นญาติสายไหนกับญี่ปุ่นหรือเปล่าเนี่ย Why does the food have Japanese accent? เพื่อนสาวก็บอกว่า เออ มันก็มีประวัติศาสตร์มาเกี่ยวข้องกันอยู่บ้างนะ









ตอนที่เราเริ่มเลือกสั่งอาหารในเมนู Restaurant Week กันไปนั้น พนักงานก็บอกแล้วว่ามีอาหารพิเศษหนึ่งอย่างแถมฟรีให้เป็น Slider หรือ Mini-Burger ยูจะเอาอะไรดี หมู ไก่ หรือปลา แต่หมูนี่เป็นที่นิยมที่สุด อ่ะ .. ก็หมูเลยค่ะ ตอนมาเสิร์ฟ มันไม่ใช่หมูธรรมดา มันคือหมูกรอบ !!!









ชื่อเต็ม ๆ ของมันคือ Pan Con Chicharron: Crispy Pork Mini-Burger ราคาในเมนู a-la-carte คือ ชิ้นละ HKD 120 ค่ะ เรามา 2 คนได้มา 2 ชิ้น อูยเอาของฟรีมาแลกนี่ เอาใจอิชั้นไปเลยค่ะ หมูกรอบมัน ๆ เลี่ยน ๆ ราดซอสรสจัดเข้ากันเป๊ะกับหอมแดงที่ซอยโรยหน้ามา








ของหวานเป็นโดนัทสไตล์เปรูราดด้วยไอศกรีมมาที่ละหนึ่งสกู๊ป จานนี้คุณพ่อบ้านขอบาย ส่วนอิชั้นซัดไอติมไปสองลูกโดนัทหมดไปชิ้นนึง โดนัทนั้นทำมาจากมันเทศหวานค่ะ รสชาติเป็นธรรมชาติไม่หวานเพราะไม่ได้ใส่น้ำตาล กินกับไอติมซึ่งหวานอยู่แล้ว เหมาะมากค่ะ









เราตบท้ายกันด้วยกาแฟดำคนละแก้ว ซึ่งไม่รวมในเมนูค่ะ กาแฟรสเข้มข้นมากดั่งมิใช่อเมริกาโนแต่เป็นเอสเปรสโซ อิชั้นชอบดื่มกาแฟดำนะ และให้พูดจริง ๆ ไม่ชอบดื่มกาแฟตามร้าน Starbucks หรือ Pacific Coffee (อันนี้พูดถึงร้านกาแฟที่ฮ่องกงนะคะ) อิชั้นจะไปหาร้านกาแฟที่เขาขายอาหารด้วย รสชาติดีกว่ากันเยอะ อย่างวันทำงานทุกวันนี้ ออฟฟิศอยู่ Central ก็จะซื้อกาแฟที่ Classified ค่ะ ราคาแพงกว่าร้านกาแฟที่พูดถึงประมาณ 2-3 เหรียญในขนาดเดียวกัน แต่รสชาติมันต่างกันเยอะเลยค่ะ

อิ่มหนำสำราญ ได้รูปพอดูได้ถึงแม้จะถ่ายในที่มืดตื๋อแบบนี้ อาหารอร่อย ร้านหรู พนักงานน่ารัก ราคาสบายกระเป๋า (อิชั้นพูดถึงมื้อกลางวันนะคะ ถ้ามื้อเย็นราคาเอาเรื่องอยู่ค่ะ) เรียกเก็บเงินแล้ว ตกประมาณ HKD 400 นิด ๆ รวมทิปค่ะ คุ้มค่ามาก

อีกวันต่อมา ก็ได้รับอีเมลจาก Dining City Hong Kong ขอให้โหวตและเขียนรีวิวร้านนี้ให้หน่อย ได้เลยค่ะ



Chicha, Hong Kong
Cuisine: Peruvian
Address: 26 Peel Street, Central, Hong Kong

★★★★★ Cheap and cheerful set lunch during Restaurant Week Hong Kong 2014

We went to Chicha on the last day of Restaurant Week which was Sunday 31st Aug, the restaurant was empty and peaceful. The Peruvian dishes served were delicious with interesting blend of flavours. Staff was friendly, well informed and pregnant (haha). A complimentary dish (Crispy Pork Slider) was presented to ensure we would give them 5 stars rating, and it worked !! (haha).




Create Date : 05 กันยายน 2557
Last Update : 6 กันยายน 2557 15:48:19 น.
Counter : 4642 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ